หน่วยโฆษณาคั่นระหว่างหน้าที่มีการให้รางวัลจะปรากฏโดยอัตโนมัติ และแสดงโฆษณาแบบเต็มหน้าในแอปที่ให้รางวัลแก่ผู้ใช้เมื่อดูโฆษณา วางหน่วยโฆษณาประเภทนี้ที่จุดพักปกติและจุดเปลี่ยนแปลงในอินเทอร์เฟซแอป เช่น หลังจากเล่นเกมผ่านด่าน
ผู้ใช้ไม่จําเป็นต้องเลือกดูโฆษณาคั่นระหว่างหน้าที่มีการให้รางวัล ซึ่งต่างจากโฆษณาที่มีการให้รางวัล หน่วยโฆษณาคั่นระหว่างหน้าที่มีการให้รางวัลสามารถแสดงโฆษณาแบบอินเทอร์แอกทีฟและโฆษณาวิดีโอ
How to implement rewarded interstitial ads
ขั้นตอนต่อไปนี้จะช่วยคุณสร้างหน่วยโฆษณาใหม่ในบัญชี AdMob และนำไปติดตั้งใช้งานในโค้ดของแอป คุณต้องทำตามขั้นตอนทั้งหมดจึงจะเริ่มแสดงโฆษณาในหน่วยโฆษณานี้ได้
หมายเหตุ: เมื่อคุณใช้หน่วยโฆษณาคั่นระหว่างหน้าที่มีการให้รางวัลในแอป โปรดอ่านนโยบายสําหรับหน่วยโฆษณาที่มีการให้รางวัลและหลักเกณฑ์เกี่ยวกับโฆษณาคั่นระหว่างหน้า สําหรับทั้งการใช้โฆษณาคั่นระหว่างหน้าที่ไม่ได้รับอนุญาตและที่แนะนํา
- ลงชื่อเข้าใช้บัญชี AdMob ที่ https://apps.admob.com
- คลิกแอปในแถบด้านข้าง
- เลือกชื่อแอปที่ต้องการสร้างหน่วยโฆษณานี้ให้ หากไม่เห็นแอปในรายชื่อแอปล่าสุด ให้คลิกเพิ่มแอปเพื่อเพิ่มแอปใหม่ หรือคลิกดูแอปทั้งหมดเพื่อค้นหาจากรายชื่อแอปทั้งหมดที่คุณได้เพิ่มใน AdMob
- คลิกหน่วยโฆษณาในแถบด้านข้าง
- คลิกเริ่มต้นใช้งาน หากคุณสร้างหน่วยโฆษณาสำหรับแอปแล้ว ให้คลิกเพิ่มหน่วยโฆษณา
- คลิกเลือกรูปแบบโฆษณาที่มีการให้รางวัล
-
ป้อนชื่อหน่วยโฆษณา เคล็ดลับ: ใส่ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เช่น รูปแบบโฆษณาและตำแหน่งในแอป เพื่อช่วยให้กลับมาหาในภายหลังได้ง่ายขึ้น
- ตั้งค่ารางวัลให้หน่วยโฆษณานี้ให้เสร็จสมบูรณ์
- จำนวนรางวัล: ป้อนจำนวนไอเท็มของรางวัลที่ผู้ใช้จะได้รับ โดยต้องเป็นเลขจำนวนเต็ม
- ไอเท็มของรางวัล: ป้อนชื่อไอเท็มของรางวัลที่ผู้ใช้จะได้รับ ตัวอย่างเช่น เหรียญ ไอเท็มเพิ่มชีวิต
- ช่องทำเครื่องหมาย: ลบล้างการตั้งค่าการให้รางวัลที่กำหนดโดยเครือข่ายโฆษณาบุคคลที่สาม โดยช่องนี้จะทำเครื่องหมายโดยค่าเริ่มต้น
- (ไม่บังคับ) ตั้งค่าขั้นสูงให้หน่วยโฆษณานี้จนเสร็จสมบูรณ์
-
