คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการบังคับใช้หลักเกณฑ์ของชุมชน YouTube

หลักเกณฑ์ของชุมชน YouTube คืออะไร

เมื่อผู้ใช้คนหนึ่งเข้าร่วม YouTube ก็ถือว่าได้เข้าร่วมชุมชนของผู้คนจากทั่วโลกด้วย เราได้อธิบายหลักเกณฑ์ของชุมชนไว้อย่างละเอียด ซึ่งระบุสิ่งที่ไม่อนุญาตให้ทำใน YouTube เช่น เราไม่อนุญาตให้โพสต์หนังโป๊ การยั่วยุให้เกิดความรุนแรง การล่วงละเมิด หรือวาจาสร้างความเกลียดชัง การปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เหล่านี้ช่วยให้ YouTube มีชุมชนที่เติบโตก้าวหน้าต่อไปได้

ผู้ใดบ้างที่มีสิทธิ์แจ้งว่าเนื้อหาอาจละเมิดหลักเกณฑ์ของชุมชน YouTube

ผู้ใช้ทุกคนที่ลงชื่อเข้าสู่ระบบจะแจ้งว่าวิดีโอไม่เหมาะสมได้โดยคลิกจุด 3 จุดใกล้ๆ โปรแกรมเล่นวิดีโอแล้วเลือก “รายงาน” เจ้าหน้าที่ตรวจสอบของเราจะคอยตรวจสอบเนื้อหาที่มีการแจ้งว่าไม่เหมาะสมอย่างถี่ถ้วนทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อดูว่ามีการละเมิดหลักเกณฑ์ของชุมชน YouTube หรือไม่ หากพบว่าวิดีโอละเมิดนโยบายของเรา จะมีการนำวิดีโอออกหรือจำกัดวิดีโอ โดยเราจะแจ้งให้ครีเอเตอร์ทราบทางอีเมลและเปิดโอกาสให้ยื่นอุทธรณ์การตัดสินได้ (เว้นแต่การนำออกเป็นการดำเนินการบนพื้นฐานของความเป็นส่วนตัว)

ผู้ใช้เลือกเหตุผลอะไรได้บ้างเมื่อแจ้งว่าวิดีโออาจละเมิดหลักเกณฑ์ของชุมชน YouTube

หากต้องการแจ้งว่าวิดีโอหรือสตรีมแบบสดไม่เหมาะสม บุคคลทั่วไปต้องเลือกจากรายการเหตุผลที่วิดีโอละเมิดหลักเกณฑ์ของชุมชน เช่น เนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเพศ ส่งเสริมการก่อการร้าย หรือเนื้อหาแสดงความเกลียดชังหรือการละเมิด จากนั้นผู้ตรวจสอบที่เป็นเจ้าหน้าที่ของเราจะประเมินวิดีโอที่มีการแจ้งว่าไม่เหมาะสมว่าละเมิดหลักเกณฑ์ของชุมชน YouTube ด้วยหรือไม่ จะไม่พิจารณาเพียงแค่ตามเหตุผลที่ผู้รายงานปัญหาระบุไว้เท่านั้น เราจะนำวิดีโอที่ผู้ใช้แจ้งว่าไม่เหมาะสมออกหรือจำกัดวิดีโอดังกล่าวหากตรวจสอบเนื้อหาแล้วพบว่าละเมิดหลักเกณฑ์ของชุมชนจริงๆ เท่านั้น ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ผู้ใช้แจ้งว่าเนื้อหาใน YouTube ไม่เหมาะสม

จะเกิดอะไรขึ้นกับวิดีโอที่ละเมิดหลักเกณฑ์ของชุมชน YouTube

เราจะนำเนื้อหาที่ละเมิดหลักเกณฑ์ของชุมชนออกจากเว็บไซต์ ช่องจะได้รับคำเตือนในครั้งแรกที่โพสต์เนื้อหาที่ละเมิดหลักเกณฑ์ของเรา การละเมิดครั้งต่อไปจะส่งผลให้มีการออกประกาศเตือน ครีเอเตอร์มีสิทธิ์ยื่นอุทธรณ์ต่อการตัดสินของเราได้ (เว้นแต่การนำวิดีโอออกเป็นการดำเนินการบนพื้นฐานของความเป็นส่วนตัวหลังจากการตรวจสอบภายในที่ถี่ถ้วนแล้ว) ซึ่งจะทำให้มีการตรวจสอบอีกครั้งและการตัดสินครั้งสุดท้าย

