รุ่นที่รองรับฟีเจอร์นี้ ได้แก่ Frontline Starter และ Frontline Standard; Business Standard และ Business Plus; Enterprise Standard และ Enterprise Plus; Education Standard และ Education Plus; Essentials, Enterprise Essentials และ Enterprise Essentials Plus; G Suite Business เปรียบเทียบรุ่นของคุณ
หากต้องการใช้ป้ายกำกับไดรฟ์กับไฟล์ ให้ไปที่นี่แทน
ในฐานะผู้ดูแลระบบ คุณจะสร้างป้ายกำกับสำหรับผู้ใช้เพื่อใช้กับไฟล์ในไดรฟ์ได้ คุณสามารถสร้างป้ายกํากับได้สูงสุด 150 ป้าย ซึ่งรวมถึงป้ายกํากับที่มีตราสถานะ 1 ป้าย โดยให้สร้างป้ายกํากับในเครื่องมือจัดการป้ายกํากับในไดรฟ์ ไม่ใช่คอนโซลผู้ดูแลระบบ
ข้อควรปฏิบัติก่อนที่จะเริ่มต้น
ขั้นตอนที่ 1 สร้างป้ายกำกับ
-
ไปที่เครื่องมือจัดการป้ายกํากับที่ https://drive.google.com/labels ในคอมพิวเตอร์
ต้องมีสิทธิ์จัดการป้ายกํากับ
- คลิกป้ายกำกับใหม่
- วิธีสร้างป้ายกำกับมาตรฐาน
- คลิกเทมเพลตป้ายกำกับมาตรฐาน หรือคลิกสร้างใหม่
- ป้อนหรืออัปเดตชื่อป้ายกำกับ
- (ไม่บังคับ) เพิ่มคำอธิบาย
- เลือกว่าจะคัดลอกป้ายกํากับเมื่อคัดลอกไฟล์หรือไม่
- (ไม่บังคับ) เพิ่มฟิลด์ ป้ายกํากับจะมีฟิลด์ได้ไม่เกิน 10 ฟิลด์ โปรดดูรายละเอียดในส่วนถัดไป
- หากต้องการสร้างป้ายกํากับที่มีตราสถานะป้ายเดียว ให้ทําดังนี้
- เลือกป้ายกํากับที่มีตราสถานะ
- เลือกว่าต้องการเริ่มจากตัวอย่างหรือเริ่มใหม่ทั้งหมด
- อัปเดตชื่อ
- (ไม่บังคับ) เพิ่มคําอธิบายหรือ URL สำหรับดูข้อมูลเพิ่มเติมที่จะนำไปยังเอกสารประกอบภายในขององค์กรเกี่ยวกับป้ายกํากับ
- เลือกว่าต้องการให้ผู้ใช้ปลายทางต้องกรอกป้ายกํากับหรือไม่
- ปรับแต่งตัวเลือกและกําหนดสี
ขั้นตอนที่ 2 (ไม่บังคับ) เพิ่มฟิลด์ในป้ายกํากับมาตรฐาน
คุณสามารถเพิ่มฟิลด์ไปยังป้ายกํากับได้สูงสุด 10 ฟิลด์เพื่อให้การจัดประเภทมีความละเอียดมากขึ้น เช่น ป้ายกํากับแผนกอาจมีฟิลด์ที่มีรายการตัวเลือกอื่นๆ เช่น การเงิน วิศวกรรม และกฎหมาย
- เมื่อเปิดป้ายกํากับในเครื่องมือจัดการป้ายกํากับ (https://drive.google.com/labels) ให้คลิกเพิ่มฟิลด์
