คุณปรับระดับเสียงของโทรศัพท์ให้ดังขึ้นหรือเบาลงได้ และยังเปลี่ยนเสียงเรียกเข้า เสียง และการสั่นได้อีกด้วย
สำคัญ
- ขั้นตอนเหล่านี้จะมีบางขั้นตอนที่ใช้ได้กับ Android 10 ขึ้นไปเท่านั้น ดูวิธีตรวจสอบเวอร์ชัน Android
- คุณจำเป็นต้องแตะหน้าจอในบางขั้นตอน
เพิ่มหรือลดระดับเสียง
- กดปุ่มปรับระดับเสียง
- แตะ "เมนู" ที่ด้านขวา
- เลื่อนปรับระดับเสียงตามที่ต้องการ
- ระดับเสียงของสื่อ: เพลง วิดีโอ เกม และสื่ออื่นๆ
- ระดับเสียงการโทร: ระดับเสียงของปลายสายระหว่างการโทร
- ระดับเสียงเรียกเข้า
- ระดับเสียงของการแจ้งเตือน
- ระดับเสียงปลุก
เคล็ดลับ
- หากต้องการให้ Google Assistant ปรับระดับเสียงของโทรศัพท์ ให้พูดหรือแตะ Ok Google ปรับระดับเสียง
- หากจับคู่โทรศัพท์กับอุปกรณ์บลูทูธมากกว่า 1 เครื่อง คุณจะเปลี่ยนจุดที่ได้ยินเสียงเพลง วิดีโอ และเกมได้ ในส่วน "ระดับเสียงของสื่อ" ให้แตะเล่นสื่อที่
- เมื่อกดปุ่มปรับระดับเสียง ระดับเสียงที่เปลี่ยนแปลงจะขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณทำอยู่ เช่น หากกำลังดูภาพยนตร์ ระดับเสียงของภาพยนตร์จะเปลี่ยนไป หากคุณกดปุ่มปรับระดับเสียงเมื่อไม่ได้ฟังอะไรอยู่ ระดับเสียงของสื่อจะเปลี่ยนไป
เปิดระบบสั่นหรือปิดเสียง
- กดปุ่มปรับระดับเสียง
- ทางด้านขวาเหนือแถบเลื่อน ให้แตะ "ทำให้ส่งเสียง"
- หากต้องการเปิดการสั่น ให้แตะ "สั่น"
- หากต้องการปิดเสียง ให้แตะ "ปิดเสียง"
เคล็ดลับ:
- หากต้องการทำให้โทรศัพท์ส่งเสียงหรือเปิดเสียงโทรศัพท์อีกครั้ง ให้ปิดฟีเจอร์ "สั่น" หรือเปิดฟีเจอร์ "ทำให้ส่งเสียง"
- หากต้องการปิดเสียงของโทรศัพท์เมื่อรับสายโทรเข้า ให้กดปุ่มปรับระดับเสียง
คุณควบคุมระดับการโต้ตอบการสัมผัส (การสั่น) ของการแจ้งเตือนได้เมื่อโทรศัพท์ไม่มีการใช้งานและหน้าจอหงายขึ้น
- เปิดแอปการตั้งค่าในโทรศัพท์
- แตะเสียงและการสั่น การสั่นและการโต้ตอบการสัมผัส
- เปิดใช้การสั่นและการโต้ตอบการสัมผัส
- กดปุ่มปรับระดับเสียง
- แตะเมนู ที่ด้านขวา
- หากจำเป็น ให้แตะดูเพิ่มเติม
- เปิดสั่นเมื่อมีสายเรียกเข้า หรือแตะการสั่นและการโต้ตอบการสัมผัส สั่นเมื่อมีสายเรียกเข้า เปิดสั่นทุกครั้ง
- เปิดแอปการตั้งค่าในโทรศัพท์
- แตะเสียงและการสั่น ทางลัดเพื่อไม่ให้ส่งเสียงเรียกเข้า
- เปิดหรือปิดป้องกันการส่งเสียง
- เลือกว่าจะให้โทรศัพท์ตอบสนองอย่างไรเมื่อกดปุ่มเปิด/ปิดและปุ่มเพิ่มระดับเสียง:
- สั่น: โทรศัพท์จะสั่นเมื่อมีสายเรียกเข้าและการแจ้งเตือน
- ปิดเสียง: โทรศัพท์จะไม่ส่งเสียงเมื่อมีสายเรียกเข้าและการแจ้งเตือน
เคล็ดลับ: หากต้องการเปิดการสั่นอย่างรวดเร็ว ให้กดปุ่มเปิด/ปิด + ปุ่มเพิ่มระดับเสียง
เปลี่ยนเสียงเรียกเข้า
เปลี่ยนเสียงเรียกเข้า- เปิดแอปการตั้งค่าในโทรศัพท์
- แตะเสียงและการสั่น เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์
- เลือกเสียงเรียกเข้า
- แตะบันทึก
- เปิดแอปรายชื่อติดต่อในโทรศัพท์
- แตะรายชื่อติดต่อที่ต้องการ
- แตะเพิ่มเติม ตั้งเสียงเรียกเข้า
- เลือกเสียงเรียกเข้า
- แตะบันทึก
ติดตั้งแอปเสียงเรียกเข้า
ดาวน์โหลดเสียงเรียกเข้าเพิ่มเติมได้จากแอปเสียงเรียกเข้าใน Google Play Store
โอนเสียงเรียกเข้าจากคอมพิวเตอร์
- เชื่อมต่อโทรศัพท์กับคอมพิวเตอร์โดยใช้สาย USB ดูวิธีโอนไฟล์ด้วย USB
- ในหน้าต่างที่เปิดขึ้น ให้มองหาโฟลเดอร์ "เสียงเรียกเข้า" จากนั้นคัดลอกไฟล์เพลง (MP3) ลงในโฟลเดอร์ "เสียงเรียกเข้า"
- ยกเลิกการเชื่อมต่อระหว่างโทรศัพท์กับคอมพิวเตอร์
เคล็ดลับ: การปลุกและเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์จะใช้โฟลเดอร์แยกกัน ดูวิธีเพิ่มเสียงเรียกเข้าสำหรับการปลุก
เปลี่ยนเสียงและการสั่นอื่นๆ
เปลี่ยนเสียงและการสั่นของการแจ้งเตือนเปลี่ยนเสียงการแจ้งเตือน
- เปิดแอปการตั้งค่าในโทรศัพท์
- แตะเสียงและการสั่น เสียงการแจ้งเตือนเริ่มต้น
- เลือกเสียง
- แตะบันทึก
เคล็ดลับ: คุณเลือกเสียงการแจ้งเตือนที่แตกต่างกันได้ในแอปต่างๆ โดยใช้เมนูการตั้งค่าในแอปแต่ละแอป ตัวอย่างเช่น ดูวิธีเปลี่ยนการแจ้งเตือนของ Gmail
เปิดระบบสั่นเมื่อมีการแจ้งเตือน
บางแอปให้คุณเลือกได้ว่าจะใช้การสั่นสำหรับการแจ้งเตือนหรือไม่ ดูวิธีเปลี่ยนการแจ้งเตือนของบางแอป
หากต้องการเปลี่ยนเสียงและการสั่นสำหรับการพิมพ์ คุณอาจต้องเปลี่ยนการตั้งค่าของแป้นพิมพ์ เช่น หากต้องการเปลี่ยนเสียงของ Gboard ให้ทำดังนี้
- เปิดแอปการตั้งค่าในโทรศัพท์
- แตะระบบ ภาษาและการป้อนข้อมูล
- แตะแป้นพิมพ์เสมือน Gboard
- แตะค่ากำหนด
- เปิดหรือปิด
- ส่งเสียงเมื่อกดปุ่ม
- การตอบสนองแบบรู้สึกได้เมื่อกดปุ่ม
หมายเหตุ: หากไม่เห็น "การตอบสนองแบบรู้สึกได้เมื่อกดปุ่ม" ให้แตะสั่นเมื่อกดปุ่ม
เคล็ดลับ: หากเปิด "การตอบสนองแบบรู้สึกได้เมื่อกดปุ่ม" ไว้ใน Gboard โปรดตรวจดูว่าได้เปิด "การสั่นเมื่อแตะ" ไว้ด้วย ดูวิธีเปิด "การสั่นเมื่อแตะ"
คุณเปิดหรือปิดประเภทการแจ้งเตือน ดูการแจ้งเตือนที่ผ่านมา รวมทั้งควบคุมเสียงและการสั่นได้
- เปิดแอปการตั้งค่าในโทรศัพท์
- แตะการแจ้งเตือน การแจ้งเหตุฉุกเฉินแบบไร้สาย
- เลือกความถี่ที่ต้องการรับการแจ้งเตือนและการตั้งค่าที่ต้องการเปิด
- เปิดแอปการตั้งค่าในโทรศัพท์
- แตะเสียงและการสั่น ขั้นสูง
- เปิดหรือปิดเสียงหรือการสั่น
- ตั้งค่าโปรไฟล์งาน
- เปิดแอปการตั้งค่าในโทรศัพท์
- แตะเสียงและการสั่น ขั้นสูง
- เลื่อนลงไปที่ "เสียงของโปรไฟล์งาน"
- เลือกเสียงเรียกเข้าและเสียง
สำคัญ: หากต้องการใช้การปรับเสียงอัจฉริยะ ให้ตรวจสอบว่าคุณใช้ซอฟต์แวร์ Android ล่าสุด ดูวิธีตรวจสอบเวอร์ชัน Android จากนั้นใน Play Store ให้ตรวจสอบว่าคุณใช้แอปบริการปรับอุปกรณ์ตามการใช้งานของผู้ใช้เวอร์ชันล่าสุด
ฟีเจอร์ปรับเสียงอัจฉริยะจะค่อยๆ ปรับระดับเสียงให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติตามระดับเสียงรบกวนในสภาพแวดล้อมที่คุณอยู่
ฟีเจอร์ปรับเสียงอัจฉริยะจะใช้ได้เฉพาะในโทรศัพท์ Pixel เท่านั้น และใช้ไม่ได้กับเสียงที่เล่นผ่านลําโพงหรือหูฟังภายนอก ฟีเจอร์ปรับเสียงอัจฉริยะจะเปิดอยู่โดยค่าเริ่มต้นในโทรศัพท์ Pixel 7
- เปิดแอปการตั้งค่าในโทรศัพท์
- แตะเสียงและการสั่น ปรับเสียงอัจฉริยะ
- เปิดหรือปิดปรับเสียงอัจฉริยะ
สำคัญ: ฟีเจอร์นี้ขึ้นอยู่กับแบนด์วิดท์การโทรและอาจใช้ไม่ได้กับการโทรทั้งหมด
- เปิดแอปการตั้งค่าในโทรศัพท์
- แตะเสียงและการสั่น การโทรเสียงคมชัด
- เปิดหรือปิดใช้การโทรเสียงคมชัด
ทำให้การตั้งค่าเสียงเปลี่ยนแปลงตามกิจวัตร
สำคัญ: คุณต้องตั้งกฎหากต้องการให้การตั้งค่าเปลี่ยนแปลงโดยอัตโนมัติเมื่อคุณอยู่ในสถานที่บางแห่งหรือใช้เครือข่าย Wi-Fi บางเครือข่าย
- โทรศัพท์ Pixel จะแนะนำกฎโดยอิงตามกิจวัตรของคุณได้ หากต้องการตั้งค่ากฎที่แนะนำ ให้แตะตั้งค่ากฎในการแจ้งเตือน "คำแนะนำการตั้งค่า"
- ในส่วน "เพิ่มกฎ" ให้แตะกฎที่ต้องการเพิ่ม ดังนี้
- ตั้งค่าโปรแกรมสร้างเสียงเรียกเข้าเป็น "ปกติ"
- ปิดเสียงโทรศัพท์
- เปิดโหมดห้ามรบกวน
- แตะเพิ่ม
- เปิดแอปการตั้งค่าในโทรศัพท์
- แตะระบบ กฎ เพิ่มกฎ เพิ่มเครือข่าย Wi-Fi หรือตำแหน่ง
- ในส่วน "เพิ่มกฎ" ให้แตะกฎที่ต้องการเพิ่ม ดังนี้
- เปิดโหมดห้ามรบกวน
- ตั้งค่าโทรศัพท์ให้เป็นโหมดปิดเสียง
- ตั้งค่าโทรศัพท์ให้เป็นโหมดสั่น
- ตั้งค่าโทรศัพท์ให้เป็นโหมดส่งเสียง
- แตะเพิ่ม