วิธีเข้าถึงเครื่องมือตั้งค่าราคา
หน้า "การตั้งค่าราคา" ช่วยให้คุณตั้งค่าและจัดการราคาสำหรับโรงแรมทั้งหมดที่จับคู่ตรงกันได้
วิธีเข้าถึงหน้า "การตั้งค่าราคา"
- ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Hotel Center
- เลือกราคาจากเมนูการนำทาง
- เลือกการตั้งค่า
หมายเหตุ: คุณควบคุมการกำหนดราคาในระดับบัญชีและจัดการได้สำหรับโรงแรมทั้งหมด คุณต้องตั้งค่าและจับคู่โรงแรมผ่านการตั้งค่าข้อมูลโรงแรมก่อนตั้งค่าราคา (ไม่รวมการส่งข้อมูลราคาแบบ ARI) ดูวิธีตั้งค่าข้อมูลโรงแรม
การตั้งค่าราคา
ในหน้า "ตั้งค่า" คุณเลือกได้ว่าจะส่งข้อมูลราคาแบบพุลหรือราคาที่มีการเปลี่ยนแปลง
- แบบพุล: ใช้ตัวเลือกนี้หากต้องการให้ Google เพิ่มประสิทธิภาพให้กับข้อมูลราคาที่ดึงมาจาก URL แหล่งที่มา Google จะเลือกราคาที่มีแนวโน้มว่าจะได้รับการแสดงผลมากที่สุด พาร์ทเนอร์ส่วนใหญ่ใน Google ใช้การส่งข้อมูลราคาแบบพุลโดยค่าเริ่มต้น
- ราคาที่มีการเปลี่ยนแปลง (เดิมคือการดึงข้อมูลตามคำแนะนำ): คุณเลือกใช้ราคาที่มีการเปลี่ยนแปลงได้โดยเลือกกล่องโต้ตอบ "Google ควรขอข้อมูลโรงแรมที่อัปเดตจากฉัน" ในหน้า "ตั้งค่า" วิธีนี้ช่วยให้คุณกำหนดราคาที่จะดึงมาใช้ได้ แทนที่จะให้ Google กำหนด หากคุณทราบว่าแต่ละราคาของโรงแรมแต่ละแห่งเปลี่ยนแปลงเมื่อใด เราขอแนะนำให้ใช้ตัวเลือกนี้
เมื่อเลือกวิธีการส่งข้อมูลราคาที่ต้องการแล้ว ให้คลิกต่อไปเพื่อไปยังแท็บ "จัดการ"
การจัดการราคาโรงแรม
1. ระบุแหล่งที่มาของการกำหนดราคา
เพิ่มรายการที่อยู่ IP ที่จะใช้ตรวจสอบสิทธิ์การสื่อสารและพุชข้อความ ARI ไปยัง Google
2. ควบคุมวิธีที่ Google ขอข้อมูลราคา
หากมีค่าที่กำหนดเองสำหรับช่องที่ต้องกรอก คุณป้อนค่าดังกล่าวด้วยตนเองได้ การตั้งค่าที่กำหนดเองต้องอยู่ในช่วงค่าที่ระบุด้านล่าง
หากไม่ทราบว่าต้องป้อนค่าใดสำหรับช่องที่ต้องกรอกเหล่านี้ เราได้กำหนดค่าแนะนำที่ใช้ได้กับพาร์ทเนอร์ส่วนใหญ่ไว้แล้ว
ช่อง | ช่วงค่า | ค่าที่แนะนำ | คำอธิบาย |
---|---|---|---|
ความพร้อมให้บริการเริ่มต้น | เปิด, ปิด | ปิด | ค่านี้ส่งผลต่อความพร้อมจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นการตั้งค่ามาตรฐานสำหรับบัญชี ปิดคือการตั้งค่าเริ่มต้น ซึ่งหมายความว่าผลิตภัณฑ์ไม่พร้อมจำหน่าย ("หยุดการขาย") เว้นแต่คุณจะส่งข้อความ ARI ให้ Google เพื่อเปิดให้บริการในคืนที่กำหนด ส่วนเปิดหมายความว่าผลิตภัณฑ์พร้อมจำหน่ายเสมอ เว้นแต่จะมีการส่งข้อความ ARI เพื่อหยุดการขายในคืนที่กำหนด |
การซื้อล่วงหน้าสูงสุด | [0, 750] | 360 | จำนวนวันล่วงหน้าของการจองที่รวมใน ARI เช่น การตั้งค่า 750 วันหมายความว่าคุณเสนอการจองในช่วง 750 วันถัดไป |
