การขยายโฆษณา (หน้าจอบางส่วน) ในเว็บบนอุปกรณ์เคลื่อนที่

ช่องโฆษณาที่มีสิทธิ์จะขยายได้จนถึงความกว้างของหน้าจออุปกรณ์และความสูงของหน้าจอบางส่วน การทดสอบชี้ให้เห็นว่าการอนุญาตให้ช่องโฆษณารองรับครีเอทีฟโฆษณาขนาดใหญ่กว่ามักมีประสิทธิภาพดีกว่าเมื่อเทียบกับช่องโฆษณาที่จำกัดไว้ที่แคบกว่าความกว้างที่ใช้ได้ การปรับปรุงนี้เนื่องจากการมีสิทธิ์ใช้ดีมานด์และอัตราการคลิกผ่านที่เพิ่มขึ้น

ตัวอย่างเช่น
หากคุณมีช่องโฆษณาในเว็บบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ขนาด 300x250 และอุปกรณ์มีความกว้าง 360 พิกเซล ระบบอาจแสดงโฆษณาขนาด 360x300 พิกเซล

ช่องโฆษณาที่มีสิทธิ์ขยาย

ปัจจุบันการขยายโฆษณา (หน้าจอบางส่วน) สำหรับเว็บบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ใช้ได้กับช่องโฆษณา Display ทดแทนและช่องโฆษณาวิดีโอนอกสตรีม ปัจจุบันช่องโฆษณาบางช่องยังขยายไม่ได้ แต่เรากำลังพยายามเพิ่มจำนวนโฆษณาที่มีสิทธิ์ขยายได้

การขยายโฆษณาสำหรับเว็บบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ทำงานอย่างไร (หน้าจอบางส่วน)

ในการทำความเข้าใจวิธีการทํางานของการขยายโฆษณาสําหรับเว็บบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ ก่อนอื่นคุณต้องทราบความแตกต่างระหว่างความกว้างของอุปกรณ์ ช่องโฆษณา และความกว้างของคอนเทนเนอร์ ดังนี้
  • ความกว้างของอุปกรณ์: ความกว้างเต็มขนาดของหน้าจออุปกรณ์ (เช่น 360 พิกเซลใน Galaxy S8 และ 375 พิกเซลใน iPhone 6)
  • ช่องโฆษณา: พื้นที่ที่กำหนดเพื่อแสดงโฆษณา โดยเป็นตัวระบุขนาดของโฆษณา
  • ความกว้างของคอนเทนเนอร์: ความกว้างของกล่องที่มีช่องโฆษณา ซึ่งทีมพัฒนาเว็บของผู้เผยแพร่โฆษณาเป็นผู้กำหนดขนาด ความกว้างของคอนเทนเนอร์ในเว็บไซต์เวอร์ชันอุปกรณ์เคลื่อนที่มักเท่ากับความกว้างของช่องโฆษณา เท่ากับความกว้างของเนื้อหาโดยรอบ (เช่น ย่อหน้าของข้อความก่อนและหลังช่องโฆษณา) หรือเท่ากับความกว้างเต็มที่ของอุปกรณ์
  • หมายเหตุ: เราอนุญาตเฉพาะการขยายในโหมดแนวตั้งในเว็บบนอุปกรณ์เคลื่อนที่เท่านั้น

ช่องโฆษณาอาจขยายเต็มความกว้างของอุปกรณ์ ส่วนความสูงอาจเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนเมื่อมีความเหมาะสมเพื่อรักษาอัตราส่วนไว้ อย่างไรก็ตาม ช่องโฆษณาอาจไม่ได้ขยายจนเต็มความกว้างของอุปกรณ์และ/หรือมีความสูงเพิ่มขึ้นทุกครั้ง บางครั้งช่องโฆษณาจะมีลักษณะดังต่อไปนี้

  • ขยายให้เท่ากับความกว้างของคอนเทนเนอร์เท่านั้น ความกว้างของคอนเทนเนอร์คือ x แต่ความกว้างของอุปกรณ์มากกว่า x
  • ขยายตามความกว้าง แต่ไม่ขยายความสูง
  • ไม่ขยายเลย