จะเกิดอะไรขึ้นหากช่องได้รับประกาศเตือน

หากช่องของครีเอเตอร์ได้รับประกาศเตือนการละเมิดหลักเกณฑ์ของชุมชน ครีเอเตอร์จะได้รับอีเมลและเห็นการแจ้งเตือนในการตั้งค่าช่อง พร้อมข้อมูลเกี่ยวกับเหตุผลในการนำเนื้อหาออก นอกจากนี้ ครีเอเตอร์ยังจะเห็นการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการนำเนื้อหาออกในครั้งถัดไปที่เข้าถึงช่อง YouTube ของตนในคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปหรือแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ ในระหว่างที่ได้รับประกาศเตือนครั้งแรกในช่อง ครีเอเตอร์จะโพสต์เนื้อหาใหม่ไม่ได้เป็นเวลา 1 สัปดาห์ ซึ่งรวมถึงวิดีโอ สตรีมแบบสด เรื่องราว ภาพขนาดย่อที่กำหนดเอง และโพสต์ หลังจากการประกาศเตือนครั้งที่ 2 ครีเอเตอร์จะโพสต์เนื้อหาใดๆ ไม่ได้เลยเป็นเวลา 2 สัปดาห์ประกาศเตือนจะคงอยู่ในช่องเป็นเวลา 90 วัน หากช่องของครีเอเตอร์ได้รับประกาศเตือนการละเมิดหลักเกณฑ์ของชุมชน 3 ครั้งภายใน 90 วัน ช่องจะถูกยุติการดำเนินงาน ครีเอเตอร์จะยื่นอุทธรณ์การประกาศเตือนแต่ละครั้งหรือยื่นอุทธรณ์การสิ้นสุดการดำเนินงานของช่องก็ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติม

YouTube กำหนดเหตุผลในการนำวิดีโอออกว่าอย่างไร

เมื่อทีมผู้ตรวจสอบที่ผ่านการฝึกอบรมของเราตัดสินให้วิดีโอที่แจ้งว่าไม่เหมาะสมละเมิดหลักเกณฑ์ของชุมชน ผู้ตรวจสอบจะกำหนดเหตุผลในการนำวิดีโอออกโดยอิงตามนโยบายและเกณฑ์การบังคับใช้ของเรา ในกรณีที่วิดีโอละเมิดหลักเกณฑ์มากกว่า 1 ข้อ ผู้ตรวจสอบจะกำหนดเหตุผลในการนำออกโดยอิงตามการละเมิดนโยบายที่ร้ายแรงมากที่สุด เมื่อมีการละเมิดที่ร้ายแรงหลายรายการ ผู้ตรวจสอบจะกำหนดเหตุผลในการนำออกโดยขึ้นอยู่กับการละเมิดนโยบายที่แสดงให้เห็นถึงเจตนาของผู้อัปโหลดมากที่สุดหรือชัดเจนที่สุด หากวิดีโอถูกนำออกโดยเทคโนโลยีของเราเนื่องจากละเมิดนโยบายเกี่ยวกับสแปม วิดีโอจะถูกกำหนดให้อยู่ในหมวดหมู่สแปม เมื่อระบบนำวิดีโอออกเนื่องจากมีการอัปโหลดซ้ำของเนื้อหาที่ตรวจสอบและตัดสินแล้วว่าละเมิดนโยบาย เราจะกำหนดเหตุผลในการนำออกเป็นเหตุผลเดียวกับวิดีโอต้นฉบับ (หากมี) ในกรณีอื่นๆ เมื่อระบบอัตโนมัติของเราแจ้งว่าเนื้อหาไม่เหมาะสม ผู้ตรวจสอบจะประเมินเนื้อหาและกำหนดเหตุผลในการนำออก

เหตุใดวิดีโอบางรายการจึงไม่มีเหตุผลในการนำออก

ในประวัติการบังคับใช้ของ YouTube ก่อนหน้านี้ ผู้ตรวจสอบจะบันทึกเฉพาะการดำเนินการเกี่ยวกับการบังคับใช้ที่จำเป็น (เช่น การประกาศเตือนหรือหน้ายืนยันอายุ) เมื่อตรวจสอบวิดีโอ ไม่ใช่เหตุผลในการนำออก ปัจจุบันเมื่อเทคโนโลยีของเราป้องกันการอัปโหลดซ้ำของวิดีโอที่มีการละเมิดที่เหมือนกันทุกประการ หรือเมื่อผู้ตรวจสอบใช้เครื่องมือการบังคับใช้แบบเก่าเพื่อนำวิดีโอออก จะไม่มีการกำหนดเหตุผลที่เกี่ยวกับนโยบาย เราจึงจัดประเภทวิดีโอเหล่านี้ไว้ในหมวดหมู่ “อื่นๆ” โดยกำลังพยายามลดจำนวนเนื้อหาในหมวดหมู่นี้ รวมถึงการกำหนดเหตุผลเกี่ยวกับนโยบายสำหรับการนำเนื้อหาเก่าออก  