ระยะเวลาในการเข้าพักสูงสุด | [1, 360] | ไม่มี | ระยะเวลาเข้าพักนานสุดที่สามารถจองได้โดยใช้ข้อมูล ARI ต่อคืน เช่น การตั้งค่าเป็น 21 หมายความว่าผู้เดินทางจองการเข้าพักได้ตั้งแต่ 1 ถึง 21 คืน และจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าพัก 22 คืนหรือนานกว่านั้น ปล่อยช่องนี้ว่างไว้หากต้องการอนุญาตให้จองกี่คืนก็ได้ คุณจำกัดระยะเวลาการเข้าพักสำหรับห้องว่างที่เฉพาะเจาะจงให้สั้นลงได้เสมอผ่านข้อความ ARI |
ราคาแบบพุล
1. ระบุแหล่งที่มาหลักของราคา
ในกล่องโต้ตอบ URL ให้ป้อน URL แหล่งที่มาที่ Google จะส่งคำขอข้อมูลราคาโรงแรม
2. ควบคุมวิธีที่ Google ขอข้อมูลราคา
หากมีค่าที่กำหนดเองสำหรับช่องที่ต้องกรอก คุณป้อนค่าดังกล่าวด้วยตนเองได้
หากไม่ทราบว่าต้องป้อนค่าใดสำหรับช่องเหล่านี้ที่ต้องกรอก ให้คลิกช่วยฉันตั้งค่าเหล่านี้ จากนั้น Google จะป้อนค่าที่แนะนำในช่องดังกล่าว
ชื่อช่อง | ต้องกรอกหรือไม่ | เกี่ยวข้องกับราคาแบบพุลหรือราคาที่มีการเปลี่ยนแปลง | รายละเอียด |
---|---|---|---|
แผนการจองโรงแรมสูงสุดต่อวินาที (HIP) | ต้องกรอก | แบบพุล (และราคาแบบเรียลไทม์) | จำนวนคำค้นหาต่อวินาทีที่ระบบรองรับได้ ค่านี้แสดงถึงชุดค่าผสมของอัตราดัชนีราคาแบบพุลและราคาแบบเรียลไทม์ (หากมี) |
จำนวนโรงแรมสูงสุดในการค้นหาเป็นกลุ่ม | ต้องกรอก | แบบพุลและราคาที่มีการเปลี่ยนแปลง | จำนวนโรงแรมที่ Google ควรค้นหาสำหรับแต่ละข้อความ |
คำขอ (ชุดข้อความ) พร้อมกันสูงสุด | ต้องกรอก | แบบพุลและราคาที่มีการเปลี่ยนแปลง | จำนวนชุดข้อความที่โหลดพร้อมกันสูงสุดที่ระบบรองรับได้ |
3. เปิดใช้ราคาแบบเรียลไทม์ (เดิมเรียกว่าการค้นหาแบบเรียลไทม์)
เมื่อผู้ใช้ค้นหาแผนการจองสำหรับโรงแรมของคุณ Google จะได้รับคำขอค้นหาชุดค่าผสมโรงแรม/แผนการจอง คุณจะได้รับคำขออัปเดตราคาแบบเรียลไทม์ หากไม่มีราคาโรงแรมหรือราคาไม่เป็นปัจจุบัน คำขอราคาแบบเรียลไทม์มีความละเอียดอ่อนด้านเวลาและมีเวลารับการตอบกลับเพียงสั้นๆ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ Google ขอการอัปเดตราคา
โปรดเลือกกล่องโต้ตอบ หากต้องการให้ Google แสดงบริบทแผนการจองสำหรับคำขอราคาแบบเรียลไทม์ บริบทของแผนการจองอาจประกอบไปด้วยอุปกรณ์และประเทศของผู้ใช้ รวมถึงจำนวนแขกที่เป็นผู้ใหญ่และเด็ก เราขอแนะนำให้คุณตอบกลับคำขอราคาแบบเรียลไทม์ด้วยราคาที่เกี่ยวข้องกับบริบทนั้นมากที่สุด
หมายเหตุ: ระบบจะเปิดใช้ราคาแบบเรียลไทม์ที่มีบริบทโดยค่าเริ่มต้นสำหรับผู้ใช้ใหม่ทั้งหมด
4. ทดสอบราคา
คุณต้องทำการทดสอบก่อนจึงจะบันทึกการตั้งค่าราคาได้ Google แนะนำให้ผู้ใช้ทดสอบกับแผนการจองโรงแรมแบบสุ่ม
ทดสอบกับแผนการจองโรงแรมแบบสุ่ม
หากต้องการทดสอบกับแผนการจองโรงแรมแบบสุ่ม ให้เลือกทดสอบกับแผนการจองโรงแรมแบบสุ่ม
หากการทดสอบกับแผนการจองโรงแรมแบบสุ่มล้มเหลว คุณทดสอบกับแผนการจองโรงแรมที่เจาะจงได้
ทดสอบกับแผนการจองโรงแรมที่เจาะจง
- ระบุแผนการจองโรงแรมที่จะทดสอบ
- ป้อนรหัสโรงแรมลงในกล่องโต้ตอบ
- ป้อนวันที่เช็คอิน
- ป้อนจำนวนคืน
- หากต้องการบริบทของราคาเพิ่มเติม ให้ใช้เมนูแบบเลื่อนลงเพื่อเลือกอัตราการเข้าพัก (ผู้ใหญ่และ/หรือเด็ก) ประเทศของผู้ใช้ และประเภทอุปกรณ์
- คลิกทดสอบเพื่อทดสอบ จัดทำดัชนีราคา และดูผลการทดสอบ Google ต้องได้รับราคาอย่างน้อย 1 รายการต่อ URL แหล่งที่มาจึงจะบันทึกการตั้งค่าราคาได้ เมื่อการค้นหาราคาผ่านแล้ว ให้คลิกบันทึกการตั้งค่าราคา
หมายเหตุ: ผลการทดสอบบ่งชี้ถึงความสำเร็จในการตั้งค่าฟีดราคาเท่านั้น ไม่ได้เป็นตัวชี้วัดว่า Google มีราคาที่ใช้ได้สำหรับแผนการจองนั้นๆ หรือไม่ กลไกการส่งข้อมูลราคาแบบพุลของ Google จะกำหนดลำดับความสำคัญของคำขอราคาโดยอัตโนมัติ และอาจรวมหรือไม่รวมแผนการจองหนึ่งๆ โดยขึ้นอยู่กับขีดจำกัดแบนด์วิดท์ของฟีด
ราคาที่มีการเปลี่ยนแปลง (เดิมคือการดึงข้อมูลตามคำแนะนำ)
1. ระบุแหล่งที่มาของคำขอราคาที่มีการเปลี่ยนแปลง
ในส่วน "แหล่งที่มาของคำขอราคาที่มีการเปลี่ยนแปลง" ให้ป้อน URL แหล่งที่มาที่ Google จะส่งคำขอข้อมูลราคาโรงแรมในกล่องโต้ตอบของ URL เซิร์ฟเวอร์นี้จะได้รับคำขอจาก Google สำหรับข้อมูลที่พักและแผนการจองที่เพิ่งมีการเปลี่ยนแปลงราคา นอกจากนี้ คุณยังกำหนดความถี่ในการอัปเดต (เป็นวินาที) ได้ด้วย ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ Google ส่งคำขอราคาที่มีการเปลี่ยนแปลง
2. ระบุแหล่งที่มาหลักของราคา
ในส่วน "แหล่งที่มาหลักของราคา" ให้ป้อน URL แหล่งที่มาที่ Google จะส่งคำขอข้อมูลราคาโรงแรมในกล่องโต้ตอบของ URL
3. ควบคุมวิธีที่ Google ขอข้อมูลราคา
หากมีค่าที่กำหนดเองสำหรับช่องที่ต้องกรอก คุณป้อนค่าดังกล่าวด้วยตนเองได้
ชื่อช่อง | ต้องกรอกหรือไม่ | รายละเอียด |
---|---|---|
ช่วงเวลาการปรับข้อมูล | ต้องกรอก | จำนวนวินาทีที่ Google ควรใช้ในการค้นหาเซิร์ฟเวอร์ |
ขนาดกลุ่มสูงสุด (จำนวนโรงแรมต่อการค้นหา) | ต้องกรอก | จำนวนโรงแรมที่ Google ควรค้นหาสำหรับแต่ละข้อความ |
จำนวนคำขอพร้อมกันสูงสุด (เดิมเรียกว่าคำขอที่โหลดพร้อมกัน) | ต้องกรอก | จำนวนชุดข้อความที่โหลดพร้อมกันสูงสุดที่ระบบรองรับได้ |
