นโยบายโปรโมชันให้คำแนะนำที่สำคัญเกี่ยวกับการมีสิทธิ์ในโปรโมชัน โดยโปรโมชันจะต้องเป็นไปตามนโยบายต่อไปนี้เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ใช้งานที่ดี
- โปรโมชันต้องเพิ่มมูลค่า
- ปฏิบัติตามนโยบายโฆษณา Shopping
- ปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านบรรณาธิการของ Google สำหรับชื่อ
- ปฏิบัติตามข้อกำหนดในการแลกสิทธิ์
- หลีกเลี่ยงโปรโมชันที่มีข้อจำกัดมากเกินไป
- แสดงผลิตภัณฑ์ที่โปรโมตแก่ผู้เลือกซื้ออย่างชัดเจน
- ยืนยันการรับโปรโมชันให้ชัดเจน
- ระบุรหัสแลกรับข้อเสนอสำหรับโปรโมชันการจัดส่ง
- ปฏิบัติตามนโยบายโปรโมชันในร้าน
- ปฏิบัติตามนโยบายโปรโมชันแบบรวม
เพิ่มมูลค่า
โปรโมชันต้องระบุส่วนลดเป็นจำนวนเงินหรือเป็นสินค้าหรือบริการเพิ่มเติมซึ่งปกติไม่ได้เชื่อมโยงกับการซื้อ โดยโปรโมชันทั้งหมดจะนำไปใช้ที่จุดชำระเงินหรือจุดขาย
โปรโมชันต้องไม่ใช่รายการดังต่อไปนี้
- ข้อเสนอสำหรับการแลกซื้อ
- การรับเงินคืนทางไปรษณีย์หรืออีเมล
- ผลิตภัณฑ์และบริการที่ฟรีอยู่แล้ว
- การจับรางวัล
- ข้อความที่ใช้ในการโฆษณาผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนลด
- มีมูลค่าน้อยกว่า 5% จากราคาปัจจุบันของสินค้าหรือ $5 USD ในสหรัฐอเมริกา, C$5 CAD ในแคนาดา, £5 GBP ในสหราชอาณาจักร, R$5 BRL ในบราซิล, ₹5 INR ในอินเดีย, ¥5 JPY ในญี่ปุ่น, ₩5 KRW ในเกาหลีใต้, A$5 AUD ในออสเตรเลีย, €5 EUR ในเนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี สเปน และอิตาลี
- เท่ากับหรือมากกว่ามูลค่าในรถเข็น (ส่วนลด 100% ขึ้นไป)
- ส่วนลดภาษี/ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
- เป็นไปตามราคา SKU (สต็อกคีปปิ้งยูนิต) ที่แสดงในหน้าผลิตภัณฑ์ของ Google หรือหน้า Landing Page ของผลิตภัณฑ์ของคุณ
หมายเหตุ: โปรโมชันมีระยะเวลาจำกัดที่ 6 เดือน (183 วัน)
ปฏิบัติตามนโยบายโฆษณา Shopping
คุณจะแสดงผลิตภัณฑ์หรือบริการบางอย่างในโฆษณาหรือข้อมูลที่แสดงฟรีไม่ได้ โปรดดูรายละเอียดที่ข้อจำกัดของนโยบายโฆษณา Shopping Google ขอสงวนสิทธิ์ในการนำโปรโมชันออกจากโฆษณาหรือข้อมูลที่แสดงได้ทุกเมื่อไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม
ปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านบรรณาธิการสำหรับชื่อ
ชื่อโปรโมชันควรกระชับ เข้าใจง่าย ถูกต้อง และแสดงถึงมูลค่าของดีลเฉพาะที่โปรโมตเท่านั้น
ชื่อต้องมีลักษณะดังนี้
- ระบุเกณฑ์/สินค้าขั้นต่ำที่จำเป็นสำหรับดีลอย่างชัดเจน
- เปิดเผยข้อกำหนดในการแลกสิทธิ์
