คุณอัดเสียง เปลี่ยนเสียงพูดเป็นคำที่ค้นหาได้บนหน้าจอ และค้นหาในไฟล์เสียงที่อัดไว้ได้ แอปโปรแกรมอัดเสียงใช้งานได้ในโทรศัพท์ Pixel 3 และเวอร์ชันใหม่กว่า
ภาษาที่พร้อมให้บริการสำหรับการถอดเสียงเป็นคำแบบเรียลไทม์
- Pixel 3 ถึง Pixel 5a: ภาษาอังกฤษ (สหรัฐอเมริกา) อังกฤษ (อังกฤษ) อังกฤษ (สิงคโปร์) อังกฤษ (ไอร์แลนด์) อังกฤษ (ออสเตรเลีย) ญี่ปุ่น เยอรมัน ฝรั่งเศส
- Pixel 6 ขึ้นไป รวมถึง Fold: ภาษาอังกฤษ (สหรัฐอเมริกา) อังกฤษ (อังกฤษ) อังกฤษ (สิงคโปร์) อังกฤษ (ไอร์แลนด์) อังกฤษ (ออสเตรเลีย) ญี่ปุ่น เยอรมัน ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน สเปน (ละตินอเมริกา) ฝรั่งเศส (แคนาดา) อังกฤษ (อินเดีย) จีนกลาง และฮินดี
สร้างหรือลบไฟล์บันทึกเสียงในโทรศัพท์
- เปิดแอปโปรแกรมอัดเสียง บนอุปกรณ์
- แตะบันทึก
- อุปกรณ์จะอัดเสียง แม้หน้าจอจะเข้าสู่โหมดสลีปก็ตาม
- ขณะอัดเสียง คุณจะเห็นข้อความ "กำลังอัดเสียง" ในการแจ้งเตือน
- คุณอัดเสียงรายการเดียวได้นานสูงสุด 18 ชั่วโมง
- เมื่อเสร็จแล้ว ให้แตะ "หยุดชั่วคราว"
- แตะบันทึกหรือลบ
- ตั้งชื่อไฟล์บันทึกเสียงโดยแตะที่ไฟล์บันทึกเสียง เมนู เปลี่ยนชื่อ
บันทึกไฟล์บางส่วน
- แตะไฟล์บันทึกเสียงที่ต้องการแก้ไข แก้ไข
- เลือกเสียงหรือข้อความถอดเสียงที่ต้องการเก็บไว้
- แตะครอบตัด บันทึกสําเนา
- ตั้งชื่อไฟล์
- แตะตกลง
นําบางส่วนของไฟล์ออก
- แตะไฟล์บันทึกเสียงที่ต้องการแก้ไข แก้ไข
- เลือกเสียงหรือข้อความถอดเสียงที่ต้องการนำออก
- แตะนําออก บันทึกสําเนา
- ตั้งชื่อไฟล์
- แตะตกลง
เปิดและปิดป้ายกำกับผู้พูด
- เปิดแอปโปรแกรมอัดเสียง บนอุปกรณ์
- แตะรูปโปรไฟล์บัญชีหรือชื่อย่อของคุณ
- แตะการตั้งค่าโปรแกรมอัดเสียง ป้ายกำกับผู้พูด
- แตะใช่ เปิดใช้งานเมื่อได้รับข้อความแจ้ง
- คุณกลับไปปิดป้ายกำกับผู้พูดได้ใน "การตั้งค่าโปรแกรมอัดเสียง"
อัปเดตป้ายกำกับผู้พูด
- จาก "มุมมองข้อความถอดเสียง" ให้เลือก "แก้ไขป้ายกำกับผู้พูด"
- เลือกเมนูแบบเลื่อนลงข้างป้ายกำกับผู้พูดที่ต้องการแก้ไข
- หากต้องการใช้การเปลี่ยนแปลงกับย่อหน้าปัจจุบัน ให้แตะเปลี่ยนชื่อ สร้างผู้พูดใหม่ หรือป้ายกำกับอื่นๆ
- แตะบันทึกเพื่อทำการเปลี่ยนแปลง
