การแจ้งเตือน

Users can now migrate Google Podcasts subscriptions to YouTube Music or to another app that supports OPML import. Learn more here

เข้าใจการใช้ตำแหน่งและจัดการตําแหน่งของคุณเมื่อค้นหาใน Google

เมื่อคุณใช้ Google เช่น Maps, Search หรือ Google Assistant ระบบจะใช้ตําแหน่งปัจจุบันของคุณเพื่อแสดงผลการค้นหาที่เป็นประโยชน์ยิ่งขึ้น เช่น หากคุณค้นหาร้านกาแฟ ก็น่าจะหมายถึงร้านที่อยู่ใกล้ๆ ตําแหน่งจะช่วยให้ระบบแสดงผลการค้นหาในบริเวณใกล้เคียงได้ แม้ว่าจะไม่มีการระบุตำแหน่งไว้ในการค้นหาก็ตาม

ตำแหน่งของคุณมาจากแหล่งที่มาที่หลากหลายซึ่งนำมาใช้ร่วมกันเพื่อประเมินตำแหน่งที่คุณอยู่ คุณอัปเดตการตั้งค่าตำแหน่งขณะใช้บริการของ Google เพื่อรับผลการค้นหาที่ต้องการและควบคุมความเป็นส่วนตัวในแบบที่เหมาะกับคุณได้

หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการทํางานของตําแหน่งก่อนที่จะเปลี่ยนการตั้งค่า ให้ดูข้อมูลเกี่ยวกับวิธีที่ Google ระบุตําแหน่งเมื่อคุณค้นหาที่ด้านล่าง

อัปเดตตำแหน่งเพื่อรับผลการค้นหาในพื้นที่ที่ดีขึ้น

หากคุณค้นหาสิ่งที่อยู่ใกล้เคียงแต่ไม่พบผลการค้นหาในพื้นที่ ให้ลองแก้ไขด้วยวิธีต่อไปนี้

  • ระบุตำแหน่งปัจจุบันในการค้นหา เช่น ร้านกาแฟแถวอารีย์
  • ตรวจสอบว่าอุปกรณ์ส่งตำแหน่งไปยัง Google เมื่อคุณค้นหา ทําตามขั้นตอนด้านล่างเพื่อจัดการการตั้งค่าตำแหน่งอุปกรณ์

คุณช่วยให้ Google แสดงผลการค้นหาที่ดีขึ้นจากบ้านหรือที่ทํางานได้เมื่อตั้งค่าต่อไปนี้

จัดการการตั้งค่าตำแหน่งอุปกรณ์

iPhone และ iPad จะส่งข้อมูลตําแหน่งไปยังแอปและเว็บไซต์ได้ หากบริการตําแหน่งเปิดอยู่และแอปกับเบราว์เซอร์มีสิทธิ์รับข้อมูลดังกล่าว คุณควบคุมได้ว่าแอปหรือเว็บไซต์ รวมถึง google.com จะเข้าถึงตําแหน่งได้หรือไม่โดยจัดการบริการตําแหน่งในการตั้งค่า

iPhone หรือ iPad อาจใช้ตําแหน่งที่แน่นอนหรือโดยประมาณกับเว็บไซต์หรือแอป หากคุณไม่เปิดสิทธิ์เข้าถึงตําแหน่งที่แน่นอน Google จะยังแสดงผลการค้นหาในพื้นที่ แต่อาจอยู่ห่างจากตําแหน่งที่คุณอยู่

สําคัญ: ก่อนที่คุณจะจัดการสิทธิ์ของแอปหรือเบราว์เซอร์ โปรดตรวจสอบว่าบริการตําแหน่งเปิดอยู่ใน iPhone หรือ iPad ดูวิธีเปิดหรือปิดบริการตําแหน่งใน iPhone หรือ iPad

จัดการสิทธิ์เข้าถึงตําแหน่ง

สําหรับเว็บไซต์

เมื่อเข้าชมเว็บไซต์ผ่านเว็บเบราว์เซอร์ เช่น Chrome หรือ Safari คุณจะเปิดหรือปิดสิทธิ์เข้าถึงตําแหน่งสําหรับเบราว์เซอร์และเว็บไซต์ที่ทํางานกับตําแหน่งอย่างเช่น google.com แยกกันได้

หากต้องการให้เว็บไซต์อย่างเช่น google.com มีสิทธิ์เข้าถึงตําแหน่ง ให้เปิดสิทธิ์เข้าถึงตําแหน่งสําหรับทั้งเบราว์เซอร์และเว็บไซต์

