รายการแหล่งข้อมูล

ฟีเจอร์เหล่านี้พร้อมให้บริการแก่พาร์ทเนอร์ที่ใช้ระบบจัดการเนื้อหาของ YouTube เพื่อจัดการเนื้อหาที่มีลิขสิทธิ์เท่านั้น

<ResourceList> ประกอบด้วยรายละเอียดเกี่ยวกับแหล่งข้อมูลหลัก (ไฟล์บันทึกเสียงหรือวิดีโอ) และแหล่งข้อมูลรอง (อาร์ตเวิร์กที่เกี่ยวข้อง) ที่จะนำส่ง ตัวอย่างเช่น ในอัลบั้มเสียงที่มีแทร็ก 10 รายการจะมีการอ้างอิงแหล่งข้อมูล A1-A10 เป็นไฟล์บันทึกเสียงและ A11 เป็นภาพปกอัลบั้ม YouTube จะใช้ภาพปกอัลบั้มเป็นองค์ประกอบภาพหลักในแทร็กภาพที่สร้างขึ้นสำหรับการบันทึกเสียงจากอัลบั้มนี้ ฟีด Single Resource Release ไม่ควรมีภาพปกเพื่อให้สอดคล้องกับโปรไฟล์ DDEX

YouTube ไม่รองรับข้อมูลเมตาสำหรับแต่ละเขตแดนใน <ResourceList> หากข้อความมีข้อมูลเมตาหลายเวอร์ชันสำหรับแทร็กเดียว YouTube จะใช้เฉพาะเวอร์ชันแรกที่ปรากฏในข้อความ

องค์ประกอบที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ YouTube

ขยายส่วนด้านล่างเพื่อดูองค์ประกอบที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ YouTube แบบคร่าวๆ ดูตัวอย่างและข้อมูลโดยละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ส่วนที่เกี่ยวข้องในหน้านี้

องค์ประกอบที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ YouTube

องค์ประกอบต่อไปนี้เป็นส่วนหนึ่งของเนมสเปซที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ YouTube

ไฟล์บันทึกเสียง

<SoundRecordingId> [...]  <ProprietaryId Namespace="YOUTUBE:SR_CUSTOM_ID">sound_recording_id_1234</ProprietaryId>

 <ProprietaryId Namespace="YOUTUBE:SR_ASSET_ID">A222222222222222</ProprietaryId>

 <ProprietaryId Namespace="YOUTUBE:SR_ASSET_LABEL">sr_asset_label</ProprietaryId> [...] </SoundRecordingId>

แทร็กภาพ

<SoundRecordingId> [...]  <ProprietaryId Namespace="YOUTUBE:AT_CUSTOM_ID">art_track_id_1234</ProprietaryId>

 <ProprietaryId Namespace="YOUTUBE:AT_ASSET_LABEL">at_asset_label</ProprietaryId> [...] </SoundRecordingId>

มิวสิกวิดีโอ

<VideoId> [...]  <ProprietaryId Namespace="YOUTUBE:MV_CUSTOM_ID">music_video_id_1234</ProprietaryId>

 <ProprietaryId Namespace="YOUTUBE:MV_ASSET_ID">A333333333333333</ProprietaryId>

 <ProprietaryId Namespace="YOUTUBE:MV_ASSET_LABEL">mv_asset_label1</ProprietaryId>

 <ProprietaryId Namespace="YOUTUBE:VIDEO_ID">9bZkp7q19f0</ProprietaryId>

 <ProprietaryId Namespace="YOUTUBE:CHANNEL_ID">MyChannel</ProprietaryId> [...] </VideoId>

วิดีโอบนเว็บ

<VideoId> [...]  <ProprietaryId Namespace="YOUTUBE:WEB_CUSTOM_ID">web_video_id_1234</ProprietaryId>

 <ProprietaryId Namespace="YOUTUBE:Web_ASSET_ID">A222222222222222 </ProprietaryId>

 <ProprietaryId Namespace="YOUTUBE:WEB_ASSET_LABEL">web_asset_label1</ProprietaryId>

 <ProprietaryId Namespace="YOUTUBE:VIDEO_ID">9bZkp7q19f0</ProprietaryId>

 <ProprietaryId Namespace="YOUTUBE:CHANNEL_ID">MyChannel</ProprietaryId> [...] </VideoId>