แบ่งย่อหน้าเพื่ออัปเดตป้ายกำกับผู้พูด
- สำหรับเสียงใดก็ตามที่บันทึกไว้ ให้แตะแก้ไข แบ่งตั้งแต่ที่นี่
- คุณสามารถสร้างส่วนได้ 2 ส่วนจากย่อหน้าเดียวและทำการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมกับป้ายกำกับผู้พูด
ค้นหาป้ายกำกับผู้พูด
คุณค้นหาบุคคลในข้อความถอดเสียงได้โดยใช้ฟังก์ชันการค้นหาในหน้าจอหลักของโปรแกรมอัดเสียงดังนี้
- แตะค้นหา
- พิมพ์ชื่อบุคคลที่ต้องการค้นหา
- เลื่อนดูรายการผลการค้นหาทั้งหมด
นอกจากนี้ คุณยังค้นหาชื่อผู้พูดในไฟล์บันทึกเสียงที่ต้องการได้โดยทำดังนี้
- แตะไฟล์บันทึกเสียงที่มีอยู่
- แตะข้อความถอดเสียงที่ด้านขวาล่าง
- แตะค้นหา
- พิมพ์ชื่อบุคคลที่ต้องการค้นหา
แชร์ป้ายกำกับผู้พูดพร้อมข้อความถอดเสียง
ป้ายกำกับผู้พูดจะปรากฏเมื่อคุณแชร์ข้อความถอดเสียงจากไฟล์บันทึกเสียงผ่านวิดีโอคลิป ไฟล์ข้อความ หรือเอกสารใน Google เอกสาร ดูวิธีแชร์ไฟล์บันทึกเสียง
โปรแกรมอัดเสียงจัดการข้อมูลของคุณสำหรับป้ายกำกับผู้พูดอย่างไร
หากคุณเปิดใช้ป้ายกำกับผู้พูด โปรแกรมอัดเสียงจะวิเคราะห์เสียงที่บันทึกไว้เพื่อตรวจหาและติดป้ายกำกับผู้พูดแต่ละคนในข้อความถอดเสียง โดยโปรแกรมอัดเสียงจะทำดังนี้
- ประมวลผลรูปแบบของเสียงที่ตรวจพบในเสียงที่บันทึกไว้ในอุปกรณ์
- ติดป้ายกำกับที่ใช้ข้อความทั่วไป (เช่น ผู้พูด 1, ผู้พูด 2) สำหรับแต่ละเสียงที่ตรวจพบ
- เปรียบเทียบเสียงพูดจากการบันทึกเสียงตั้งแต่ต้นจนจบเพื่อให้ข้อความถอดเสียงแสดงข้อความของแต่ละเสียงและเวลาที่พูด
ขั้นตอนต่างๆ ข้างต้นเกิดขึ้นในโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต จากนั้นระบบจะบันทึกป้ายข้อความกำกับผู้พูดที่สร้างขึ้นไว้ในข้อความถอดเสียง โปรดทราบว่ารูปแบบเสียงที่กล่าวถึงข้างต้นอาจถือเป็นข้อมูลไบโอเมตริกในบางประเทศหรือภูมิภาค
นโยบายการเก็บรักษาและการลบรูปแบบเสียง
ระบบจะเก็บรูปแบบเสียงที่ใช้ในการสร้างป้ายกำกับผู้พูดไว้ในอุปกรณ์เป็นการชั่วคราวจนกว่าจะติดป้ายกำกับผู้พูดของข้อความถอดเสียงหนึ่งๆ เสร็จ จากนั้นจึงลบออก (ปกติแล้วภายในไม่กี่นาที)
คุณค้นหาคำ วลี หรือเสียงต่างๆ เช่น เสียงเพลงหรือเสียงปรบมือได้ นอกจากนี้ ยังดูเวลาที่แน่นอนที่มีการพูดคำหรือเกิดเสียงนั้นๆ ได้ด้วย
วิธีค้นหาในไฟล์บันทึกเสียง
- แตะไฟล์บันทึกเสียง ค้นหา
วิธีอ่านข้อความถอดเสียงจากไฟล์บันทึกเสียง
- แตะไฟล์บันทึกเสียง แตะข้อความถอดเสียง
คุณสามารถดูสรุปของการสนทนา การสัมภาษณ์ และการนำเสนอที่บันทึกเสียงไว้ ซึ่ง AI เป็นผู้สร้างสรุปนี้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบาย GenAI ของ Google
สำคัญ
- ฟีเจอร์นี้ใช้ได้กับ Pixel 8 Pro และการถอดเสียงเป็นคำภาษาอังกฤษเท่านั้น
- ฟีเจอร์นี้ใช้โมเดลภาษาขนาดใหญ่เพื่อสรุปเนื้อหาข้อความถอดเสียง โดยระบบจะแจ้งให้คุณ "ดาวน์โหลดโมเดลเพื่อดำเนินการต่อ"
- เมื่อบันทึกไฟล์แล้ว ปุ่ม "สรุป" จะปรากฏขึ้นในส่วนข้อความถอดเสียง
- ทำตามวิธีการบนหน้าจอเพื่อเลือกใช้
- แตะสรุป
- หากต้องการขยายหรือย่อสรุป ให้แตะ "ขยาย"
- หากได้รับข้อความแสดงข้อผิดพลาด ให้ทำตามวิธีการที่ระบุไว้เพื่อลองใช้ไฟล์บันทึกเสียงไฟล์อื่น ฟีเจอร์นี้ทำงานได้ดีที่สุดกับไฟล์บันทึกเสียงที่มีความยาวปานกลาง และใช้ข้อจำกัดที่มีอยู่ในฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยเพื่อบล็อกเนื้อหาที่เป็นอันตราย
เคล็ดลับ: เมื่อคุณเลือกใช้แล้ว ให้แตะสรุปเพื่อสร้างสรุปข้อความถอดเสียง คุณจะขยายหรือย่อสรุปได้ทุกเมื่อ
- เปิดการสำรองข้อมูล
- แชร์ไฟล์
- คัดลอกไฟล์ไปยังแอปอื่น
- บันทึกไฟล์ไว้ที่อื่น เช่น ใน Google ไดรฟ์
เคล็ดลับ: หากเปิดสิทธิ์ไว้ แอปอื่นๆ จะใช้ไฟล์บันทึกเสียงได้ ดูวิธีควบคุมสิทธิ์ของแอป
แชร์ลิงก์ไฟล์บันทึกเสียงกับผู้อื่น
สําคัญ: โดยค่าเริ่มต้น ไฟล์บันทึกเสียงและลิงก์ที่สํารองข้อมูลไว้จะเป็นแบบส่วนตัวในบัญชี Google หากคุณเลือกแชร์ไฟล์บันทึกเสียงกับสาธารณะ ทุกคนที่มีลิงก์จะเข้าถึงไฟล์ได้
- เปิดโปรแกรมอัดเสียง บนอุปกรณ์
- แตะไฟล์บันทึกเสียงค้างไว้
- แตะแชร์ ลิงก์
- เลือกผู้ที่ต้องการแชร์ลิงก์ด้วย ดังนี้
- สาธารณะ
- แชร์กับบุคคลที่ระบุ
- คงไว้ให้เป็นส่วนตัวในบัญชี
เคล็ดลับ
- คุณแชร์ไฟล์บันทึกเสียงได้เฉพาะกับอีเมลที่เชื่อมโยงกับบัญชี Google
- เมื่อแชร์ไฟล์บันทึกเสียงกับผู้อื่น บุคคลนั้นจะได้รับการแจ้งเตือนทางอีเมล
แชร์ไฟล์บันทึกเสียงกับแอปอื่นหรือแชร์เป็นไฟล์ข้อความ
- เปิดโปรแกรมอัดเสียง บนอุปกรณ์
