เคล็ดลับในการแก้ไขและทำงานร่วมกันในไฟล์

ในหน้านี้

เคล็ดลับการเขียนและแก้ไข

• ใช้แป้นพิมพ์ลัดเพื่อสร้างไฟล์ใหม่
• เพิ่มข้อความด้วยเสียง
• แชร์ลิงก์ "ทำสำเนา" ไปยังไฟล์
• ส่งอีเมลถึงผู้ทำงานร่วมกัน
• แทรกชิปอัจฉริยะและองค์ประกอบที่ใช้สร้างสรรค์

ติดตามการอัปเดตและความคิดเห็นในไฟล์

• ดูว่าใครเปลี่ยนอะไรไปบ้าง
• ตรวจสอบหรือเปลี่ยนกลับเป็นเวอร์ชันก่อนหน้า
• รับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับกิจกรรมของไฟล์ใน Chat หรือ Gmail
• รับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในสเปรดชีต
• ค้นหาและดำเนินการกับความคิดเห็น
• แสดงความคิดเห็นที่ปิดแล้ว (ไฟล์ที่ไม่ใช่ของ Google)

ขยายทั้งหมด  |  ยุบทั้งหมด

เคล็ดลับการเขียนและแก้ไข

ใช้แป้นพิมพ์ลัดเพื่อสร้างไฟล์ใหม่

คุณต้องสร้างไฟล์ใหม่เพื่อแก้ไขโดยใช้ Google เอกสาร, ชีต, สไลด์ และฟอร์มอยู่ตลอดใช่ไหม ข้ามการคลิกหลายครั้งและใช้ URL ทางลัดแทน

ดูวิธีการ

เปิดไฟล์ Google ใหม่ในเบราว์เซอร์

ให้ป้อน URL ใดๆ ก็ตามต่อไปนี้ในเบราว์เซอร์ของคุณ

• docs.new
• sheets.new
• slides.new
• forms.new

ไฟล์เปล่าจะเปิดขึ้นและคุณจะเริ่มแก้ไขได้ทันที

ไฟล์เปล่าจะเปิดขึ้นและคุณจะเริ่มเพิ่มเนื้อหาได้

 

 

เพิ่มข้อความด้วยเสียง

เบราว์เซอร์ Chrome เท่านั้นที่จำเป็นต้องใช้ไมโครโฟน

คุณจะพิมพ์และแก้ไขด้วยเสียงพูดใน Google เอกสารหรือบันทึกของผู้บรรยายใน Google สไลด์ได้ โดยสิ่งที่คุณพูดจะเปลี่ยนเป็นข้อความ

• ไม่ได้นั่งพิมพ์งานใช่ไหม คุณใช้การพูดเพื่อเพิ่มโน้ต การแก้ไข หรือความคิดเห็นลงในเอกสารได้
• ใช้คำสั่งเสียงเพื่อเปลี่ยนรูปแบบตัวอักษร เพิ่มตาราง แทรกลิงก์ และอีกมากมาย

ดูวิธีการ

เริ่มใช้การพิมพ์ด้วยเสียงในเอกสาร

1. ตรวจดูว่าไมโครโฟนใช้งานได้
2. เปิดเอกสารใน Google เอกสารด้วยเบราว์เซอร์ Chrome
3. คลิกเครื่องมือ พิมพ์ด้วยเสียง กล่องไมโครโฟนจะแสดงขึ้น
4. เมื่อพร้อมพูด ให้คลิกไมโครโฟน
5. พูดให้ชัดเจนด้วยจังหวะและความดังปกติ (ดูข้อมูลเพิ่มเติมในการใช้เครื่องหมายวรรคตอนด้านล่าง)
6. เมื่อพูดจบ ให้คลิกไมโครโฟนอีกครั้ง

เริ่มต้นการพิมพ์ด้วยเสียงในบันทึกของผู้บรรยายในสไลด์

1. ตรวจดูว่าไมโครโฟนใช้งานได้
2. เปิดงานนำเสนอใน Google สไลด์ด้วยเบราว์เซอร์ Chrome
3. คลิกเครื่องมือ พิมพ์บันทึกของผู้บรรยายด้วยเสียง บันทึกของผู้บรรยายจะเปิดขึ้นและกล่องไมโครโฟนก็จะแสดงขึ้น
4. เมื่อพร้อมพูด ให้คลิกไมโครโฟน
5. พูดให้ชัดเจนด้วยจังหวะและความดังปกติ (ดูข้อมูลเพิ่มเติมในการใช้เครื่องหมายวรรคตอนด้านล่าง)
6. เมื่อพูดจบ ให้คลิกไมโครโฟนอีกครั้ง

ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ศูนย์ช่วยเหลือของเครื่องมือแก้ไข Google เอกสาร

 

 

แชร์ลิงก์ "ทำสำเนา" ไปยังไฟล์

หากต้องการให้ผู้อื่นทำสำเนาของ Google เอกสาร, ชีต, สไลด์ หรือฟอร์มด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียว เพียงแค่ทำการเปลี่ยนแปลงง่ายๆ ในลิงก์ที่คุณแชร์

• สร้างเทมเพลตสำหรับไฟล์ เช่น เอกสารข้อเสนอ ชีตแผนโครงการ สไลด์การเสนอขาย และอีกมากมาย ซึ่งเพื่อนร่วมทีมคัดลอกได้อย่างรวดเร็วเพื่อให้การสร้างแบรนด์ขององค์กรมีความสอดคล้องกัน
• อนุญาตให้เพื่อนร่วมงานสร้างสำเนาของไฟล์แบบส่วนตัว เช่น งานนำเสนอ รายงาน หรือการออกแบบที่ต้องการเพื่อปรับแต่งไฟล์สำหรับวัตถุประสงค์ของตนเอง

ดูวิธีการ

เชิญผู้อื่นให้ทำสำเนาของไฟล์ในเอกสาร ชีต สไลด์ หรือฟอร์ม

1. เปิดหน้าแรกของ Google เอกสาร ชีต สไลด์ หรือฟอร์มจากคอมพิวเตอร์
2. เปิดไฟล์ที่ต้องการทำสำเนา
3. ในเมนู ให้คลิกไฟล์ ทำสำเนา
4. พิมพ์ชื่อและเลือกตำแหน่งที่จะบันทึก
   • หากต้องการคัดลอกความคิดเห็นจากเอกสาร สเปรดชีต หรืองานนำเสนอ ให้คลิกคัดลอกความคิดเห็นและคำแนะนำ คุณเลือกรวมความคิดเห็นและคำแนะนำที่ได้ข้อยุติแล้วไว้ในสำเนารายการใหม่ได้
5. คลิกตกลง

 

 

ส่งอีเมลถึงผู้ทำงานร่วมกัน

ไม่พร้อมใช้งานหากคุณใช้การแก้ไขไฟล์ Office สำหรับเอกสาร ชีต และสไลด์

ส่งอีเมลถึงผู้ทำงานร่วมกันได้โดยตรงจากไฟล์ Google เอกสาร ชีต หรือสไลด์ หากกำลังใช้ไฟล์ในไดรฟ์ที่แชร์ คุณส่งอีเมลถึงสมาชิกทั้งหมดของไดรฟ์ที่แชร์ได้พร้อมกัน

• ถามคำถามเกี่ยวกับไฟล์
• ติดตามการสนทนาที่ยาวเกินไปสำหรับความคิดเห็น
• เพิ่มสำเนาของไฟล์ไปยังอีเมลโดยตรง

ดูวิธีการ

1. เปิดไฟล์ในเอกสาร ชีต หรือสไลด์​
2. คลิกไฟล์อีเมลผู้ส่งอีเมลถึงผู้ทำงานร่วมกัน
3. (ไม่บังคับ สำหรับไฟล์ในไดรฟ์ที่แชร์เท่านั้น) หากต้องการส่งอีเมลไปยังสมาชิกทุกคนของไดรฟ์ที่แชร์ ให้เลือกช่องสมาชิก
4. (ไม่บังคับ) เปลี่ยนผู้รับอีเมลหรือเพิ่มหัวเรื่อง
5. เพิ่มข้อความ
6. (ไม่บังคับ) หากต้องการส่งสำเนาของอีเมลให้ตัวเอง ให้เลือกช่องส่งสำเนาให้ตนเอง
7. คลิกส่ง

 

 

แทรกชิปอัจฉริยะและองค์ประกอบที่ใช้สร้างสรรค์

แทรกชิปอัจฉริยะใน Google เอกสารเพื่อระบุข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งต่อไปนี้

• ผู้ใช้คนอื่นๆ ที่มีอีเมล Gmail หรือ Workspace
• ไฟล์ Google เอกสาร ชีต หรือสไลด์อื่นๆ
• วันที่หรือกิจกรรมใน Google ปฏิทิน
• สถานที่และเส้นทางในแผนที่

เมื่อมีชิปอัจฉริยะในเอกสาร คุณและผู้ใช้รายอื่นๆ จะวางเมาส์เหนือชิปหรือคลิกที่ชิปเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมได้

นอกจากนี้คุณยังแทรกชิปตัวยึดตำแหน่ง เครื่องมือติดตามเวลา และเมนูแบบเลื่อนลง รวมถึงใช้องค์ประกอบที่ใช้สร้างสรรค์เพื่อติดตามโปรเจ็กต์ ไฟล์ และอื่นๆ ได้ด้วย

Transforming collaboration in Google Workspace with smart canvas

ดูวิธีการ

เพิ่มชิปอัจฉริยะสำหรับบุคคล ไฟล์ วันที่ และกิจกรรม

1. เปิดเอกสารใน Google เอกสารในคอมพิวเตอร์
2. พิมพ์ "@" ที่ใดก็ได้ในเอกสาร หรือคลิกปุ่ม "@" บนบรรทัดว่าง
3. หากต้องการจํากัดคําแนะนําให้แคบลง โปรดเลือกจากรายการคําแนะนํา หรือป้อนตัวอักษร ตัวเลข หรือสัญลักษณ์
   • เคล็ดลับ: หากต้องการเพิ่มชิปอัจฉริยะสำหรับบุคคล ให้พิมพ์ชื่อหรืออีเมลของบุคคลที่ต้องการ หรือพิมพ์ @me เพื่อเพิ่มตัวเอง
   • เคล็ดลับ: หากต้องการเพิ่มชิปอัจฉริยะของไฟล์ ให้ป้อนชื่อไฟล์หรือคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง
4. หากต้องการเพิ่มชิปอัจฉริยะที่ผู้ทำงานร่วมกันจะกรอกข้อมูลได้ ให้เลือก "ชิปตัวยึดตำแหน่ง" จากนั้นเลือกประเภทข้อมูลที่คุณต้องการให้ผู้ทำงานร่วมกันป้อนเมื่อบุคคลดังกล่าวกรอกข้อมูลในชิปอัจฉริยะ
5. วางเมาส์เหนือชิปเพื่อดูข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

สําคัญ: เมื่อคุณพูดถึงผู้ใช้รายอื่นในชิปอัจฉริยะ ผู้ใช้จะไม่สามารถเข้าถึงเอกสารของคุณได้โดยอัตโนมัติ หากต้องการให้สิทธิ์เข้าถึงแก่ผู้ใช้รายอื่น คุณจะต้องแชร์เอกสาร

เมื่อใช้ Google เอกสาร คุณสามารถเพิ่มและปรับแต่งชิปเมนูแบบเลื่อนลงที่แสดงตัวเลือกหลายรายการได้ นอกจากนี้คุณยังใช้องค์ประกอบในการสร้างเทมเพลตตารางเพื่อช่วยติดตามโครงการ ไฟล์ และสิ่งอื่นๆ ได้ด้วย

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ช่วยเหลือของ Google เอกสาร

ติดตามการอัปเดตและความคิดเห็นในไฟล์

ดูว่าใครเปลี่ยนอะไรไปบ้าง

ไม่พร้อมใช้งานหากคุณใช้การแก้ไขไฟล์ Office สำหรับเอกสาร ชีต และสไลด์

หากคุณกำลังทำงานร่วมกับบุคคลหลายคนในไฟล์เดียว อาจเป็นเรื่องยากที่จะระบุว่าใครทำการเปลี่ยนแปลงบางอย่างและเมื่อใด คุณสามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงในไฟล์ที่แชร์ได้โดยดูการเปลี่ยนแปลงและผู้ที่ดำเนินการ 

