ใช้กิจกรรมร่วมใน Google Meet

คุณสามารถทํากิจกรรมสนุกๆ ร่วมกับผู้ใช้คนอื่นๆ ใน Google Meet ได้ เช่น

  • เล่นเกม
  • ฟังเพลง
  • ดูวิดีโอด้วยกัน

สิ่งที่จำเป็นสำหรับการใช้กิจกรรมร่วม ได้แก่

  • ต้องใช้งานอุปกรณ์ Android
  • ใช้ Google Meet และแอปของพาร์ทเนอร์ด้วยบัญชี Google ส่วนบุคคล
    • สําคัญ: แอปพาร์ทเนอร์สำหรับใช้กิจกรรมร่วมของ Meet มีดังนี้
      • YouTube
      • Heads Up
      • Kahoot!
      • UNO!

คุณจะใช้กิจกรรมร่วมใน Google Meet ไม่ได้ในกรณีต่อไปนี้

  • คุณใช้บัญชี Workspace แบบชําระเงิน
    • ข้อยกเว้น: คุณจะใช้ได้หากเป็นผู้สมัครใช้บริการ Workspace Individual หรือ Google One Premium
  • คุณมีอายุต่ำกว่า 18 ปี
  • คุณใช้บัญชี Family Link

เริ่มกิจกรรมร่วมในฐานะผู้จัดการประชุม

  1. ในการประชุมบนอุปกรณ์ Android ให้แตะหน้าจอเพื่อแสดงตัวควบคุมการโทร
  2. จากตัวเลือกที่ปรากฏ ให้แตะการดําเนินการเพิ่มเติม  จากนั้น กิจกรรม
  3. จากเมนู "กิจกรรม" ให้แตะแอปของพาร์ทเนอร์สำหรับกิจกรรมร่วม
    • สําหรับ Google Meet
      • หากต้องการเข้าถึงฟีเจอร์ของกิจกรรมร่วม คุณต้องเริ่มหรือกําหนดเวลาการประชุมภายในแอปของพาร์ทเนอร์ แต่คุณจะใช้งานฟีเจอร์นี้ไม่ได้หากโทรหากลุ่มหรือผู้ติดต่อโดยตรงในแอป Meet ที่อัปเกรดแล้ว
    • สําหรับแอป Meet (เวอร์ชันเดิม)
      • คุณสามารถใช้ฟีเจอร์นี้กับการประชุมใดก็ได้ที่คุณเข้าร่วมหรือที่คุณสร้างในแอป Meet (เวอร์ชันเดิม)
  4. ไม่บังคับ: หากไม่ได้ติดตั้งแอปของพาร์ทเนอร์สำหรับกิจกรรมร่วมไว้ในอุปกรณ์ Android ให้แตะไอคอนของแอปดังกล่าว จากนั้น ติดตั้ง จากนั้นระบบจะนําคุณไปยัง Play Store เพื่อดาวน์โหลดแอปของพาร์ทเนอร์
    • เมื่อดาวน์โหลดแอปแล้ว ให้กลับไปที่แอป Meet หรือแอป Meet (เวอร์ชันเดิม)
  5. เมื่อกลับไปที่เมนู "กิจกรรม" ในแอป Meet ให้แตะแอปของพาร์ทเนอร์สำหรับกิจกรรมร่วม จากนั้น เปิด
  6. ทำตามวิธีการในแอปของพาร์ทเนอร์เพื่อเริ่มต้นกิจกรรมร่วม

ปิดเซสชันกิจกรรมร่วม

  1. เปิดแอป Meet ที่คุณเริ่มเซสชันกิจกรรมร่วม (Meet หรือ Meet (เวอร์ชันเดิม) )
  2. ไปที่แบนเนอร์ที่ด้านบนของหน้าจอ
  3. แตะออกจากการแชร์สด จากนั้น ออก