- คลิกเพื่อกําหนดจํานวนฟิลด์แต่ละประเภทที่ต้องการเพิ่ม ที่ด้านขวา ไดรฟ์จะแสดงตัวอย่างฟิลด์ต่างๆ โปรดดูรายละเอียดเกี่ยวกับประเภทฟิลด์ในตารางที่อยู่ถัดจากขั้นตอนเหล่านี้
เคล็ดลับ:
- เราขอแนะนําให้คุณลดจํานวนฟิลด์ในป้ายกํากับเพื่อเป็นการส่งเสริมให้มีการใช้งานอย่างสม่ำเสมอ ผู้ใช้มีแนวโน้มที่จะใช้ป้ายกํากับและแก้ไขค่าในฟิลด์ข้อมูลหากทําได้ง่ายและรวดเร็ว
- กฎการคุ้มครองข้อมูลจะใช้ได้เฉพาะป้ายกํากับที่มีตราสถานะหรือป้ายกํากับที่มีประเภทฟิลด์รายการตัวเลือกเท่านั้น ไม่รองรับฟิลด์ประเภทอื่นๆ
- คลิกเพิ่มฟิลด์
- คลิกฟิลด์เพื่อกําหนดค่าตัวเลือก เช่น ชื่อฟิลด์ ตัวเลือกที่มีให้ใช้งาน รูปแบบของฟิลด์วันที่ หรือการอนุญาต/ไม่อนุญาตการเลือกหลายรายการ
- (ไม่บังคับ) กําหนดให้เป็นฟิลด์ที่ต้องกรอกโดยการทำเครื่องหมายในส่วนกําหนดให้ผู้ใช้ต้องเลือกตัวเลือก สําคัญ: ไดรฟ์จะไฮไลต์ป้ายกํากับที่มีฟิลด์ที่ต้องกรอกเพื่อกระตุ้นให้ดําเนินการให้เสร็จสิ้น แต่จะไม่บังคับใช้ ทั้งนี้ผู้ใช้จะยังใช้ไดรฟ์ เอกสาร ชีต และสไลด์ได้อยู่ หากผู้ใช้ไม่เลือกตัวเลือก ผู้ใช้จะเห็นการแจ้งเตือนและระบบจะไฮไลต์ฟิลด์ที่ต้องกรอก
หากคุณเพิ่มตัวเลือกฟิลด์หรือฟิลด์เพิ่มเติม คุณสามารถลบตัวเลือกดังกล่าวก่อนที่จะเผยแพร่ป้ายกํากับได้ สําหรับฟิลด์หรือตัวเลือกฟิลด์ที่ต้องการลบ ให้คลิกเพิ่มเติมลบ
โปรดตรวจสอบฟิลด์ใหม่อย่างละเอียด หลังจากเผยแพร่ป้ายกํากับแล้ว คุณจะเปลี่ยนประเภทฟิลด์ไม่ได้ สําหรับฟิลด์รายการตัวเลือกหรือบุคคล คุณจะเปลี่ยนไม่ได้ว่าผู้ใช้จะเลือกค่าหลายค่าได้หรือไม่
ประเภทฟิลด์
ฟิลด์ | สิ่งที่ผู้ใช้ทำได้ | รายละเอียดเพิ่มเติม |
---|---|---|
รายการตัวเลือก | เลือกตัวเลือกอย่างน้อย 1 รายการ |
|
หมายเลข | ป้อนค่าที่เป็นตัวเลข | เฉพาะตัวเลขจำนวนเต็ม |
วันที่ | เลือกวันที่ในปฏิทิน | ตั้งค่ารูปแบบวันที่เป็นแบบยาว: เดือน วว, ปปปป หรือแบบสั้น: ดด/วว/ปป |
ข้อความ | ป้อนข้อความในกล่องข้อความ | ระบุได้ไม่เกิน 100 อักขระ |
คน | เลือกบุคคลจากรายชื่อติดต่อของ Workspace |
|
ขั้นตอนที่ 3 กําหนดผู้ที่มีสิทธิ์ดูหรือใช้ป้ายกํากับ