คุณจะระบุประเทศ/ภูมิภาคที่อัปโหลดวิดีโอได้อย่างไร

ประเทศที่อัปโหลดจะอิงจากที่อยู่ IP ของผู้อัปโหลดในขณะที่อัปโหลดวิดีโอดังกล่าว ที่อยู่ IP มักจะตรงกับตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ของผู้อัปโหลด เว้นว่าจะใช้เครือข่ายส่วนตัวเสมือน (VPN) หรือพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์ ดังนั้นข้อมูลนี้จึงไม่ได้แยกแยะให้ทราบว่ามีการระบุตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ของผู้อัปโหลดในประเทศ/ภูมิภาคดังกล่าวหรือใช้ VPN หรือพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์ในประเทศ/ภูมิภาคนั้นๆ โปรดทราบว่าที่อยู่ IP ของผู้อัปโหลดไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับตำแหน่งที่มีการรับชมวิดีโอหรือตำแหน่งที่แจ้งว่าวิดีโอไม่เหมาะสม (หากแจ้งโดยผู้ใช้หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการแจ้งเตือนเนื้อหา) 
 

หลักเกณฑ์ของชุมชนออกแบบมาให้บังคับใช้ได้ในระดับสากล ที่อยู่ IP ของผู้อัปโหลดจะไม่ส่งผลต่อการตัดสินใจนำเนื้อหาออกเนื่องจากมีการละเมิดนโยบาย สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับการนำเนื้อหาออกตามกฎหมายในท้องถิ่น โปรดอ่านรายงานเพื่อความโปร่งใสเกี่ยวกับคำขอของรัฐบาลให้นำเนื้อหาออกของ Google

สาเหตุของการลบช่องออกคืออะไร

การลบช่องออกเป็นผลมาจากการละเมิดนโยบายตามประกาศเตือนการละเมิดหลักเกณฑ์ของชุมชน 3 ครั้ง การละเมิดขั้นร้ายแรง 1 ครั้ง (เช่น พฤติกรรมแสวงหาประโยชน์จากผู้อื่น) หรือบัญชีที่มีไว้เพื่อการละเมิดนโยบาย (เช่น การแอบอ้างบุคคลอื่น) เมื่อช่องถูกยุติการดำเนินงาน วิดีโอทั้งหมดในช่องจะถูกนำออก เมื่อบัญชีถูกยุติการใช้งาน เจ้าของบัญชีจะได้รับอีเมลอธิบายเหตุผลในการยุติดังกล่าว หากผู้ใช้เชื่อว่าบัญชีของตนถูกยุติการใช้งานด้วยความผิดพลาด ก็ยื่นอุทธรณ์ต่อคำตัดสินได้

เนื้อหาที่มีการแจ้งว่าไม่เหมาะสมจะถูกนำออกโดยอัตโนมัติเลยหรือไม่

YouTube จะดำเนินการกับวิดีโอที่ผู้ใช้แจ้งว่าไม่เหมาะสมหลังจากการตรวจสอบโดยเจ้าหน้าตรวจสอบที่ผ่านการฝึกอบรมของเราแล้วเท่านั้น เพื่อดูว่าเนื้อหาละเมิดนโยบายจริงและปกป้องเนื้อหาที่จัดทำขึ้นเพื่อการศึกษา สารคดี วิทยาศาสตร์ หรือศิลปะ แต่เราใช้เทคโนโลยีเพื่อระบุและนำสแปมออกโดยอัตโนมัติด้วย รวมถึงการอัปโหลดซ้ำของเนื้อหาที่ตรวจสอบและตัดสินแล้วว่าละเมิดนโยบายของเรา นอกจากนี้ ในบางกรณีเราอาจไม่นำวิดีโอออกเลย แต่อาจปิดใช้ฟีเจอร์บางอย่าง เช่น การแสดงความคิดเห็นหรือจำกัดผู้ชมเป็นผู้ใช้ที่ลงชื่อเข้าใช้และมีอายุ 18 ปีขึ้นไปเท่านั้น เราจะแจ้งให้ครีเอเตอร์ทราบเกี่ยวกับการบังคับใช้ในวิดีโอของตน และครีเอเตอร์จะยื่นอุทธรณ์ได้หากเชื่อว่าคำตัดสินของเราไม่ถูกต้อง 

