การแสดงผลที่ดาวน์โหลดในการโอนข้อมูล

ไฟล์และช่องเพิ่มเติมช่วยให้คุณเห็นคำขอที่มีการส่งโฆษณาและดาวน์โหลด

นับตั้งแต่การเปลี่ยนไปใช้การแสดงผลที่ดาวน์โหลดเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2017 เราได้อัปเดตการโอนข้อมูลเพื่อเพิ่มความชัดเจนในการแสดงจำนวนคำขอโฆษณาที่มีการส่งโฆษณาโดย Ad Manager หรือ Ad Exchange และมีการดาวน์โหลดโดยผู้ใช้เพื่อรับชม

การตั้งค่าการโอนข้อมูลของคุณจะไม่ได้รับการอัปเดตโดยอัตโนมัติพร้อมการเปลี่ยนแปลงนี้ ดูวิธีเริ่มต้นใช้งาน

สรุปการเปลี่ยนแปลง

อัปเดตในเนื้อหาไฟล์การแสดงผล
ไฟล์ NetworkImpressions / NetworkBackfillImpressions จะรวมการแสดงผลที่ดาวน์โหลดและการแสดงผลที่ไม่ได้รับโฆษณา
ประเภทไฟล์เพิ่มเติมที่พร้อมใช้งานสำหรับคำขอและการเรียกใช้โค้ด
- NetworkRequests / NetworkBackfillRequests
  บันทึกคำขอโฆษณาทุกรายการที่ Ad Manager ได้รับ ไม่ว่าจะเป็นคำขอที่ส่งโฆษณาหรือไม่ได้ส่งโฆษณาก็ตาม
- NetworkCodeServes / NetworkBackfillCodeServes
  บันทึกการตอบสนองทั้งหมดจาก Ad Manager ไม่ว่าจะมีการดาวน์โหลดหรือไม่ก็ตาม
ช่องเพิ่มเติมพร้อมใช้งานในการเรียกใช้โค้ดและประเภทไฟล์การแสดงผล
ช่อง ImpressionId พร้อมใช้งานแล้วสำหรับการจับคู่การเรียกใช้โค้ดและการแสดงผล

วิธีใช้ไฟล์และช่องเหล่านี้

ทุกๆ การเรียกใช้โค้ดจะได้รับค่าสตริง ImpressionId ที่ไม่ซ้ำกัน ใช้ค่านี้พร้อมกับค่า KeyPart เพื่อจับคู่ระเบียนในไฟล์การเรียกใช้โค้ดและการแสดงผล

หากระเบียน ImpressionId ปรากฏในไฟล์ NetworkCodeServes Ad Manager จะตอบกลับด้วย (หรือ "แสดง") ครีเอทีฟโฆษณา
หากระเบียน ImpressionId ปรากฏในไฟล์ NetworkImpressions แสดงว่าผู้ใช้ดาวน์โหลดครีเอทีฟโฆษณาที่แสดงผลเพื่อรับชม โปรดทราบว่าระเบียน ImpressionId นี้อาจปรากฏในไฟล์ของชั่วโมงอื่นที่ต่างจากคำขอและการเรียกใช้โค้ด

การแสดงผลที่ไม่ได้รับโฆษณาจะบันทึกไว้ในไฟล์ NetworkRequests

คำขอ การเรียกใช้โค้ด และการแสดงผล

อาจมีการเรียกใช้โค้ดหรือเหตุการณ์การแสดงผลหลายครั้งขอจากคำขอรายการเดียว เช่น ในสื่อกลางสําหรับแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ ระบบจะบันทึกการเรียกใช้โค้ดสำหรับการเรียกเครือข่ายโฆษณาแต่ละเครือข่ายที่ใช้ในเชนสื่อกลางที่ส่งคืน และมีการบันทึกการแสดงผล 1 ครั้งสำหรับเครือข่ายโฆษณาที่ซื้อการแสดงผลนั้น

ค่า KeyPart และ TimeUsec2 จะตรงกับค่าของคำขอสำหรับการเรียกใช้โค้ดและการแสดงผลเสมอ แต่ค่า EventTimeUsec2 และ EventKeyPart ของการแสดงผลอาจต่างกัน เนื่องจากเป็นค่าเฉพาะสำหรับเหตุการณ์การแสดงผล ในกรณีที่การแสดงผลล่าช้า คําขอและการเรียกใช้โค้ดจะใช้ค่า EventTimeUsec2 และ EventKeyPart เดียวกัน แต่การแสดงผลจะมีค่าต่างกัน

ดูตัวอย่าง