โดยค่าเริ่มต้น ทุกคนในองค์กรจะดูและใช้ป้ายกำกับได้ แก้ไขสิทธิ์ของป้ายกํากับเพื่อควบคุมว่าผู้ใดบ้างที่มีสิทธิ์ดู ใช้ แก้ไขค่าของฟิลด์ และค้นหาตามป้ายกํากับ เช่น
- หากต้องการอนุญาตผู้ใช้ภายนอกองค์กรหรือกลุ่มที่มีผู้ใช้ภายนอกให้สามารถดูและใช้ป้ายกำกับได้ คุณก็เพิ่มผู้ใช้และกลุ่มดังกล่าวในส่วนสิทธิ์ขั้นสูง
- หากต้องการทดสอบป้ายกํากับใหม่ คุณสามารถตั้งค่าจำกัดการเข้าถึงในตอนแรก และให้สิทธิ์เฉพาะกลุ่มทดสอบในการเข้าถึงป้ายกํากับเท่านั้น โดยหลังจากทดสอบแล้ว คุณจะเปลี่ยนสิทธิ์เพื่อให้ทุกคนใช้ป้ายกำกับนี้ได้
- หากป้ายกํากับมีข้อมูลลับ คุณอาจตั้งค่าจำกัดการเข้าถึงเพื่อให้มีเพียงผู้ใช้ที่มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลดังกล่าวเท่านั้นที่จะดูหรือใช้ป้ายกํากับได้
หมายเหตุ
- สิทธิ์ในไฟล์ยังคงมีผล เช่น หากผู้ใช้มีสิทธิ์เข้าถึงไฟล์แบบดูอย่างเดียว ผู้ใช้จะดูป้ายกำกับที่ใช้กับไฟล์นั้นได้เท่านั้น แม้ว่าผู้ใช้จะมีสิทธิ์ใช้และตั้งค่าป้ายกำกับดังกล่าวก็ตาม
- ผู้ใช้ทุกคนที่มีบัญชี Google จะได้รับสิทธิ์ในการดูหรือใช้ป้ายกํากับ แต่ป้ายกํากับจะใช้ได้เฉพาะสำหรับรายการที่เป็นของผู้ใช้ที่มีใบอนุญาตที่รองรับป้ายกํากับไดรฟ์หรือรายการในไดรฟ์ที่แชร์เท่านั้น
วิธีตั้งค่าสิทธิ์ในป้ายกำกับ
- หากยังไม่ได้เปิด ให้เปิดเครื่องมือจัดการป้ายกํากับ (https://drive.google.com/labels) แล้วคลิกป้ายกํากับ
- คลิกสิทธิ์ที่ด้านบน
- เลือกระดับสิทธิ์สำหรับองค์กรดังต่อไปนี้
- ใช้ป้ายกํากับและกําหนดค่าได้ - ผู้ใช้จะสามารถใช้ กําหนดค่า และค้นหาป้ายกํากับนี้ในไฟล์ที่ตนเองมีสิทธิ์แก้ไขได้
- ดูป้ายกํากับนี้ได้ - ผู้ใช้จะสามารถดูและค้นหาป้ายกํากับนี้ในไฟล์ที่ตนเองมีสิทธิ์ดูหรือแสดงความคิดเห็นได้
- จำกัดการเข้าถึง - เฉพาะผู้ใช้และกลุ่มที่คุณระบุเท่านั้นที่จะดูหรือใช้ป้ายกํากับได้ คุณสามารถเลือกสิทธิ์ให้กับผู้ใช้แต่ละคนหรือกลุ่มแต่ละกลุ่มในขั้นตอนถัดไปได้
- (ไม่บังคับ) เพิ่มสิทธิ์ให้กับผู้ใช้และกลุ่มที่ต้องการ ดังนี้
- ในส่วนสิทธิ์ขั้นสูง ให้เริ่มป้อนบัญชีผู้ใช้หรือบัญชีกลุ่ม แล้วเลือกบัญชีนั้น
- เลือกระดับสิทธิ์สำหรับบัญชีนั้น
- คลิกบันทึก
ขั้นตอนที่ 4 เผยแพร่ป้ายกำกับ