- แตะไฟล์บันทึกเสียงค้างไว้
- แตะแชร์ ไฟล์
- เลือกตัวเลือก
- เสียง
- ข้อความถอดเสียง
- เลือกแอปที่ต้องการใช้แชร์ไฟล์
สร้างวิดีโอคลิปสำหรับไฟล์บันทึกเสียง
คุณสร้างวิดีโอคลิปได้ยาวสูงสุด 5 นาทีจากไฟล์บันทึกเสียง
- เปิดโปรแกรมอัดเสียง บนอุปกรณ์
- แตะไฟล์บันทึกเสียงที่ต้องการแชร์
- แตะเพิ่มเติม สร้างวิดีโอคลิป
- หากต้องการปรับแต่งวิดีโอคลิป ให้แตะตัวเลือกต่อไปนี้
- เนื้อหา ข้อความถอดเสียงและรูปแบบคลื่น หรือรูปแบบคลื่น
- เลย์เอาต์ สี่เหลี่ยมจัตุรัส แนวตั้ง หรือแนวนอน
- ธีม ธีมมืดหรือธีมสว่าง
- เมื่อเสร็จแล้ว ให้แตะสร้าง
- หากต้องการบันทึกวิดีโอคลิป ให้แตะบันทึกลงในอุปกรณ์
- หากต้องการแชร์วิดีโอคลิป ให้แตะแชร์ แล้วเลือกแอปที่ต้องการใช้
- หากไม่ต้องการบันทึกหรือแชร์ ให้แตะเสร็จสิ้น
แชร์หรือบันทึกข้อความถอดเสียงไปยัง Google เอกสาร
- เปิดโปรแกรมอัดเสียง บนอุปกรณ์
- แตะไฟล์บันทึกที่ต้องการคัดลอก
- แตะเพิ่มเติม คัดลอกข้อความถอดเสียงไปยัง Google เอกสาร
- เลือกบัญชี Google ที่ต้องการคัดลอกการถอดเสียงเป็นคำไป
เคล็ดลับ: หากต้องการปรับการตั้งค่าการแชร์ ให้แตะแชร์ เปลี่ยน
แชร์หรือบันทึกข้อความถอดเสียงเป็นไฟล์ข้อความ
- เปิดโปรแกรมอัดเสียง บนอุปกรณ์
- แตะไฟล์บันทึกเสียงค้างไว้
- แตะแชร์ ข้อความถอดเสียง (.txt)
คุณตั้งค่าโปรแกรมอัดเสียงให้จดจำและถอดเสียงภาษาหนึ่งๆ ได้
- เปิดแอปโปรแกรมอัดเสียง บนอุปกรณ์
- แตะรูปโปรไฟล์บัญชีหรือชื่อย่อของคุณ
- แตะการตั้งค่าโปรแกรมอัดเสียง
- เลือกภาษาที่จะถอดเสียง
- แตะตรวจหาภาษา
เมื่อคุณเริ่มบันทึกเสียง โปรแกรมอัดเสียงจะจดจำภาษาที่คุณเลือกโดยอัตโนมัติ
เคล็ดลับ:
- หากต้องการเปลี่ยนจาก "เสียง" เป็น "ข้อความถอดเสียง" ให้แตะข้อความถอดเสียง ในหน้าจอข้อความถอดเสียง คุณจะเห็นข้อความ " ตรวจหาอัตโนมัติ" รวมถึงภาษาที่คุณเลือก
- หากคุณบันทึกมากกว่า 1 ภาษาในเซสชัน โปรแกรมอัดเสียงจะถอดเสียงภาษาที่มีการพูดมากที่สุด
คุณใช้แอปโปรแกรมอัดเสียงเพื่อถอดเสียงไฟล์บันทึกที่มีอยู่อีกครั้งได้
- เปิดแอปโปรแกรมอัดเสียง บนอุปกรณ์
- แตะไฟล์บันทึกที่ต้องการถอดเสียงอีกครั้ง
- แตะเพิ่มเติม ถอดเสียงอีกครั้ง
- เลือกภาษา