เพลย์ลิสต์

<CollectionId> [...] <ProprietaryId Namespace="YOUTUBE:PLAYLIST_ID">PLONRDPtQh-FLMXFMM- SJHySwjpidVXmzw</ProprietaryId> [...] </CollectionId>

แหล่งข้อมูลสำหรับไฟล์บันทึกเสียง

รหัสไฟล์บันทึกเสียง

YouTube กำหนดให้องค์ประกอบ <SoundRecording> ทุกรายการต้องมีรหัส ISRC ที่ถูกต้อง หากติดตามการบันทึกเสียงโดยใช้รหัสที่เป็นกรรมสิทธิ์ด้วย คุณจะใส่องค์ประกอบ <ProprietaryId> เป็นองค์ประกอบข้างเคียงลงในองค์ประกอบ <ISRC> ภายใน <SoundRecordingId> ได้ รูปแบบขององค์ประกอบ <ProprietaryId> มีลักษณะดังนี้

<SoundRecordingId>

                <ISRC>USRE10400888</ISRC>

                <ProprietaryId Namespace="DPID:your_DPid">custom_id_1234</ProprietaryId>

          </SoundRecordingId>

คุณต้องระบุทั้ง DDEX Party ID (เนมสเปซ) และรหัสที่เป็นกรรมสิทธิ์สำหรับแทร็ก YouTube จะจัดเก็บค่ารหัสกรรมสิทธิ์ไว้ในช่อง custom_id ของเนื้อหาการบันทึกเสียง (สำหรับการนำส่ง Content ID) และเนื้อหาแทร็กภาพ (สำหรับการนำส่งไปที่ YouTube Premium) ตัวอย่างเช่น XML ด้านบนจะแสดงผลลัพธ์เป็นเนื้อหาที่มี ISRC เป็น USRE10400888 และค่า custom_id เป็น custom_id_1234

หากต้องการเพิ่มค่า custom_id อื่นลงในเนื้อหาการบันทึกเสียงและแทร็กภาพ ให้ใช้เนมสเปซ "YOUTUBE:SR_CUSTOM_ID" และ "YOUTUBE:AT_CUSTOM_ID" ที่เฉพาะเจาะจงดังนี้

<SoundRecordingId>

                <ISRC>USRE10400888</ISRC>

                <!--- ตั้งรหัสที่กำหนดเองให้เนื้อหาการบันทึกเสียง -->

                <ProprietaryId

                Namespace="YOUTUBE:SR_CUSTOM_ID">sound_recording_id_1234</ProprietaryId>

                <!--- ตั้งรหัสที่กำหนดเองให้เนื้อหาแทร็กภาพ -->

                <ProprietaryId

                Namespace="YOUTUBE:AT_CUSTOM_ID">art_track_id_1234</ProprietaryId>

          </SoundRecordingId>

หากส่งข้อมูลอัปเดตไปยังเนื้อหาการบันทึกเสียงที่มีอยู่แล้ว ให้ระบุเนื้อหาดังกล่าวด้วยรหัสเนื้อหาโดยใช้เนมสเปซ “YOUTUBE:SR_ASSET_ID” ที่เฉพาะเจาะจงดังนี้

<SoundRecordingId>

                <ISRC>USRE10400888</ISRC>

                <!--- ระบุเนื้อหาการบันทึกเสียงที่จะได้รับการอัปเดตโดยใช้รหัสเนื้อหา -->

                <ProprietaryId 

                Namespace="YOUTUBE:SR_ASSET_ID">A111111111111111</ProprietaryId>

          </SoundRecordingId>

หากต้องการเพิ่มป้ายกำกับเนื้อหาให้เนื้อหาการบันทึกเสียงและแทร็กภาพ ให้ใช้เนมสเปซ ”YOUTUBE:SR_ASSET_LABEL” และ ”YOUTUBE:AT_ASSET_LABEL” ที่เฉพาะเจาะจงดังนี้

<SoundRecordingId>

                <ISRC>USRE10400888</ISRC>

                <!--- เพิ่มป้ายกำกับเนื้อหา 2 รายการให้เนื้อหาการบันทึกเสียง -->

                <ProprietaryId

                Namespace="YOUTUBE:SR_ASSET_LABEL">sr_asset_label1</ProprietaryId>

                <ProprietaryId

                Namespace="YOUTUBE:SR_ASSET_LABEL">sr_asset_label2</ProprietaryId>

                <!--- เพิ่มป้ายกำกับเนื้อหา 1 รายการให้เนื้อหาแทร็กภาพ -->

                <ProprietaryId

                Namespace="YOUTUBE:AT_ASSET_LABEL">at_asset_label</ProprietaryId>

          </SoundRecordingId>

ข้อมูลเมตาของไฟล์บันทึกเสียง

โปรดอ่านแนวทางในการสร้างข้อมูลเมตาของไฟล์บันทึกเสียงได้ที่ Music Metadata Style Guide จาก Music Business Association ข้อมูลเมตาจากแท็ก <SoundRecording> จะใช้สำหรับกระบวนการต่อไปนี้

การนำส่ง Content ID: ข้อมูลเมตาที่จัดเก็บไว้ในเนื้อหาการบันทึกเสียง
การนำส่งข้อมูลไปยัง YouTube Premium: การสร้างแทร็กภาพและข้อมูลเมตาที่จัดเก็บไว้ในเนื้อหาแทร็กภาพ

การเป็นเจ้าของไฟล์บันทึกเสียง

ระบบจะรับข้อมูลการเป็นเจ้าของไฟล์บันทึกเสียงจากแท็ก <RightsController> ใต้องค์ประกอบ <SoundRecording> แท็ก <RightsController> จะระบุเขตแดนที่คุณเป็นเจ้าของสิทธิ์ในการบันทึกเสียงดังกล่าวแต่เพียงผู้เดียวตามมาตรฐาน DDEX ซึ่งจะแยกจากดีลที่ได้ให้ไว้ อย่างไรก็ตามคุณควรมอบดีล Content ID เฉพาะในเขตแดนที่คุณเป็นเจ้าของสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว

หากต้องการเพิ่มการเป็นเจ้าของลงในเนื้อหาการบันทึกเสียง คุณจะต้องส่งฟีด Single Resource Release หรือฟีด Audio Album ที่มี YouTube_ContentID เป็น MessageRecipient

ระบบจะนำการเป็นเจ้าของไฟล์บันทึกเสียงไปใช้โดยใช้แท็ก <RightsController> ใต้องค์ประกอบ <SoundRecording> โดย <PartyId> ต้องตรงกันทุกประการกับแท็ก <MessageSender> (หรือแท็ก <SentOnBehalfOf> หากมีให้)

ตัวอย่าง XML ด้านล่างระบุว่าค่ายเพลง ABC เป็นเจ้าของไฟล์บันทึกเสียงในแอฟริกาใต้

<ResourceList>

              <SoundRecording>

                  [...]

                  <ResourceReference>A1</ResourceReference>

                  [...]

                  <SoundRecordingDetailsByTerritory>

                      <!--ระบุเขตแดนที่ควรบังคับใช้

                      การเป็นเจ้าของ -->

                      <TerritoryCode>ZA</TerritoryCode>

                      [...]

                      <!-- ส่วนนี้จะเป็นตัวกำหนดการเป็นเจ้าของไฟล์บันทึกเสียง -->

                      <RightsController>

                          <PartyName>

                              <FullName>ค่ายเพลง ABC</FullName>

                          </PartyName>

                          <PartyId>PADPIDAZZZZXXXXXXU</PartyId>

                          <RightsControllerRole>RightsController</RightsControllerRole>

                          <RightSharePercentage>100.00</RightSharePercentage>

                      </RightsController>

                  [...]

                  </SoundRecordingDetailsByTerritory>

              [...]