เปิดหรือปิดสิทธิ์เข้าถึงตําแหน่งสําหรับเบราว์เซอร์

คุณควบคุมได้ว่าจะให้เบราว์เซอร์ใช้ตําแหน่งได้ไหม

  1. ใน iPhone หรือ iPad ให้แตะการตั้งค่า การตั้งค่า จากนั้น ความเป็นส่วนตัว จากนั้น บริการตำแหน่ง
  2. แตะแอปเบราว์เซอร์ เช่น Chrome หรือเว็บไซต์ Safari
  3. เลือกการเข้าถึงตําแหน่งสําหรับแอปเบราว์เซอร์เป็นในระหว่างใช้แอป ถามครั้งถัดไป หรือไม่เลย

เปิดหรือปิดสิทธิ์เข้าถึงตําแหน่งสําหรับเว็บไซต์

สมมติว่าเบราว์เซอร์ใช้ตําแหน่งได้ ให้กำหนดว่าเบราว์เซอร์จะส่งตําแหน่งไปยังเว็บไซต์ใดโดยเฉพาะ อย่างเช่น google.com ได้หรือไม่

  1. เปิด Safari ใน iPhone หรือ iPad แล้วไปที่ google.com
  2. ในแถบที่อยู่ทางด้านซ้ายบน ให้แตะการตั้งค่าเว็บไซต์ Aa หรือ ล็อก ล็อก จากนั้น การตั้งค่าเว็บไซต์ จากนั้น ตําแหน่ง ในเบราว์เซอร์อื่นๆ คุณอาจต้องตรวจสอบเมนูการตั้งค่า
  3. แตะถาม ปฏิเสธ หรืออนุญาต

สําคัญ: บางครั้งเบราว์เซอร์อาจใช้เวลานานกว่าจะได้รับตําแหน่งปัจจุบันของอุปกรณ์ เพื่อแสดงผลการค้นหาอย่างรวดเร็ว Google.com อาจใช้ตําแหน่งของอุปกรณ์จากครั้งล่าสุดที่คุณใช้ Google ตําแหน่งนี้จะเก็บอยู่ในคุกกี้ที่ตั้งค่าให้หมดอายุหลังจากผ่านไป 6 ชั่วโมง ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดการคุกกี้ใน Safari หรือการจัดการคุกกี้ใน Chrome

สําหรับแอป

หากกำลังค้นหาโดยใช้แอป เช่น แอป Google หรือ Google Maps คุณควบคุมได้ว่าจะให้แอปใช้ตําแหน่งหรือไม่โดยใช้การตั้งค่าบริการตําแหน่งของ iPhone หรือ iPad

เปิดตําแหน่งสําหรับแอปที่คุณใช้อยู่หากต้องการรับผลการค้นหาในบริเวณใกล้เคียงที่ดีขึ้น

  1. ใน iPhone หรือ iPad ให้แตะการตั้งค่าการตั้งค่า จากนั้น ความเป็นส่วนตัว จากนั้น บริการตำแหน่ง
  2. แตะแอปที่คุณใช้ในการค้นหา เช่น แอป Google Google Search หรือ Google Maps Google Maps
  3. เลือกการเข้าถึงตําแหน่งสําหรับแอปเป็นตลอดเวลา ในระหว่างใช้แอป ถามครั้งถัดไป หรือไม่เลย

วิธีที่ Google ระบุตําแหน่งเมื่อคุณค้นหา

เมื่อคุณใช้ผลิตภัณฑ์ Google เช่น Maps, Search หรือ Google Assistant ระบบจะประมาณตําแหน่งปัจจุบันของคุณจากแหล่งที่มาหลายแห่ง (ขึ้นอยู่กับความพร้อมใช้งาน)

สำคัญ: แหล่งที่มาของตำแหน่งเหล่านี้โดยส่วนใหญ่ควบคุมได้โดยใช้สิทธิ์ของอุปกรณ์ การตั้งค่าบัญชี หรือการตั้งค่าอื่นๆ ดูข้อมูลเพิ่มเติมด้านล่างเกี่ยวกับวิธีที่ตัวเลือกต่างๆ มีผลต่อความเป็นส่วนตัวและตำแหน่ง

แหล่งที่มาสำหรับระบุตำแหน่งเมื่อคุณค้นหา

เมื่อใช้ Google คุณสามารถดูตําแหน่งโดยประมาณได้ที่ด้านล่างของหน้าผลการค้นหา

ตำแหน่งอุปกรณ์ของคุณ

อุปกรณ์หลายประเภท เช่น โทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ จะค้นหาตำแหน่งที่แน่นอนได้ ตำแหน่งที่แน่นอนเช่นนี้มีประโยชน์ในแอปอย่าง Google Maps เพื่อแสดงเส้นทางหรือช่วยให้คุณได้รับผลการค้นหาในบริเวณใกล้เคียงที่เป็นประโยชน์ เช่น การค้นหาบางรายการที่อาศัยตำแหน่งของคุณในแบบที่แม่นยำมากขึ้น เช่น ร้านกาแฟ ป้ายรถเมล์ หรือตู้เอทีเอ็ม มักจะให้ผลการค้นหาที่เป็นประโยชน์มากขึ้นเมื่อมีการเปิดใช้สิทธิ์เข้าถึงตำแหน่ง

ขั้นตอนข้างต้นเป็นวิธีจัดการการตั้งค่าตำแหน่งตามอุปกรณ์เพื่อเลือกว่าจะใช้บริการตำแหน่งเมื่อค้นหาหรือไม่ โดยทั่วไปแล้วคุณจะเปิดหรือปิดตำแหน่งในแอปและเว็บไซต์แต่ละรายการ รวมถึงในตัวอุปกรณ์ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ที่ใช้

หากใช้อุปกรณ์สมาร์ทโฮม เช่น Nest Audio หรือ Nest Hub คุณตั้งค่าตำแหน่งของอุปกรณ์ได้ในแอป Google Home

หากมีการใช้ตำแหน่งอุปกรณ์เพื่อช่วยให้ได้รับผลการค้นหา ข้อมูลตำแหน่งที่ด้านล่างของหน้าผลการค้นหาจะแสดงข้อความว่าจากอุปกรณ์ของคุณ

สําคัญ: บางครั้งเบราว์เซอร์อาจใช้เวลานานกว่าคุณจะได้รับตําแหน่งปัจจุบันของอุปกรณ์ เพื่อแสดงผลการค้นหาอย่างรวดเร็ว Google.com อาจใช้ตําแหน่งของอุปกรณ์จากครั้งล่าสุดที่คุณใช้ Google ตําแหน่งนี้จะเก็บอยู่ในคุกกี้ที่ตั้งค่าให้หมดอายุหลังจากผ่านไป 6 ชั่วโมง ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดการคุกกี้

ที่อยู่บ้านหรือที่ทำงานจากบัญชี Google ของคุณ

หากตั้งค่าที่อยู่บ้านหรือที่ทำงานไว้ ระบบอาจใช้ที่อยู่ดังกล่าวในการประมาณตำแหน่งเมื่อมีแนวโน้มว่าคุณกำลังอยู่ที่บ้านหรือที่ทำงาน

คุณแก้ไขที่อยู่บ้านและที่ทำงานในบัญชี Google ได้

หากมีการใช้ตำแหน่งของบ้านหรือที่ทำงานเพื่อช่วยให้ได้รับผลการค้นหา ข้อมูลตำแหน่งที่ด้านล่างของหน้าผลการค้นหาจะแสดงข้อความว่าอิงตามสถานที่ของคุณ (บ้าน) หรือ (ที่ทำงาน)

กิจกรรมที่ทำก่อนหน้านี้ในเว็บไซต์และแอปของ Google

หากคุณลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google และเปิดกิจกรรมบนเว็บและแอปไว้ ระบบอาจบันทึกกิจกรรมที่ทำในเว็บไซต์ แอป และบริการของ Google ไว้ในบัญชี Google กิจกรรมบางรายการอาจมีข้อมูลพื้นที่ทั่วไปที่คุณเคยอยู่ในขณะนั้น ระบบอาจจัดเก็บตำแหน่งที่แน่นอนไว้ในกิจกรรมหากกิจกรรมนั้นมีการใช้ตำแหน่งที่แน่นอน

ในบางกรณี อาจมีการใช้พื้นที่ที่คุณเคยค้นหาในการประมาณตําแหน่งที่เกี่ยวข้องสำหรับการค้นหาของคุณ ตัวอย่างเช่น หากคุณค้นหาร้านกาแฟแถวอารีย์ แล้วค้นหาร้านทำเล็บต่อ Google อาจแสดงร้านทำเล็บแถวอารีย์

คุณดูและควบคุมกิจกรรมบนเว็บและแอปได้ที่ myactivity.google.com ดูวิธีดูและควบคุมกิจกรรมในบัญชี