หากไม่ทราบว่าต้องป้อนค่าใดสำหรับช่องเหล่านี้ที่ต้องกรอก ให้คลิกช่วยฉันตั้งค่าเหล่านี้ จากนั้น Google จะป้อนค่าที่แนะนำในช่องดังกล่าว
4. เปิดใช้ราคาแบบเรียลไทม์ (เดิมเรียกว่าการค้นหาแบบเรียลไทม์)
Google ได้รับคำขอค้นหาชุดค่าผสมโรงแรม/แผนการจอง คุณจะได้รับคำขออัปเดตราคาแบบเรียลไทม์ หากไม่มีราคาโรงแรมหรือราคาไม่เป็นปัจจุบัน คำขอราคาแบบเรียลไทม์มีความละเอียดอ่อนด้านเวลาและมีเวลารับการตอบกลับเพียงสั้นๆ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ Google ขอการอัปเดตราคา
โปรดเลือกกล่องโต้ตอบ หากต้องการให้ Google แสดงบริบทแผนการจองสำหรับคำขอราคาแบบเรียลไทม์ บริบทของแผนการจองอาจประกอบไปด้วยอุปกรณ์และประเทศของผู้ใช้ รวมถึงจำนวนแขกที่เป็นผู้ใหญ่และเด็ก เราขอแนะนำให้คุณตอบกลับคำขอราคาแบบเรียลไทม์ด้วยราคาที่เกี่ยวข้องกับบริบทนั้นมากที่สุด
5. ทดสอบราคา
คุณต้องทำการทดสอบการตั้งค่าราคาก่อนจึงจะบันทึกการตั้งค่าราคาได้ เราขอแนะนำให้ทดสอบกับแผนการจองโรงแรมแบบสุ่มจากการตอบกลับราคาที่มีการเปลี่ยนแปลง
ทดสอบกับแผนการจองโรงแรมแบบสุ่ม
หากต้องการทดสอบกับแผนการจองโรงแรมแบบสุ่ม ให้เลือกทดสอบกับแผนการจองโรงแรมแบบสุ่ม
หากการทดสอบกับแผนการจองโรงแรมแบบสุ่มล้มเหลว ให้ทดสอบอีกครั้งจนกว่าคุณจะเปลี่ยนราคาที่ทดสอบ
ทดสอบกับแผนการจองโรงแรมที่เจาะจง
- ระบุแผนการจองโรงแรมที่จะทดสอบ
- ป้อนรหัสโรงแรมลงในกล่องโต้ตอบ
- ป้อนวันที่เช็คอิน
- ป้อนจำนวนคืน
- หากต้องการบริบทของราคาเพิ่มเติม ให้ใช้เมนูแบบเลื่อนลงเพื่อเลือกอัตราการเข้าพัก (ผู้ใหญ่และ/หรือเด็ก) ประเทศของผู้ใช้ และประเภทอุปกรณ์
- คลิกทดสอบเพื่อทดสอบ จัดทำดัชนีราคา และดูผลการทดสอบ Google ต้องได้รับราคาอย่างน้อย 1 รายการต่อ URL แหล่งที่มาจึงจะบันทึกการตั้งค่าราคาได้ เมื่อการค้นหาราคาผ่านแล้ว ให้คลิกบันทึกการตั้งค่าราคา
หมายเหตุ: ผลการทดสอบบ่งชี้ถึงความสำเร็จในการตั้งค่าฟีดราคาเท่านั้น ไม่ได้เป็นตัวชี้วัดว่า Google มีราคาที่ใช้ได้สำหรับแผนการจองนั้นๆ หรือไม่ กลไกการส่งข้อมูลราคาแบบพุลของ Google จะกำหนดลำดับความสำคัญของคำขอราคาโดยอัตโนมัติ และอาจรวมหรือไม่รวมแผนการจองหนึ่งๆ โดยขึ้นอยู่กับขีดจำกัดแบนด์วิดท์ของฟีด
เปลี่ยนแปลงการกำหนดค่าราคา
เมื่อตั้งค่าราคาแล้ว คุณเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าเหล่านี้ได้เสมอโดยเลือกหน้าการตั้งค่าใต้ "ราคา" ในเมนูการนำทาง โปรดติดต่อทีมสนับสนุนของ Google หากต้องการเปลี่ยนวิธีการส่งข้อมูลราคา
หมายเหตุ: หากกำหนดค่าราคาด้วยการส่งข้อมูลราคาวิธีอื่นๆ คุณก็แก้ไขได้เช่นกัน