ดูวิธีการ

ดูผู้ที่ดูไฟล์ของคุณหรือผู้ที่คุณแชร์ไฟล์ด้วย

ความพร้อมใช้งานของฟีเจอร์นี้จะขึ้นอยู่กับรุ่นของ Google Workspace และสิทธิ์ที่ผู้ดูแลระบบกําหนด ใครคือผู้ดูแลระบบของฉัน

หมายเหตุ: ฟีเจอร์นี้ใช้ได้เฉพาะผู้ใช้ G Suite Business และ Enterprise เท่านั้น (เมื่ออนุญาตสิทธิ์ของผู้ดูแลระบบ G Suite)

1. ให้เปิดไฟล์ใน เอกสาร ชีต หรือสไลด์

   หมายเหตุ: คุณจะต้องมีสิทธิ์แก้ไขไฟล์เพื่อดูข้อมูลหน้าแดชบอร์ดกิจกรรม

2. คลิกเครื่องมือหน้าแดชบอร์ดกิจกรรม
3. คุณจะดูข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมในไฟล์รวมถึงข้อมูลต่อไปนี้ได้

   • แท็บแชร์กับ: แสดงคนที่คุณแชร์ไฟล์ด้วย นอกจากนี้คุณยังส่งอีเมลถึงผู้ทำงานร่วมกันได้เช่นกัน
   • แท็บผู้ชมทั้งหมด (องค์กร): แสดงบุคคลในองค์กรของคุณที่ดูไฟล์แล้ว
   • แท็บเทรนด์ผู้ชม: แสดงแผนภูมิของผู้ชมในช่วงเวลาหนึ่ง

4. (ไม่บังคับ) หากคุณไม่ต้องการให้ประวัติการดูปรากฏในหน้าแดชบอร์ดกิจกรรม ให้คลิกการตั้งค่าความเป็นส่วนตัว และเลือกตัวเลือกดังนี้

   • ปิดประวัติการดูสำหรับทุกไฟล์: ใต้การตั้งค่าบัญชี ปิดแสดงประวัติการดูของฉันสำหรับไฟล์เอกสาร ชีต และ สไลด์ ทั้งหมด
   • ปิดประวัติการดูสำหรับไฟล์เดียว: ใต้การตั้งค่าเอกสาร ปิดแสดงประวัติการดูของฉันสำหรับเอกสารนี้

5. คลิกบันทึก

ดูผู้ที่แสดงความคิดเห็น แก้ไข ย้าย หรือแชร์ไฟล์

คุณสามารถดูกิจกรรมของไฟล์ในไดรฟ์ของฉันหรือในไดรฟ์ที่แชร์ได้

1. ไปที่ drive.google.com ในคอมพิวเตอร์
2. คลิกไดรฟ์ของฉันที่ด้านซ้าย
3. คลิกข้อมูล ที่ด้านขวาบน
4. หากต้องการดูการเปลี่ยนแปลงล่าสุด ให้คลิกกิจกรรม
5. หากต้องการดูกิจกรรมในไฟล์หรือโฟลเดอร์เฉพาะ ให้คลิกไฟล์หรือโฟลเดอร์นั้น
6. หากต้องการดูการเปลี่ยนแปลงล่าสุด ให้เลื่อนลงทางด้านขวา

 

 

ตรวจสอบหรือเปลี่ยนกลับเป็นเวอร์ชันก่อนหน้า

ก่อนหน้านี้คุณอาจเก็บไฟล์ฉบับร่างไว้หลายฉบับในกรณีที่จำเป็นต้องอ้างอิงหรือเปลี่ยนไปใช้เวอร์ชันก่อนหน้า แต่ Google ไดรฟ์เก็บฉบับร่างทั้งหมดไว้ในไฟล์เดียว ซึ่งคุณจะดูหรือคืนค่าเป็นเวอร์ชันก่อนหน้าได้อย่างง่ายดาย

• ดู ลบ ดาวน์โหลด หรือเปลี่ยนกลับเป็นเวอร์ชันก่อนหน้าได้ตลอดเวลา
• เข้าถึงไฟล์ทุกเวอร์ชันได้ทุกเวลาจากอุปกรณ์ใดก็ได้
• กลับไปดูความคิดเห็นที่มีอยู่ในเวอร์ชันก่อนหน้าได้
• ทำให้โฟลเดอร์สะอาดตา ไม่จำเป็นต้องเก็บไฟล์ฉบับร่างหลายฉบับอีกต่อไป

ดูวิธีการ

ดูหรือเปลี่ยนกลับเป็นไฟล์เอกสาร ชีต และสไลด์เวอร์ชันก่อนหน้า

หมายเหตุ: คุณต้องมีสิทธิ์เข้าถึงในฐานะเจ้าของหรือเอดิเตอร์เพื่อดูประวัติเวอร์ชัน

1. เปิดไฟล์ในไดรฟ์
2. คลิกไฟล์ประวัติเวอร์ชันดูประวัติเวอร์ชัน
3. คลิกการประทับเวลาเพื่อดูเวอร์ชันก่อนหน้าของไฟล์ ที่ด้านล่างของการประทับเวลา คุณจะเห็นข้อมูลต่อไปนี้
   • ชื่อของผู้ที่แก้ไขเอกสาร
   • สีถัดจากชื่อของแต่ละคน โดยการแก้ไขที่ดำเนินการจะปรากฏในสีดังกล่าว
4. (ไม่บังคับ) หากต้องการเปลี่ยนกลับเป็นเวอร์ชันนี้ ให้คลิกคืนค่าเวอร์ชันนี้

หมายเหตุ: คุณต้องมีเจ้าของหรือสิทธิ์การแก้ไขเพื่อดูประวัติเวอร์ชัน

อัปโหลดไฟล์เวอร์ชันใหม่ไปยังไดรฟ์

1. ไปที่ drive.google.com ในคอมพิวเตอร์
2. คลิกไฟล์ที่ต้องการแทนที่
3. ที่ด้านขวาบน ให้คลิกเพิ่มเติม   จัดการเวอร์ชัน  อัปโหลดเวอร์ชันใหม่

ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ศูนย์ช่วยเหลือของ Google ไดรฟ์

 

 

รับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับกิจกรรมของไฟล์ใน Chat หรือ Gmail

ใน Google Chat และ Gmail คุณสามารถใช้แอปเพื่อเชื่อมต่อกับบริการต่างๆ ได้ หากต้องการรับการแจ้งเตือนใน Chat เกี่ยวกับกิจกรรมในไดรฟ์ ให้ใช้แอป Google ไดรฟ์

ดูวิธีการ

เปิดการแจ้งเตือนของไดรฟ์ใน Chat หรือ Gmail

โดยปกติแล้วการแจ้งเตือนของแอปจะเปิดอยู่ หากคุณปิดใช้ไว้ก่อนหน้านี้ ให้ทำดังนี้

1. ไปที่ Chat หรือ Gmail
2. ส่งข้อความส่วนตัว (เช่น "สวัสดี") ไปยังแอป Google ไดรฟ์
3. คลิกเปิดการแจ้งเตือนในข้อความที่ตอบกลับ

หลังจากเปิดการแจ้งเตือนของแล้ว คุณจะได้รับข้อความส่วนตัวเกี่ยวกับกิจกรรมในไดรฟ์ เช่น

• มีการแชร์ไฟล์หรือโฟลเดอร์ใหม่กับคุณ
• มีความคิดเห็นหรือรายการการทำงานใหม่กล่าวถึงคุณหรือมอบหมายให้คุณ
• มีผู้ขอเข้าถึงไฟล์ที่คุณเป็นเจ้าของ
• พื้นที่เก็บข้อมูลใกล้เต็ม

หมายเหตุ: หากต้องการลบข้อความแอป ให้ชี้ไปที่ข้อความในการสนทนาแล้วคลิกลบ

ปิดการแจ้งเตือนไดรฟ์ใน Chat หรือ Gmail

1. ส่งข้อความส่วนตัว (เช่น "สวัสดี") ไปยังแอป Google ไดรฟ์
2. คลิกหรือแตะปิดการแจ้งเตือนในข้อความที่ตอบกลับ

หากต้องการเปิดการแจ้งเตือนอีกครั้ง ให้ส่งข้อความส่วนตัวถึงแอป Google ไดรฟ์อีกครั้ง

 

 

รับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในสเปรดชีต

หากต้องการทราบทันทีเมื่อมีคนเปลี่ยนแปลงสเปรดชีต ให้ตั้งค่าการแจ้งเตือนทางอีเมล

คุณจะทราบแน่ชัดว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้างและใครเป็นผู้ขอรายละเอียด

