การนำเข้าข้อมูลเมตาของผลิตภัณฑ์จะช่วยให้มีข้อมูลเชิงลึกมากขึ้นเกี่ยวกับสินค้าโดยการเพิ่มมิติข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ เช่น ขนาด สี และสไตล์ไปยังข้อมูล Analytics ที่คุณรวบรวม
หากต้องการใช้ฟีเจอร์นี้ พร็อพเพอร์ตี้ของคุณต้องใช้ปลั๊กอินอีคอมเมิร์ซที่เพิ่มประสิทธิภาพอยู่
นอกจากนี้คุณยังต้องสามารถแก้ไขโค้ดอีคอมเมิร์ซเพื่อส่ง SKU ของผลิตภัณฑ์พร้อมกับ Hit แต่ละรายการ
- สถานการณ์จำลอง
- ขั้นตอนที่ 1: ติดแท็กไซต์ของคุณด้วยปลั๊กอิน ec.js
- ขั้นตอนที่ 2: ตัดสินใจว่าจะนำเข้าข้อมูลใด
- ขั้นตอนที่ 3: สร้างมิติข้อมูลที่กำหนดเอง
- ขั้นตอนที่ 4: สร้างชุดข้อมูล
- ขั้นตอนที่ 5: สร้างไฟล์ CSV
- ขั้นตอนที่ 6: อัปโหลดข้อมูล
- ขั้นตอนที่ 7: อัปเดตโค้ดอีคอมเมิร์ซของคุณ
- ขั้นตอนที่ 8: ดูข้อมูลในรายงาน
- แหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
สถานการณ์จำลอง:
คุณทำธุรกิจร้านขายเสื้อผ้าอีคอมเมิร์ซและต้องการทราบว่าสีและขนาดใดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดบนไซต์ของคุณ
ขั้นตอนที่ 1: ติดแท็กไซต์ของคุณด้วยปลั๊กอิน ec.js
ทำตามคำแนะนำในการติดแท็กหน้าเว็บของคุณด้วยปลั๊กอิน ec.js เพื่อติดแท็กหน้ารายการผลิตภัณฑ์ หน้ารายละเอียดผลิตภัณฑ์ โปรโมชันภายใน และรถเข็นช็อปปิ้งและการเช็คเอาต์
ขั้นตอนที่ 2: ตัดสินใจว่าจะนำเข้าข้อมูลใด
คุณเก็บไฟล์ข้อมูลไว้นอก Analytics ซึ่งไฟล์นี้เชื่อมโยงกับแต่ละบทความเรื่องเสื้อผ้าที่มีสีและขนาดต่างๆ และคุณวางแผนที่จะอัปโหลดข้อมูลนี้ไปยัง Analytics
ขั้นตอนที่ 3: สร้างมิติข้อมูลที่กำหนดเอง
เนื่องจากไม่มีมิติข้อมูลสีและขนาดอยู่ใน Analytics คุณจะต้องสร้างเป็นมิติข้อมูลที่กำหนดเอง
ขั้นตอนที่ 4: สร้างชุดข้อมูล
- ลงชื่อเข้าใช้ Google Analytics
- คลิกผู้ดูแลระบบ แล้วไปยังพร็อพเพอร์ตี้ที่คุณต้องการอัปโหลดข้อมูล
- ในคอลัมน์พร็อพเพอร์ตี้ คลิกการนำเข้าข้อมูล
- คลิกชุดข้อมูลใหม่
- เลือกประเภทเป็นข้อมูลผลิตภัณฑ์
- ตั้งชื่อชุดข้อมูล: "สีและขนาด"
- เลือกข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้อย่างน้อย 1 รายการที่คุณต้องการดูข้อมูลนี้
- กำหนดสคีมาโดยใช้ตัวอย่างด้านล่างเป็นต้นแบบ
ตัวอย่างสคีมา
ถึงแม้คุณจะไม่ได้ส่งสีและขนาดในข้อมูล Hit อย่างชัดเจน แต่คุณก็ส่ง ID ผลิตภัณฑ์ หากต้องการผูก ID ผลิตภัณฑ์ คุณจะต้องเลือก SKU ของผลิตภัณฑ์เป็นคีย์
ตั้งค่าสคีมาดังนี้
คีย์: SKU ของผลิตภัณฑ์
ข้อมูลที่นำเข้า: สี, ขนาด
การเขียนทับข้อมูล Hit: ใช่
บันทึกชุดข้อมูล
ขั้นตอนที่ 5: สร้างไฟล์ CSV
การสร้างไฟล์ CSV ที่อัปโหลดประกอบด้วย 2 ขั้นตอน ได้แก่
1. รับข้อมูลส่วนหัวของไฟล์ CSV
ในตารางชุดข้อมูล คลิกสีและขนาดเพื่อเปิดการกำหนดค่าชุดข้อมูล
คลิกรับสคีมา
คุณจะเห็นข้อมูลที่มีลักษณะคล้ายด้านล่าง
ส่วนหัว CSV ga:productSku,ga:dimension23,ga:dimension24
คุณควรใช้ส่วนหัวนี้เป็นบรรทัดแรกของไฟล์ CSV ที่อัปโหลด ตารางต่อไปนี้จะระบุคอลัมน์ต่างๆ
SKU ของผลิตภัณฑ์ | สี | ขนาด |
---|---|---|
ga:productSku | ga:dimension23 | ga:dimension24 |
2. สร้างสเปรดชีตและส่งออกเป็นไฟล์ CSV
สร้าง Google สเปรดชีตที่ทำตามรูปแบบข้างต้น บรรทัดแรก (ส่วนหัว) ของสเปรดชีตควรใช้ชื่อมิติข้อมูลภายใน (เช่น ga:productSku แทนที่จะเป็น Product SKU) ซึ่งแสดงในกล่องโต้ตอบรับสกีมาที่แสดงด้านบน คอลัมน์ที่อยู่ใต้ส่วนหัวแต่ละรายการควรมีข้อมูลของส่วนหัวนั้นๆ
