มิติข้อมูลแหล่งที่มาของการเข้าชมให้ข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งที่เกิดการเข้าชม วิธีการที่ผู้ใช้มายังเว็บไซต์หรือแอปของคุณ และความพยายามทางการตลาดที่คุณใช้เพื่อให้เกิดการเข้าชมนั้น ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมิติข้อมูลแหล่งที่มาของการเข้าชม
มิติข้อมูลแหล่งที่มาของการเข้าชมบางรายการจะลงท้ายด้วย "ผู้ใช้ครั้งแรก" (เช่น แหล่งที่มาของผู้ใช้ครั้งแรก) หรือ "เซสชัน" (เช่น แหล่งที่มาของเซสชัน) เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการระบุแหล่งที่มา บทความนี้อธิบายความหมายของคําต่อท้ายแต่ละคำ (หรือขอบเขต) และประเภทข้อมูลที่จะเห็นในขอบเขตดังกล่าว
บทความนี้ประกอบด้วยสําหรับคําบรรยายในภาษาของคุณ ให้เปิดคำบรรยายวิดีโอใน YouTube เลือกไอคอนการตั้งค่า ที่ด้านล่างของวิดีโอเพลเยอร์ จากนั้นเลือก "คําบรรยาย" แล้วเลือกภาษา
ทำความเข้าใจคำว่าผู้ใช้ เซสชัน และเหตุการณ์
Google Analytics จัดระเบียบผู้ใช้ เซสชัน และเหตุการณ์ในลําดับชั้นต่อไปนี้
- ผู้ใช้
- เซสชัน
- เหตุการณ์
- เซสชัน
ผู้ใช้คือผู้ที่โต้ตอบกับเว็บไซต์หรือแอปของคุณ เช่น หากบุคคล 2 คนโต้ตอบกับเว็บไซต์ของคุณ Google Analytics จะถือว่าแต่ละบุคคลเป็นผู้ใช้คนละคน หากมีผู้ออกจากเว็บไซต์แล้วกลับมาในภายหลัง Google Analytics ก็จะยังถือว่าบุคคลนั้นเป็นผู้ใช้ 1 คน ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้ใช้
"เซสชัน" คือระยะเวลาตั้งแต่ที่ผู้ใช้เข้าชมเว็บไซต์หรือแอปจนถึงตอนที่ออกจากเว็บไซต์หรือแอป เช่น มีคนเข้าชมเว็บไซต์ เพิ่มสินค้าลงในรถเข็นช็อปปิ้ง แล้วออกจากเว็บไซต์ วันต่อมา ลูกค้ากลับมาที่เว็บไซต์และซื้อสินค้า การเข้าชมเหล่านี้ถือเป็น 2 เซสชันแยกกัน ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเซสชัน
"เหตุการณ์" คือการโต้ตอบแต่ละครั้งของผู้ใช้ในเซสชัน จากตัวอย่างข้างต้น การเพิ่มสินค้าลงในรถเข็นช็อปปิ้ง ออกจากร้านค้าอีคอมเมิร์ซ และซื้อสินค้าล้วนเป็นการโต้ตอบที่สามารถวัดโดยใช้เหตุการณ์ คุณทําเครื่องหมายเหตุการณ์ที่สําคัญต่อธุรกิจที่สุดเป็นเหตุการณ์สำคัญได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณ์
วิธีที่ Google Analytics ระบุผู้ใช้
Google Analytics จะระบุผู้ใช้แต่ละรายโดยอิงจากตัวเลือกข้อมูลระบุตัวตนในการรายงานที่คุณเลือกสําหรับพร็อพเพอร์ตี้และการตั้งค่าเบราว์เซอร์หรืออุปกรณ์ของผู้ใช้
เช่น หากคุณเลือกข้อมูลระบุตัวตนในการรายงานแบบผสมสําหรับพร็อพเพอร์ตี้ Analytics ก็จะพิจารณารหัสผู้ใช้, รหัสอุปกรณ์ และการประมาณเพื่อระบุผู้ใช้ หากพบว่าข้อมูลประจําตัวใดเหมือนกัน (เช่น ผู้ใช้มีรหัสผู้ใช้เดียวกันในเซสชัน) Google Analytics จะระบุบุคคลดังกล่าวเป็นผู้ใช้คนเดียวกัน
