ตั้งค่า User-ID

ในการตั้งค่าฟีเจอร์ User-D คุณต้องเปิดใช้ฟีเจอร์นี้ในบัญชี Analytics ก่อน แล้วจึงนำไปใช้ในโค้ดติดตาม

นอกจากนี้คุณยังต้องสร้างข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ User-ID เพื่อดูข้อมูลในรายงาน Analytics ด้วย

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ User-ID แล้วอ่านข้อจำกัดของ User-ID ก่อนที่จะใช้งานฟีเจอร์นี้

บทความนี้ประกอบด้วย

• ตั้งค่า User-ID ในบัญชี
• 1. ยอมรับนโยบาย User-ID
• 2. ตั้งค่า User-ID ในโค้ดติดตาม
• 3. สร้างข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้สำหรับการรายงาน User-ID
• แหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

ตั้งค่า User-ID ในบัญชี

คุณต้องมีบทบาทผู้แก้ไขสําหรับพร็อพเพอร์ตี้นั้น

วิธีตั้งค่า User-ID

1. ลงชื่อเข้าใช้ Google Analytics
2. คลิกผู้ดูแลระบบ แล้วไปที่พร็อพเพอร์ตี้ที่คุณต้องการใช้ User-ID
3. ในคอลัมน์พร็อพเพอร์ตี้ คลิกข้อมูลการติดตาม > User-ID
4. ทำตามขั้นตอนที่อธิบายไว้ในส่วนถัดไป

1. ยอมรับนโยบาย User ID

1. อ่านนโยบาย User-ID
2. ในส่วนฉันยอมรับนโยบาย User-ID ให้เลื่อนสวิตช์ไปที่ใช่ การยอมรับนโยบายจะเป็นการเปิดใช้ฟีเจอร์นี้ในบัญชีของคุณ
3. คลิกขั้นตอนถัดไป

2. ตั้งค่า User ID ในโค้ดติดตาม

หลังจากที่คุณเปิดใช้ User ID ด้วยการยอมรับนโยบายแล้ว คุณต้องติดตั้ง User ID ในโค้ดติดตาม

ในการใช้ User-ID คุณจะต้องสามารถสร้างรหัสที่ไม่ซ้ำกันของคุณเอง กำหนดรหัสให้ผู้ใช้ใหม่และกำหนดรหัสเดิมให้ผู้ใช้ที่กลับมาได้อย่างสอดคล้องกัน และต้องรวมรหัสเหล่านี้ในข้อมูลที่คุณส่งให้ Analytics

การอัปเดตโค้ดติดตามควรดำเนินการโดยนักพัฒนาซอฟต์แวร์ ดูแหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องด้านล่าง

คุณใช้ User-ID ได้กับทั้งเว็บไซต์และแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ ข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้สำหรับการรายงานทั้ง 2 ประเภท (เว็บและแอป) จะยอมรับ Hit จากทั้งเว็บและแอป และรายงาน Hit ร่วมกัน เมื่อใช้ User ID เราขอแนะนำให้คุณรักษาข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้รวมซึ่งรวม Hit ทุกประเภทไว้ และกำหนดค่าข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ที่กรองเพื่อแยก Hit จากเว็บและแอปตามความจำเป็น

หากกำหนดรหัสให้กับผู้ใช้ไม่ได้ โปรดอย่าส่งพารามิเตอร์ UID เพราะหากคุณตั้งค่าพารามิเตอร์ UID เป็น "ไม่มีข้อมูล" หรือ "ไม่มี" เมื่อกำหนดรหัสผู้ใช้ไม่ได้ ระบบก็จะนับผู้ใช้ทั้งหมดที่คุณไม่มีข้อมูลที่จำเป็นรวมในขีดจำกัดของข้อมูลด้วย และอาจทำให้รายงานเกิดความคลาดเคลื่อนได้

การรวมเซสชัน

การรวมเซสชันทำให้คุณสามารถเชื่อมโยง Hit ซึ่งเก็บรวบรวมก่อนที่จะมีการกำหนด User-ID เข้ากับ User-ID หลังจากที่ได้กำหนดแล้ว โดยที่ Hit เหล่านั้นจะต้องเกิดขึ้นในเซสชันเดียวกับเซสชันที่มีการกำหนด ID ให้เป็นครั้งแรก

การรวมเซสชันจะเปิดโดยค่าเริ่มต้น

เมื่อการรวมเซสชันปิดอยู่ ระบบจะเชื่อมโยง Hit กับ ID เฉพาะ Hit ที่รวบรวมเมื่อมีการกำหนด User-ID อยู่แล้วเท่านั้น

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรวมเซสชัน

1. เปิดหรือปิดการรวมเซสชันตามที่จำเป็น
2. คลิกขั้นตอนถัดไป

หากคุณใช้ Google Tag Manager ดูวิธีใช้ Google Tag Manager เพื่อใช้งาน User-ID ในโค้ดติดตาม Analytics

3. สร้างข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้สำหรับการรายงาน User-ID

ข้อมูล User-ID จะปรากฏในข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ User-ID โดยเฉพาะเท่านั้น

1. คลิกสร้าง
2. ป้อนชื่อข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้สำหรับการรายงาน
   คุณอาจต้องใส่คำว่า "User-ID" ลงในชื่อเพื่อช่วยให้จำได้ว่านี่คือข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ User-ID พิเศษ
3. เลือกเขตเวลาในการรายงาน
4. เลื่อนสวิตช์ในส่วนแสดงรายงาน User-ID ไปที่เปิด
5. คลิกสร้าง

คุณสามารถสร้างข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ User-ID เพิ่มเติมได้ทุกเมื่อ โดยทำตามขั้นตอนมาตรฐานในการสร้างข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ใหม่

คุณไม่สามารถแปลงข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ User-ID เป็นข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้มาตรฐาน และไม่สามารถแปลงข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้มาตรฐานเป็นข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ User-ID เฉพาะข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ใหม่ที่เพิ่มลงในพร็อพเพอร์ตี้ที่เปิดใช้ User-ID เท่านั้นที่ระบบจะกำหนดให้เป็นข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ User-ID

รายงานทั้งหมดในข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ User-ID จะแสดงข้อมูลจากเซสชันที่มีการกำหนด User-ID และมีการส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้ Analytics คุณต้องใช้ข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้อื่นในการดูข้อมูลจากเซสชันที่ไม่ได้ส่ง User-ID ไปยัง Analytics

แหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

หากต้องการทราบรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีเพิ่ม User-ID ลงในโค้ดติดตาม โปรดดูวิธีการในคู่มือนักพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับสภาพแวดล้อมการใช้งานแต่ละแบบ

• เว็บไซต์: gtag.js
• แอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่: แอป Android หรือแอป iOS

หากคุณใช้ Google Tag Manager โปรดดู User-ID ในศูนย์ช่วยเหลือของ Google Tag Manager