Dimensions and metrics

[GA4] ขอบเขตของมิติข้อมูลแหล่งที่มาของการเข้าชม

มิติข้อมูลแหล่งที่มาของการเข้าชมให้ข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งที่เกิดการเข้าชม วิธีการที่ผู้ใช้มายังเว็บไซต์หรือแอปของคุณ และความพยายามทางการตลาดที่คุณใช้เพื่อให้เกิดการเข้าชมนั้น ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมิติข้อมูลแหล่งที่มาของการเข้าชม

มิติข้อมูลแหล่งที่มาของการเข้าชมบางรายการจะลงท้ายด้วย "ผู้ใช้ครั้งแรก" (เช่น แหล่งที่มาของผู้ใช้ครั้งแรก) หรือ "เซสชัน" (เช่น แหล่งที่มาของเซสชัน) เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการระบุแหล่งที่มา บทความนี้อธิบายความหมายของคําต่อท้ายแต่ละคำ (หรือขอบเขต) และประเภทข้อมูลที่จะเห็นในขอบเขตดังกล่าว

บทความนี้ประกอบด้วย

Traffic Sources in Google Analytics

ทำความเข้าใจคำว่าผู้ใช้ เซสชัน และเหตุการณ์

Google Analytics จัดระเบียบผู้ใช้ เซสชัน และเหตุการณ์ในลําดับชั้นต่อไปนี้

  • ผู้ใช้
    • เซสชัน
      • เหตุการณ์

ผู้ใช้คือผู้ที่โต้ตอบกับเว็บไซต์หรือแอปของคุณ เช่น หากบุคคล 2 คนโต้ตอบกับเว็บไซต์ของคุณ Google Analytics จะถือว่าแต่ละบุคคลเป็นผู้ใช้คนละคน หากมีผู้ออกจากเว็บไซต์แล้วกลับมาในภายหลัง Google Analytics ก็จะยังถือว่าบุคคลนั้นเป็นผู้ใช้ 1 คน ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้ใช้

"เซสชัน" คือระยะเวลาตั้งแต่ที่ผู้ใช้เข้าชมเว็บไซต์หรือแอปจนถึงตอนที่ออกจากเว็บไซต์หรือแอป เช่น มีคนเข้าชมเว็บไซต์ เพิ่มสินค้าลงในรถเข็นช็อปปิ้ง แล้วออกจากเว็บไซต์ วันต่อมา ลูกค้ากลับมาที่เว็บไซต์และซื้อสินค้า การเข้าชมเหล่านี้ถือเป็น 2 เซสชันแยกกัน ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเซสชัน

"เหตุการณ์" คือการโต้ตอบแต่ละครั้งของผู้ใช้ในเซสชัน จากตัวอย่างข้างต้น การเพิ่มสินค้าลงในรถเข็นช็อปปิ้ง ออกจากร้านค้าอีคอมเมิร์ซ และซื้อสินค้าล้วนเป็นการโต้ตอบที่สามารถวัดโดยใช้เหตุการณ์ คุณทําเครื่องหมายเหตุการณ์ที่สําคัญต่อธุรกิจที่สุดเป็นเหตุการณ์ Conversion ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณ์

วิธีที่ Google Analytics ระบุผู้ใช้

Google Analytics จะระบุผู้ใช้แต่ละรายโดยอิงจากตัวเลือกข้อมูลระบุตัวตนในการรายงานที่คุณเลือกสําหรับพร็อพเพอร์ตี้และการตั้งค่าเบราว์เซอร์หรืออุปกรณ์ของผู้ใช้

เช่น หากคุณเลือกข้อมูลระบุตัวตนในการรายงานแบบผสมสําหรับพร็อพเพอร์ตี้ Analytics ก็จะพิจารณารหัสผู้ใช้, รหัสอุปกรณ์ และการประมาณเพื่อระบุผู้ใช้ หากพบว่าข้อมูลประจําตัวใดเหมือนกัน (เช่น ผู้ใช้มีรหัสผู้ใช้เดียวกันในเซสชัน) Google Analytics จะระบุบุคคลดังกล่าวเป็นผู้ใช้คนเดียวกัน