เคล็ดลับ: การถอดเสียงอีกครั้งจะประมวลผลไฟล์เสียงบนเซิร์ฟเวอร์ของ Google ได้
ภาษาที่คุณเลือกได้
ภาษาที่โปรแกรมอัดเสียงรองรับในปัจจุบันมีดังนี้
|
|
คุณสามารถปักหมุดไฟล์บันทึกเสียงที่ชอบไว้ที่ด้านบนของหน้าจอหลักของโปรแกรมอัดเสียง เพื่อให้ค้นหาไฟล์ได้ง่ายขึ้น
- เปิดแอปโปรแกรมอัดเสียง บนอุปกรณ์
- แตะไฟล์บันทึกเสียง
- แตะ รายการโปรด ที่ด้านบนของหน้าจอ
เคล็ดลับ: คุณจะเห็นข้อความ " ตั้งเป็นรายการโปรดแล้ว" ที่ด้านล่างของไฟล์บันทึกเสียง - ระบบจะจัดกลุ่ม "รายการโปรด" ไว้ในโฟลเดอร์ที่ด้านบนของหน้าจอหลักของโปรแกรมอัดเสียง
เคล็ดลับ: คุณดูจำนวนไฟล์บันทึกเสียงที่ชอบทั้งหมดได้ที่ด้านขวาของโฟลเดอร์นี้
แตะ รายการโปรด เพื่อแสดงรายการโปรดที่ปักหมุดไว้ทั้งหมด
บล็อกบุคคลที่ส่งไฟล์บันทึกเสียงให้คุณ
หากต้องการบล็อกผู้ที่ส่งไฟล์บันทึกเสียงให้ คุณจะต้องบล็อกบุคคลนั้นไม่ให้ส่งอีเมลไปยังบัญชี Gmail ของคุณ ดูวิธีบล็อกผู้ใช้ใน Gmailสิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อคุณบล็อกผู้ใช้
- คุณจะไม่ได้รับการแจ้งเตือนทางอีเมลจากบุคคลที่ถูกบล็อก
- บุคคลที่ถูกบล็อกต้องแชร์ไฟล์บันทึกเสียงกับคุณด้วยตนเองเท่านั้น
- บุคคลที่ถูกบล็อกจะไม่สามารถติดต่อคุณผ่านบริการอื่นๆ ของ Google เช่น Photos ได้
ค้นหาคนที่คุณบล็อก
- เปิดรายชื่อผู้ใช้ที่ถูกบล็อกในคอมพิวเตอร์
- คลิกนำออก ข้างบัญชีที่ต้องการเลิกบล็อก
ฟีเจอร์สํารองและซิงค์ข้อมูลจะบันทึกไฟล์บันทึกเสียงไปยังบัญชี Google ของคุณที่ recorder.google.com โดยอัตโนมัติ หากลงชื่อเข้าสู่ระบบบัญชี คุณจะใช้งานไฟล์บันทึกเสียงจากอุปกรณ์เครื่องใดก็ได้ คุณเลือกที่จะสํารองและซิงค์ไฟล์บันทึกเสียงบางไฟล์ และเลือกให้ไฟล์บันทึกเสียงอื่นๆ ยังคงเป็นแบบส่วนตัวในโทรศัพท์ Pixel ได้ด้วย ดูวิธีใช้โปรแกรมอัดเสียงโดยไม่มีบัญชี
สำคัญ: Photos, ไดรฟ์, Gmail และบริการอื่นๆ จะใช้พื้นที่เก็บข้อมูลร่วมกัน หากใช้พื้นที่เก็บข้อมูลจนเต็มแล้วจะสำรองข้อมูลไฟล์ใหม่ไม่ได้ ทั้งนี้คุณสามารถรับพื้นที่เก็บข้อมูลเพิ่มหรือล้างพื้นที่เก็บข้อมูลได้ด้วย Google One ดูวิธีซื้อพื้นที่เก็บข้อมูลเพิ่ม
เปิดหรือปิดฟีเจอร์สำรองและซิงค์ข้อมูล
สำคัญ: หากเลือกที่จะสำรองและซิงค์ข้อมูล ระบบจะสำรองไฟล์บันทึกเสียงไว้นอกอุปกรณ์ โดยค่าเริ่มต้น ไฟล์บันทึกเสียงที่สำรองไว้จะยังคงเป็นแบบส่วนตัวในบัญชี Google ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวของบัญชี Google
- เปิดโปรแกรมอัดเสียง บนอุปกรณ์
- แตะรูปโปรไฟล์บัญชีหรือชื่อย่อของคุณ
- ตั้งค่าบัญชี Google ที่จะใช้สำรองข้อมูลไฟล์บันทึกเสียง: เลือกชื่อบัญชี
- สำคัญ: เมื่อคุณสร้างไฟล์บันทึกเสียง ไฟล์ที่บันทึกจะเชื่อมโยงกับบัญชี Google ที่เลือกไว้ คุณจะเปลี่ยนบัญชีในภายหลังไม่ได้
- ตั้งค่าบัญชี Google ที่จะใช้สำรองข้อมูลไฟล์บันทึกเสียง: เลือกชื่อบัญชี
- แตะการตั้งค่าโปรแกรมอัดเสียง สํารองและซิงค์ข้อมูล
- เปิดหรือปิดฟีเจอร์สำรองและซิงค์ข้อมูล
เปลี่ยนการตั้งค่าการสำรองข้อมูล
ดูและซิงค์ไฟล์บันทึกเสียงที่สํารองไว้
หากต้องการหาไฟล์บันทึกเสียงทั้งหมดที่สำรองไว้ในบัญชี Google ให้ไปที่ recorder.google.com
หากต้องการซิงค์ไฟล์บันทึกเสียงในบัญชี Google ที่ไม่ได้อยู่ในอุปกรณ์ ให้ทำดังนี้
- เปิดโปรแกรมอัดเสียง บนอุปกรณ์
- ลากลงจากที่ใดก็ได้บนหน้าจอเพื่อรีเฟรช
หากใช้โปรแกรมอัดเสียงกับบัญชี Google อื่น คุณจะสลับไปมาระหว่างบัญชีเพื่อดูคลังไฟล์บันทึกเสียงที่บันทึกไว้ในแต่ละบัญชีได้ โดยจะดูคลังไฟล์บันทึกเสียงของบัญชี Google ได้ครั้งละ 1 บัญชีเท่านั้น
- เปิดโปรแกรมอัดเสียง บนอุปกรณ์
- แตะรูปโปรไฟล์บัญชีหรือชื่อย่อของคุณ
- แตะขยายเพิ่ม ข้างข้อมูลบัญชี Google
- แตะบัญชี Google ที่มีไฟล์บันทึกเสียงที่ต้องการดู
ค้นหาไฟล์บันทึกเสียงที่หายไป
หากไม่มีการสํารองไฟล์บันทึกเสียงไว้ในบัญชี แสดงว่าไฟล์ดังกล่าวอาจสร้างขึ้นและบันทึกไว้ก่อนที่จะเพิ่มบัญชี วิธีหาไฟล์บันทึกเสียงที่ไม่ได้สำรองข้อมูล
สำคัญ: คุณจะย้ายข้อมูลไฟล์บันทึกเสียงไปยังบัญชีอื่นไม่ได้
- เปิดโปรแกรมอัดเสียง บนอุปกรณ์
- แตะรูปโปรไฟล์บัญชีหรือชื่อย่อของคุณ
- แตะขยายเพิ่ม ข้างข้อมูลบัญชี Google
- แตะใช้โดยไม่มีบัญชี
- แตะไฟล์บันทึกเสียงที่ต้องการแก้ไข ข้อความถอดเสียง
- แตะคำที่ต้องการเปลี่ยนแปลงค้างไว้
- แตะแก้ไขคํา
- เปลี่ยนเป็นคําที่ต้องการใช้
- แตะบันทึก
