เปลี่ยนจาก Dropbox เป็น Google ไดรฟ์

ดูความแตกต่างระหว่าง Dropbox และ Google ไดรฟ์ และศึกษาแนวทางปฏิบัติแนะนำสำหรับการทำงานร่วมกันในที่ทำงานหรือโรงเรียน

ในหน้านี้

เปรียบเทียบข้อมูลโดยย่อ
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง

สิ่งที่ต้องมี

15 นาที

บัญชี Google Workspace หากยังไม่มี ให้เริ่มช่วงทดลองใช้ 14 วันได้เลย

ดาวน์โหลดไดร์ฟ: เว็บ (drive.google.com), Android หรือ iOS

หมายเหตุ: วิธีการเหล่านี้ใช้สำหรับเวอร์ชันเว็บเป็นหลักเท่านั้น ดูวิธีการเปลี่ยนสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่

เปรียบเทียบข้อมูลโดยย่อ

ขยายทั้งหมด | ยุบทั้งหมด

ใน Dropbox...	ใน Google ไดรฟ์...*
อัปโหลดไฟล์และโฟลเดอร์	อัปโหลดไฟล์และโฟลเดอร์ หากคุณกำลังใช้ Chrome หรือ Firefox รุ่นล่าสุด คุณสามารถลากไฟล์จากคอมพิวเตอร์ไปยังหน้าไดรฟ์บนเบราว์เซอร์ได้โดยตรง โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมในหัวข้อเริ่มต้นใช้งานไดรฟ์
แชร์ไฟล์และโฟลเดอร์ รวมถึงตั้งค่าสิทธิ์การแชร์	แชร์ไฟล์และโฟลเดอร์ รวมถึงตั้งค่าสิทธิ์การแชร์ แชร์กับบุคคลที่ระบุ เลือกไฟล์ที่ต้องการแชร์ คลิกแชร์หรือไอคอนแชร์ ป้อนอีเมลหรือกลุ่มใน Google Groups ที่ต้องการแชร์ด้วย หากต้องการกำหนดบทบาทในไฟล์ให้กับบุคคล ให้เลือกผู้มีสิทธิ์อ่าน ผู้แสดงความคิดเห็น หรือผู้มิสิทธิ์แก้ไข หากบัญชีมีสิทธิ์ คุณจะสามารถเพิ่มวันที่หมดอายุของสิทธิ์เข้าถึงได้ เลือกเพื่อแจ้งบุคคลที่แชร์ หากต้องการแจ้งให้บุคคลทราบว่าคุณแชร์ไฟล์ด้วย โปรดเลือกช่องถัดจาก "แจ้งบุคคลอื่น" ซึ่งหากคุณแจ้ง อีเมลของบุคคลที่คุณป้อนจะรวมอยู่ในอีเมลนี้ด้วย หากไม่ต้องการแจ้ง ให้ยกเลิกการเลือกช่องนี้ คลิกส่งหรือแชร์ แชร์กับองค์กรของคุณ คุณเลือกได้ว่าจะให้บุคคลทั่วไปเข้าถึงไฟล์ได้ หรือจำกัดให้เฉพาะคนที่มีสิทธิ์เข้าถึงเท่านั้น หากคุณอนุญาตให้ทุกคนที่มีลิงก์เข้าถึงได้ โฟลเดอร์ของคุณก็จะไม่จำกัดสิทธิ์เข้าถึง เลือกไฟล์ที่ต้องการแชร์ คลิกแชร์หรือไอคอนแชร์ คลิกลูกศรลง ในส่วน "สิทธิ์เข้าถึงทั่วไป" เลือกบุคคลที่เข้าถึงไฟล์ได้ หากต้องการกำหนดบทบาทในไฟล์ให้กับบุคคล ให้เลือกผู้มีสิทธิ์อ่าน ผู้แสดงความคิดเห็น หรือเอดิเตอร์ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกำหนดสิทธิ์การดู แสดงความคิดเห็น หรือแก้ไขไฟล์ของบุคคลอื่น คลิกเสร็จสิ้น
