รายงานสินค้าขายดีจะแสดงแบรนด์และผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดซึ่งใช้ในโฆษณา Shopping และข้อมูลที่แสดงฟรี รวมทั้งแสดงว่าในปัจจุบันคุณมีแบรนด์และผลิตภัณฑ์ดังกล่าวอยู่ในฟีดผลิตภัณฑ์หรือไม่ ข้อมูลความนิยมนี้จัดกลุ่มตามประเทศและหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ Google เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกผลิตภัณฑ์และแบรนด์ใหม่ๆ เข้าสต็อก นอกจากนี้ ยังช่วยให้คุณระบุเทรนด์ตามฤดูกาลด้วยการใช้ข้อมูลย้อนหลัง รวมถึงผลิตภัณฑ์และแบรนด์ที่จะได้รับประโยชน์จากงบประมาณหรือราคาเสนอที่เพิ่มขึ้นได้อีกด้วย
บทความนี้อธิบายถึงวิธีการทำงานของรายงานสินค้าขายดีและวิธีที่ผู้ลงโฆษณาจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากรายงานนี้
ประโยชน์
- เพิ่มผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมไปยังสินค้าคงคลัง (สำหรับผู้ค้าปลีกที่ใช้โฆษณา Shopping และ/หรือข้อมูลที่แสดงฟรี): รายงานสินค้าขายดีจะแสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์ใดได้รับความนิยมมากที่สุดในโฆษณา Shopping และข้อมูลที่แสดงฟรีในขณะนี้และช่วงเวลาที่ผ่านมา ดังนั้นคุณจะมีข้อมูลเชิงลึกมากขึ้นเกี่ยวกับแบรนด์หรือผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่อาจเพิ่มลงในการคัดสรรสินค้าของตนเองได้ กรองรายงานตามประเทศและหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ Google เพื่อดูผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับธุรกิจที่สุด
- ตั้งราคาเสนอและงบประมาณที่เหมาะสม (สำหรับผู้ค้าปลีกที่ใช้โฆษณา Shopping และข้อมูลที่แสดงฟรี): รายงานนี้ยังแสดงแบรนด์และผลิตภัณฑ์ยอดนิยมที่อยู่ในข้อมูลผลิตภัณฑ์ด้วย ทั้งนี้ เพื่อให้คุณระบุได้ว่าแบรนด์และผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นที่ต้องการมากรายการใดอาจได้รับประโยชน์จากการเพิ่มประสิทธิภาพราคาเสนอและงบประมาณ
- แสดงผลิตภัณฑ์ขายดีบนเว็บไซต์ (สำหรับผู้ค้าปลีกที่ใช้โฆษณา Shopping และข้อมูลที่แสดงฟรี): ใช้รายงานสินค้าขายดีเพื่อระบุสินค้าขายดีของ Google ที่คุณนำมาแสดงบนเว็บไซต์ได้
- ดูข้อมูลเชิงลึกจำนวนมากด้วย Google BigQuery (ต้องใช้บัญชี Google Cloud): ดูข้อมูลสินค้าขายดีผ่าน BigQuery ของ Google Cloud การเปิดใช้ฟีเจอร์นี้ช่วยให้คุณพัฒนาเวิร์กโฟลว์ที่กำหนดเองได้ โดยใช้ข้อมูลของตนเองและรับข้อมูลเชิงลึกทางธุรกิจเพื่อนำไปประกอบการตัดสินใจคัดสรรสินค้าและอื่นๆ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการโอนข้อมูล BigQuery ของ Google สำหรับ Merchant Center
วิธีการทำงาน