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวเลือกข้อมูลระบุตัวตนในการรายงานใน Google Analytics
ทำความเข้าใจขอบเขต
Google Analytics จะจัดระเบียบข้อมูลการได้ผู้ใช้ใหม่ไว้เป็นกลุ่มผู้ใช้ เซสชัน และเหตุการณ์ (หรือขอบเขต) และเพิ่มคําต่อท้ายให้กับมิติข้อมูลบางรายการเพื่อให้คุณทราบว่ามิติข้อมูลนั้นอยู่ในกลุ่มใด
มิติข้อมูลที่กำหนดขอบเขตระดับผู้ใช้
มิติข้อมูลที่กําหนดขอบเขตระดับผู้ใช้แสดงแหล่งที่มาของผู้ใช้ใหม่ มิติข้อมูลเหล่านี้จะลงท้ายด้วยคำว่า "ผู้ใช้ครั้งแรก" เสมอ เช่น มิติข้อมูลแหล่งที่มาของผู้ใช้ครั้งแรก (ซึ่งจะแสดงแหล่งที่มาที่พบบ่อยที่สุดสําหรับผู้ใช้ใหม่) ค่าที่กําหนดให้กับมิติข้อมูลที่กําหนดขอบเขตระดับผู้ใช้แต่ละรายการจะยังคงเหมือนเดิมเมื่อผู้ใช้กลับมาที่เว็บไซต์หรือแอป
Google Analytics แสดงข้อมูลเกี่ยวกับมิติข้อมูลที่กำหนดขอบเขตระดับผู้ใช้ในรายงานการได้ผู้ใช้ใหม่
หากมิติข้อมูลแหล่งที่มาของผู้ใช้ครั้งแรกมีค่ามิติข้อมูลเป็นแบบ "ทั่วไป" หมายความว่าผู้ใช้เหล่านี้เข้ามายังเว็บไซต์หรือแอปเป็นครั้งแรกผ่านการค้นหาทั่วไป (เช่น ผ่าน Google Search)
เมื่อจับคู่กับเมตริก เช่น จํานวนเหตุการณ์ ค่ามิติข้อมูลทั่วไปจะแสดงจํานวนผู้ใช้ใหม่ที่มาที่เว็บไซต์หรือแอปจากการค้นหาทั่วไป (เช่น Google Search) และผู้ทริกเกอร์เหตุการณ์ใดๆ ตัวอย่างเช่น หากคุณเห็น 757,949 ในคอลัมน์จํานวนเหตุการณ์และแถวทั่วไป (ดูตารางต่อไปนี้) หมายความว่าผู้ใช้ใหม่ที่มาจากการค้นหาทั่วไปทริกเกอร์เหตุการณ์ 757,949 รายการในเซสชันแรก
หากเปลี่ยน "จํานวนเหตุการณ์ (เหตุการณ์ทั้งหมด)" เป็น "จํานวนเหตุการณ์ (add_to_cart)" คุณก็จะเห็นจํานวนครั้งที่ผู้ใช้ใหม่ซึ่งเข้ามาผ่านการค้นหาทั่วไปทริกเกอร์เหตุการณ์ add_to_cart ในเซสชันแรก
สื่อของผู้ใช้ครั้งแรก + |
อัตราการมีส่วนร่วม |
จำนวนเหตุการณ์ (เหตุการณ์ทั้งหมด) |
เหตุการณ์สำคัญ (เหตุการณ์ทั้งหมด) |
รายได้ทั้งหมด |
ผลรวม | 60.41% | 2,681,227 | 69,325.00 | $159,359.77 |
ทั่วไป | 68.25% | 757,949 | 20,693.00 | $32,042.15 |
CPC | 51.22% | 160,254 | 9,473.00 | $2,933.50 |
การอ้างอิง | 64.44% | 161,321 | 4,372.00 | $3,260.64 |
มิติข้อมูลที่กำหนดขอบเขตระดับเซสชัน
มิติข้อมูลที่กำหนดขอบเขตระดับเซสชันจะแสดงให้เห็นว่าผู้ใช้ใหม่และผู้ใช้ที่กลับมานั้นมาจากที่ใดเมื่อเริ่มเซสชันใหม่ มิติข้อมูลเหล่านี้จะลงท้ายด้วยคำว่า "เซสชัน" เสมอ เช่น มิติข้อมูลแหล่งที่มาของเซสชัน (ซึ่งจะแสดงแหล่งที่มาที่พบบ่อยที่สุดสําหรับเซสชันใหม่) ระบบจะกําหนดค่าใหม่ให้กับมิติข้อมูลที่กําหนดขอบเขตระดับเซสชันทุกครั้งที่ผู้ใช้กลับมาที่เว็บไซต์หรือแอป
Google Analytics แสดงข้อมูลเกี่ยวกับมิติข้อมูลที่กำหนดขอบเขตระดับเซสชันในรายงานการเข้าชมที่ได้ผู้ใช้ใหม่
หากมิติข้อมูลแหล่งที่มาของเซสชันมีค่ามิติข้อมูลเป็นแบบ "ทั่วไป" หมายความว่าผู้ใช้เหล่านี้เข้ามายังเว็บไซต์หรือแอปผ่านการค้นหาทั่วไป (เช่น ผ่าน Google Search)
เมื่อจับคู่กับเมตริก เช่น จํานวนเหตุการณ์ ค่ามิติข้อมูลทั่วไปจะแสดงจํานวนเซสชันใหม่ที่มาจากการค้นหาทั่วไป (เช่น Google Search) และเมื่อผู้ใช้ทริกเกอร์เหตุการณ์ใดๆ ตัวอย่างเช่น หากคุณเห็น 888,666 ในคอลัมน์จํานวนเหตุการณ์และแถวทั่วไป (ดูตารางต่อไปนี้) หมายความว่าผู้ใช้ที่มาจากการค้นหาทั่วไปทริกเกอร์เหตุการณ์ 888,666 รายการ
หากเปลี่ยน "จํานวนเหตุการณ์ (เหตุการณ์ทั้งหมด)" เป็น "จํานวนเหตุการณ์ (add_to_cart)" คุณก็จะเห็นจํานวนครั้งที่ผู้ใช้ซึ่งเข้ามาผ่านการค้นหาทั่วไปทริกเกอร์เหตุการณ์ add_to_cart ในเซสชัน
สื่อของเซสชัน + |
อัตราการมีส่วนร่วม |
จำนวนเหตุการณ์ (เหตุการณ์ทั้งหมด) |
เหตุการณ์สำคัญ (เหตุการณ์ทั้งหมด) |
รายได้ทั้งหมด |
ผลรวม | 60.41% | 2,681,227 | 69,325.00 | $159,359.77 |
ทั่วไป | 67.33% | 888,666 | 21,139.00 | $55,912.49 |
CPC | 52.22% | 160,720 | 9,185.00 | $2,294.65 |
การอ้างอิง | 65.27% | 231,175 | 4,530.00 | $11,758.08 |
มิติข้อมูลระดับเหตุการณ์
มิติข้อมูลระดับเหตุการณ์ช่วยให้คุณระบุแหล่งที่มาของเครดิตสําหรับเหตุการณ์สำคัญที่ผู้ใช้ทริกเกอร์ แต่มิติข้อมูลนี้จะไม่มีคํานำหน้า เช่น แหล่งที่มาหรือสื่อ แหล่งที่มาและสื่อสําหรับเหตุการณ์ที่ไม่ใช่เหตุการณ์สำคัญจะมีค่าเป็น "(not set)"
Google Analytics แสดงข้อมูลเกี่ยวกับมิติข้อมูลระดับเหตุการณ์ในรายงานการเปรียบเทียบรูปแบบการระบุแหล่งที่มาและเส้นทางของเหตุการณ์สำคัญ เช่น ตารางต่อไปนี้แสดงสิ่งที่คุณอาจเห็นในรายงานการเปรียบเทียบรูปแบบการระบุแหล่งที่มา ซึ่งจะแสดงเมตริกต่างๆ ของแต่ละค่าของมิติข้อมูลสื่อ
รูปแบบคลิกสุดท้ายบนแชแนลแบบมีค่าใช้จ่ายของ Google | รูปบบการระบุจากข้อมูลในช่องแบบชำระเงินของ Google | |||
สื่อ + | เหตุการณ์สำคัญ | รายได้ | เหตุการณ์สำคัญ | รายได้ |
ผลรวม | 69,325.00 | $159,359.77 | 69,325.00 | $159,359.77 |
ทั่วไป | 20,139 | $52,932.49 | 20,136.78 | $52,932.49 |
CPC | 9,135 | $2,134.66 | 9,138.93 | $2,134.66 |
การอ้างอิง | 4,392 | $11,358.19 | 4,382.29 | $11,358.19 |
