ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน 2024 แคมเปญโฆษณาโรงแรมใหม่จะใช้กลยุทธ์การเสนอราคาแบบคอมมิชชัน (ทั้งต่อการเข้าพักและต่อ Conversion) ไม่ได้อีก
ทั้งนี้แคมเปญโฆษณาโรงแรมที่ใช้งานอยู่ซึ่งมีกลยุทธ์การเสนอราคาแบบคอมมิชชันจะแสดงต่อจนถึงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2025 ดูขั้นตอนถัดไปที่ควรทำได้จากหัวข้อกลยุทธ์การเสนอราคาแบบคอมมิชชันในโฆษณาโรงแรมจะหยุดให้บริการ
- การชำระใบแจ้งหนี้ (คุณและ TAM ประสานงานกันเพื่อดำเนินการ)
- การอัปโหลดไฟล์ CSV ("รายงานการปรับยอด") ไปยัง Google ซึ่งจะบอกให้เราทราบว่าใบแจ้งหนี้แต่ละใบควรมียอดเงินเท่าใด คุณจะต้องอัปโหลดรายงานนี้ทุกเดือน ทุกสัปดาห์ หรือทุก 2 สัปดาห์
รายงานการปรับยอดจะแสดงรายการการจองที่ควรเก็บค่าคอมมิชชัน โดยทั่วไปแล้ว โรงแรมหรือพาร์ทเนอร์ทางเทคนิคจะสร้างรายงานนี้โดยอัตโนมัติ
โปรดตรวจสอบว่าคุณส่งอัตราการแปลง "จาก" และ "เป็น" ที่ถูกต้อง เนื่องจากอัตราที่สลับกันจะทำให้รายงานไม่ถูกต้อง ค่าคอมมิชชันของคุณคูณด้วย {อัตราการแปลงสกุลเงินค่าคอมมิชชันเป็นสกุลเงินสำหรับการเรียกเก็บเงิน} ควรเท่ากับ {ค่าคอมมิชชันในสกุลเงินสำหรับการเรียกเก็บเงิน}
อัปโหลดรายงานการปรับยอด
คุณใช้ Hotel Center เพื่ออัปโหลดรายงานการปรับยอดได้ รายงานการปรับยอดต้องสอดคล้องกับไวยากรณ์ที่อธิบายไว้ในหัวข้อสร้างรายงานการปรับยอด
วิธีอัปโหลดรายงานการปรับยอดโดยใช้ Hotel Center
- เปิด Hotel Center ในเบราว์เซอร์
- เลือกบัญชี > ค่าคอมมิชชัน เครื่องมือการปรับยอดค่าคอมมิชชันจะปรากฏขึ้น
- ลากรายงานการปรับยอดลงในช่อง หรือคลิกเพื่อเรียกดูไฟล์ในคอมพิวเตอร์ Hotel Center จะตรวจสอบความถูกต้องของรูปแบบรายงานการปรับยอด
- ตรวจสอบรายงานสรุปและแก้ไขข้อผิดพลาด
- หากไฟล์มีข้อมูลไม่ครบ คุณจะเห็นข้อความแสดงข้อผิดพลาดซึ่งระบุการแก้ไขที่ต้องดำเนินการ
- ตรวจสอบไฟล์ต่อไปจนกว่าข้อผิดพลาดทั้งหมดจะได้รับการแก้ไข
- คลิกยืนยันเพื่อส่งไฟล์สำหรับการปรับยอดขั้นสุดท้าย
ส่วนนี้จะอธิบายวิธีสร้างรายงานการปรับยอดเพื่อให้คุณอัปโหลดได้โดยใช้ Hotel Center
ข้อกำหนดเบื้องต้น
ไฟล์ CSV การปรับยอดแต่ละไฟล์จะต้องมีข้อมูลต่อไปนี้
- แถวส่วนหัว 1 แถวที่มีชื่อคอลัมน์
- มีรายละเอียดการจองกี่แถวก็ได้ (1 แถวต่อการจองแต่ละรายการ)
- (ไม่บังคับ) แถวที่ระบุค่าบริการ 1 แถว
รูปแบบไฟล์ CSV ที่ใช้สำหรับรายงานการปรับยอดจะต้องเป็นไปตาม RFC 4180 กฎทั่วไปต่อไปนี้จะมีผลบังคับใช้
- การเข้ารหัส UTF-8
- ใช้เครื่องหมายลำดับไบต์ได้ (แต่ไม่จำเป็น)
- ตัวเลขควรใช้เครื่องหมายจุด "." เป็นตัวคั่นทศนิยมแทนคอมมา "," เช่น 10 Euros ควรมีรูปแบบเป็น "10.00" ไม่ใช่ "10,00"