คุณใช้โปรแกรมอัดเสียงได้โดยไม่ต้องมีบัญชี Google เพื่อให้ไฟล์บันทึกเสียงบางไฟล์ยังคงเป็นแบบส่วนตัวในอุปกรณ์ หากฟีเจอร์สำรองและซิงค์ข้อมูลเปิดอยู่ อุปกรณ์จะเปิดแอปโปรแกรมอัดเสียงเพื่อจัดเก็บไฟล์บันทึกเสียงแม้อุปกรณ์ของคุณจะไม่ได้เชื่อมต่ออยู่กับบัญชี Google ก็ตาม
หากต้องการใช้โปรแกรมอัดเสียงโดยไม่มีบัญชี ให้ทำดังนี้
- เปิดโปรแกรมอัดเสียง บนอุปกรณ์
- แตะรูปโปรไฟล์บัญชีหรือชื่อย่อของคุณ
- แตะขยายเพิ่ม ข้างข้อมูลบัญชี Google
- แตะใช้โดยไม่มีบัญชี
หากต้องการค้นหาและจัดการไฟล์บันทึกเสียงในเว็บเบราว์เซอร์ ให้ไปที่ recorder.google.com
คุณสามารถแก้ไขชื่อและเล่นไฟล์บันทึกเสียง รวมถึงค้นหาภายในไฟล์บันทึกเสียงได้จากเว็บเบราว์เซอร์
ลบไฟล์เสียงที่ recorder.google.com
สำคัญ: ระบบจะนำไฟล์บันทึกเสียงที่ลบนั้นออกจาก recorder.google.com และอุปกรณ์ที่ซิงค์ทั้งหมดอย่างถาวร
หากต้องการลบไฟล์บันทึกเสียง ให้ทําดังนี้
ไปที่ recorder.google.com แล้วลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google
เลือกไฟล์บันทึกเสียงที่ต้องการลบ
เลือกลบ ลบ
- ไปที่ recorder.google.com แล้วลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google
- แตะแชร์
- เลือกผู้ที่คุณต้องการแชร์ลิงก์ไปยังไฟล์นี้ด้วย
- สาธารณะ
- แชร์กับบุคคลที่ระบุ
- คงไว้ให้เป็นส่วนตัวในบัญชี
- คุณพิมพ์ชื่อผู้ติดต่อในพื้นที่ค้นหาได้
- คุณแชร์ไฟล์บันทึกเสียงได้เฉพาะกับอีเมลที่เชื่อมโยงกับบัญชี Google
- เมื่อคุณแชร์ไฟล์บันทึกเสียงกับบุคคลหนึ่งๆ บุคคลนั้นจะได้รับการแจ้งเตือนทางอีเมล
ดูว่าโปรแกรมอัดเสียงจัดการกับข้อมูลของคุณอย่างไร
โปรแกรมอัดเสียงจะส่งเสียงไปยังแอปหรือบริการของ Google ในอุปกรณ์เพื่อถอดเสียง ระบบจะไม่ส่งออกเสียงไปนอกอุปกรณ์ หลังจากถอดเสียงแล้ว บริการหรือแอปของ Google ก็จะทิ้งเสียงนั้นไป
ทำตามกฎในท้องถิ่นเมื่อบันทึก
สถานที่หลายแห่งมีกฎหรือกฎหมายที่ห้ามหรือจำกัดการบันทึกเสียง ซึ่งสถานที่เหล่านี้จะกำหนดได้ว่าคุณต้องได้รับคำยินยอมจากผู้อื่นหรือเจ้าของอาคารก่อนการบันทึกหรือไม่ โปรดปฏิบัติตามกฎและกฎหมายทั้งหมดที่เกี่ยวข้องและต้องได้รับอนุญาตจากผู้อื่นก่อนที่จะทำการบันทึกเสียง ห้ามบันทึกเนื้อหาที่มีลิขสิทธิ์โดยไม่ได้รับอนุญาต