              </SoundRecording>

          </ResourceList>

การเป็นเจ้าของแทร็กภาพ

แทร็กภาพนั้นสร้างขึ้นตามสิทธิ์สตรีมมิงที่ได้รับอนุญาต (ไม่ใช่สิทธิ์เฉพาะตัว) ดังนั้น ระบบจะไม่นำเนื้อหาแทร็กภาพมาใช้กับ Content ID และจะสรุปการเป็นเจ้าของเนื้อหาแทร็กภาพจากดีล โดยละเว้นองค์ประกอบ <RightsController> ในฟีดที่สร้างเฉพาะแทร็กภาพ

แหล่งข้อมูลสำหรับมิวสิกวิดีโอ

ประเภทวิดีโอ

คุณกำหนดประเภทวิดีโอได้โดยใช้ <VideoType> ประเภทมิวสิกวิดีโอที่ได้รับอนุญาตมีดังนี้

LongFormMusicalWorkVideo
ShortFormMusicalWorkVideo

รหัสมิวสิกวิดีโอ

YouTube กำหนดให้องค์ประกอบ <Video> ของมิวสิกวิดีโอทุกรายการต้องมีรหัส ISRC ที่ถูกต้อง รหัสนี้ต้องแตกต่างจากรหัสที่ใช้สำหรับไฟล์บันทึกเสียงตามหลักเกณฑ์ IFPI หากติดตามแหล่งข้อมูลสำหรับวิดีโอโดยใช้รหัสที่เป็นกรรมสิทธิ์ด้วย คุณจะใส่องค์ประกอบ <ProprietaryId> เป็นองค์ประกอบข้างเคียงลงในองค์ประกอบ <ISRC> ภายใน <VideoId> ได้ รูปแบบขององค์ประกอบ <ProprietaryId> มีลักษณะดังนี้

<VideoId>

                    <ISRC>USRE10400889</ISRC>

                    <ProprietaryId Namespace="DPID:your_DPid">custom_id_1234</ProprietaryId>

              </VideoId>

YouTube จัดเก็บค่ารหัสที่เป็นกรรมสิทธิ์ในช่อง custom_id ของเนื้อหามิวสิกวิดีโอ (สำหรับการนำส่ง Content ID) ตัวอย่างเช่น XML ด้านบนจะแสดงผลลัพธ์เป็นเนื้อหามิวสิกวิดีโอที่มี ISRC เป็น USRE10400889 และค่า custom_id เป็น custom_id_1234

หากต้องการเพิ่มค่า custom_id ให้เนื้อหามิวสิกวิดีโอ ให้ใช้เนมสเปซ "YOUTUBE:MV_CUSTOM_ID" ที่เฉพาะเจาะจงดังนี้

<VideoId>

                    <ISRC>USRE10400889</ISRC>

                    <!--- ตั้งรหัสที่กำหนดเองให้เนื้อหามิวสิกวิดีโอ -->

                    <ProprietaryId

                    Namespace="YOUTUBE:MV_CUSTOM_ID">music_video_id_1234</ProprietaryId>

              </VideoId>

หากส่งข้อมูลอัปเดตไปยังเนื้อหามิวสิกวิดีโอที่มีอยู่แล้ว ให้ระบุเนื้อหาดังกล่าวด้วยรหัสเนื้อหาโดยใช้เนมสเปซ “YOUTUBE:MV_ASSET_ID” ที่เฉพาะเจาะจงดังนี้

<VideoId>

                    <ISRC>USRE10400889</ISRC>

                    <!--- ระบุเนื้อหามิวสิกวิดีโอที่จะได้รับการอัปเดตโดยใช้รหัสเนื้อหา -->

                    <ProprietaryId 

                    Namespace="YOUTUBE:MV_ASSET_ID">A222222222222222</ProprietaryId>

              </VideoId>

หากต้องการเพิ่มป้ายกำกับเนื้อหาให้เนื้อหามิวสิกวิดีโอ ให้ใช้เนมสเปซ "YOUTUBE: MV_ASSET_LABEL" ที่เฉพาะเจาะจงดังนี้

<VideoId>

                    <ISRC>USRE10400889</ISRC>

                    <!--- เพิ่มป้ายกำกับเนื้อหา 2 รายการให้เนื้อหามิวสิกวิดีโอ →

                    <ProprietaryId     

                    Namespace="YOUTUBE:MV_ASSET_LABEL">mv_asset_label1</ProprietaryId>

                    <ProprietaryId  

                    Namespace="YOUTUBE:MV_ASSET_LABEL">mv_asset_label2</ProprietaryId>

              </VideoId>

หากต้องการระบุช่องสำหรับอัปโหลดวิดีโอ ให้ใช้เนมสเปซ "YOUTUBE: CHANNEL_ID" ที่เฉพาะเจาะจงดังนี้