ช่องโฆษณาจะไม่ขยายไปซ้อนทับเนื้อหาที่มีอยู่

  • หากตรวจพบว่ามีการซ้อนทับกับการขยายตามความกว้างของอุปกรณ์แต่ไม่ซ้อนทับการขยายตามความกว้างของคอนเทนเนอร์ ระบบจะใช้ความกว้างของคอนเทนเนอร์
  • หากตรวจพบว่ามีการขยายตามความกว้างทั้งของคอนเทนเนอร์และอุปกรณ์ ระบบจะไม่ขยายช่องโฆษณาเลย

ควบคุมการขยายโฆษณาบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ (หน้าจอบางส่วน)

การขยายโฆษณา (หน้าจอบางส่วน) จะเปิดใช้งานโดยค่าเริ่มต้น คุณปิดใช้ได้ในการตั้งค่าเครือข่าย แต่เราขอแนะนำให้เปิดใช้เอาไว้เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

  1. ลงชื่อเข้าใช้ Google Ad Manager
  2. คลิกพื้นที่โฆษณา จากนั้นคลิกกฎพื้นที่โฆษณา แล้วคลิกการตั้งค่าขนาด
  3. ข้าง "การกำหนดเป้าหมาย" ให้เลือกพื้นที่โฆษณาที่จะรวมในหรือยกเว้นจากกฎ
  4. ควบคุมว่าจะให้ใช้การตั้งค่าขนาดใดในพื้นที่โฆษณาที่เลือก
  5. คลิกบันทึก
หมายเหตุ: หากมีกฎที่ทับซ้อนกันสำหรับพื้นที่โฆษณาเดียวกัน และกฎอย่างน้อย 1 ข้อเปิดใช้ฟีเจอร์ ระบบจะใช้การตั้งค่าเปิดใช้

ตัวอย่างการขยายช่องโฆษณา (หน้าจอบางส่วน)

ต้นฉบับ หลังการขยาย
ตัวอย่างการขยายช่องโฆษณาในบทความต้นฉบับ ตัวอย่างการขยายช่องโฆษณาในบทความหลังการขยาย

ตัวอย่างอื่นๆ
แบบเดิม หลังการขยาย
ตัวอย่างการขยายช่องโฆษณาในฟีดต้นฉบับ ตัวอย่างการขยายช่องโฆษณาในฟีดหลังการขยาย
 
แบบเดิม หลังการขยาย
ตัวอย่างการขยายช่องโฆษณาในบทความต้นฉบับ ตัวอย่างการขยายช่องโฆษณาในบทความหลังการขยาย

กฎการกำหนดราคาแบบรวมและการขยายช่องโฆษณา

โดยค่าเริ่มต้น กฎการกำหนดราคาแบบรวมจะมีผลกับทุกขนาด อย่างไรก็ตาม หากคุณระบุราคาสำหรับแต่ละขนาดแล้ว และช่องโฆษณามีการขยายเป็นขนาดที่ไม่ได้ขอ ระบบจะยังคงพิจารณาขนาดที่ขอไว้ในการเลือกกฎที่จะใช้ ระบบจะใช้ขนาดที่ขอซึ่งใกล้เคียงกับขนาดที่ขยายมากที่สุดในการเลือกกฎ

ตัวอย่าง

คุณขอโฆษณาขนาด 320x480 หรือ 300x250 โฆษณาที่แสดงคือ 412x494 และมีกฎการกำหนดราคา 3 ข้อ

  • กฎการกำหนดราคาข้อแรกกําหนดเป้าหมายเป็นโฆษณาขนาด 320x480 และ 1x1
  • กฎข้อที่ 2 กำหนดเป้าหมายเป็นขนาด 400x500 
  • กฎข้อที่ 3 กำหนดเป้าหมายเป็นขนาด 300x250

ระบบจะใช้เฉพาะกฎการกำหนดราคาข้อแรกเนื่องจากมีขนาดที่ขอใกล้เคียงกับขนาดของโฆษณาที่แสดงมากที่สุด

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
1990822102384566395
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
148
false
false