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวเลือกข้อมูลระบุตัวตนในการรายงานใน Google Analytics

ทำความเข้าใจขอบเขต

Google Analytics จะจัดระเบียบข้อมูลการได้ผู้ใช้ใหม่ไว้เป็นกลุ่มผู้ใช้ เซสชัน และเหตุการณ์ (หรือขอบเขต) และเพิ่มคําต่อท้ายให้กับมิติข้อมูลบางรายการเพื่อให้คุณทราบว่ามิติข้อมูลนั้นอยู่ในกลุ่มใด

มิติข้อมูลที่กำหนดขอบเขตระดับผู้ใช้

มิติข้อมูลที่กําหนดขอบเขตระดับผู้ใช้แสดงแหล่งที่มาของผู้ใช้ใหม่ มิติข้อมูลเหล่านี้จะลงท้ายด้วยคำว่า "ผู้ใช้ครั้งแรก" เสมอ เช่น มิติข้อมูลแหล่งที่มาของผู้ใช้ครั้งแรก (ซึ่งจะแสดงแหล่งที่มาที่พบบ่อยที่สุดสําหรับผู้ใช้ใหม่) ค่าที่กําหนดให้กับมิติข้อมูลที่กําหนดขอบเขตระดับผู้ใช้แต่ละรายการจะยังคงเหมือนเดิมเมื่อผู้ใช้กลับมาที่เว็บไซต์หรือแอป

Google Analytics แสดงข้อมูลเกี่ยวกับมิติข้อมูลที่กำหนดขอบเขตระดับผู้ใช้ในรายงานการได้ผู้ใช้ใหม่

หากมิติข้อมูลแหล่งที่มาของผู้ใช้ครั้งแรกมีค่ามิติข้อมูลเป็นแบบ "ทั่วไป" หมายความว่าผู้ใช้เหล่านี้เข้ามายังเว็บไซต์หรือแอปเป็นครั้งแรกผ่านการค้นหาทั่วไป (เช่น ผ่าน Google Search)

เมื่อจับคู่กับเมตริก เช่น จํานวนเหตุการณ์ ค่ามิติข้อมูลทั่วไปจะแสดงจํานวนผู้ใช้ใหม่ที่มาที่เว็บไซต์หรือแอปจากการค้นหาทั่วไป (เช่น Google Search) และผู้ทริกเกอร์เหตุการณ์ใดๆ ตัวอย่างเช่น หากคุณเห็น 757,949 ในคอลัมน์จํานวนเหตุการณ์และแถวทั่วไป (ดูตารางต่อไปนี้) หมายความว่าผู้ใช้ใหม่ที่มาจากการค้นหาทั่วไปทริกเกอร์เหตุการณ์ 757,949 รายการในเซสชันแรก

หากเปลี่ยน "จํานวนเหตุการณ์ (เหตุการณ์ทั้งหมด)" เป็น "จํานวนเหตุการณ์ (add_to_cart)" คุณก็จะเห็นจํานวนครั้งที่ผู้ใช้ใหม่ซึ่งเข้ามาผ่านการค้นหาทั่วไปทริกเกอร์เหตุการณ์ add_to_cart ในเซสชันแรก

สื่อของผู้ใช้ครั้งแรก +

อัตราการมีส่วนร่วม

จำนวนเหตุการณ์

(เหตุการณ์ทั้งหมด)

Conversion

(เหตุการณ์ทั้งหมด)

รายได้ทั้งหมด

ผลรวม 60.41% 2,681,227 69,325.00 $159,359.77
ทั่วไป 68.25% 757,949 20,693.00 $32,042.15
cpc 51.22% 160,254 9,473.00 $2,933.50
การอ้างอิง 64.44% 161,321 4,372.00 $3,260.64