<VideoId>

                   <ISRC>USRE10400889</ISRC>

                   <!-- ระบุช่องที่ต้องการอัปโหลดวิดีโอใน  -->

                   <ProprietaryId Namespace="YOUTUBE:CHANNEL_ID">MyChannel</ProprietaryId>

              </VideoId>

หากไม่มีการระบุช่องในฟีด ระบบจะอัปโหลดวิดีโอในช่องเริ่มต้นที่กำหนดค่าไว้ในบัญชีของผู้อัปโหลด

หากต้องการอัปเดตวิดีโอที่อัปโหลดก่อนหน้านี้ ให้ใช้เนมสเปซ " YOUTUBE: VIDEO_ID" ที่เฉพาะเจาะจงดังนี้

<VideoId>

                    <ISRC>USRE10400889</ISRC>

                    <ProprietaryId Namespace="YOUTUBE:VIDEO_ID">9bZkp7q19f0</ProprietaryId>

              </VideoId>

หากต้องการอัปโหลดมิวสิกวิดีโอแบบไม่เป็นสาธารณะ ให้ใช้เนมสเปซ “YouTube: IS_DISCOVERBALE” ที่เฉพาะเจาะจงดังนี้

<VideoId>

                    <ISRC>USRE10400889</ISRC>

                    <ProprietaryId Namespace="YOUTUBE:IS_DISCOVERBALE">false</ProprietaryId>

              </VideoId>

ข้อมูลเมตาของมิวสิกวิดีโอ

โปรดอ่านแนวทางในการสร้างข้อมูลเมตาของมิวสิกวิดีโอใน DDEX ได้ที่ Music Metadata Style Guide จาก Music Business Association คุณใช้องค์ประกอบต่อไปนี้จากแท็ก <Video> เพื่อสร้างวิดีโอและข้อมูลเมตาบน YouTube ได้

วิดีโอ: ชื่อ	`<VideoDetailsByTerritory> [...] <Title TitleType="DisplayTitle"> <TitleText>A little bit of Foo</TitleText> </Title> [...] </VideoDetailsByTerritory>`
วิดีโอ: แท็ก/คีย์เวิร์ด	`<VideoDetailsByTerritory> [...] <Keywords>Keyword1</Keywords> <Keywords>Keyword2</Keywords> [...] </VideoDetailsByTerritory>`
เนื้อหา: เพลง	`<Video> [...] <ReferenceTitle> <TitleText>A little bit of Foo</TitleText> </ReferenceTitle> [...] </Video>`
เนื้อหา: ชื่อค่ายเพลง	`<VideoDetailsByTerritory> [...] <LabelName>Test Label</LabelName> [...] </VideoDetailsByTerritory>`
เนื้อหา: ศิลปิน	`<VideoDetailsByTerritory> [...] <DisplayArtist SequenceNumber="1"> <PartyName> <FullName>Jonny and the Føøbars</FullName> </PartyName> <ArtistRole>MainArtist</ArtistRole> </DisplayArtist>` `<DisplayArtist SequenceNumber="2"> <PartyName> <FullName>Some Other Artist</FullName> </PartyName> <ArtistRole>MainArtist</ArtistRole> </DisplayArtist> [...] </VideoDetailsByTerritory>`
เนื้อหา: ประเภท	`<VideoDetailsByTerritory> [...] <Genre> <GenreText>ฮิปฮอป</GenreText> </Genre> [...] </VideoDetailsByTerritory>`

ระบบสร้างคำอธิบายวิดีโอจาก <Release> ไม่ใช่ <Video> ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ส่วนรายการการเผยแพร่

การเป็นเจ้าของมิวสิกวิดีโอ

ระบบจะรับข้อมูลการเป็นเจ้าของเนื้อหามิวสิกวิดีโอจากแท็ก <RightsController> ใต้องค์ประกอบ <Video> แท็ก <RightsController> จะระบุเขตแดนที่คุณเป็นเจ้าของสิทธิ์ในวิดีโอดังกล่าวแต่เพียงผู้เดียวตามมาตรฐาน DDEX ซึ่งจะแยกจากดีลที่ได้ให้ไว้ อย่างไรก็ตามคุณควรมอบดีล Content ID เฉพาะในเขตแดนที่คุณเป็นเจ้าของสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว

ระบบจะกำหนดการเป็นเจ้าของเนื้อหามิวสิกวิดีโอโดยใช้แท็ก <RightsController> ใต้องค์ประกอบ <Video> โดย <PartyId> ต้องตรงกันทุกประการกับแท็ก <MessageSender> (หรือแท็ก <SentOnBehalfOf> หากมีให้)

ตัวอย่าง XML ด้านล่างระบุว่าค่ายเพลง ABC เป็นเจ้าของเนื้อหามิวสิกวิดีโอในแอฟริกาใต้

<ResourceList>

                  <Video>

                      [...]