YouTube จะจำกัดวิดีโอแทนการนำวิดีโอออกด้วยวิธีใดบ้าง

  • จำกัดอายุผู้ชม วิดีโอบางส่วนไม่ได้ละเมิดนโยบายแต่อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ชมทุกวัย ในกรณีเหล่านี้ ทีมตรวจสอบจะจำกัดอายุผู้ชมวิดีโอเมื่อได้รับการแจ้งเกี่ยวกับเนื้อหา ผู้ใช้อายุต่ำกว่า 18 ปีที่ออกจากระบบหรือเปิดใช้โหมดที่จำกัดอยู่จะมองไม่เห็นวิดีโอที่จำกัดอายุ เมื่อตัดสินใจจำกัดอายุผู้ชม เราจะแจ้งให้ผู้อัปโหลดทราบทางอีเมลว่ามีการจำกัดอายุผู้ชมวิดีโอและผู้อัปโหลดจะยื่นอุทธรณ์คำตัดสินนี้ก็ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติม

  • ฟีเจอร์ที่จำกัด หากทีมตรวจสอบตัดสินว่าวิดีโอคาบเส้นการละเมิดนโยบาย อาจมีการปิดใช้ฟีเจอร์บางอย่าง วิดีโอเหล่านี้จะยังคงอยู่ใน YouTube แต่จะมีข้อความเตือนปรากฏขึ้นและจะมีการปิดใช้ฟีเจอร์บางอย่าง เช่น การแชร์ การแสดงความคิดเห็น การชอบ ตลอดจนตำแหน่งในวิดีโอแนะนำ และจะสร้างรายได้จากวิดีโอเหล่านี้ไม่ได้ด้วย เมื่อตัดสินใจจำกัดฟีเจอร์ เราจะแจ้งให้ผู้อัปโหลดทราบทางอีเมลว่ามีการจำกัดฟีเจอร์วิดีโอและผู้อัปโหลดจะยื่นอุทธรณ์คำตัดสินนี้ก็ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติม

  • ล็อกเป็นวิดีโอส่วนตัว หากเราระบุว่าวิดีโอละเมิดนโยบายของเราเกี่ยวกับข้อมูลเมตาที่ทำให้เข้าใจผิด เราอาจล็อกเนื้อหาให้เป็นวิดีโอส่วนตัว และจะไม่ปรากฏต่อสาธารณะ หากผู้ดูมีลิงก์ไปยังวิดีโอ วิดีโอดังกล่าวจะปรากฏเป็นไม่พร้อมใช้งาน เมื่อตัดสินใจล็อกเป็นวิดีโอส่วนตัว เราจะแจ้งให้ผู้อัปโหลดทราบทางอีเมลว่าวิดีโอไม่ได้เผยแพร่แบบสาธารณะอีกต่อไปและผู้อัปโหลดจะยื่นอุทธรณ์คำตัดสินนี้ก็ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติม

ขณะนี้เรายังไม่รวมการดำเนินการจำกัดวิดีโอข้างต้นในรายงาน

YouTube หรือครีเอเตอร์จะดำเนินการอะไรกับความคิดเห็นได้บ้างหากไม่นำความคิดเห็นออก

YouTube มีตัวเลือกมากมายสำหรับครีเอเตอร์ในการควบคุมความคิดเห็นในวิดีโอและช่องของตน ซึ่งรวมถึง

  • ปิดความคิดเห็น ครีเอเตอร์เลือกได้ว่าจะเปิดหรือปิดความคิดเห็นของวิดีโอแต่ละรายการ ดูข้อมูลเพิ่มเติม

  • ตั้งค่าตัวกรองความคิดเห็น ครีเอเตอร์ตั้งค่าตัวกรองเพื่อช่วยจัดการความคิดเห็นและข้อความใหม่ๆ ได้ ซึ่งรวมถึงการเลือกความคิดเห็นของผู้ใช้ที่จะได้รับอนุมัติหรือถูกบล็อกเสมอ และการเพิ่มรายการ "คำที่ถูกบล็อก" ซึ่งจะกรองความคิดเห็นใหม่ที่มีคำดังกล่าวไว้ในคิว "เก็บไว้เพื่อตรวจสอบ" ตัวกรองยังช่วยเก็บความคิดเห็นที่มีลิงก์ไว้ให้ครีเอเตอร์ตรวจสอบก่อนได้ด้วย ดูข้อมูลเพิ่มเติม