ระบบจะสร้างป้ายกํากับใหม่ในสถานะ "ฉบับร่าง" เพื่อให้คุณตรวจสอบดูได้ว่าป้ายกํากับจะปรากฏต่อผู้ใช้อย่างไรก่อนที่จะเปิดให้ใช้งาน
วิธีเผยแพร่ป้ายกำกับ
- หากยังไม่ได้เปิด ให้เปิดเครื่องมือจัดการป้ายกํากับ (https://drive.google.com/labels) แล้วคลิกป้ายกํากับ
- ตรวจสอบป้ายกํากับและฟิลด์ที่ต้องการ สําคัญ: หลังจากที่เผยแพร่ป้ายกำกับแล้ว คุณจะไม่สามารถเปลี่ยนประเภทฟิลด์และตัวเลือกในการอนุญาตการเลือกหลายรายการสำหรับฟิลด์นั้นๆ
- คลิกเผยแพร่
- ยืนยันว่าคุณต้องการเผยแพร่ป้ายกำกับโดยคลิกเผยแพร่
ตอนนี้ผู้ใช้ที่มีสิทธิ์ดูหรือใช้ป้ายกํากับจะมีสิทธิ์เข้าถึง และคุณจะสามารถใช้ป้ายกํากับเพื่อแยกประเภทและปกป้องข้อมูลได้ (ตามที่อธิบายไว้ในส่วนถัดไป)
เมื่อคุณแก้ไขป้ายกำกับ ระบบจะบันทึกการเปลี่ยนแปลงเป็นฉบับร่าง หากต้องการให้ผู้ใช้มองเห็นข้อมูลที่คุณแก้ไข คุณต้องเผยแพร่ป้ายกํากับอีกครั้ง
ขั้นตอนที่ 5 (ไม่บังคับ) ใช้ป้ายกำกับเพื่อแยกประเภท ปกป้อง และจัดการข้อมูล
คุณสามารถตั้งนโยบายเพื่อใช้ป้ายกำกับกับไฟล์โดยอัตโนมัติ อีกทั้งยังตั้งค่ากฎการป้องกันข้อมูลรั่วไหล (DLP) และกฎการเก็บรักษาของห้องนิรภัยเพื่อป้องกันการลบหรือแชร์โดยอิงตามป้ายกำกับของไฟล์ได้ด้วย
สำคัญ
- เมื่อคุณใช้ป้ายกำกับสำหรับการแยกประเภทเริ่มต้น, การแยกประเภท AI, DLP หรือกฎการเก็บรักษาของห้องนิรภัย ระบบจะล็อกการตั้งค่าของป้ายกำกับไว้ในเครื่องมือจัดการป้ายกำกับ วิธีนี้จะช่วยไม่ให้มีการแก้ไขป้ายกํากับที่อาจละเมิดนโยบายธุรกิจ
- เมื่อใช้ป้ายกำกับในกฎ DLP หรือกฎการเก็บรักษาของห้องนิรภัย คุณจะปิดใช้หรือลบป้ายกำกับดังกล่าวไม่ได้ ผู้จัดการป้ายกํากับจะเห็นว่ามีการใช้ป้ายกํากับในกฎในคอลัมน์กฎของตารางป้ายกํากับ แต่จะไม่เห็นรายละเอียดของกฎที่ใช้ป้ายกำกับ เว้นแต่จะมีสิทธิ์ของผู้ดูแลระบบที่จำเป็น
ใช้ป้ายกำกับกับไฟล์โดยอัตโนมัติ
การใช้ป้ายกํากับโดยอัตโนมัติมี 3 วิธี ได้แก่ การแยกประเภทเริ่มต้น, DLP และการแยกประเภท AI ซึ่งแต่ละวิธีจะทำงานในลักษณะที่ต่างกันไป และสามารถใช้ร่วมกันได้โดยขึ้นอยู่กับประเภทของการติดป้ายกำกับที่คุณต้องการ