                      <ResourceReference>A1</ResourceReference>

                      [...]

                      <VideoDetailsByTerritory>

                          <!--ระบุเขตแดนที่ควรบังคับใช้การเป็นเจ้าของ -->

                          <TerritoryCode>ZA</TerritoryCode>

                          [...]

                          <!-- ส่วนนี้จะเป็นตัวกำหนดการเป็นเจ้าของเนื้อหามิวสิกวิดีโอ -->

                        <RightsController>

                            <PartyName>

                                <FullName>ค่ายเพลง ABC</FullName>

                            </PartyName>

                            <PartyId>PADPIDAZZZZXXXXXXU</PartyId>

                            <RightsControllerRole>RightsController</RightsControllerRole>

                            <RightSharePercentage>100.00</RightSharePercentage>

                        </RightsController>

                    [...]

                    </VideoDetailsByTerritory>

                [...]

                </Video>

            </ResourceList>

แหล่งข้อมูลสำหรับวิดีโอบนเว็บ

ประเภทวิดีโอ

คุณกำหนดประเภทวิดีโอได้โดยใช้ <VideoType> ประเภทวิดีโอบนเว็บที่ได้รับอนุญาตมีดังนี้

วิดีโอขนาดยาวที่ไม่ใช่เพลง
วิดีโอขนาดสั้นที่ไม่ใช่เพลง

รหัสวิดีโอบนเว็บ

หากติดตามแหล่งข้อมูลสำหรับวิดีโอโดยใช้รหัสที่เป็นกรรมสิทธิ์ คุณจะใส่องค์ประกอบ <ProprietaryId> เป็นองค์ประกอบข้างเคียงลงในองค์ประกอบ <ISRC> ภายใน <VideoId> ได้ รูปแบบขององค์ประกอบ <ProprietaryId> มีลักษณะดังนี้

<VideoId>

                        <ProprietaryId Namespace="DPID:your_DPid">custom_id_1234</ProprietaryId>

                  </VideoId>

YouTube จัดเก็บค่ารหัสที่เป็นกรรมสิทธิ์ในช่อง custom_id ของเนื้อหาวิดีโอบนเว็บ (สำหรับการนำส่ง Content ID) ตัวอย่างเช่น XML ด้านบนจะแสดงผลลัพธ์เป็นเนื้อหาบนเว็บที่มีค่า custom_id เป็น custom_id_1234

หากต้องการเพิ่มค่า custom_id ให้เนื้อหาบนเว็บ ให้ใช้เนมสเปซ "YOUTUBE:WEB_CUSTOM_ID" ที่เฉพาะเจาะจงดังนี้

<VideoId>

                        <!--- ตั้งรหัสที่กำหนดเองให้เนื้อหาบนเว็บ -->

                        <ProprietaryId Namespace="YOUTUBE:WEB_CUSTOM_ID">web_video_id_1234</ProprietaryId>

                  </VideoId>

หากส่งข้อมูลอัปเดตไปยังเนื้อหาที่มีอยู่แล้วบนเว็บ ให้ระบุเนื้อหาดังกล่าวด้วยรหัสเนื้อหาโดยใช้เนมสเปซ “YOUTUBE:WEB_ASSET_ID” ที่เฉพาะเจาะจงดังนี้

<VideoId>

                        <!--- ระบุเนื้อหาบนเว็บซึ่งจะได้รับการอัปเดตโดยใช้รหัสเนื้อหา -->

                        <ProprietaryId Namespace="YOUTUBE:Web_ASSET_ID">A222222222222222</ProprietaryId>

                  </VideoId>

หากต้องการเพิ่มป้ายกำกับเนื้อหาให้เนื้อหาบนเว็บ ให้ใช้เนมสเปซ "YOUTUBE:WEB_ASSET_LABEL" ที่เฉพาะเจาะจงดังนี้

