การปรับปรุงนโยบายสำหรับผู้เผยแพร่โฆษณาวิดีโอในปี 2024

ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2024 นโยบายใหม่สำหรับผู้เผยแพร่โฆษณาวิดีโอจะมีผลกับพื้นที่โฆษณาวิดีโอทั้งหมดที่ผู้เผยแพร่โฆษณา Ad Manager, AdMob และ AdSense ใช้สร้างรายได้ จุดประสงค์ของการปรับปรุงคือเพื่อปรับนโยบายให้สอดคล้องมากขึ้นกับมาตรฐานอุตสาหกรรมและความคาดหวังของผู้ซื้อที่เปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งลดความซับซ้อนของนโยบายเพื่อให้ผู้เผยแพร่โฆษณาและผู้ลงโฆษณาเข้าใจข้อกำหนดได้ชัดเจนมากขึ้น ในระหว่างนี้ นโยบายสำหรับผู้เผยแพร่โฆษณาวิดีโอของ Ad Manager และนโยบายสำหรับผู้เผยแพร่โฆษณาวิดีโอของ AdSense ที่มีอยู่ยังคงมีผลบังคับใช้ และเราขอสรุปความแตกต่างสำคัญระหว่างนโยบายที่มีอยู่และนโยบายที่จะมีผล ดังนี้

1. คำอธิบายพื้นที่โฆษณาที่ถูกต้อง
   • นโยบายที่มีอยู่ซึ่งระบุว่าผู้เผยแพร่โฆษณาต้อง "ใช้ข้อมูลเมตาและการประกาศเพื่ออธิบายพื้นที่โฆษณาอย่างถูกต้อง" จะยังคงมีผลต่อไป แต่เราต้องการเน้นย้ำถึงความสำคัญของผู้เผยแพร่โฆษณาที่ส่งสัญญาณสำคัญ 2 รายการให้กับผู้ซื้อวิดีโอแบบเป็นโปรแกรม ซึ่งสำหรับผู้เผยแพร่โฆษณา Ad Manager นี่คือฟิลด์ vpmute และฟิลด์ plcmt ใหม่ที่รองรับการอัปเดตวิดีโอ OpenRTB ของ IAB ในปีนี้
   • ผู้เผยแพร่โฆษณาควรส่งพารามิเตอร์ของแท็กโฆษณาวิดีโอทั้งชุดอย่างถูกต้อง ซึ่งรวมถึง URL ของคำอธิบายและขนาดของตำแหน่งโฆษณา เพื่อเพิ่มการค้นพบและความโปร่งใสสำหรับผู้ซื้อและเพื่อให้ได้รับรายได้มากขึ้น
   • การปรับให้สอดคล้องกับคำจำกัดความล่าสุดของ video.plcmt สำหรับ OpenRTB ของ IAB ทำให้ไม่จำเป็นต้องชี้แจงตัวอย่างที่ไม่ควรถือว่าเป็นแบบในสตรีม
2. การติดตั้งใช้งานที่รองรับ
   • นอกเหนือจาก IMA SDK นโยบายใหม่ยังระบุว่าไลบรารีการเข้าถึงแบบเป็นโปรแกรม (PAL SDK) สำหรับผู้ใช้ทั่วไปเป็นตัวเลือกตําแหน่งวิดีโอ "ในสตรีม" หรือ "เนื้อหาประกอบ" ด้วย
   • สำหรับตำแหน่งนอกวิดีโอเพลเยอร์ ผู้เผยแพร่โฆษณาต้องใช้ GPT หรือ GMA SDK เพื่อสร้างรายได้จากตำแหน่งวิดีโอที่ "คั่นระหว่างหน้า" หรือ "สแตนด์อโลน"
3. การปกป้องคุณค่าของผู้ลงโฆษณา
   • เรายังคงให้ความสำคัญกับการดูแลเนื้อหาวิดีโอหรือการควบคุมวิดีโอให้มองเห็นได้ชัดหรือใช้งานได้จริง
   • เราได้ปรับปรุงนโยบายวิดีโอเพื่อระบุว่าต้องไม่มีการขอหรือแสดงโฆษณาเสียงในตำแหน่งวิดีโอที่ปิดเสียง
   • เรานำข้อกำหนดเกี่ยวกับสัดส่วนภาพมาตรฐานและขนาดโฆษณาขั้นต่ำออก เนื่องจากผู้ซื้อสามารถระบุและกำหนดเป้าหมายพื้นที่โฆษณาที่ต้องการโดยอิงตามสัญญาณของขนาดตำแหน่งได้อย่างเหมาะสม
4. การคำนึงถึงผู้ใช้
   • เราจะชี้แจงนโยบายเกี่ยวกับลักษณะการทำงานของการเล่นอัตโนมัติดังต่อไปนี้
     • มีตำแหน่งวิดีโอที่จะเล่นอัตโนมัติพร้อมเสียงได้ทีละ 1 ตำแหน่งเท่านั้น และมีตำแหน่ง "ในสตรีม" หรือ "เนื้อหาประกอบ" ตำแหน่งเดียวเท่านั้นที่จะเล่นอัตโนมัติในการแสดงผลได้ทุกเมื่อ
     • ตำแหน่งที่เล่นอัตโนมัติจะเริ่มเล่นได้ต่อเมื่อหน่วยโฆษณาปรากฏขึ้น 50%
   • เรานำการกล่าวถึงระยะเวลารวมของโฆษณาวิดีโอออกเนื่องจากมีนโยบายจำนวนโฆษณามากกว่าเนื้อหาของผู้เผยแพร่โฆษณาอยู่แล้ว
   • นโยบายใหม่เพิ่มเงื่อนไขสำหรับโฆษณาวิดีโอที่ "ติดหนึบ" เพื่อเน้นย้ำถึงความจำเป็นของตัวเลือก "ปิด" จากการปรับปรุงนโยบายครั้งก่อนหน้า ตอนนี้ตำแหน่ง "คั่นระหว่างหน้า" และ "สแตนด์อโลน" สามารถยึดไว้กับหน่วยโฆษณาติดหนึบผ่าน GPT SDK ได้แล้ว ตำแหน่ง "ในสตรีม" และ "เนื้อหาประกอบ" ยังคงต้องแสดงผลในส่วนเนื้อหาของหน้าก่อนที่จะเปลี่ยนไปอยู่ในตำแหน่งแบบติดหนึบ

สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือนโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาทั่วไปของ Google ยังคงมีผลบังคับใช้ แม้ว่านโยบายเหล่านี้จะกำหนดหลักเกณฑ์ขั้นต่ำในการสร้างรายได้จากพื้นที่โฆษณาวิดีโอ แต่ระดับดีมานด์จริงจากผู้ลงโฆษณาในการลงโฆษณาในตำแหน่งโฆษณาวิดีโอจะขึ้นอยู่กับการติดตั้งใช้งานและสัญญาณของวิดีโอที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น สัดส่วนภาพมาตรฐาน (4:3 หรือ 16:9 สำหรับวิดีโอแนวนอน, 3:4, 4:5 หรือ 9:16 สำหรับวิดีโอแนวตั้ง หรือ 1:1 สำหรับวิดีโอสี่เหลี่ยมจัตุรัส) และตำแหน่งที่มีเสียงมักจะช่วยให้ได้รับรายได้สูงกว่า เราขอแนะนำให้พาร์ทเนอร์ทดสอบเพื่อหาการตั้งค่าที่เหมาะกับตนเองมากที่สุด โดยรวมแล้ว เราเชื่อว่านโยบายใหม่นี้จะยกระดับความโปร่งใสสำหรับผู้ซื้อไปอีกขั้น รักษามาตรฐานระดับสูงที่เรากำหนดไว้ให้คุณภาพของพื้นที่โฆษณา และเพิ่มมูลค่าที่เรามอบให้ผู้เผยแพร่โฆษณา