ภาพรวมของการมอบหมายการติดตาม

ใช้ได้เฉพาะใน Google Ad Manager 360 เท่านั้น

พาร์ทเนอร์คือผู้เผยแพร่โฆษณาที่ได้ทำข้อตกลงว่าจะแชร์พื้นที่โฆษณาและรายได้ หรือก็คือบริษัทอีกประเภทนั่นเอง การเพิ่มพาร์ทเนอร์เป็นการกำหนดส่วนแบ่งรายได้หรือความสัมพันธ์ในการแสดงโฆษณาในบริษัท

ระบบจะเลือกประเภทการมอบหมายเป็น "การติดตาม" เมื่อคุณเพิ่มพาร์ทเนอร์ การมอบหมายการติดตามช่วยในการกำหนด CPM หรือความสัมพันธ์ด้านส่วนแบ่งรายได้กับพาร์ทเนอร์การเผยแพร่สำหรับโฆษณาแบบดิสเพลย์หรือวิดีโอ คุณสร้างการมอบหมายหลายรายการภายใต้บริษัทพาร์ทเนอร์แห่งเดียวได้

เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2019 เราได้เลิกใช้งานโครงสร้างข้อกำหนดทางการเงินแบบเป็นระดับ ซึ่งอาจใช้ในการจ่ายเงินจำนวนที่แตกต่างกันสำหรับการแสดงผลแต่ละช่วง คุณจะเข้าถึงข้อกำหนดทางการเงินแบบเป็นระดับผ่านอินเทอร์เฟซ Ad Manager ไม่ได้อีก และเราไม่รองรับการรายงานสำหรับโครงสร้างข้อกำหนดประเภทนี้แล้ว

การมอบหมายการติดตามจะยังรองรับ CPM และส่วนแบ่งเปอร์เซ็นต์รายได้ต่อไป

ควรใช้การมอบหมายการติดตามเมื่อใด

คุณจะใช้การมอบหมายการติดตามเพื่อกำหนดการแสดงผลหรือพื้นที่โฆษณาที่ใช้กับส่วนแบ่งรายได้ ดังนี้

บันทึกความสัมพันธ์ด้านส่วนแบ่งรายได้ระหว่างคุณกับผู้เผยแพร่โฆษณารายอื่น

ตัวอย่าง


  1. คุณตกลงกับบล็อกเกอร์ที่สร้างปริมาณการค้นหาได้มากพอสมควรและสอดคล้องกับประเภทพื้นที่โฆษณาที่หน่วยขายของคุณขาย
  2. การเป็นตัวแทนของบล็อกเกอร์รายนี้จะช่วยให้หน่วยขายขยายข้อเสนอพื้นที่โฆษณาไปยังผู้ซื้อ และผู้เผยแพร่โฆษณาที่เป็นพาร์ทเนอร์ของคุณพึ่งพาหน่วยขายให้เพิ่มยอดขายสูงสุดได้
  3. การเป็นพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจเช่นนี้จึงทำให้มีการแบ่งรายได้ระหว่างคุณกับบล็อกเกอร์
  4. การมอบหมายการติดตามจะบันทึกการแบ่งรายได้นี้

จัดการพร็อพเพอร์ตี้ที่เป็นเจ้าของและดำเนินการเอง

ตัวอย่าง


  1. หน่วยขายหน่วยเดียวจะเป็นตัวแทนของพื้นที่โฆษณาทั้งหมดในพร็อพเพอร์ตี้ต่างๆ
  2. คุณต้องการติดตามส่วนแบ่งรายได้ของพร็อพเพอร์ตี้เหล่านั้นแยกกัน
  3. คุณตั้งค่าการมอบหมายการติดตามรูปแบบต่างๆ เพื่ออธิบายการแบ่งรายได้ระหว่างหน่วยขายกับพร็อพเพอร์ตี้ที่คุณเป็นเจ้าของและดำเนินการเองแต่ละรายการได้

การมอบหมายการติดตามและการกำหนดเป้าหมาย

คุณเพิ่มการกำหนดเป้าหมายในการมอบหมายการติดตามและมีการมอบหมายการติดตามหลายรายการต่อพาร์ทเนอร์ได้ ด้วยเหตุนี้ คุณจึงบันทึกข้อตกลงต่างๆ เรื่องส่วนแบ่งรายได้ตามพื้นที่โฆษณาได้อย่างยืดหยุ่น แม้ว่าพื้นที่โฆษณานั้นจะมาจากพร็อพเพอร์ตี้หรือเว็บไซต์เดียวกัน

ตัวอย่างเช่น หากคุณมีข้อตกลงกับผู้เผยแพร่โฆษณารายย่อยว่าจะรับรายได้ 30% จากการแสดงผลทั้งหมดที่คุณขายสำหรับหน้าแรก แต่จะรับรายได้เพียง 20% สำหรับพื้นที่โฆษณาส่วนที่เหลือ คุณก็สร้างการมอบหมายการติดตาม 2 รายการสำหรับพาร์ทเนอร์รายเดียวกัน โดยให้แต่ละรายการแสดงการแบ่งส่วนแบ่งรายได้และกำหนดเป้าหมายเป็นพื้นที่โฆษณาที่เกี่ยวข้อง

การมอบหมายการติดตามและส่วนแบ่งรายได้

ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างการใช้การมอบหมายการติดตามในการจัดการส่วนแบ่งรายได้ตามข้อมูลเมตาของเนื้อหา คีย์-ค่าที่ส่งในแท็กโฆษณา และอื่นๆ

  • ผู้สร้างวิดีโอ: กำหนดเป้าหมายการมอบหมายการติดตามตามคีย์ผู้สร้างวิดีโอที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลเมตาของเนื้อหา
  • ผู้รวบรวมข้อมูลวิดีโอ: กำหนดเป้าหมายตามกลุ่มเนื้อหาโดยอิงจากแหล่งที่มาของเนื้อหาจากผู้รวบรวมข้อมูล
  • การเล่นหรือการเผยแพร่: กำหนดเป้าหมายตามพื้นที่โฆษณาทั่วไป เช่น หน่วยโฆษณาหรือคีย์-ค่า
  • บุคคลที่สามที่มีข้อตกลง
    • ฝั่งเนื้อหา: กำหนดเป้าหมายตามเนื้อหา
    • ฝั่งพื้นที่โฆษณา: ติดตามผ่านคีย์-ค่าหรือ IU

ไม่ว่าคุณจะเป็นตัวแทนพื้นที่โฆษณาของผู้เผยแพร่โฆษณาภายนอกหรือจัดการการแบ่งรายได้จากพร็อพเพอร์ตี้ที่คุณเป็นเจ้าของและดำเนินการเอง เว็บไซต์ แอป หรือพร็อพเพอร์ตี้นั้นต้องติดแท็กโฆษณาที่เครือข่าย Ad Manager ของคุณสร้าง ซึ่งหมายความว่าคุณจะต้องตรวจสอบว่ามีการติดแท็กนี้ในหน้าต่างๆ

เริ่มต้นใช้งานการมอบหมายการติดตาม

อ่านบทความต่อไปนี้เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
172985137197402449
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
148
false
false