  • ดูแลความคิดเห็น ครีเอเตอร์เลือกได้จากตัวเลือกมากมายว่าจะดูแลวิดีโอแต่ละรายการหรือดูแลแบบทั้งช่อง ตัวเลือกต่างๆ ได้แก่ การเก็บความคิดเห็นใหม่ทั้งหมดไว้ตรวจสอบก่อนที่จะโพสต์ลงในวิดีโอหรือช่อง หรือการเก็บเฉพาะความคิดเห็นที่อาจไม่เหมาะสมไว้ตรวจสอบ หากครีเอเตอร์เลือกใช้ฟีเจอร์นี้ ความคิดเห็นจะปรากฏในคิว "เก็บไว้เพื่อตรวจสอบ" ครีเอเตอร์มีอำนาจตัดสินว่าจะอนุมัติ ซ่อน หรือรายงานความคิดเห็นเหล่านี้ ดูข้อมูลเพิ่มเติม

ขณะนี้การดำเนินการเพื่อการดูแลความคิดเห็นข้างต้นยังไม่รวมอยู่ในรายงาน โดยรายงานจะมีเพียงข้อมูลเกี่ยวกับความคิดเห็นที่ YouTube นำออกเนื่องจากละเมิดนโยบายหรือถูกกรองว่าเป็น "น่าจะเป็นสแปม" นอกจากนี้รายงานยังไม่รวมความคิดเห็นที่ถูกนำออกเมื่อ YouTube ปิดใช้ส่วนความคิดเห็นในวิดีโอ เมื่อมีการนำวิดีโอออกทีละรายการหรือผ่านการระงับระดับช่อง หรือเมื่อบัญชีของผู้โพสต์ความคิดเห็นถูกยุติการใช้งาน

ใครเป็นผู้ตรวจสอบการรายงานปัญหาเพื่อตัดสินว่าจะนำเนื้อหาออกหรือจำกัดเนื้อหา

เจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่ผ่านการฝึกอบรมจะประเมินวิดีโอที่มีการแจ้งว่าไม่เหมาะสมเพื่อดูว่าละเมิดนโยบายของเราจริงและปกป้องเนื้อหาที่จัดทำขึ้นเพื่อการศึกษา สารคดี วิทยาศาสตร์ หรือศิลปะ ทีมผู้ตรวจสอบทำงานอยู่ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก เชี่ยวชาญหลายภาษา และประเมินการรายงานปัญหาทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ผู้ตรวจสอบจะได้รับการฝึกอบรมเพิ่มเติมด้านหลักเกณฑ์ของชุมชน YouTube และเชี่ยวชาญเกี่ยวกับนโยบายที่เจาะจงในด้านต่างๆ เช่น ความปลอดภัยของเด็กหรือคำพูดแสดงความเกลียดชัง เจ้าหน้าที่จะนำเนื้อหาที่ละเมิดข้อกำหนดของเราออก จำกัดเนื้อหาที่อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ชมทุกวัย และระวังที่จะไม่นำเนื้อหาออกหากไม่ละเมิดหลักเกณฑ์ของเรา

เจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้รับการฝึกอบรมอย่างไรบ้าง

เจ้าหน้าที่ตรวจสอบของ YouTube ผ่านโปรแกรมฝึกอบรมที่ครอบคลุมเพื่อให้เข้าใจหลักเกณฑ์ของชุมชน YouTube อย่างแท้จริง รวมถึงวิธีสังเกตและปกป้องเนื้อหาที่จัดทำขึ้นเพื่อการศึกษา สารคดี วิทยาศาสตร์ หรือศิลปะ การฝึกอบรมมีทั้งในชั้นเรียนและหลักสูตรออนไลน์ เราใช้การทดสอบบ่อยๆ ในขั้นตอนการฝึกอบรมเพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้รับประสบการณ์การเรียนรู้ที่สมบูรณ์และไม่ลืมสิ่งที่ได้เรียนรู้ไป โปรแกรมรับรองคุณภาพอย่างต่อเนื่องคอยประเมินการตัดสินใจของเจ้าหน้าที่และระบุโอกาสในการปรับปรุงการตัดสินใจให้แม่นยำยิ่งขึ้น เมื่อเกิดข้อผิดพลาดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นข้อผิดพลาดของเจ้าหน้าที่หรือระบบเทคโนโลยีของเรา เราจะพยายามแก้ไขข้อผิดพลาดดังกล่าว วิเคราะห์สิ่งที่เกิดขึ้นอย่างระมัดระวัง และวางมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดที่คล้ายกันอีกในอนาคต

เจ้าหน้าที่ตรวจสอบผิดพลาดบ้างไหม

ใช่ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบของ YouTube ผ่านการฝึกอบรมมาอย่างดี แต่บางครั้งอาจเกิดข้อผิดพลาดได้เช่นเดียวกับระบบอื่นๆ เราจึงอนุญาตให้ยื่นอุทธรณ์ได้

จากมุมมองของครีเอเตอร์ จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อมีการนำเนื้อหาออกหรือการจำกัดเนื้อหาตามนโยบายหลักเกณฑ์ของชุมชน