- สตริงที่มีคอมมา เครื่องหมายคำพูด หรืออักขระขึ้นบรรทัดใหม่/อักขระตัดบรรทัดจะต้องอยู่ใน "เครื่องหมายคำพูดแบบคู่"
- แต่ละบรรทัดต้องสิ้นสุดด้วย CRLF
แถวบนสุด
แถวส่วนหัวจะกำหนดชื่อคอลัมน์และต้องมีทั้งหมด 23 หรือ 28 ช่อง ดังนี้
- 23 ช่อง: หากไม่รวมค่าบริการ
- 28 ช่อง: หากรวมค่าบริการ
หากเรียกเก็บค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับการเก็บค่าคอมมิชชันจากโรงแรม คุณจะรวมแถวค่าบริการได้ ซึ่งโดยปกติแล้วจะคิดค่าธรรมเนียมเล็กน้อยสำหรับการจองแต่ละรายการเพื่อดูแลจัดการโปรแกรมค่าคอมมิชชัน (โดยทั่วไปจะคำนวณเป็นการเรียกเก็บเงินจำนวนเล็กน้อยหรือเปอร์เซ็นต์เพิ่มเติม) ช่องที่เกี่ยวข้องกับค่าบริการจะมีหรือไม่มีก็ได้ และ Google จะไม่ใช้ผู้ประมวลผล
แถวส่วนหัวตัวอย่างต่อไปนี้แสดงทั้ง 28 ช่องและชื่อที่ปรากฏ ดังนี้
รหัสโรงแรม, ชื่อโรงแรม, ที่อยู่โรงแรม, เมืองของโรงแรม, รัฐ/ภูมิภาคของโรงแรม, รหัสไปรษณีย์ของโรงแรม,
รหัสประเทศของโรงแรม, หมายเลขโทรศัพท์ของโรงแรม, ข้อมูลอ้างอิงการจอง, วันที่และเวลาที่จอง,
วันที่เช็คอิน, วันที่เช็คเอาต์, จำนวนห้อง, จำนวนแขก, รายได้จากการจอง,
สกุลเงินของรายได้จากการจอง, อัตราการแปลงสกุลเงินของรายได้จากการจองเป็นสกุลเงินสำหรับการเรียกเก็บเงิน,
สถานะการจอง, ค่าคอมมิชชัน, สกุลเงินค่าคอมมิชชัน, อัตราการแปลงสกุลเงินค่าคอมมิชชันเป็นสกุลเงินสำหรับการเรียกเก็บเงิน,
วันที่ชำระเงิน, สถานะการชำระเงิน
ช่องที่ไม่บังคับ:
ค่าบริการ, สกุลเงินของค่าบริการ, อัตราการแปลงสกุลเงินของค่าบริการเป็นสกุลเงินสำหรับการเรียกเก็บเงิน, การชำระเงินรวม, สกุลเงินสำหรับการเรียกเก็บเงิน
ในไฟล์ CSV ของคุณ ชื่อคอลัมน์ต้องเรียงตามลำดับที่ปรากฏในตัวอย่างก่อนหน้านี้
แถวรายละเอียดการจอง
แถวการจองมีข้อมูลเกี่ยวกับการจองที่ยืนยันแล้วแต่ละรายการ โดยปกติแล้วข้อมูลนี้จะระบุว่ามีการจองเมื่อใด แต่อาจระบุด้วยว่าการจองถูกยกเลิกหรือไม่มีค่าคอมมิชชันเนื่องจากสาเหตุอื่นๆ คุณจะไม่ต้องจ่ายค่าคอมมิชชันสำหรับการจองที่ถูกยกเลิกหรือผู้จองไม่แสดงตัว
แถวรายละเอียดการจองแต่ละแถวในไฟล์ CSV ต้องมีจำนวนคอลัมน์เท่ากับแถวส่วนหัว
ตารางต่อไปนี้จะอธิบายคอลัมน์ในแถวรายละเอียดการจอง
คอลัมน์ | คำอธิบาย |
---|---|
รหัสโรงแรม | รหัสที่ไม่ซ้ำกันซึ่งคุณใช้สำหรับโรงแรมที่มีการจอง รหัสนี้ต้องเป็นรหัสเดียวกันกับที่คุณใช้ในฟีดข้อมูลโรงแรม เช่น "661378545442" |
ชื่อโรงแรม | ชื่อโรงแรมที่มีการจอง เช่น "Capybara Motel" |
ที่อยู่โรงแรม | ที่อยู่ของโรงแรมที่มีการจอง เช่น "123 Electric Avenue" |