- ระบุการเรียกเก็บเงินที่คาดหวัง ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ข้อจำกัดในการซื้อขั้นต่ำ ฯลฯ
- ระบุเงื่อนไขและข้อจำกัดของข้อเสนออย่างชัดเจน
ชื่อต้องไม่มีลักษณะดังนี้
- พยายามหลอกลวงหรือทำให้ลูกค้าเข้าใจผิด
- ซ่อนค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมไว้จนกว่าจะชำระเงิน
ดูรายการทั้งหมด รวมถึงแนวทางปฏิบัติแนะนำและวิธีการจัดรูปแบบข้อความของโปรโมชันได้ที่ข้อกำหนดด้านบรรณาธิการ ทั้งนี้ Google อาจขอให้ธุรกิจของคุณทำการเปลี่ยนแปลงตามหลักเกณฑ์เหล่านี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของโปรโมชัน
หมายเหตุ: Google หรือบริษัทในเครืออาจแก้ไขข้อความโปรโมชันเพื่อทำการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่เป็นรูปธรรม (เช่น ขนาด การจัดรูปแบบ เครื่องหมายวรรคตอน การใช้อักษรตัวพิมพ์ใหญ่ และการแก้ไขการสะกด)
ปฏิบัติตามข้อกำหนดในการแลกสิทธิ์
ผู้ค้าปลีกต้องไม่กำหนดต้นทุนเฉพาะดีลให้กับผู้ใช้เมื่อแลกสิทธิ์ หากต้นทุนเหล่านี้ไม่มีผลกับการซื้อที่ไม่ใช่ดีล กล่าวคือ เมื่อแลกรับโปรโมชัน ลูกค้าไม่ควรต้องเสียค่าธรรมเนียมที่ผู้ที่ไม่ได้แลกรับโปรโมชันไม่ต้องจ่าย
หากเว็บไซต์กำหนดให้มีการยืนยันหมายเลขโทรศัพท์เพื่อรับโปรโมชัน ให้ตรวจสอบว่ามีการแสดงรายละเอียดโปรโมชันในหน้า Landing Page ของผลิตภัณฑ์หรือหน้าชำระเงินก่อนที่จะขอให้ผู้ใช้ลงชื่อสมัครใช้ด้วยการยืนยันหมายเลขโทรศัพท์ ผู้ใช้ควรดูโปรโมชันได้ก่อนที่จะต้องลงชื่อสมัครใช้เพิ่มเติม
ต้องแลกรับโปรโมชันได้โดยไม่มีข้อกำหนดเพิ่มเติมสำหรับผู้ใช้ที่ไม่ได้ระบุไว้ เราไม่อนุญาตให้มีดีลที่ผู้ค้าปลีกมีข้อกำหนดอื่นซึ่งไม่ได้ระบุไว้ในชื่อเพื่อแลกสิทธิ์ ตัวอย่างข้อกำหนดเพิ่มเติมที่ไม่ยอมรับรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงตัวอย่างต่อไปนี้
- ลงชื่อสมัครใช้บัตรเครดิตร้านค้า
- ลงชื่อสมัครเป็นสมาชิกแบบชำระเงิน
- ทำแบบสำรวจนี้เพื่อแลกรับโปรโมชัน
หลีกเลี่ยงโปรโมชันที่มีข้อจำกัดมากเกินไป
โดยทั่วไปแล้ว ลูกค้าทุกรายต้องมีสิทธิ์เข้าถึงโปรโมชัน ระบบไม่ยอมรับโปรโมชันที่มีให้สำหรับลูกค้าบางกลุ่มเท่านั้น หรือวิธีการชำระเงินบางวิธีซึ่งแตกต่างจากข้อจำกัดด้านการชำระเงินทั่วไปของเว็บไซต์ ตัวอย่างโปรโมชันที่มีข้อจำกัดมากเกินไปอาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงตัวอย่างต่อไปนี้
- ลด $10 สำหรับครูและนักเรียน
- ลด 10% สำหรับผู้สูงอายุและทหาร
- ส่วนลด $15 ในวันเกิด
- ลด 10% เมื่อกดชอบ
- ลด 5% เมื่อใช้บัตรเครดิต Visa