ครีเอเตอร์จะได้รับการแจ้งทางอีเมลและในการตั้งค่าช่องเมื่อมีการนำเนื้อหาออกหรือการจำกัดเนื้อหา และเราจะมีลิงก์ยื่นอุทธรณ์ให้ (เว้นแต่การนำวิดีโอออกเป็นการดำเนินการบนพื้นฐานของความเป็นส่วนตัว) นอกจากนี้ ครีเอเตอร์ยังจะเห็นการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการนำเนื้อหาออกในครั้งถัดไปที่เข้าถึงช่อง YouTube ของตนในคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปหรือแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ หากครีเอเตอร์เลือกที่จะยื่นอุทธรณ์ เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบเนื้อหาที่ขออุทธรณ์และตัดสินว่าจะคงคำตัดสินไว้เช่นเดิมหรือเปลี่ยนคำตัดสิน ครีเอเตอร์จะได้รับอีเมลติดตามผลเพื่อแจ้งผลการอุทธรณ์

จะมีการระบุว่าเนื้อหาละเมิดหลักเกณฑ์ของชุมชน YouTube ได้ด้วยวิธีใดอีกบ้าง

YouTube ใช้ทั้งเจ้าหน้าที่และเทคโนโลยีในการบังคับใช้นโยบายของบริษัทมาเป็นเวลานาน นอกจากการรายงานปัญหาจากผู้ใช้ เราใช้เทคโนโลยีเพื่อรายงานปัญหาเกี่ยวกับเนื้อหาที่อาจละเมิดหลักเกณฑ์ของชุมชน เราจะส่งเนื้อหานี้ไปให้เจ้าหน้าที่ที่ผ่านการฝึกอบรมตรวจสอบตามปกติเพื่อประเมินการละเมิดที่อาจเกิดขึ้น เว้นแต่เราจะมั่นใจมากว่าเนื้อหาละเมิดนโยบายของเราจริงๆ เช่น เรามีเครื่องมือที่ตรวจหาและนำสแปมออกโดยอัตโนมัติได้เป็นจำนวนมาก โดยอิงตามสัญญาณที่เจาะจงซึ่งเราเชื่อมโยงกับแนวปฏิบัติที่เป็นการละเมิดได้อย่างมั่นใจ เราจะนำการอัปโหลดซ้ำของเนื้อหาที่ตรวจสอบและตัดสินแล้วว่าละเมิดนโยบายของเราออกโดยอัตโนมัติด้วย

การแจ้งว่าไม่เหมาะสมโดยอัตโนมัติทำงานอย่างไร

ระบบการแจ้งว่าไม่เหมาะสมโดยอัตโนมัติของ YouTube จะเริ่มทำงานทันทีที่ผู้ใช้พยายามเผยแพร่วิดีโอหรือโพสต์ความคิดเห็น คอมพิวเตอร์จะสแกนเนื้อหาเพื่อประเมินว่าเนื้อหาละเมิดหลักเกณฑ์ของชุมชน YouTube หรือไม่ YouTube ใช้ระบบอัตโนมัติเพื่อป้องกันการอัปโหลดซ้ำของเนื้อหาที่ละเมิดด้วย ซึ่งรวมถึงผ่านการใช้แฮช (หรือ “ลายนิ้วมือดิจิทัล”)

ข้อมูลใดบ้างที่รวมและไม่รวมอยู่ในรายงานการบังคับใช้หลักเกณฑ์ของชุมชน YouTube

รายงานนี้มีข้อมูลที่บันทึกไว้เกี่ยวกับการแจ้งว่าไม่เหมาะสมจากบุคคลและการแจ้งว่าไม่เหมาะสมโดยอัตโนมัติสำหรับเนื้อหาวิดีโอที่อาจละเมิดหลักเกณฑ์ของชุมชน YouTube ในเดือนธันวาคม 2018 เราได้เพิ่มข้อมูลเกี่ยวกับการสิ้นสุดการดำเนินงานของช่อง ตลอดจนการนำความคิดเห็นออก ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุผลในการนำช่องและวิดีโอออกมีตั้งแต่เดือนกันยายน 2018 เป็นต้นไป อาจมีการรายงานปัญหาเกี่ยวกับเนื้อหาอื่นๆ ใน YouTube ด้วย เช่น ความคิดเห็นและเพลย์ลิสต์ แต่ตอนนี้เรายังไม่รวมข้อมูลนั้นไว้ในรายงานนี้ รายงานนี้ไม่รวมการนำเนื้อหาออกตามกฎหมายด้วย ซึ่งเราแชร์ข้อมูลไว้ในรายงานคำขอของรัฐบาลให้นำเนื้อหาออก ตลอดจนการนำเนื้อหาออกเนื่องจากการละเมิดความเป็นส่วนตัวและลิขสิทธิ์

รายงานนี้มีปัญหาทั้งหมดที่รายงานเข้ามาหรือไม่

ตั้งแต่เดือนตุลาคม-ธันวาคม 2017 (ระยะเวลาที่รายงานฉบับแรกครอบคลุม) เราได้รับการรายงานปัญหาจากผู้ใช้กว่า 30 ล้านครั้ง YouTube มีระบบที่ระบุการรายงานปัญหาที่น่าสงสัยหรือปริมาณการรายงานปัญหาที่สูงผิดปกติ เพื่อป้องกันการใช้ระบบรายงานปัญหาของเราในทางที่ผิด การรายงานปัญหาที่ไม่อยู่ในขอบเขตเหล่านี้จะไม่รวมอยู่ในข้อมูลของรายงานนี้ เราปรับเปลี่ยนระบบเหล่านี้เป็นระยะๆ เพื่อดูแลให้ป้องกันการละเมิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ นี่คือปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ปริมาณการรายงานปัญหาเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละไตรมาส นอกจากนี้ การละเมิดทางกฎหมาย ลิขสิทธิ์ และความเป็นส่วนตัวก็ไม่รวมในรายงานนี้ด้วย เช่นเดียวกับการรายงานปัญหาเกี่ยวกับเนื้อหาที่ไม่ใช่วิดีโอ

ผู้เชี่ยวชาญด้านการแจ้งเตือนเนื้อหาคืออะไร

ผู้เชี่ยวชาญด้านการแจ้งเตือนเนื้อหาเป็นโครงการที่เราพัฒนาขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้รายงานปัญหาที่มีประสิทธิภาพสูงแจ้งเตือนเราเกี่ยวกับเนื้อหาที่ละเมิดหลักเกณฑ์ของชุมชนผ่านเครื่องมือการรายงานเป็นกลุ่ม NGO และหน่วยงานรัฐบาลจะมีสิทธิ์เข้าร่วมในโครงการนี้ ขั้นตอนหนึ่งของการเริ่มต้นใช้งานคือ สมาชิกทุกคนจะได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ของชุมชน YouTube เราจะตรวจสอบการรายงานปัญหาจากผู้เข้าร่วมก่อนเพราะมีอัตราการดำเนินการสูงกว่าการรายงานปัญหาของผู้ใช้ทั่วไป สำหรับเนื้อหาที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการแจ้งเตือนเนื้อหารายงานเข้ามา เราจะไม่นำออกโดยอัตโนมัติหรือประเมินตามนโยบายอื่นนอกเหนือจากที่ผู้ใช้รายงานเข้ามา วิดีโอที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการแจ้งเตือนเนื้อหารายงานเข้ามาจะเป็นไปตามนโยบายเดียวกับวิดีโอที่ผู้ใช้รายอื่นๆ รายงานเข้ามา และดำเนินการตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่ที่ผ่านการฝึกอบรมให้ตัดสินว่าเนื้อหาละเมิดหลักเกณฑ์ของชุมชนและควรนำออกหรือไม่ ดูข้อมูลเพิ่มเติม

มีวิธีอื่นในการรายงานเนื้อหาไม่เหมาะสมไหม

หากขั้นตอนการแจ้งว่าไม่เหมาะสมนั้นไม่ตรงกับปัญหาของผู้ใช้ เรามีกลไกการรายงานอื่นๆ ให้เลือกใช้งาน

  • เครื่องมือการรายงานความปลอดภัยและการละเมิด บางครั้งบุคคลทั่วไปอาจต้องการรายงานเนื้อหามากกว่า 1 รายการหรืออาจต้องการส่งรายงานอย่างละเอียดสำหรับการตรวจสอบ เครื่องมือการรายงานความปลอดภัยและการละเมิดใช้เพื่อไฮไลต์ความคิดเห็นของผู้ใช้ วิดีโอ และให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อกังวลใจได้ หากผู้ใช้รู้สึกว่าตนตกเป็นเป้าของการละเมิด เครื่องมือนี้้เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการรายงานเนื้อหา

  • การร้องเรียนเรื่องความเป็นส่วนตัว บุคคลทั่วไปจะใช้ขั้นตอนการร้องเรียนเรื่องความเป็นส่วนตัวเพื่อร้องเรียนเรื่องความเป็นส่วนตัวได้