<VideoId>

                        <!--- เพิ่มป้ายกำกับเนื้อหา 2 รายการให้เนื้อหาบนเว็บ →

                        <ProprietaryId     

                        Namespace="YOUTUBE:WEB_ASSET_LABEL">web_asset_label1</ProprietaryId>

                        <ProprietaryId  

                        Namespace="YOUTUBE:WEB_ASSET_LABEL">web_asset_label2</ProprietaryId>

                  </VideoId>

<VideoId>

                       <!-- ระบุช่องที่ต้องการอัปโหลดวิดีโอ  -->

                       <ProprietaryId Namespace="YOUTUBE:CHANNEL_ID">MyChannel</ProprietaryId>

                  </VideoId>

<VideoId>

                        <ProprietaryId  Namespace="YOUTUBE:VIDEO_ID">9bZkp7q19f0</ProprietaryId>

                  </VideoId>

ข้อมูลเมตาของวิดีโอบนเว็บ

คุณใช้องค์ประกอบต่อไปนี้จากแท็ก <Video> เพื่อสร้างวิดีโอและข้อมูลเมตาบน YouTube ได้

วิดีโอ: ชื่อ	`<VideoDetailsByTerritory> [...] <Title TitleType="DisplayTitle"> <TitleText>A little bit of Foo</TitleText> </Title> [...] </VideoDetailsByTerritory>`
วิดีโอ: แท็ก/คีย์เวิร์ด	`<VideoDetailsByTerritory> [...] <Keywords>Keyword1</Keywords> <Keywords>Keyword2</Keywords> [...] </VideoDetailsByTerritory>`

การเป็นเจ้าของวิดีโอบนเว็บ

ระบบจะรับข้อมูลการเป็นเจ้าของเนื้อหาบนเว็บจากแท็ก <RightsController> ใต้องค์ประกอบ <Video> แท็ก <RightsController> จะระบุเขตแดนที่คุณเป็นเจ้าของสิทธิ์ในวิดีโอดังกล่าวแต่เพียงผู้เดียวตามมาตรฐาน DDEX ซึ่งจะแยกจากดีลที่ได้ให้ไว้ อย่างไรก็ตามคุณควรมอบดีล Content ID เฉพาะในเขตแดนที่คุณเป็นเจ้าของสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว

ระบบจะกำหนดการเป็นเจ้าของเนื้อหาบนเว็บโดยใช้แท็ก <RightsController> ใต้องค์ประกอบ <Video> โดย <PartyId> ต้องตรงกันทุกประการกับแท็ก <MessageSender> (หรือแท็ก <SentOnBehalfOf> หากมีให้)

ตัวอย่าง XML ด้านล่างระบุว่าค่ายเพลง ABC เป็นเจ้าของเนื้อหาบนเว็บในแอฟริกาใต้

<ResourceList>

                      <Video>

                          [...]

                          <ResourceReference>A1</ResourceReference>

                          [...]

                          <VideoDetailsByTerritory>

                              <!--ระบุเขตแดนที่ควรบังคับใช้การเป็นเจ้าของ -->

                              <TerritoryCode>ZA</TerritoryCode>

                              [...]

                              <!-- ส่วนนี้จะเป็นตัวกำหนดการเป็นเจ้าของเนื้อหาบนเว็บ -->

                        <RightsController>

                            <PartyName>

                                <FullName>ค่ายเพลง ABC</FullName>

                            </PartyName>

                            <PartyId>PADPIDAZZZZXXXXXXU</PartyId>

                            <RightsControllerRole>RightsController</RightsControllerRole>

                            <RightSharePercentage>100.00</RightSharePercentage>

                        </RightsController>

                    [...]

                    </VideoDetailsByTerritory>

                [...]