ga:productSku | ga:dimension23 | ga:dimension24 |
---|---|---|
12345 | Red | S |
12345 | Red | M |
23456 | White | M |
23456 | Blue | L |
ส่งออกสเปรดชีตเป็นไฟล์ CSV ไฟล์ของคุณจะมีลักษณะดังนี้
ga:productSku,ga:dimension23,ga:dimension24 12345,Red,S 12345,Red,M 23456,White,M 23456,Blue,L
ขั้นตอนที่ 6: อัปโหลดข้อมูล
ในขั้นตอนนี้คุณจะต้องอัปโหลดไฟล์ CSV ที่สร้างไว้ไปยัง Analytics คุณมี 2 ตัวเลือกในการอัปโหลดข้อมูล ได้แก่ อัปโหลดด้วยตนเองโดยใช้อินเทอร์เฟซผู้ใช้ของ Analytics หรืออัปโหลดโดยใช้โปรแกรมผ่านทาง API การจัดการ
อัปโหลดด้วยตนเอง- ในตารางชุดข้อมูล ให้หาแถวสีและขนาด
- คลิกจัดการการอัปโหลดสำหรับชุดข้อมูลสีและขนาด
- คลิกอัปโหลดไฟล์ เลือกไฟล์แล้วคลิกอัปโหลด
- ในตารางชุดข้อมูล ให้หาแถวสีและขนาด
- คลิกที่ชื่อชุดข้อมูล
- คลิกรับรหัสแหล่งที่มาของข้อมูลที่กำหนดเอง…
- คัดลอกรหัสเก็บไว้
- ทำตามวิธีการเหล่านี้เพื่ออัปโหลดผ่านทาง API การจัดการ
ขั้นตอนที่ 7: อัปเดตโค้ดอีคอมเมิร์ซของคุณ
หลังจากที่อัปโหลดข้อมูลผลิตภัณฑ์แล้ว ให้อัปเดตโค้ดอีคอมเมิร์ซเพื่อส่ง SKU ของผลิตภัณฑ์พร้อมกับ Hit แต่ละรายการ ตลอดจนข้อมูลเพิ่มเติมที่คุณต้องการให้แสดงในรายงาน เช่น มิติข้อมูลหรือเมตริกที่กำหนดเอง
หมายเหตุ: เมื่อส่งข้อมูลอีคอมเมิร์ซไปยัง Analytics จะไม่มีช่องเฉพาะที่ชื่อ SKU ของผลิตภัณฑ์ แต่จะแสดงให้เห็นด้วยช่องรหัสตามที่แสดงในตัวอย่างด้านล่างนี้
// ตัวอย่างของการส่งธุรกรรมเมื่อรวมเข้ากับข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่นำเข้า ga('create', 'UA-XXXX-Y'); ga('require', 'ec', 'ec.js'); // โหลดปลั๊กอินอีคอมเมิร์ซที่เพิ่มประสิทธิภาพ ต้องระบุ // ชื่อผลิตภัณฑ์ ราคา และข้อมูลผลิตภัณฑ์อื่นๆ จะเพิ่มลงใน Hit นี้ // เมื่อมีการรวบรวม หากค่าของช่องรหัสตรงกับ SKU ของผลิตภัณฑ์ // ที่คุณอัปโหลด ga('ec:addImpression', { 'id': '12345', // รหัสผลิตภัณฑ์/SKU (คีย์) ต้องระบุ 'list': 'Search Results', 'position': 1, 'dimension1': 'Member' }); ga('send', 'pageview'); // ส่งการแสดงผลพร้อม Hit จำนวนหน้าที่มีการเปิด
ตอนนี้ รหัสผลิตภัณฑ์ที่ส่งจากการใช้อีคอมเมิร์ซที่เพิ่มประสิทธิภาพจะจับคู่กับ SKU ของผลิตภัณฑ์ในชุดข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่นำเข้า และระบบจะเติมข้อมูลให้กับรายงานโดยอัตโนมัติด้วยข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมที่คุณได้อัปโหลดไว้
ขั้นตอนที่ 8: ดูข้อมูลในรายงาน
เนื่องจากสีและขนาดเป็นมิติข้อมูลที่กำหนดเองจึงไม่ปรากฏในรายงานมาตรฐานโดยอัตโนมัติ แต่คุณสามารถเพิ่มเป็นมิติข้อมูลรองได้ ตัวอย่างเช่น ในรายงานประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ คุณสามารถเลือกSKU ของผลิตภัณฑ์เป็นมิติข้อมูลหลัก แล้วเพิ่มสีหรือขนาดเป็นมิติข้อมูลรอง นอกจากนี้คุณยังสามารถสร้างรายงานที่กำหนดเองโดยใช้เมตริกอีคอมเมิร์ซที่เพิ่มประสิทธิภาพใดก็ได้ (เช่น รายได้ของผลิตภัณฑ์ การซื้อที่ไม่ซ้ำ ปริมาณ) แล้วเพิ่ม SKU ของผลิตภัณฑ์ สี และขนาดเป็นมิติข้อมูล
ระบบจะต้องประมวลผลข้อมูลที่อัปโหลดก่อน ข้อมูลเหล่านั้นจึงจะแสดงในรายงาน เมื่อประมวลผลเสร็จเรียบร้อยแล้ว อาจใช้เวลาสูงสุด 24 ชั่วโมงระบบจึงจะเริ่มนำข้อมูลที่นำเข้าไปใช้กับข้อมูล Hit ที่เข้ามา