เมืองของโรงแรม | เมืองของโรงแรมที่มีการจอง เช่น "Cambridge" |
รัฐ/ภูมิภาคของโรงแรม |
รัฐหรือภูมิภาคของโรงแรมที่มีการจอง เช่น "MA" ช่องนี้จะระบุหรือไม่ก็ได้ |
รหัสไปรษณีย์ของโรงแรม | รหัสไปรษณีย์แบบยืดหยุ่นของโรงแรมที่มีการจอง เช่น "02472-1234" |
รหัสประเทศของโรงแรม | รหัสประเทศแบบ 2 ตัวอักษรของโรงแรมที่มีการจอง เช่น "US" |
หมายเลขโทรศัพท์ของโรงแรม | หมายเลขโทรศัพท์ของโรงแรมที่มีการจอง รูปแบบของช่องนี้มีความยืดหยุ่น เช่น "+1-617-867-5309" |
ข้อมูลอ้างอิงการจอง | ตัวระบุสตริงที่ไม่ซ้ำกันสำหรับการจองนี้ เช่น "108BDYKNI" |
วันที่และเวลาที่จอง | วันที่และเวลาที่จองในรูปแบบ ISO 8601 ตามเวลาท้องถิ่นและเขตเวลาของโรงแรม เช่น "2016-07-07T19:43:21+08:00:" |
วันที่เช็คอิน | วันที่เช็คอินตามเวลาท้องถิ่นของโรงแรม ใช้รูปแบบ ปปปป-ดด-วว [YYYY-MM-DD] โดยปปปป คือเลขปี 4 หลัก ดด คือเดือน และวว คือวัน เช่น "2016-09-01" |
วันที่เช็คเอาต์ | วันที่เช็คเอาต์ตามเวลาท้องถิ่นของโรงแรม ใช้รูปแบบ ปปปป-ดด-วว [YYYY-MM-DD] โดยปปปป คือเลขปี 4 หลัก ดด คือเดือน และวว คือวัน เช่น "2016-09-01" |
จำนวนห้อง | จำนวนห้องในการจองนี้ เช่น "1" |
จำนวนแขก | จำนวนแขกในการจองนี้ เช่น "2" |
รายได้จากการจอง | รายได้ที่รวบรวมจากการจองนี้ ค่านี้จะเป็นรายได้รวมหรือรายได้สุทธิก็ได้ และควรแสดงถึงมูลค่า Conversion เช่น "1066.42" |
สกุลเงินของรายได้จากการจอง | รหัสสกุลเงิน 3 ตัวอักษรสำหรับสกุลเงินที่ใช้ในช่อง "รายได้จากการจอง" เช่น "EUR" |
อัตราการแปลงสกุลเงินของรายได้จากการจองเป็นสกุลเงินสำหรับการเรียกเก็บเงิน |
อัตราการแปลงจากสกุลเงินที่ใช้ในช่อง "สกุลเงินของรายได้จากการจอง" เป็นสกุลเงินที่ใช้ในช่อง "สกุลเงินสำหรับการเรียกเก็บเงิน" ค่านี้ควรแสดงอัตราการแปลงที่ใช้สำหรับการจอง เช่น "1.113" เมื่อสกุลเงินของรายได้จากการจองและสกุลเงินสำหรับการเรียกเก็บเงินเหมือนกัน ให้กำหนดค่าช่องนี้เป็น |
สถานะการจอง |
สถานะของการจอง อาจมีค่าใดค่าหนึ่งต่อไปนี้
|
ค่าคอมมิชชัน | จำนวนเงินที่จ่ายให้กับ Google สำหรับการจองนี้ สำหรับการจองที่ยกเลิกแล้ว ไม่แสดงตัว หรือไม่มีค่าคอมมิชชัน ให้กำหนดค่าของช่องนี้เป็น "0" เช่น "3.42" |
สกุลเงินของค่าคอมมิชชัน |
รหัสสกุลเงิน 3 ตัวอักษรสำหรับสกุลเงินที่ใช้ในช่อง "ค่าคอมมิชชัน" เช่น "USD" |
อัตราการแปลงสกุลเงินค่าคอมมิชชันเป็นสกุลเงินสำหรับการเรียกเก็บเงิน |
อัตราการแปลงจากสกุลเงินที่ใช้ในช่องสกุลเงินค่าคอมมิชชันเป็นสกุลเงินที่ใช้ในช่องสกุลเงินสำหรับการเรียกเก็บเงิน (ระบุหรือไม่ก็ได้) ค่าของช่องนี้ควรเป็นอัตราการแปลงที่ใช้สำหรับค่าคอมมิชชัน เช่น "0.88942" เมื่อสกุลเงินค่าคอมมิชชันและสกุลเงินสำหรับการเรียกเก็บเงินเหมือนกัน ให้ตั้งค่าช่องนี้เป็น 1 |