หากคุณไม่ได้ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google เราอาจจัดเก็บข้อมูลตําแหน่งบางอย่างของการค้นหาก่อนหน้านี้ในอุปกรณ์ที่คุณใช้อยู่ เพื่อช่วยแสดงผลการค้นหาและคําแนะนําที่เกี่ยวข้องมากขึ้น หากการปรับแต่ง Search ปิดอยู่ Google จะไม่ใช้การค้นหาก่อนหน้านี้ในการประมาณตำแหน่ง ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีค้นหาและท่องเว็บแบบส่วนตัว

หากมีการใช้กิจกรรมก่อนหน้านี้เพื่อช่วยให้ได้รับผลการค้นหา ข้อมูลตำแหน่งที่ด้านล่างของหน้าผลการค้นหาจะแสดงข้อความว่า "อิงตามกิจกรรมที่ผ่านมา"

ที่อยู่ IP ของการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตเป็นผู้กําหนดที่อยู่ IP ซึ่งเรียกอีกอย่างว่าที่อยู่อินเทอร์เน็ตให้กับอุปกรณ์ของคุณ ที่อยู่นี้จำเป็นต่อการใช้อินเทอร์เน็ต ระบบจะใช้ที่อยู่ IP ในการเชื่อมต่ออุปกรณ์กับเว็บไซต์และบริการต่างๆ ที่คุณใช้

ที่อยู่ IP อิงจากภูมิศาสตร์คร่าวๆ ซึ่งหมายความว่าเว็บไซต์ที่คุณใช้ซึ่งรวมถึง google.com อาจได้รับข้อมูลเกี่ยวกับพื้นที่ทั่วไปของคุณ

หากมีการใช้ที่อยู่ IP ในการประมาณพื้นที่ทั่วไปที่คุณอยู่เพื่อแสดงผลการค้นหา ข้อมูลตำแหน่งที่ด้านล่างของหน้าผลการค้นหาจะแสดงข้อความว่าจากที่อยู่อินเทอร์เน็ตของคุณ

สำคัญ: อินเทอร์เน็ตจะใช้งานไม่ได้หากไม่มีที่อยู่ IP เมื่อคุณใช้เว็บไซต์ แอป หรือบริการต่างๆ เช่น Google โดยปกติแล้วเว็บไซต์เหล่านี้จะตรวจหาข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับตำแหน่งของคุณ

การควบคุมตำแหน่งและความเป็นส่วนตัว

เมื่อคุณค้นหาใน Google เราจะประมาณพื้นที่ทั่วไปที่คุณอยู่ขณะทำการค้นหาเสมอ การประมาณพื้นที่ทั่วไปที่คุณอยู่ช่วยให้ Google แสดงผลการค้นหาที่เกี่ยวข้องได้ รวมถึงรักษาบัญชีของคุณให้ปลอดภัยโดยการตรวจจับกิจกรรมที่ผิดปกติ เช่น การลงชื่อเข้าใช้จากเมืองใหม่

พื้นที่ทั่วไปมีขนาดใหญ่กว่า 3 ตร.กม. และมีผู้ใช้อย่างน้อย 1,000 คน จึงทำให้ไม่มีการระบุตัวคุณในพื้นที่ทั่วไปของการค้นหาและช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัว จากเกณฑ์นี้ ทำให้พื้นที่ทั่วไปนอกตัวเมืองมักจะมีพื้นที่ใหญ่กว่า 3 ตร.กม. เป็นอย่างมาก พื้นที่ทั่วไปโดยประมาณจะมาจากแหล่งที่มาของข้อมูลตําแหน่งซึ่งอธิบายไว้ในบทความนี้

หากคุณให้สิทธิ์เข้าถึงตำแหน่งแก่ google.com หรือแอป Google ในอุปกรณ์ เมื่อคุณทําการค้นหา Google จะใช้ตำแหน่งที่แน่นอนเพื่อแสดงผลการค้นหาที่ดีที่สุด ตำแหน่งที่แน่นอนหมายถึงตำแหน่งที่คุณอยู่ เช่น ณ ที่อยู่หนึ่งๆ

หากคุณตั้งค่าที่อยู่บ้านหรือที่ทำงานและ Google ประมาณว่าคุณอยู่ที่บ้านหรือที่ทำงาน ระบบจะใช้ที่อยู่ที่แน่นอนสำหรับการค้นหา

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
16463365996502060367
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
100334
false
false