กำหนดวันที่หมดอายุของไฟล์ที่แชร์	กำหนดวันที่หมดอายุของไฟล์ที่แชร์ เปิดไฟล์ใน Google ไดรฟ์, Google เอกสาร, Google ชีต หรือ Google สไลด์ คลิกแชร์ ค้นหาผู้ใช้ที่ต้องการให้สิทธิ์ชั่วคราว หากยังไม่ได้แชร์ไฟล์กับบุคคลนั้น ให้เพิ่มอีเมลของผู้ใช้ แล้วคลิกส่งหรือแชร์ คลิกแชร์ที่ด้านขวาบนของเอกสาร ถัดจากชื่อของบุคคลดังกล่าว ให้คลิกลูกศรลง เพิ่มวันที่หมดอายุ ข้าง "สิทธิ์เข้าถึงหมดอายุ" ให้คลิกวันที่เพื่อกำหนดวันที่หมดอายุ จากนั้นเลือกวันที่ไม่เกิน 1 ปีนับจากวันที่ปัจจุบัน คลิกบันทึก
ค้นหาไฟล์หรือโฟลเดอร์	ค้นหาไฟล์หรือโฟลเดอร์ พิมพ์คำหรือวลีในช่องค้นหา เพื่อช่วยให้คุณค้นหาได้เร็วขึ้น ไดรฟ์จะแนะนำข้อความค้นหาและผลลัพธ์ขณะที่คุณป้อนข้อความ คลิกที่การแนะนำไฟล์เพื่อเปิดไฟล์ดังกล่าว หรือคลิกการแนะนำการค้นหาเพื่อดูรายการผลลัพธ์สำหรับข้อความค้นหานั้น โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ศูนย์ช่วยเหลือของ Google ไดรฟ์
กรองไฟล์และโฟลเดอร์	จัดเรียงไฟล์และโฟลเดอร์ ที่ด้านบนของไฟล์ ให้คลิกตัวเลือกต่อไปนี้ ชื่อ - จัดเรียงไฟล์ตามตัวอักษรตามชื่อ แก้ไขล่าสุด - จัดเรียงไฟล์ตามครั้งสุดท้ายที่มีผู้แก้ไขไฟล์หรือครั้งสุดท้ายที่คุณเปลี่ยนแปลงหรือเปิดไฟล์
ประวัติเวอร์ชันของไฟล์	จัดการเวอร์ชัน ในไดรฟ์ คลิกขวาที่ไฟล์ที่ไม่ใช่ของ Google แล้วเลือกจัดการเวอร์ชัน คุณสามารถดาวน์โหลดเวอร์ชันที่ต้องการหรืออัปโหลดเวอร์ชันใหม่ได้ ในเอกสาร ชีต หรือสไลด์ ให้เลือกไฟล์ ประวัติเวอร์ชัน ดูประวัติเวอร์ชัน คุณสามารถตั้งชื่อเวอร์ชันที่ต้องการหรือทำสำเนาของเวอร์ชันได้ โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อดูการเปลี่ยนแปลงในไฟล์และโฟลเดอร์ในไดรฟ์
ทำให้ไฟล์ใช้งานได้แบบออฟไลน์	ทำให้ไฟล์ใช้งานได้แบบออฟไลน์ ติดตั้งส่วนขยาย Google เอกสารออฟไลน์ ในไดรฟ์ ให้คลิกการตั้งค่า การตั้งค่า ในส่วนออฟไลน์ ให้เลือกช่องสร้าง เปิด และแก้ไขไฟล์ Google เอกสาร, ชีต และสไลด์ล่าสุดในอุปกรณ์นี้ขณะออฟไลน์ คลิกเสร็จ คลิกขวาที่ไฟล์แล้วเปิดใช้งานแบบออฟไลน์ได้ โปรดดูวิธีเข้าถึงไฟล์แบบออฟไลน์จากเดสก์ท็อปหรืออุปกรณ์เคลื่อนที่ในหัวข้อเข้าถึงไฟล์ที่เก็บไว้ในไดรฟ์โดยไม่ต้องใช้อินเทอร์เน็ต

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง

กลับไปด้านบน

หากต้องการใช้ฟีเจอร์ขั้นสูงของ Google Workspace สำหรับธุรกิจ

ลองใช้งาน Google Workspace วันนี้

_{Google, Google Workspace และเครื่องหมายและโลโก้ที่เกี่ยวข้องเป็นเครื่องหมายการค้าของ Google LLC ชื่อบริษัทและชื่อผลิตภัณฑ์อื่นๆ ทั้งหมดเป็นเครื่องหมายการค้าของ บริษัทที่เกี่ยวข้อง}

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร