ใช้การทดสอบ A/B เพื่อหาข้อมูลในการตัดสินใจวิธีตั้งค่าแหล่งที่มาของโฆษณาในสื่อกลาง ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้ให้คุณ
วิธีทํางานของการทดสอบ A/B
การทดสอบ A/B ช่วยให้คุณประเมินกลุ่มสื่อกลาง 2 แบบที่แตกต่างกันและเปรียบเทียบผลลัพธ์ ใช้กลุ่มสื่อกลางที่มีอยู่แล้วสร้างอีกกลุ่มสื่อกลางหนึ่งที่เป็นตัวแปรเพื่อดูว่าแบบไหนมีประสิทธิภาพมากกว่า การทดสอบจะแยกผู้ใช้แอประหว่างการตั้งค่ากลุ่มสื่อกลางที่มีอยู่กับกลุ่มสื่อกลางที่เป็นตัวแปร คุณจึงวัดประสิทธิภาพของทั้ง 2 กลุ่มได้พร้อมกัน
คุณเปลี่ยนการตั้งค่ากลุ่มสื่อกลางของตัวแปร B ได้โดย
- เพิ่มหรือนําแหล่งที่มาของโฆษณาออกเพื่อดูผลกระทบต่อกลุ่มสื่อกลาง
- ใช้ลําดับ Waterfall ต่างๆ โดยการเปลี่ยนค่า eCPM ของแหล่งที่มาของโฆษณาด้วยตนเอง
- เปิดหรือปิดใช้การเพิ่มประสิทธิภาพในแหล่งที่มาของโฆษณา Waterfall
- เปลี่ยนจํานวนครั้งที่มีการเรียกแหล่งที่มาของโฆษณา
คลิกเพื่อดูตัวอย่างการทดสอบ
การทดสอบจะใช้เวลา 90 วัน แต่คุณหยุดการทดสอบได้ทุกเมื่อ คุณสามารถเลือกที่จะใช้การตั้งค่าเดิมของกลุ่มสื่อกลาง (ตัวแปร A) หรือการตั้งค่ากลุ่มสื่อกลางที่เป็นตัวแปร (ตัวแปร B) ก็ได้ โดยพิจารณาจากผลของการทดสอบ
สร้างการทดสอบ A/B
ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ให้ครบถ้วน
- ลงชื่อเข้าใช้บัญชี AdMob ที่ https://admob.google.com
- คลิกสื่อกลางในแถบด้านข้าง
- คลิกสร้างการทดสอบ A/B ที่อยู่ถัดจากกลุ่มสื่อกลางที่ต้องการสร้างการทดสอบ A/B
- ป้อนชื่อให้การทดสอบ
- ใช้แถบเลื่อนเพื่อตั้งค่าการจัดสรรผู้ใช้ ซึ่งจะเป็นเปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้แอปที่ได้รับการจัดสรรไปยังตัวแปร B ระหว่างการทดสอบ A/B คุณกําหนดการเข้าชมของผู้ใช้แอปให้กับตัวแปร B ได้ตั้งแต่ 1% จนถึง 50% ส่วนที่เหลือจะยังคงอยู่ในตัวแปร A (แบบเดิม)
หมายเหตุ: เมื่อตั้งค่าการจัดสรรผู้ใช้และเริ่มต้นการทดสอบแล้ว คุณจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้
- เปลี่ยนการกําหนดค่าแหล่งที่มาของโฆษณาในตัวแปร B คุณทำสิ่งต่อไปนี้ได้
- เพิ่มหรือนําแหล่งที่มาของโฆษณาออกเพื่อดูผลกระทบต่อกลุ่มสื่อกลาง
- เปลี่ยนลําดับของ Waterfall โดยเปลี่ยนค่า eCPM ด้วยตัวเอง
- เปิดหรือปิดใช้การเพิ่มประสิทธิภาพในแหล่งที่มาของโฆษณา Waterfall
- เปลี่ยนจํานวนครั้งที่มีการเรียกแหล่งที่มาของโฆษณา
- เราขอแนะนําให้ใช้การแมปหน่วยโฆษณาที่ไม่ซ้ำกันเมื่อใช้แหล่งที่มาของโฆษณาเดียวกันในตัวแปร A และ B เพื่อให้รายงานมีความถูกต้อง เช่น ใช้การแมปที่ยังไม่ได้ใช้ในตัวแปร A
- คลิกแก้ไขในคอลัมน์การแมปหน่วยโฆษณา ส่วนใหญ่แล้วรายละเอียดการแมปจะแสดงอยู่ในบัญชีที่ใช้เครือข่ายโฆษณานั้นๆ
- ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเพิ่มแหล่งที่มาของโฆษณา Waterfall และแหล่งที่มาของโฆษณาที่มีการเสนอราคา
- คลิกบันทึก
- คลิกเริ่มการทดสอบ
เมื่อเริ่มการทดสอบ A/B แล้ว คุณจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงกลุ่มสื่อกลางซึ่งรวมถึงตัวแปร A หรือตัวแปร B จนกว่าการทดสอบจะหยุดหรือเสร็จสิ้นแล้ว การเปลี่ยนแปลงใดๆ ในขณะที่การทดสอบทํางานอยู่อาจส่งผลต่อผลลัพธ์ได้ ซึ่งหมายความว่าคุณไม่สามารถแก้ไขหน่วยโฆษณา การกําหนดสถานที่เป้าหมาย และอื่นๆ
- คลิกเริ่มในช่องยืนยัน แล้วการทดสอบจะเริ่มในอีกไม่กี่นาที
การทดสอบจะใช้เวลา 90 วันโดยค่าเริ่มต้น แต่คุณเลือกดําเนินการและหยุดการทดสอบได้ โดยดูตามข้อมูลที่มี ดูวิธีวิเคราะห์การทดสอบ A/B และการดําเนินการ
แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด
- เลือกหน่วยโฆษณาที่มีปริมาณการเข้าชมเพียงพอที่จะทดสอบเพื่อหาผลลัพธ์ได้ การทดสอบต้องได้รับคําขอโฆษณาอย่างน้อย 10,000 รายการก่อน AdMob จึงจะระบุผลลัพธ์ได้
- เปลี่ยนการตั้งค่าเพียงครั้งละ 1 รายการเท่านั้น เพื่อให้ทราบความแตกต่างด้านประสิทธิภาพจากการเปลี่ยนแปลงใดๆ ได้อย่างแม่นยํายิ่งขึ้น
- เรียกใช้การทดสอบเป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ข้อมูลที่มากขึ้นจะช่วยให้เราประเมินได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้นว่าตัวแปรใดจะทํางานได้ดีที่สุด
- พิจารณาใช้การแมปที่แตกต่างกันในตัวแปร A และ B ซึ่งจะช่วยให้ข้อมูลการทดสอบและการรายงานแหล่งที่มาของโฆษณา Waterfall ถูกต้องแม่นยำ