ดูวิธีการ

ตั้งค่าการแจ้งเตือนทางอีเมล

1.  เปิดสเปรดชีตใน Google ชีตในคอมพิวเตอร์
2. คลิกเครื่องมือ การตั้งค่าการแจ้งเตือน  แก้ไขการแจ้งเตือนที่ด้านบน
3. เลือกว่าต้องการรับการแจ้งเตือน "เมื่อใด" ในหน้าต่างที่ปรากฏขึ้น แจ้งให้คุณทราบเมื่อมีการดำเนินการต่อไปนี้
   • มีการเปลี่ยนแปลงใดก็ตาม: ตั้งค่าการแจ้งเตือนเมื่อมีคนทำการเปลี่ยนแปลงในสเปรดชีต
   • ผู้ใช้ส่งแบบฟอร์ม: ตั้งค่าการแจ้งเตือนเมื่อมีคนกรอกข้อมูลในแบบฟอร์ม
4. เลือก "ความถี่" ที่ต้องการรับการแจ้งเตือนในหน้าต่างที่ปรากฏขึ้น แจ้งให้คุณทราบด้วยวิธีต่อไปนี้
   • อีเมล - สรุปรายวัน: ส่งสรุปรายวันเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด
   • อีเมล - ทันที: ส่งอีเมลทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลง
5. คลิกบันทึก

ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ศูนย์ช่วยเหลือของเครื่องมือแก้ไข Google เอกสาร

 

 

ค้นหาและดำเนินการกับความคิดเห็น

คุณจะค้นหาใน Google ไดรฟ์เพื่อค้นหาและดำเนินการกับความคิดเห็นที่ยังไม่ได้รับคำตอบที่คุณได้รับมอบหมายได้

ดูวิธีการ

1. ไปที่ drive.google.com ในคอมพิวเตอร์
2. คลิกกิจกรรมทางด้านซ้าย
3. คลิกเปิดความคิดเห็นถัดจากความคิดเห็น 

ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ศูนย์ช่วยเหลือของเครื่องมือแก้ไข Google เอกสาร

 

 

แสดงความคิดเห็นที่ปิดแล้ว (ไฟล์ที่ไม่ใช่ของ Google)

คุณใช้ Google ไดรฟ์เพื่อแสดงหรือซ่อนความคิดเห็นที่ปิดแล้วในไฟล์ Microsoft Office และ Adobe PDF รวมถึงรูปภาพและไฟล์อื่นๆ ได้โดยตรงในส่วนแสดงตัวอย่างของไดรฟ์ 

ดูวิธีการ

แสดงหรือซ่อนความคิดเห็นที่ปิดแล้ว (ไฟล์ที่ไม่ใช่ของ Google)

หมายเหตุ: หากต้องการแสดงหรือซ่อนความคิดเห็นที่ได้ข้อยุติแล้ว อย่างน้อยจะต้องมีความคิดเห็นที่ใช้งานอยู่ 1 รายการและความคิดเห็นที่ได้ข้อยุติแล้วหรือยังไม่ได้ข้อยุติ 1 รายการ

1. เปิดไดรฟ์ แล้วลงชื่อเข้าใช้ด้วยชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านของคุณ
2. ดับเบิลคลิก Microsoft Office, PDF, รูปภาพ หรือไฟล์อื่นๆ ที่ไม่ใช่ของ Google 
3. จากหน้าต่างแสดงตัวอย่าง ให้คลิกเพิ่มเติม แสดงคอลัมน์ความคิดเห็นที่ด้านขวาบน
4. (ไม่บังคับ) หากต้องการซ่อนความคิดเห็นอีกครั้ง ให้คลิกเพิ่มเติม ซ่อนคอลัมน์ความคิดเห็น

ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ศูนย์ช่วยเหลือของ Google ไดรฟ์

_{Google, Google Workspace และเครื่องหมายและโลโก้ที่เกี่ยวข้องเป็นเครื่องหมายการค้าของ Google LLC ชื่อบริษัทและชื่อผลิตภัณฑ์อื่นๆ ทั้งหมดเป็นเครื่องหมายการค้าของ บริษัทที่เกี่ยวข้อง}