มิติข้อมูลที่กำหนดขอบเขตระดับเซสชัน

มิติข้อมูลที่กำหนดขอบเขตระดับเซสชันจะแสดงให้เห็นว่าผู้ใช้ใหม่และผู้ใช้ที่กลับมานั้นมาจากที่ใดเมื่อเริ่มเซสชันใหม่ มิติข้อมูลเหล่านี้จะลงท้ายด้วยคำว่า "เซสชัน" เสมอ เช่น มิติข้อมูลแหล่งที่มาของเซสชัน (ซึ่งจะแสดงแหล่งที่มาที่พบบ่อยที่สุดสําหรับเซสชันใหม่) ระบบจะกําหนดค่าใหม่ให้กับมิติข้อมูลที่กําหนดขอบเขตระดับเซสชันทุกครั้งที่ผู้ใช้กลับมาที่เว็บไซต์หรือแอป

Google Analytics แสดงข้อมูลเกี่ยวกับมิติข้อมูลที่กำหนดขอบเขตระดับเซสชันในรายงานการเข้าชมที่ได้ผู้ใช้ใหม่

หากมิติข้อมูลแหล่งที่มาของเซสชันมีค่ามิติข้อมูลเป็นแบบ "ทั่วไป" หมายความว่าผู้ใช้เหล่านี้เข้ามายังเว็บไซต์หรือแอปผ่านการค้นหาทั่วไป (เช่น ผ่าน Google Search)

เมื่อจับคู่กับเมตริก เช่น จํานวนเหตุการณ์ ค่ามิติข้อมูลทั่วไปจะแสดงจํานวนเซสชันใหม่ที่มาจากการค้นหาทั่วไป (เช่น Google Search) และเมื่อผู้ใช้ทริกเกอร์เหตุการณ์ใดๆ ตัวอย่างเช่น หากคุณเห็น 888,666 ในคอลัมน์จํานวนเหตุการณ์และแถวทั่วไป (ดูตารางต่อไปนี้) หมายความว่าผู้ใช้ที่มาจากการค้นหาทั่วไปทริกเกอร์เหตุการณ์ 888,666 รายการ

หากเปลี่ยน "จํานวนเหตุการณ์ (เหตุการณ์ทั้งหมด)" เป็น "จํานวนเหตุการณ์ (add_to_cart)" คุณก็จะเห็นจํานวนครั้งที่ผู้ใช้ซึ่งเข้ามาผ่านการค้นหาทั่วไปทริกเกอร์เหตุการณ์ add_to_cart ในเซสชัน

สื่อของเซสชัน +

อัตราการมีส่วนร่วม

จำนวนเหตุการณ์

(เหตุการณ์ทั้งหมด)

Conversion

(เหตุการณ์ทั้งหมด)

รายได้ทั้งหมด

ผลรวม 60.41% 2,681,227 69,325.00 $159,359.77
ทั่วไป 67.33% 888,666 21,139.00 $55,912.49
cpc 52.22% 160,720 9,185.00 $2,294.65
การอ้างอิง 65.27% 231,175 4,530.00 $11,758.08

มิติข้อมูลที่กำหนดขอบเขตระดับเหตุการณ์

มิติข้อมูลที่กำหนดขอบเขตระดับเหตุการณ์ช่วยให้คุณระบุแหล่งที่มาของเครดิตสําหรับเหตุการณ์ Conversion ที่ผู้ใช้ทริกเกอร์ แต่มิติข้อมูลนี้จะไม่มีคํานำหน้า เช่น แหล่งที่มาหรือสื่อ แหล่งที่มาและสื่อสําหรับเหตุการณ์ที่ไม่มี Conversion จะมีค่าเป็น "(ไม่ได้ตั้งค่า)"

Google Analytics แสดงข้อมูลเกี่ยวกับมิติข้อมูลที่กําหนดขอบเขตระดับเหตุการณ์ในรายงานการเปรียบเทียบรูปแบบการระบุแหล่งที่มาและเส้นทาง Conversion เช่น ตารางต่อไปนี้แสดงสิ่งที่คุณอาจเห็นในรายงานการเปรียบเทียบรูปแบบการระบุแหล่งที่มา ซึ่งจะแสดงเมตริกต่างๆ ของแต่ละค่าของมิติข้อมูลสื่อ

  รูปแบบการคลิกสุดท้ายในช่องแบบชำระเงินของ Google รูปบบการระบุจากข้อมูลในช่องแบบชำระเงินของ Google
สื่อ + Conversion รายได้ Conversion รายได้
ผลรวม 69,325.00 $159,359.77 69,325.00 $159,359.77
ทั่วไป 20,139 $52,932.49 20,136.78 $52,932.49
cpc 9,135 $2,134.66 9,138.93 $2,134.66
การอ้างอิง 4,392 $11,358.19 4,382.29 $11,358.19

วิธีที่ Analytics ระบุแหล่งที่มาของเครดิต

Analytics ใช้การระบุแหล่งที่มารูปแบบต่างๆ เพื่อกําหนดเครดิตให้กับโฆษณา การคลิก และการโต้ตอบอื่นๆ ตลอดเส้นทางที่นําผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์หรือแอป

สําหรับมิติข้อมูลที่กําหนดขอบเขตระดับผู้ใช้และระดับเซสชัน Analytics จะใช้รูปแบบการระบุแหล่งที่มาของคลิกสุดท้ายในช่องทางแบบทั่วไป มิติข้อมูลทั้ง 2 ระดับนี้จะไม่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการระบุแหล่งที่มา

สําหรับมิติข้อมูลที่กําหนดขอบเขตระดับเหตุการณ์ Analytics จะใช้รูปแบบการระบุแหล่งที่มาที่คุณเลือก แต่โดยค่าเริ่มต้นจะใช้รูปแบบการระบุแหล่งที่มาโดยอิงตามข้อมูล รายงานทั้งหมดที่มีมิติข้อมูลการเข้าชมที่กําหนดขอบเขตระดับเหตุการณ์จะแสดงรูปแบบการระบุแหล่งที่มาที่คุณเลือก

ตัวอย่าง

ธิดาซึ่งเป็นผู้ค้าปลีกออนไลน์ตั้งค่า Google Analytics เพื่อดูว่าผู้ใช้ค้นพบเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของตนได้อย่างไร คําอธิบายต่อไปนี้จะอธิบายเส้นทางของลูกค้า 1 รายผ่านเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ และวิธีที่ธิดาใช้รายงานใน Analytics เพื่อทําความเข้าใจเส้นทางของลูกค้า

การเข้าชมครั้งแรก

แซมเป็นลูกค้าของเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซดังกล่าว ซึ่งค้นพบเว็บไซต์ผ่านผลการค้นหาของ Google Search ที่ไม่ต้องชําระเงิน แซมคลิกผลการค้นหาจากนั้นไปที่เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ ดูบางผลิตภัณฑ์ แล้วสมัครรับจดหมายข่าว 2-3 วันต่อมาแซมคลิกลิงก์ในแคมเปญการทำการตลาดทางอีเมล กลับไปที่เว็บไซต์แล้วทําการซื้อให้เสร็จสมบูรณ์

ภาพต่อไปนี้จะแสดงเส้นทางของแซม

ภาพการเข้าชมครั้งแรกของแซม

เซสชันเพิ่มเติม

1 สัปดาห์ต่อมา แซมคลิกโฆษณาใน Google Search ดูผลิตภัณฑ์ เพิ่มผลิตภัณฑ์ลงในรถเข็นช็อปปิ้ง แล้วบุ๊กมาร์กหน้าผลิตภัณฑ์ ในช่วงกลางของเซสชันที่ 3 แซมคลิกลิงก์เพื่อดูผลิตภัณฑ์ ซึ่งมีพารามิเตอร์ UTM เป็น utm_source=
"internal_promotion"
ต่อมาในสัปดาห์นั้น แซมใช้บุ๊กมาร์กเพื่อเปิดหน้าผลิตภัณฑ์ ไปที่รถเข็นช็อปปิ้ง และซื้อผลิตภัณฑ์

ภาพต่อไปนี้จะแสดงเส้นทางของแซม

ภาพเซสชันเพิ่มเติมของแซม

ผลลัพธ์

ธิดาซึ่งเป็นเจ้าของร้านค้าจะเห็นผลลัพธ์ต่อไปนี้ใน Google Analytics

มิติข้อมูลที่กำหนดขอบเขตระดับผู้ใช้

แหล่งที่มา/สื่อของผู้ใช้ครั้งแรกจะได้รับการกําหนดในระดับผู้ใช้ และแสดงถึงแหล่งที่มา/สื่อที่ได้ผู้ใช้ในเซสชันแรก

ผู้ใช้ แหล่งที่มา/สื่อของผู้ใช้ครั้งแรก
แซม (ผู้ใช้) google/ทั่วไป

มิติข้อมูลที่กำหนดขอบเขตระดับเซสชัน

แหล่งที่มา/สื่อของเซสชันจะได้รับการกำหนดที่ระดับเซสชันและแสดงถึงแหล่งที่มาของเซสชัน เซสชันที่เกิดจากการเข้าถึงโดยตรงมาจากแหล่งที่มา/สื่อที่รู้จักล่าสุดสําหรับผู้ใช้รายนั้น

เซสชัน แหล่งที่มา/สื่อของเซสชัน
เซสชัน 1 google/ทั่วไป
เซสชัน 2 อีเมล/จดหมายข่าว
เซสชัน 3 google/cpc
เซสชัน 4 พาร์ทเนอร์/แอฟฟิลิเอต

มิติข้อมูลที่กำหนดขอบเขตระดับเหตุการณ์

ตารางต่อไปนี้แสดงจํานวน Conversion ของแต่ละเหตุการณ์ที่ทริกเกอร์ในตัวอย่างก่อนหน้านี้ ตารางประกอบด้วยเส้นทาง Conversion ของผู้ใช้ที่ทริกเกอร์เหตุการณ์ Conversion แต่ละรายการ แม้จะมีการทริกเกอร์เหตุการณ์ view_item 2 ครั้ง แต่เหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีการทําเครื่องหมายเป็น Conversion จึงไม่มีเส้นทาง Conversion

จํานวน Conversion และเส้นทาง Conversion มีการกําหนดดังนี้

ชื่อเหตุการณ์ จำนวนเหตุการณ์ Conversion เส้นทาง Conversion
first_visit 1 1 google/ทั่วไป
purchase 2 2

google / ทั่วไป > อีเมล / จดหมายข่าว

google / ทั่วไป > อีเมล / จดหมายข่าว > google / cpc > พาร์ทเนอร์ / แอฟฟิลิเอต

add_to_cart 1 1 google / ทั่วไป > อีเมล / จดหมายข่าว > google / cpc > พาร์ทเนอร์ / แอฟฟิลิเอต
view_item 2 0 -

 

จากนั้น Analytics จะระบุแหล่งที่มาของเครดิต Conversion สำหรับแหล่งที่มา/สื่อแต่ละรายการตามรูปแบบการระบุแหล่งที่มาที่คุณเลือกไว้ในการตั้งค่าพร็อพเพอร์ตี้ ในตัวอย่างนี้ เราใช้รูปแบบการระบุแหล่งที่มาโดยอิงตามข้อมูลที่เป็นค่าเริ่มต้น การระบุแหล่งที่มาสำหรับแหล่งที่มา/สื่อจะมีผลกับเหตุการณ์ที่ทําเครื่องหมายเป็น Conversion เท่านั้น

แหล่งที่มา/สื่อ Conversion
google/ทั่วไป 1.3
อีเมล/จดหมายข่าว 1.1
google/cpc 0.6
พาร์ทเนอร์/แอฟฟิลิเอต 1
โดยตรง/(ไม่มี) 0

หมายเหตุ: Google Analytics จะให้น้ำหนักไม่เท่ากันสำหรับแต่ละทัชพอยต์ตลอดเส้นทางที่ทําให้เกิด Conversion ของผู้ใช้ ตัวเลขเหล่านี้มีไว้เพื่อเห็นภาพเท่านั้น และไม่จําเป็นต้องแสดงน้ำหนักที่แน่นอนที่ Google ระบุไว้ในแต่ละทัชพอยต์

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
true
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
9501420420541975049
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
69256
false
false