วิธีที่ Analytics ระบุแหล่งที่มาของเครดิต
Analytics ใช้การระบุแหล่งที่มารูปแบบต่างๆ เพื่อกําหนดเครดิตให้กับโฆษณา การคลิก และการโต้ตอบอื่นๆ ตลอดเส้นทางที่นําผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์หรือแอป
สําหรับมิติข้อมูลระดับผู้ใช้และระดับเซสชัน Analytics จะใช้รูปแบบการระบุแหล่งที่มาของคลิกสุดท้ายบนแชแนลแบบมีค่าใช้จ่ายและแบบทั่วไป มิติข้อมูลทั้ง 2 ระดับนี้จะไม่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการระบุแหล่งที่มา
สําหรับมิติข้อมูลที่กําหนดขอบเขตระดับเหตุการณ์ Analytics จะใช้รูปแบบการระบุแหล่งที่มาที่คุณเลือก แต่โดยค่าเริ่มต้นจะใช้รูปแบบการระบุแหล่งที่มาโดยอิงตามข้อมูล รายงานทั้งหมดที่มีมิติข้อมูลการเข้าชมที่กําหนดขอบเขตระดับเหตุการณ์จะแสดงรูปแบบการระบุแหล่งที่มาที่คุณเลือก
ตัวอย่าง
ธิดาซึ่งเป็นผู้ค้าปลีกออนไลน์ตั้งค่า Google Analytics เพื่อดูว่าผู้ใช้ค้นพบเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของตนได้อย่างไร คําอธิบายต่อไปนี้จะอธิบายเส้นทางของลูกค้า 1 รายผ่านเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ และวิธีที่ธิดาใช้รายงานใน Analytics เพื่อทําความเข้าใจเส้นทางของลูกค้า
การเข้าชมครั้งแรก
แซมเป็นลูกค้าของเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซดังกล่าว ซึ่งค้นพบเว็บไซต์ผ่านผลการค้นหาของ Google Search ที่ไม่ต้องชําระเงิน แซมคลิกผลการค้นหาจากนั้นไปที่เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ ดูบางผลิตภัณฑ์ แล้วสมัครรับจดหมายข่าว 2-3 วันต่อมาแซมคลิกลิงก์ในแคมเปญการตลาดทางอีเมล กลับไปที่เว็บไซต์แล้วทําการซื้อจนเสร็จสมบูรณ์
ภาพต่อไปนี้จะแสดงเส้นทางของแซม
ผู้ใช้: แซม
เซสชัน 1: การค้นหาที่ไม่เสียค่าใช้จ่าย → first_visit (เหตุการณ์สำคัญ) → session_start → view_item → signup
เซสชัน 2: การทำการตลาดทางอีเมล → session_start → purchase (เหตุการณ์สำคัญ)
เซสชันเพิ่มเติม
1 สัปดาห์ต่อมา แซมคลิกโฆษณาใน Google Search ดูผลิตภัณฑ์ เพิ่มผลิตภัณฑ์ลงในรถเข็นช็อปปิ้ง แล้วบุ๊กมาร์กหน้าผลิตภัณฑ์ ในช่วงกลางของเซสชันที่ 3 แซมคลิกลิงก์เพื่อดูผลิตภัณฑ์ ซึ่งมีพารามิเตอร์ UTM เป็น utm_source=
ต่อมาในสัปดาห์นั้น แซมใช้บุ๊กมาร์กเพื่อเปิดหน้าผลิตภัณฑ์ ไปที่รถเข็นช็อปปิ้ง และซื้อผลิตภัณฑ์
"internal_promotion"
ภาพต่อไปนี้จะแสดงเส้นทางของแซม
ผู้ใช้: แซม
เซสชัน 3: การค้นหาที่เสียค่าใช้จ่าย → session_start → แอฟฟิลิเอตกับพารามิเตอร์ UTM → view_item → add_to_cart (เหตุการณ์สำคัญ)
เซสชัน 4: (ไม่มี) → session_start → purchase (เหตุการณ์สำคัญ)