ข้อมูลเปรียบเทียบวิธีการวิธีการทำงานของป้ายกำกับการแยกประเภทเริ่มต้น
- ใช้ป้ายกำกับกับไฟล์ใหม่และเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการเป็นเจ้าของไฟล์ การแยกประเภทเริ่มต้นจะไม่นำป้ายกำกับไปใช้กับไฟล์ที่มีอยู่ย้อนหลัง เว้นแต่จะมีการเปลี่ยนเจ้าของไฟล์
- ใช้ป้ายกำกับตามหน่วยขององค์กรหรือกลุ่มของเจ้าของไฟล์ การแยกประเภทเริ่มต้นจะไม่ค้นหาเนื้อหาหรือข้อมูลเมตาของไฟล์สำหรับเงื่อนไขบางอย่าง
- หากผู้ใช้มีสิทธิ์เปลี่ยนป้ายกำกับ ก็สามารถเปลี่ยนหรือนำป้ายกำกับออกได้หลังจากที่ใช้ป้ายกำกับโดยอัตโนมัติแล้ว
- เฉพาะป้ายกํากับที่มีช่องรายการตัวเลือกเท่านั้นที่จะรองรับสําหรับการแยกประเภทเริ่มต้น
- ระบบจะเขียนทับป้ายกำกับการแยกประเภทเริ่มต้นด้วยป้ายกำกับที่ DLP กำหนดแม้ว่าค่าการแยกประเภทข้อมูลจะอยู่ในระดับสูงกว่าในรายการตัวเลือกก็ตาม
วิธีการทำงานของป้ายกำกับที่กฎ DLP กำหนด
- ใช้ป้ายกำกับกับไฟล์ใหม่และไฟล์ที่มีอยู่
- ใช้ป้ายกำกับตามเงื่อนไข เช่น ประเภทไฟล์ การจับคู่คำ และการจับคู่สตริง กฎ DLP จะไม่ยอมรับหน่วยขององค์กรหรือกลุ่มเป็นเงื่อนไข
- คุณจะใช้ป้ายกํากับที่มีกฎ DLP ซึ่งใช้ป้ายกํากับเป็นเงื่อนไขไม่ได้
- คุณสามารถป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนป้ายกํากับได้ แม้ว่าผู้ใช้จะมีสิทธิ์เปลี่ยนก็ตาม หากผู้ใช้เปลี่ยนป้ายกำกับ DLP จะสแกนไฟล์อีกครั้งทันทีและเปลี่ยนกลับไปใช้การกำหนดค่าป้ายกำกับ DLP
- ผู้ใช้ภายนอกจะดูประวัติเวอร์ชันของไฟล์ที่กฎ DLP ใช้ป้ายกำกับไม่ได้
- กฎ DLP สามารถใช้ป้ายกำกับที่มีช่องรายการตัวเลือก ซึ่งรวมถึงป้ายกำกับที่มีตราสถานะ
วิธีการทำงานของป้ายกำกับการแยกประเภท AI
- ใช้ป้ายกำกับกับไฟล์ใหม่และไฟล์ที่มีอยู่
- เฉพาะป้ายกำกับที่มีช่องรายการตัวเลือก 1 ช่องและมีค่า 2-4 ค่าเท่านั้นที่จะรองรับสำหรับการแยกประเภท AI
- ใช้ป้ายกำกับหลังจากระยะเวลาการฝึก ในช่วงการฝึก ผู้ติดป้ายกำกับที่กำหนดจะใช้ป้ายกำกับการฝึกกับไฟล์อย่างน้อย 100 ไฟล์ต่อตัวเลือกช่อง
- ป้ายกำกับการแยกประเภท AI จะถูกเขียนทับด้วยป้ายกํากับที่ DLP กำหนด แต่จะเขียนทับป้ายกํากับการแยกประเภทเริ่มต้น
ค่าของป้ายกำกับที่กำหนดโดยกฎ DLP จะมีความสำคัญมากกว่าการแยกประเภท AI และทั้ง 2 ค่าจะมีความสำคัญมากกว่าการแยกประเภทเริ่มต้น
เมื่อกฎประเภทเดียวกันอย่างน้อย 2 ข้อพยายามใช้ค่าป้ายกำกับที่ต่างกันกับไฟล์เดียวกัน ระบบจะใช้ค่าที่อยู่ในอันดับสูงกว่าในรายการตัวเลือกของป้ายกำกับ เช่น คุณอาจมีป้ายกํากับที่มีช่องซึ่งมีตัวเลือก 3 รายการในเครื่องมือจัดการป้ายกำกับ ดังนี้
- ลับ
- ภายใน
- สาธารณะ
หากกฎ 1 พยายามกำหนดให้ป้ายกำกับเป็นลับ และกฎ 2 พยายามกำหนดให้ป้ายกำกับเป็นสาธารณะสำหรับไฟล์เดียวกัน ระบบจะใช้ลับ (กฎ 1) โปรดตรวจสอบว่าตัวเลือกช่องของป้ายกำกับแสดงตามลำดับความสำคัญที่คุณต้องการก่อนที่จะตั้งกฎ
หากต้องการตั้งค่าป้ายกำกับการแยกประเภทเริ่มต้น ให้ทำตามขั้นตอนในหัวข้อใช้ป้ายกำกับการแยกประเภทเริ่มต้นกับไฟล์ใหม่โดยอัตโนมัติ
หากต้องการตั้งกฎ DLP ให้ใช้ป้ายกำกับโดยอัตโนมัติ ให้ทำตามขั้นตอนในหัวข้อใช้ป้ายกำกับไดรฟ์โดยอัตโนมัติด้วยกฎ DLP
ป้องกันไม่ให้แชร์กับภายนอกด้วยกฎการป้องกันข้อมูลรั่วไหล (DLP) ตามป้ายกำกับ
คุณสามารถกําหนดกฎที่มีผลเฉพาะกับรายการที่มีป้ายกํากับหรือฟิลด์ที่ต้องการเท่านั้นได้ เช่น สร้างกฎ DLP ที่จะสแกนหาหมายเลขบัตรเครดิตและหมายเลขประกันสังคมในเอกสาร หากพบผลลัพธ์ที่ตรงกัน ระบบจะใช้ป้ายกํากับ เช่น ไฟล์ที่ละเอียดอ่อน ตั้งค่าฟิลด์เป็น "ลับ" และการแชร์ภายนอกจะถูกบล็อก
กฎการคุ้มครองข้อมูลสามารถใช้ป้ายกํากับที่มีตราสถานะหรือป้ายกํากับมาตรฐานกับประเภทฟิลด์รายการตัวเลือก ไม่รองรับฟิลด์ประเภทอื่นๆ
หากต้องการตั้งกฎ DLP ให้ทำตามขั้นตอนในหัวข้อสร้างกฎ DLP สำหรับไดรฟ์และตัวตรวจจับเนื้อหาที่กำหนดเอง
เก็บไฟล์ตามป้ายกำกับด้วย Google ห้องนิรภัย
คุณสามารถกำหนดกฎการเก็บรักษาที่ป้องกันไม่ให้ลบรายการ หรือกำหนดให้ลบรายการตามป้ายกำกับของไดรฟ์และค่าที่ระบุในช่องได้ โปรดดูตัวอย่างและข้อมูลเพิ่มเติมที่หัวข้อเก็บรักษาไฟล์ในไดรฟ์ด้วยห้องนิรภัย
ขั้นตอนถัดไป
เมื่อคุณมีป้ายกำกับที่องค์กรของคุณสามารถใช้ได้แล้ว ให้ทำดังนี้
- สอนผู้ใช้เกี่ยวกับวิธีติดป้ายกํากับและใช้ป้ายกำกับในการค้นหาไฟล์
- ดูวิธีแก้ไข ปิดใช้ ลบ และตรวจสอบป้ายกำกับ