- ลด 10% เมื่อทำแบบสำรวจสั้นๆ ที่จุดชำระเงิน
ลูกค้าต้องแลกสิทธิ์โปรโมชันของผลิตภัณฑ์ที่มีสิทธิ์ทั้งหมดได้ หากจำกัดโปรโมชันให้ใช้ได้เฉพาะบางผลิตภัณฑ์ โปรโมชันนั้นจะต้องใช้ได้เฉพาะกับผลิตภัณฑ์ที่เฉพาะเจาะจงที่ระบุไว้ในฟีดผลิตภัณฑ์
โปรโมชันแบบแพ็กเกจต้องระบุสินค้าทั้งหมดอย่างชัดเจน หากต้องเพิ่มผลิตภัณฑ์หลายอย่างเพื่อให้มีสิทธิ์ใช้โปรโมชัน ชื่อของโปรโมชันควรระบุผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่ต้องเพิ่มไว้อย่างชัดเจน
ยืนยันการรับโปรโมชันให้ชัดเจน
การรับโปรโมชันของลูกค้าต้องได้รับการยืนยันอย่างชัดเจนที่จุดที่ทำการซื้อและระบุไว้ในรถเข็นหรือที่จุดชำระเงิน (ไม่ได้อยู่ในหน้า Landing Page ของผลิตภัณฑ์)
ส่วนลดต้องไม่แสดงอยู่แล้วในหน้า Landing Page ของผลิตภัณฑ์ หากโปรโมชันระบุว่า "ลด $10" และลูกค้าซื้อสินค้าราคา $100 ลูกค้าควรจะเห็นว่าราคาสินค้าเป็น $100 ในหน้า Landing Page (ซึ่งลูกค้าสามารถแลกรับโปรโมชันได้) หากหน้า Landing Page แสดงราคาสินค้าที่ $90 (เพราะคำนวณส่วนลดไว้ให้แล้ว) ลูกค้าอาจได้รับประสบการณ์ที่ไม่น่าพอใจได้
โปรโมชันที่ยืนยันแล้วในหน้า Landing Page ไม่ถือเป็นมูลค่าเพิ่มและไม่มีสิทธิ์ โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมในนโยบาย Shopping ราคาในฟีดผลิตภัณฑ์ (ซึ่งเป็นราคาที่เราแสดงในโฆษณาและข้อมูลที่แสดงฟรีด้วย) จะต้องตรงกับราคาในหน้า Landing Page
การรับของขวัญฟรี บัตรของขวัญ หรือบัตรอิเล็กทรอนิกส์สามารถแสดงบนหน้า Landing Page ของผลิตภัณฑ์ และต้องมีการกล่าวถึงในที่ใดที่หนึ่งต่อไปนี้
- รถเข็นหรือตะกร้า
- หน้าชำระเงิน
โปรดทราบว่าเราไม่อนุญาตให้ใช้บัตรของขวัญฟรีสำหรับร้านค้าอื่นที่ไม่ใช่ร้านค้าของคุณ นอกจากนี้ เรายังไม่อนุญาตให้ใช้ผลิตภัณฑ์ตัวอย่างหรือช่วงทดลองใช้เป็นของขวัญฟรีด้วย เครดิตร้านค้าและคะแนนสะสมต้องเป็นมูลค่าทางการเงินเท่านั้น หากต้องการดูหลักเกณฑ์การตั้งชื่อโปรโมชันที่มีของขวัญ โปรดดูข้อกำหนดด้านบรรณาธิการ
ระบุรหัสแลกรับข้อเสนอสำหรับโปรโมชันการจัดส่ง
โปรโมชันการจัดส่งต้องมีรหัสแลกรับข้อเสนอที่ถูกต้อง มิฉะนั้นจะถือว่าไม่ได้ให้มูลค่าเพิ่ม หากในเว็บไซต์ของคุณมีบริการจัดส่งฟรีให้อยู่แล้วเมื่อซื้อสินค้าถึงเกณฑ์โดยไม่ต้องใช้รหัส คุณจะยังเสนอบริการจัดส่งฟรีเมื่อซื้อสินค้าที่ราคาต่ำกว่าเกณฑ์นั้นได้หากเชื่อมโยงกับรหัส
หมายเหตุ: หากโปรโมชันของคุณมีข้อเสนอการจัดส่งในเกณฑ์ที่ต่ำกว่า โปรโมชันไม่ควรเชื่อมโยงกับสินค้าที่ราคาสูงกว่าเกณฑ์ที่เสนอตามปกติ โปรโมชันต้องมีความเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์ที่เฉพาะเจาะจง
และเชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์ที่มีราคาต่ำกว่าจำนวนเงินที่เสนอเท่านั้น
เช่น หากมีบริการจัดส่งฟรีให้สำหรับยอดสั่งซื้อที่สูงกว่า $45 อยู่แล้ว (โดยไม่ต้องใช้รหัส) และคุณอยากให้บริการจัดส่งฟรีสำหรับยอดสั่งซื้อที่สูงกว่า $35 โดยใช้รหัส โปรโมชันนี้ควรเชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์ที่มีราคาต่ำกว่า $45 เท่านั้น
ปฏิบัติตามนโยบายโปรโมชันในร้าน
โปรโมชันในร้านต้องมี URL โปรโมชันที่ถูกต้องและสามารถใช้ยืนยันรายละเอียดของโปรโมชันได้ โดยต้องเป็นลิงก์ที่นำไปยังหน้าภายในเว็บไซต์เดียวกัน ซึ่งผู้ใช้ดูรายละเอียดส่วนสำคัญของโปรโมชันและการแลกสิทธิ์ได้
หากโปรโมชันให้สิทธิ์สำหรับการรับสินค้าโดยไม่ต้องลงจากรถ หน้า URL โปรโมชันควรระบุไว้ชัดเจนว่าเป็นโปรโมชันที่แลกสิทธิ์ออนไลน์สำหรับการรับสินค้าโดยไม่ต้องลงจากรถ
ปฏิบัติตามนโยบายโปรโมชันแบบรวม
บางโปรโมชันที่ไม่อนุญาตให้ใช้เดี่ยวๆ อาจได้รับอนุญาตเมื่อใช้นำไปรวมกับโปรโมชันอื่นที่ให้มูลค่าเพิ่มเติมแก่ลูกค้า
ตัวอย่างชื่อ | อนุญาต |
---|---|
ส่วนลด 10% สำหรับผลิตภัณฑ์ทั้งหมดพร้อมจัดส่งฟรี | อนุญาตทั้งกรณีที่มีและไม่มีรหัสแลกรับข้อเสนอการจัดส่ง |
ได้รับเงินคืน $50 เมื่อมีการส่งซ่อมทางไปรษณีย์หรือทางอีเมลและได้รับส่วนลดทันที $25 สำหรับยอดสั่งซื้อมากกว่า $300 | อนุญาตเนื่องจากมีการรวมโปรโมชันเงินคืนไว้กับโปรโมชันส่วนลดทันทีซึ่งถือเป็นโปรโมชันที่ให้มูลค่าเพิ่ม |
ได้รับเงินคืน $50 เมื่อมีการส่งซ่อมทางไปรษณีย์หรือทางอีเมลและจัดส่งฟรีทั่วทั้งเว็บไซต์ | อนุญาตในกรณีที่โปรโมชันมีรหัสแลกรับข้อเสนอการจัดส่งที่ถูกต้อง
ไม่อนุญาตในกรณีที่โปรโมชันไม่มีรหัสแลกรับข้อเสนอการจัดส่ง |
เลนส์กล้องฟรี + รางวัล 2% | อนุญาตเนื่องจากมีการรวมโปรโมชันให้รางวัลไว้กับการให้ของขวัญฟรีที่ถือเป็นการให้มูลค่าเพิ่ม |
ลด 20% + ซื้อ 1 แถม 1 | อนุญาตในกรณีที่แสดงส่วนลด 20% ในหน้าชำระเงิน
ไม่อนุญาตในกรณีที่หักส่วนลด 20% ไปแล้วในหน้า Landing Page ของผลิตภัณฑ์และราคาในหน้าชำระเงินเป็นราคาเดียวกันกับที่แสดงในหน้า Landing Page ของผลิตภัณฑ์ |
ในบางกรณีที่มีการละเมิดนโยบายซ้ำๆ คุณจะได้รับอีเมลเตือน หากคุณไม่ตอบกลับอีเมลหรือยังคงละเมิดนโยบาย Google ต่อไป บัญชี Merchant Center ของคุณจะถูกปิดใช้งานฟีเจอร์โปรโมชัน ซึ่งจะทำให้ไม่มีการแสดงโปรโมชันใดๆ ที่อยู่ในบัญชีที่ถูกปิดใช้งาน และคุณจะไม่สามารถส่งข้อมูลใหม่ได้