หรือคุณจะปิดแอป YouTube บนโทรศัพท์เพื่อปิดเซสชันกิจกรรมร่วมก็ได้

เคล็ดลับ

  • ส่วนผู้เข้าร่วมการประชุมต้องปิดเซสชันกิจกรรมร่วมด้วยตนเอง
  • คุณอาจพลาดการแจ้งเตือนหรือข้อความในการประชุมขณะอยู่ในแอปของพาร์ทเนอร์ เราจึงขอแนะนำให้ตรวจสอบแอป Meet หรือแอป Meet (เวอร์ชันเดิม) เป็นระยะๆ (แอปใดก็ตามที่คุณใช้เพื่อเริ่มกิจกรรมร่วม) เพื่อดูการแจ้งเตือนที่ยังไม่ได้อ่าน
  • หากต้องการสิ้นสุดเซสชันกิจกรรมร่วมสําหรับตัวคุณเอง ให้ปิดแอปของพาร์ทเนอร์ในอุปกรณ์ ส่วนผู้เข้าร่วมการประชุมต้องปิดเซสชันกิจกรรมร่วมด้วยตนเอง

เข้าร่วมกิจกรรมร่วมในฐานะผู้เข้าร่วม

  1. เข้าร่วมการประชุมในแอป Meet หรือแอป Meet (เวอร์ชันเดิม)
    • หากมีผู้เริ่มเซสชันกิจกรรมร่วมหลังจากที่คุณเข้าร่วมการประชุม คุณจะได้รับคําเชิญแบบป๊อปอัป ให้แตะเข้าร่วม จากนั้น Meet จะเปลี่ยนเส้นทางคุณไปยังแอปของพาร์ทเนอร์เพื่อเริ่มกิจกรรมร่วม
    • หากคุณเข้าร่วมการประชุมที่มีกิจกรรมร่วมดำเนินอยู่ แบนเนอร์สีน้ำเงินจะปรากฏที่ด้านบนของหน้าจอ หากต้องการเริ่มเซสชันกิจกรรมร่วมในแอปของพาร์ทเนอร์ ให้แตะเข้าร่วมในแบนเนอร์ภายในแอป Meet  หรือแอป Meet (เวอร์ชันเดิม)
  2. ไม่บังคับ: หากไม่ได้ติดตั้งแอปของพาร์ทเนอร์ในอุปกรณ์ Android แบนเนอร์จะขอให้คุณติดตั้งแอปของพาร์ทเนอร์ ให้แตะดาวน์โหลดแอปในแบนเนอร์นั้น
    1. ไปที่ Play Store และดาวน์โหลดแอปของพาร์ทเนอร์ 
    2. กลับไปที่แอป Meet  หรือแอป Meet (เวอร์ชันเดิม)  (แอปใดก็ตามที่คุณใช้เพื่อเข้าร่วมการประชุม) และแตะเข้าร่วมในแบนเนอร์สีน้ำเงินที่ที่ด้านบนของหน้าจอ 

ปิดเซสชันกิจกรรมร่วม 

  1. เปิดแอป Meet ที่คุณเข้าร่วมเซสชันกิจกรรมร่วม (Meet หรือ Meet (เวอร์ชันเดิม)
  2. ไปที่แบนเนอร์ที่ด้านบนของหน้าจอ 
  3. แตะออกจากการแชร์สด จากนั้น ออก

หรือคุณจะปิดแอป YouTube บนโทรศัพท์เพื่อปิดเซสชันกิจกรรมร่วมก็ได้

เคล็ดลับ: อุปกรณ์ระดับล่าง (ราคาถูกที่สุด) อาจทำงานกับกิจกรรมร่วมได้ไม่ดีนักเนื่องจากมีเสียงก้อง คุณอาจได้รับการแจ้งเตือนในแอปเพื่อขอให้คุณใช้หูฟัง

สําคัญ: เมื่อใช้อุปกรณ์หรือบัญชีที่ไม่รองรับ คุณจะได้รับการแจ้งเตือนแบบแบนเนอร์ที่ระบุว่าคุณไม่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมร่วมได้

กิจกรรมร่วมไม่รองรับในรายการต่อไปนี้

  • อุปกรณ์ iOS
  • เบราว์เซอร์ในแล็ปท็อปหรือคอมพิวเตอร์
  • บัญชีงานหรือบัญชีโรงเรียนแบบชำระเงิน
  • บัญชีที่ลงทะเบียนไว้ของผู้ใช้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
  • ผู้ที่ใช้บัญชี Family Link
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
1749963818915760296
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
713370
false
false