  • ประเด็นทางกฎหมาย (รวมถึงลิขสิทธิ์) บุคคลทั่วไปอาจรายงานประเด็นทางกฎหมายในนามของตนเองหรือลูกค้าได้ผ่านแบบฟอร์มทางกฎหมายในเว็บ

  • การบาดเจ็บสาหัสหรือความตาย เราพยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อแสดงความเคารพต่อความต้องการของครอบครัวเกี่ยวกับคลิปวิดีโอบุคคลอันเป็นที่รักได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่งคำขอให้นำเนื้อหาดังกล่าวออกได้ผ่านแบบฟอร์มในเว็บของเรา

สาเหตุของการปรับปรุงข้อมูลในรายงานข้อมูลย้อนหลังคืออะไร

เรามุ่งมั่นที่จะแสดงความโปร่งใสผ่านรายงานนี้ ในบางกรณี เราอาจพบข้อผิดพลาดในข้อมูลหลังจากที่โพสต์ไปแล้ว เมื่อข้อผิดพลาดดังกล่าวมีผลกระทบอย่างมากต่อข้อมูลที่เราเผยแพร่ไปเมื่อไตรมาสก่อนหน้า เราจะแก้ไขข้อมูลย้อนหลังของรายงานและใส่หมายเหตุเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงเอาไว้ 

ระบบคำนวณอัตราการดูที่ละเมิด (Violative View Rate หรือ VVR) อย่างไร

เราเริ่มจากการสุ่มตัวอย่างวิดีโอทั้งหมดที่มีการดูใน YouTube แล้วส่งวิดีโอตัวอย่างเหล่านั้นมาตรวจสอบ ทีมของเราจะตัดสินว่าวิดีโอแต่ละรายการละเมิดหลักเกณฑ์ของชุมชนหรือไม่ จากนั้นเราจะนําผลลัพธ์ที่รวบรวมได้มาประเมินสัดส่วนของการดูใน YouTube ที่ละเมิดหลักเกณฑ์ของชุมชน เมตริก VVR จะรายงานโดยใช้ช่วงความเชื่อมั่นที่ 95% ซึ่งหมายความว่า หากทําการวัดผลหลายครั้งในช่วงเวลาเดียวกัน เราจะคาดหวังได้ว่าจะได้เมตริกที่แท้จริงในช่วง 95% ของช่วงเวลาดังกล่าว ช่วงความเชื่อมั่นไม่ได้คำนึงถึงคุณภาพของผู้ตรวจสอบ ซึ่งอาจกระทบต่อการวัดผล เราประเมินคุณภาพของผู้ตรวจสอบเป็นประจำเพื่อให้ผลการตัดสินจากการตรวจสอบมีความแม่นยำสูง

ก่อนไตรมาสที่ 1 ปี 2019 VVR อิงตามผลรวมของการตรวจสอบเฉพาะในช่วง 28 วันสุดท้ายของไตรมาสนั้นๆ (เช่น ไตรมาสที่ 4 ปี 2018 จะแสดงจากจำนวนรวมของการดูตั้งแต่วันที่ 3-31 ธันวาคม 2018) และถือเป็นการสิ้นสุดการวัดผลในไตรมาส ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ปี 2019 เป็นต้นไป เราจะใช้ผลรวมการตรวจสอบของทั้งไตรมาส ในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายของไตรมาสที่ 1 และ 2 สัปดาห์แรกของไตรมาสที่ 2 ปี 2020 กำลังความสามารถของผู้ตรวจสอบสำหรับ VVR มีจํากัดเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 และเราตรวจสอบตัวอย่างให้ครบถ้วนทั้งหมดไม่ได้ ข้อมูลที่มาจากส่วนหนึ่งของช่วงเวลาดังกล่าวจึงอาจไม่สามารถนำมาใช้เป็นตัวแทนของข้อมูล

มีนโยบายใดบ้างที่รวมอยู่ใน VVR

อัตราการดูที่ละเมิดจะวัดสัดส่วนของจำนวนการดูวิดีโอที่ YouTube ควรนําออกไปเนื่องจากละเมิดหลักเกณฑ์ของชุมชน เมตริกนี้ไม่ได้รวมวิดีโอที่ไม่ละเมิดซึ่งถูกนําออกเนื่องจากมีการนำช่องออก และไม่รวมสแปมจากเมตริกดังกล่าวเนื่องจากการนําช่องที่เป็นสแปมออกก็ทําให้สแปมส่วนใหญ่ถูกลบออกไปด้วย นอกจากนี้ VVR ไม่รวมสตรีมแบบสดเช่นกัน แต่จะรวมสตรีมแบบสดที่มีการแปลงเป็นวิดีโอตามคำขอ
true
เมนูหลัก
15531911564303643792
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
false
false