ระบบจะรีเฟรชข้อมูลรายงานสินค้าขายดีทุกวัน (ข้อมูลที่อยู่ในเมตริกอาจอัปเดตล่าช้าสูงสุด 2 วัน) โดยรายงานนี้จะใช้ข้อมูลของโฆษณา Shopping และข้อมูลที่แสดงฟรี รวมถึงพร้อมให้บริการแก่ผู้ค้าปลีกที่ใช้โฆษณา Shopping และ/หรือข้อมูลที่แสดงฟรี อย่างไรก็ดี ข้อมูลดังกล่าวนี้ไม่ได้รวมถึงผลิตภัณฑ์มือสอง
หากต้องการเริ่มต้นใช้งาน ให้ไปที่แท็บ "การเติบโต" ใน Merchant Center จากนั้นคุณจะเห็นรายงาน "สินค้าขายดี" ในรายงานแต่ละรายการ คุณจะกรองข้อมูลตามประเทศและหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ Google ได้
ข้อมูลที่มีอยู่ในรายงานสินค้าขายดีมีดังนี้
ผลิตภัณฑ์ยอดนิยม
- อันดับความนิยม: ความนิยมของสินค้าในโฆษณา Shopping และข้อมูลที่แสดงฟรีตามหมวดหมู่และประเทศที่เลือกโดยอิงจากจำนวนหน่วยที่ขายโดยประมาณ
- การเปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์หรือเดือนก่อนหน้า: การเปลี่ยนแปลงอันดับความนิยมของสินค้าจากสัปดาห์หรือเดือนก่อนหน้า
- ความต้องการแบบสัมพัทธ์: ความต้องการโดยประมาณของผลิตภัณฑ์เมื่อเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์ที่มีอันดับความนิยมสูงสุดในหมวดหมู่และประเทศเดียวกัน
- สูงมาก: ความต้องการผลิตภัณฑ์นี้คิดเป็น 51-100% ของผลิตภัณฑ์ที่มีอันดับสูงสุด
- สูง: ความต้องการผลิตภัณฑ์นี้คิดเป็น 21-50% ของผลิตภัณฑ์ที่มีอันดับสูงสุด
- ปานกลาง: ความต้องการผลิตภัณฑ์นี้คิดเป็น 11-20% ของผลิตภัณฑ์ที่มีอันดับสูงสุด
- ต่ำ: ความต้องการผลิตภัณฑ์นี้คิดเป็น 6-10% ของผลิตภัณฑ์ที่มีอันดับสูงสุด
- ต่ำมาก: ความต้องการผลิตภัณฑ์นี้คิดเป็น 0-5% ของผลิตภัณฑ์ที่มีอันดับสูงสุด
- รูปภาพ: รูปภาพของผลิตภัณฑ์
- ชื่อ: ชื่อตัวอย่างผลิตภัณฑ์
- รูปแบบยอดนิยม (GTIN): GTIN ตามที่ผู้ขายระบุไว้ซึ่งได้รับความนิยมมากที่สุดและเชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์นี้ในโฆษณา Shopping และข้อมูลที่แสดงฟรี
- หมวดหมู่: หมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ Google ที่มีสินค้าอยู่ในโฆษณา Shopping และข้อมูลที่แสดงฟรี
- แบรนด์: แบรนด์ของผลิตภัณฑ์
- สถานะสินค้าคงคลังของแบรนด์: ช่องที่ระบุว่าขณะนี้แบรนด์ดังกล่าว "มีสินค้าพร้อมจำหน่าย" ในฟีดหลายประเทศ หรือ "ไม่อยู่ในสินค้าคงคลัง" ทั้งนี้ ช่องนี้ไม่ได้พิจารณาตัวกรองประเทศของรายงานสินค้าขายดีด้วย
- สถานะสินค้าคงคลังของผลิตภัณฑ์: ช่องที่ระบุว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าว "มีสินค้าพร้อมจำหน่าย" ในฟีดผลิตภัณฑ์หลายประเทศ, "สินค้าหมด" ในฟีดผลิตภัณฑ์ หรือ "ไม่อยู่ในสินค้าคงคลัง" เลย ทั้งนี้ ช่องนี้ไม่ได้พิจารณาตัวกรองประเทศของรายงานสินค้าขายดีด้วย
- ช่วงราคา: ช่องนี้จะแสดงช่วงราคาของผลิตภัณฑ์ในโฆษณา Shopping และข้อมูลที่แสดงฟรี ซึ่งเป็นราคาที่ยังไม่ได้รวมค่าจัดส่ง
หมายเหตุ: ช่อง "รูปแบบยอดนิยม (GTIN)" "สถานะสินค้าคงคลังของแบรนด์" "สถานะสินค้าคงคลังของผลิตภัณฑ์" และ "ช่วงราคา" จะแสดงสถานะปัจจุบันโดยไม่คำนึงถึงช่วงเวลาที่เลือก
แบรนด์ยอดนิยม
- อันดับความนิยม: ความนิยมของแบรนด์ในโฆษณา Shopping และข้อมูลที่แสดงฟรีตามหมวดหมู่และประเทศที่เลือกโดยอิงจากจำนวนหน่วยที่ขายโดยประมาณของแบรนด์นี้
- การเปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์หรือเดือนก่อนหน้า: การเปลี่ยนแปลงอันดับความนิยมของแบรนด์จากสัปดาห์หรือเดือนก่อนหน้า
- ความต้องการแบบสัมพัทธ์: ความต้องการโดยประมาณของแบรนด์เมื่อเปรียบเทียบกับแบรนด์ที่มีอันดับความนิยมสูงสุดในหมวดหมู่และประเทศเดียวกัน
- สูงมาก: ความต้องการแบรนด์นี้คิดเป็น 51-100% ของแบรนด์ที่มีอันดับสูงสุด
- สูง: ความต้องการแบรนด์นี้คิดเป็น 21-50% ของแบรนด์ที่มีอันดับสูงสุด
- ปานกลาง: ความต้องการแบรนด์นี้คิดเป็น 11-20% ของแบรนด์ที่มีอันดับสูงสุด
- ต่ำ: ความต้องการแบรนด์นี้คิดเป็น 6-10% ของแบรนด์ที่มีอันดับสูงสุด
- ต่ำมาก: ความต้องการแบรนด์นี้คิดเป็น 0-5% ของแบรนด์ที่มีอันดับสูงสุด
- แบรนด์: แบรนด์ของผลิตภัณฑ์
- ผลิตภัณฑ์ยอดนิยมในสินค้าคงคลัง: จำนวนผลิตภัณฑ์ยอดนิยมของแบรนด์ที่มีสถานะเป็น "มีสินค้าพร้อมจำหน่าย" และ "สินค้าหมด" ซึ่งอยู่ในฟีดผลิตภัณฑ์สำหรับประเทศและหมวดหมู่ที่เลือกในตอนนี้ ระบบจะกำหนดสถานะ "มีสินค้าพร้อมจำหน่าย" และ "สินค้าหมด" ตามสินค้าคงคลังของคุณในทุกประเทศเป้าหมายสำหรับบัญชี Merchant Center
- โอกาสสำหรับผลิตภัณฑ์ยอดนิยม: จำนวนผลิตภัณฑ์ในแท็บ "ผลิตภัณฑ์ยอดนิยม" ที่เชื่อมโยงกับแบรนด์นั้นซึ่งไม่ได้อยู่ในสินค้าคงคลังของผลิตภัณฑ์ในขณะนี้ ลิงก์จะเปลี่ยนเส้นทางไปยังแท็บ "ผลิตภัณฑ์ยอดนิยม" ซึ่งคุณจะดูรายการผลิตภัณฑ์ยอดนิยมที่เฉพาะเจาะจงทั้งหมดของแบรนด์นั้นได้
หมายเหตุ: ช่อง "ผลิตภัณฑ์ยอดนิยมในสินค้าคงคลัง" และ "โอกาสสำหรับผลิตภัณฑ์ยอดนิยม" จะแสดงสถานะปัจจุบันโดยไม่คำนึงถึงช่วงเวลาที่เลือก
หากต้องการดาวน์โหลดผลลัพธ์ของรายงาน 2 รายการเป็นไฟล์ .csv ให้คลิกปุ่มดาวน์โหลดที่มุมบนขวาของตารางรายงาน
แนวทางปฏิบัติแนะนำ
คุณใช้รายงานนี้ได้หลายวิธีโดยขึ้นอยู่กับประเภทธุรกิจของคุณ
- หากคุณเป็นผู้ค้าปลีกที่ขายผลิตภัณฑ์หลายหมวดหมู่: ลองค้นหาผลลัพธ์ตามหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ระดับสูงของ Google เช่น "สื่อ" หรือ "บ้านและสวน" แล้วคุณจะทราบถึงความนิยมของผลิตภัณฑ์อย่างกว้างๆ เนื่องจากผลลัพธ์จะรวมผลิตภัณฑ์จากหมวดหมู่ย่อยทั้งหมดที่อยู่ในหมวดหมู่ที่คุณเลือก
- หากคุณเป็นผู้ค้าปลีกที่เชี่ยวชาญเฉพาะหมวดหมู่: ลองค้นหาผลลัพธ์ตามหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ Google ที่เจาะจงมากขึ้น เช่น "บ้านและสวน > ต้นไม้ > ไม้ต้น" แล้วคุณจะทราบถึงความนิยมของผลิตภัณฑ์โดยเน้นไปที่หมวดหมู่ที่เฉพาะเจาะจง