ประเภทโฆษณา: เลือกประเภทโฆษณาที่อนุญาตให้แสดงในหน่วยโฆษณานี้ คุณสามารถเลือกประเภทโฆษณาผสมผสานกันอย่างไรก็ได้โดยการทำเครื่องหมายในช่อง การเลือกไม่ทำเครื่องหมายในทุกช่องจะส่งผลให้เกิดข้อผิดพลาด คุณต้องเลือกโฆษณาอย่างน้อย 1 ประเภทสำหรับหน่วยโฆษณาแต่ละหน่วย เคล็ดลับ: เราขอแนะนำให้เลือกทุกช่องเพื่อช่วยเพิ่มรายได้ของหน่วยโฆษณานี้ให้ได้มากที่สุด
-
การยืนยันฝั่งเซิร์ฟเวอร์ (SSV) เป็นอีกวิธีการตรวจสอบความถูกต้องของการดูโฆษณาที่มีการให้รางวัลในแอป ซึ่งเราใช้นอกเหนือจากการเรียกกลับทางฝั่งไคลเอ็นต์แบบมาตรฐาน
- คลิกตั้งค่าและยืนยัน URL เรียกกลับข้างๆ การยืนยันฝั่งเซิร์ฟเวอร์
- ตั้งค่าการยืนยันฝั่งเซิฟร์เวอร์ให้เรียบร้อย
- URL โค้ดเรียกกลับ: URL แบบเต็มที่คุณต้องการให้ AdMob ส่งถึงคุณเมื่อผู้ใช้ดูโฆษณาที่มีการให้รางวัลจนจบ (เช่น https://example.com/sample_ssv)
- รหัสผู้ใช้ (ไม่บังคับ) : ใช้สำหรับการทดสอบเท่านั้น User ID คือตัวระบุที่ไม่ซ้ำกันที่ระบบกำหนดให้ผู้ใช้แต่ละราย ซึ่งจะช่วยให้คุณทราบได้ว่าใครต้องได้รับรางวัลจากการดูโฆษณาจนจบ หากต้องการใช้ ให้ตั้งค่าพารามิเตอร์ user_id ใน SDK
- ข้อมูลที่กำหนดเอง (ไม่บังคับ): ใช้สำหรับทดสอบเท่านั้น ระบบจะได้รับข้อมูลที่กำหนดเองในการเรียกกลับหลังจากที่ผู้ใช้ดูโฆษณาจนจบแล้ว ตัวอย่างเช่น คุณใส่พารามิเตอร์เพื่อดูว่าผู้ใช้อยู่ในระดับใดได้ หากต้องการใช้ ให้ตั้งค่าพารามิเตอร์ custom_data ใน SDK
- คลิกยืนยัน URL
หทายเหตุ: คุณต้องยืนยัน URL ก่อนจึงจะตั้งค่า SSV ได้
- คลิกใช้ URL ที่ยืนยันแล้ว
-
การกำหนดความถี่สูงสุดช่วยให้คุณจำกัดจำนวนครั้งที่โฆษณาจะแสดงต่อผู้ใช้รายเดิมได้
- คลิกปุ่มสลับเพื่อเปิดหรือปิดใช้การกําหนดความถี่สูงสุด
- เลือกตัวเลือกการกําหนดความถี่สูงสุด ดังนี้
- หลังจากเปิดใช้แล้ว ให้ป้อนจํานวนการแสดงผลที่คุณต้องการให้แสดงต่อผู้ใช้แต่ละคนในหน่วยโฆษณาคั่นระหว่างหน้า หน่วยโฆษณาที่มีการให้รางวัล หรือหน่วยโฆษณาเปิดแอปใดๆ ในแอปนี้ แล้วเลือกระยะเวลา (ต่อจํานวนนาที ชั่วโมง หรือวัน ) เช่น คุณสามารถกำหนดความถี่สูงสุดเพื่อให้แสดงผลไม่เกิน 2 ครั้งต่อ 30 นาทีได้
-
eCPM ขั้นต่ำ: คุณกำหนด eCPM ขั้นต่ำให้กับหน่วยโฆษณาแต่ละหน่วยที่สร้างได้ ซึ่งจะเป็นการสั่งเครือข่าย AdMob ไม่ให้แสดงโฆษณาไปยังหน่วยโฆษณาที่มีค่า eCPM ต่ำกว่าขั้นต่ำที่คุณกำหนดไว้ เลือกวิธีกำหนด eCPM ขั้นต่ำ ดังนี้