                </Video>

            </ResourceList>

กำหนดผู้ชมของวิดีโอ

คุณจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลทางอินเทอร์เน็ตของเด็ก (Children’s Online Privacy Protection Act) และ/หรือกฎหมายอื่นๆ ไม่ว่าจะอาศัยอยู่ในประเทศใดก็ตาม และหากคุณสร้างเนื้อหาสำหรับเด็ก คุณจะต้องแจ้งให้เราทราบว่าวิดีโอสร้างมาเพื่อเด็กด้วย

ตั้งสถานะวิดีโอว่าสร้างมาเพื่อเด็กหรือไม่

หากต้องการอัปโหลดวิดีโอที่ไม่ใช่แทร็กภาพ (เช่น มิวสิกวิดีโอหรือวิดีโอบนเว็บ) เป็นวิดีโอที่สร้างมาเพื่อเด็กหรือไม่ได้สร้างมาเพื่อเด็ก ให้ใช้องค์ประกอบ <AvRating> กับ MadeForKids หรือ NotMadeForKids ตามรูปแบบต่อไปนี้

<VideoDetailsByTerritory> <TerritoryCode>Worldwide</TerritoryCode> [...] <AvRating> <RatingText>MadeForKids</RatingText> <RatingAgency Namespace="YOUTUBE">UserDefined</RatingAgency> </AvRating> [...] </VideoDetailsByTerritory>

ระบบอาจบังคับหรือไม่บังคับให้ระบุข้อมูลในฟิลด์นี้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับค่าเริ่มต้นของช่องที่คุณเลือกสำหรับช่องที่จะอัปโหลดวิดีโอ

ธงการตั้งสถานะสร้างมาเพื่อเด็กแบบไม่บังคับ

ระบบจะไม่บังคับให้ใช้ธงการตั้งสถานะสร้างมาเพื่อเด็ก หากช่องที่คุณกำลังอัปโหลดวิดีโอนั้นตั้งค่าเริ่มต้นดังต่อไปนี้

"ใช่ ตั้งค่าช่องนี้เป็นสร้างมาเพื่อเด็ก เพราะฉันอัปโหลดเนื้อหาที่สร้างมาเพื่อเด็กเสมอ"
"ไม่ ตั้งค่าช่องนี้เป็นไม่ได้สร้างมาเพื่อเด็ก เพราะฉันไม่เคยอัปโหลดเนื้อหาที่สร้างมาเพื่อเด็กเลย"

หมายเหตุ: นอกจากนี้ เราจะใช้แมชชีนเลิร์นนิงเพื่อช่วยในการระบุวิดีโอที่กำหนดเป้าหมายไปยังผู้ชมที่อายุน้อยอย่างชัดเจนอีกด้วย เราเชื่อว่าครีเอเตอร์จะตั้งสถานะเนื้อหาได้อย่างถูกต้อง แต่เราอาจลบล้างตัวเลือกการตั้งค่าผู้ชมของคุณหากตรวจพบข้อผิดพลาดหรือการละเมิด อย่างไรก็ตาม คุณไม่ควรพึ่งพาระบบของเราในการตั้งสถานะเนื้อหาแทนคุณ เนื่องจากระบบของเราอาจระบุเนื้อหาที่ FTC หรือหน่วยงานอื่นๆ พิจารณาว่าเป็นเนื้อหาที่สร้างมาเพื่อเด็กไม่ได้ หากไม่ได้ตั้งสถานะเนื้อหาเป็นสร้างมาเพื่อเด็กอย่างถูกต้อง คุณอาจได้รับผลทางกฎหมายหรือมีการดำเนินการบางอย่างกับคุณบน YouTube หากต้องการความช่วยเหลือในการระบุว่าเนื้อหาของคุณสร้างมาเพื่อเด็กหรือไม่ โปรดอ่านบทความนี้ในศูนย์ช่วยเหลือหรือติดต่อที่ปรึกษาด้านกฎหมาย

หากคุณกำหนดผู้ชมสำหรับวิดีโอแล้ว แต่ YouTube ตรวจพบข้อผิดพลาดหรือการละเมิด คุณใช้ปุ่ม “ส่งความคิดเห็น” เพื่อบอกให้เราทราบได้หากไม่เห็นด้วย

ต้องใช้ธงการตั้งสถานะสร้างมาเพื่อเด็ก

คุณต้องใช้ธงการตั้งสถานะสร้างมาเพื่อเด็ก หากช่องที่คุณกำลังอัปโหลดวิดีโอนั้นตั้งค่าเริ่มต้นเป็น

"ฉันต้องการตรวจสอบการตั้งค่านี้สำหรับวิดีโอทุกรายการ"

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร