เมื่อคุณป้อนข้อมูลการชำระเงินใหม่สำหรับผลิตภัณฑ์หรือบริการของ Google เราจะบันทึกข้อมูลดังกล่าวไว้ในโปรไฟล์การชำระเงิน ในครั้งต่อไปที่คุณซื้อผ่าน Google คุณจะใช้ข้อมูลในโปรไฟล์การชำระเงินนั้นซ้ำหรือสร้างโปรไฟล์ใหม่ก็ได้ โปรไฟล์การชำระเงินที่คุณสร้างหรือได้รับเชิญให้จัดการจะเชื่อมโยงกับบัญชี Google
โปรไฟล์การชำระเงินของ Google จะเก็บรักษาข้อมูล รวมถึงสิ่งต่อไปนี้
- ชื่อ ที่อยู่ และหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของผู้ที่รับผิดชอบโปรไฟล์ เมื่อจำเป็นต้องใช้ตามกฎหมาย
- บัตรเครดิต บัตรเดบิต บัญชีธนาคาร และวิธีการชำระเงินอื่นๆ ที่คุณเคยใช้ในการซื้อผ่าน Google
- ใบเสร็จและข้อมูลอื่นๆ เกี่ยวกับธุรกรรมที่ผ่านมา
- การสมัครรับข้อมูลและการชำระเงินที่เกิดขึ้นประจำ
- การสมัครรับข้อมูลทางธุรกิจและการชำระเงินที่เกิดขึ้นประจำ
- ผู้ที่คุณเชิญให้จัดการโปรไฟล์
- ประวัติและรายงานการชำระคืนของผู้ขาย
- การตั้งค่าภาษีของผู้ขาย
คุณสามารถสร้าง แก้ไข หรือนำโปรไฟล์การชำระเงินออก รวมถึงจัดการโปรไฟล์การชำระเงินอื่นๆ ได้ เมื่อได้รับเชิญ
ประเภทโปรไฟล์
สำคัญ: คุณอาจเห็นประเภทบัญชี "องค์กร" แทน "ธุรกิจ" สำหรับผลิตภัณฑ์ทางธุรกิจบางรายการ เช่น Google Ads
เมื่อสร้างโปรไฟล์การชำระเงินใหม่ คุณต้องเลือกว่าจะตั้งโปรไฟล์เป็น "บุคคลธรรมดา" หรือ "ธุรกิจ" โดยสิ่งที่ควรคำนึงถึงมีดังนี้
- คุณต้องเลือกให้ถูกต้องเนื่องจากจะมีผลต่อการเสียภาษีและการยืนยันตัวตน
- คุณเปลี่ยนประเภทโปรไฟล์ในภายหลังไม่ได้
โปรดตรวจสอบว่าได้เลือกประเภทโปรไฟล์ต่อไปนี้ที่เหมาะกับวิธีใช้โปรไฟล์ตามที่คุณวางแผนไว้มากที่สุด
- บุคคลธรรมดา: เลือกประเภทโปรไฟล์การชำระเงินนี้ หากใช้บัญชีสำหรับการชำระเงินส่วนบุคคล
- ธุรกิจ: เลือกประเภทโปรไฟล์การชำระเงินนี้ หากคุณชำระเงินหรือรับการชำระเงินในนามของธุรกิจ องค์กร พาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ หรือสถาบันการศึกษา
คุณสร้างโปรไฟล์อื่นได้ เวลาที่ชำระเงินค่าผลิตภัณฑ์ Google บางอย่าง หากคุณมีตัวเลือกในการสร้างโปรไฟล์ใหม่ ระบบจะขอให้คุณป้อนข้อมูลการชำระเงินเมื่อลงชื่อสมัครใช้
กรณีที่ควรสร้างหลายโปรไฟล์
หากคุณใช้โปรไฟล์สำหรับการชำระเงินส่วนบุคคลเท่านั้น เราขอแนะนำให้สร้างโปรไฟล์การชำระเงินเพียงโปรไฟล์เดียวเพื่อจัดการการซื้อจาก Google ทั้งหมดในที่เดียว
คุณอาจต้องสร้างโปรไฟล์อื่น ในกรณีต่อไปนี้
- คุณต้องการแยกโปรไฟล์ส่วนบุคคลและโปรไฟล์ธุรกิจที่เชื่อมโยงกับบัญชี Google ของคุณออกจากกัน
- คุณต้องการจัดการโปรไฟล์สำหรับธุรกิจหรือองค์กรมากกว่า 1 แห่ง
- คุณต้องการมีโปรไฟล์ของหลายประเทศหมายเหตุ: คุณอาจต้องสร้างโปรไฟล์ใหม่เมื่อเปลี่ยนประเทศ
แก้ไข ลบ จัดการ หรือออกจากโปรไฟล์การชำระเงิน
อัปเดตชื่อโปรไฟล์การชำระเงินอัปเดตชื่อในการตั้งค่า
- ลงชื่อเข้าใช้แล้วไปที่การตั้งค่า
- คลิกแก้ไข ข้าง "ชื่อ"
- หากอัปเดตชื่อไม่ได้ ให้คลิกเปลี่ยนชื่อ
- ทำตามขั้นตอนเพื่อกรอกแบบฟอร์มการเปลี่ยนชื่อ
- หากอัปเดตชื่อไม่ได้ ให้คลิกเปลี่ยนชื่อ
- ป้อนชื่อที่อัปเดต
- คลิกบันทึก
กรอกแบบฟอร์มการเปลี่ยนชื่อ
หากต้องการอัปเดตชื่อที่ยืนยันแล้วในโปรไฟล์การชำระเงิน คุณจะต้องให้ข้อมูลและเอกสารเพิ่มเติมเพื่อยืนยันชื่ออีกครั้ง หากคุณอัปเดตช่องชื่อในการตั้งค่าไม่ได้ ให้ทำดังนี้
- คลิกเปลี่ยนชื่อใต้ชื่อของคุณ
- คลิกเริ่มเปลี่ยนชื่อ
- ทำตามวิธีการบนหน้าจอเพื่อป้อนข้อมูลและอัปโหลดเอกสาร
แก้ปัญหาเกี่ยวกับการเปลี่ยนชื่อ
หากอัปเดตชื่อโปรไฟล์การชำระเงินด้วยขั้นตอนด้านบนไม่ได้ โปรดกรอกแบบฟอร์มเพื่อขออัปเดตชื่อโปรไฟล์การชำระเงิน
คุณแก้ไขโปรไฟล์ที่สร้างขึ้นหรือเป็นผู้ดูแลระบบได้โดยทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
- ลงชื่อเข้าใช้โปรไฟล์การชำระเงิน
- หากมีโปรไฟล์การชำระเงินมากกว่า 1 โปรไฟล์ ให้ทำดังนี้
- ที่ด้านบนซ้ายของหน้า ให้คลิกลูกศรลง ข้างชื่อของคุณ
- เลือกโปรไฟล์ที่ต้องการแก้ไข
- คลิกการตั้งค่า
- หากต้องการแก้ไขข้อมูล ให้คลิกแก้ไข โดยคุณสามารถเปลี่ยนข้อมูล เช่น ที่อยู่ธุรกิจและหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี ดูข้อมูลเกี่ยวกับวิธีเปลี่ยนวิธีการชําระเงิน
- คลิกบันทึก
หากต้องการนำโปรไฟล์การชำระเงินของธุรกิจออก ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อปิดโปรไฟล์ก่อน
หมายเหตุ: ผู้ขายจะนำโปรไฟล์ของตนเองออกไม่ได้
หากต้องการยอมรับคำเชิญให้จัดการโปรไฟล์การชำระเงิน ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
- เปิดอีเมลคำเชิญ แล้วคลิกอ่านและยอมรับ
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อมูลทั้งหมดถูกต้อง
- คลิกยอมรับ
วิธีนำตนเองออกจากการเป็นผู้ใช้สำหรับโปรไฟล์การชำระเงินของบุคคลอื่นมีดังนี้
- ลงชื่อเข้าใช้โปรไฟล์การชำระเงิน
- ที่ด้านบนซ้ายของหน้า ให้คลิกลูกศรลง ข้างชื่อของคุณ
- เลือกโปรไฟล์ที่ต้องการออกจากระบบ
- คลิกการตั้งค่า แล้วคลิกจัดการผู้ใช้สำหรับการชำระเงิน
- คลิกลูกศรลง ข้างชื่อของคุณบนการ์ดการจัดการผู้ใช้
- คลิกนำออก แล้วยืนยันว่าต้องการให้ระบบนำคุณออก