ผลลัพธ์
ธิดาซึ่งเป็นเจ้าของร้านค้าจะเห็นผลลัพธ์ต่อไปนี้ใน Google Analytics
มิติข้อมูลที่กำหนดขอบเขตระดับผู้ใช้
แหล่งที่มา/สื่อของผู้ใช้ครั้งแรกจะได้รับการกําหนดในระดับผู้ใช้ และแสดงถึงแหล่งที่มา/สื่อที่ได้ผู้ใช้ในเซสชันแรก
ผู้ใช้ | แหล่งที่มา/สื่อของผู้ใช้ครั้งแรก |
---|---|
แซม (ผู้ใช้) | google/ทั่วไป |
มิติข้อมูลที่กำหนดขอบเขตระดับเซสชัน
แหล่งที่มา/สื่อของเซสชันจะได้รับการกำหนดที่ระดับเซสชันและแสดงถึงแหล่งที่มาของเซสชัน เซสชันที่เกิดจากการเข้าถึงโดยตรงมาจากค่า UTM ของผู้ใช้รายนั้น
เซสชัน | แหล่งที่มา/สื่อของเซสชัน |
---|---|
เซสชัน 1 | google/ทั่วไป |
เซสชัน 2 | อีเมล/จดหมายข่าว |
เซสชัน 3 | google/cpc |
เซสชัน 4 | พาร์ทเนอร์/แอฟฟิลิเอต |
มิติข้อมูลระดับเหตุการณ์
ตารางต่อไปนี้แสดงจํานวนเหตุการณ์สำคัญของแต่ละเหตุการณ์ที่ทริกเกอร์ในตัวอย่างก่อนหน้านี้ โดยรวมถึงเส้นทางของเหตุการณ์สำคัญของผู้ใช้ที่ทริกเกอร์เหตุการณ์สำคัญแต่ละรายการ แม้จะมีการทริกเกอร์เหตุการณ์ view_item
2 ครั้ง แต่เหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีการทําเครื่องหมายเป็นเหตุการณ์สำคัญจึงไม่มีเส้นทางของเหตุการณ์สำคัญ
จํานวนเหตุการณ์สำคัญและเส้นทางของเหตุการณ์สำคัญมีการกําหนดดังนี้
ชื่อเหตุการณ์ | จำนวนเหตุการณ์ | เหตุการณ์สำคัญ | เส้นทางของเหตุการณ์สําคัญ |
---|---|---|---|
first_visit | 1 | 1 | google/ทั่วไป |
purchase | 2 | 2 |
google / ทั่วไป > อีเมล / จดหมายข่าว google / ทั่วไป > อีเมล / จดหมายข่าว > google / cpc > พาร์ทเนอร์ / แอฟฟิลิเอต |
add_to_cart | 1 | 1 | google / ทั่วไป > อีเมล / จดหมายข่าว > google / cpc > พาร์ทเนอร์ / แอฟฟิลิเอต |
view_item | 2 | 0 | - |
จากนั้น Analytics จะระบุแหล่งที่มาของเครดิตสำหรับแหล่งที่มา/สื่อแต่ละรายการตามรูปแบบการระบุแหล่งที่มาที่คุณเลือกไว้ในการตั้งค่าพร็อพเพอร์ตี้ ในตัวอย่างนี้ เราใช้รูปแบบการระบุแหล่งที่มาโดยอิงตามข้อมูลที่เป็นค่าเริ่มต้น การระบุแหล่งที่มาสำหรับแหล่งที่มา/สื่อจะมีผลกับเหตุการณ์ที่ทําเครื่องหมายเป็นเหตุการณ์สำคัญเท่านั้น
แหล่งที่มา/สื่อ | เหตุการณ์สำคัญ |
---|---|
google/ทั่วไป | 1.3 |
อีเมล/จดหมายข่าว | 1.1 |
google/cpc | 0.6 |
พาร์ทเนอร์/แอฟฟิลิเอต | 1 |
โดยตรง/(ไม่มี) | 0 |
หมายเหตุ: Google Analytics จะให้น้ำหนักไม่เท่ากันสำหรับแต่ละทัชพอยต์ตลอดเส้นทางที่ทําให้เกิดเหตุการณ์สำคัญของผู้ใช้ ตัวเลขเหล่านี้มีไว้เพื่อเห็นภาพเท่านั้น และไม่จําเป็นต้องแสดงน้ำหนักที่แน่นอนที่ Google ระบุไว้ในแต่ละทัชพอยต์