- เพิ่มประสิทธิภาพโดย Google: Google จะกำหนดราคาขั้นต่ำแบบไดนามิกโดยอิงตามสถานที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของผู้ใช้ การเข้าชมของหน่วยโฆษณา และข้อมูลประวัติ การใช้ eCPM ขั้นต่ำที่เพิ่มประสิทธิภาพโดย Google จะช่วยเพิ่มรายได้รวมให้สูงสุด คุณสามารถเลือกวิธีที่จะให้ Google เพิ่มประสิทธิภาพ eCPM ขั้นต่ำจากวิธีใดวิธีหนึ่งต่อไปนี้
- ค่าขั้นต่ำสูง (เบต้า): Google จะเพิ่มจำนวนโฆษณาที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด
- ค่าขั้นต่ำปานกลาง (เบต้า): Google จะหาสมดุลระหว่างโฆษณาที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดกับอัตราการส่งโฆษณา
- ราคาทั้งหมด: Google จะเพิ่มอัตราการส่งโฆษณาให้ได้สูงสุดในทุกจุดราคา
- ค่าขั้นต่ำที่กำหนดเอง: คุณจะกำหนดมูลค่า eCPM ขั้นต่ำให้กับหน่วยโฆษณาแต่ละหน่วยด้วยตัวเอง เครือข่าย AdMob จะไม่แสดงโฆษณาที่มี eCPM ต่ำกว่า eCPM ขั้นต่ำที่คุณกำหนดให้กับหน่วยโฆษณา
- ปิดใช้: ไม่มี eCPM ขั้นต่ำสําหรับหน่วยโฆษณานี้
หมายเหตุ: eCPM ขั้นต่ำนี้จะใช้กับเครือข่าย AdMob เท่านั้น โดยไม่ได้ส่งผลต่อเครือข่ายโฆษณาของบุคคลที่สามและเหตุการณ์ที่กำหนดเองซึ่งกำหนดค่าเป็นแหล่งที่มาของโฆษณาในกลุ่มสื่อกลาง - เพิ่มประสิทธิภาพโดย Google: Google จะกำหนดราคาขั้นต่ำแบบไดนามิกโดยอิงตามสถานที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของผู้ใช้ การเข้าชมของหน่วยโฆษณา และข้อมูลประวัติ การใช้ eCPM ขั้นต่ำที่เพิ่มประสิทธิภาพโดย Google จะช่วยเพิ่มรายได้รวมให้สูงสุด คุณสามารถเลือกวิธีที่จะให้ Google เพิ่มประสิทธิภาพ eCPM ขั้นต่ำจากวิธีใดวิธีหนึ่งต่อไปนี้
-
- คลิกสร้างหน่วยโฆษณา
-
ทําตามวิธีการใน Google Developers สําหรับ Android, iOS หรือ Unity เพื่อติดตั้งใช้งานหน่วยโฆษณาคั่นระหว่างหน้าที่มีการให้รางวัลในโค้ดของแอป คุณจะต้องระบุรหัสแอปและรหัสหน่วยโฆษณาในระหว่างการติดตั้งใช้งาน
หน่วยโฆษณานี้จะไม่แสดงโฆษณาจนกว่าคุณจะทำขั้นตอนนี้ หากยังไม่พร้อมที่จะติดตั้งหน่วยโฆษณา ให้คลิกส่งอีเมลเพื่อส่งวิธีการทางอีเมล หรือคลิกเสร็จสิ้นเพื่อออกจากหน้า