วันที่ชำระเงิน | เว้นช่องนี้ว่างไว้ |
สถานะการชำระเงิน | ตั้งค่าเป็น "ต้องระบุใบแจ้งหนี้" |
(ไม่บังคับ) ช่องค่าบริการช่องต่างๆ ที่อธิบายไว้ในส่วนนี้เป็นช่องที่ไม่บังคับ |
|
ค่าบริการ | จำนวนเงินค่าบริการพิเศษ เช่น "1.23" |
สกุลเงินของค่าบริการ | รหัสสกุลเงิน 3 ตัวอักษรสำหรับสกุลเงินที่ชำระค่าบริการเพิ่มเติม เช่น "EUR" |
อัตราการแปลงสกุลเงินของค่าบริการเป็นสกุลเงินสำหรับการเรียกเก็บเงิน |
อัตราการแปลงค่าบริการเป็นสกุลเงินสำหรับการเรียกเก็บเงิน เช่น "0.88998" เมื่อสกุลเงินของค่าบริการและสกุลเงินสำหรับการเรียกเก็บเงินเหมือนกัน ให้กำหนดค่าช่องนี้เป็น 1 |
การชำระเงินรวม | จำนวนเงินทั้งหมดของการชำระเงิน รวมถึงค่าบริการเสริม เช่น "1420.39" |
สกุลเงินสำหรับการเรียกเก็บเงิน | รหัสสกุลเงิน 3 ตัวอักษรซึ่งแสดงสกุลเงินที่มีการชำระเงินรวมถึงค่าบริการ เช่น "USD" |
ตัวอย่างไฟล์ CSV
ตัวอย่างไฟล์ CSV ต่อไปนี้แสดงแถวส่วนหัวและแถวการจอง 3 แถว
รหัสโรงแรม, ชื่อโรงแรม, ที่อยู่โรงแรม, เมืองของโรงแรม, รัฐ/ภูมิภาคของโรงแรม, รหัสไปรษณีย์ของโรงแรม, รหัสประเทศของโรงแรม, หมายเลขโทรศัพท์ของโรงแรม, ข้อมูลอ้างอิงการจอง, วันที่และเวลาที่จอง, วันที่เช็คอิน, วันที่เช็คเอาต์, จำนวนห้อง, จำนวนแขก, รายได้จากการจอง, สกุลเงินของรายได้จากการจอง, อัตราการแปลงสกุลเงินของรายได้จากการจองเป็นสกุลเงินสำหรับการเรียกเก็บเงิน, สถานะการจอง, ค่าคอมมิชชัน, สกุลเงินค่าคอมมิชชัน, อัตราการแปลงสกุลเงินค่าคอมมิชชันเป็นสกุลเงินสำหรับการเรียกเก็บเงิน, วันที่ชำระเงิน, สถานะการชำระเงิน
111,"Capybara Hotel & Spa",123 Foo Driveway,Boston,MA,02472,US,+11234567890,2thHRTY,2016-01-04T12:12:12-07:00,2016-01-01,2016-01-03,1,4,213.88,USD,1,เข้าพักแล้ว,21.39,USD,1.0,2016-06-07,ต้องระบุใบแจ้งหนี้
211,"Mabel's Gabels",45678 Bar Street,London,,KT13 0PU,GB,+440203456123,z452121A,2016-01-04T12:12:12-07:00,2016-02-01,2016-02-03,1,3,414.21,GBP,1.57,เข้าพักแล้ว,64.43,USD,1.0,2016-06-07,ต้องระบุใบแจ้งหนี้
311,"No-Tell Motels",66 Acacia Avenue,Geneva,,1211,CH,+412241820000,42,2016-01-04T12:12:12-07:00,2016-03-01,2016-03-03,1,2,451.15,CHF,1.05,เข้าพักแล้ว,37.41,EUR,0.99889,ต้องระบุใบแจ้งหนี้
ต้องใส่คอมมาเพื่อคั่นช่องทั้งหมด แม้ว่าจะไม่มีค่าในช่องนั้นก็ตาม (หากไม่จำเป็นต้องระบุ)
โปรดทราบว่าในตัวอย่างนี้มีข้อมูลค่าธรรมเนียมบริการรวมอยู่ด้วย (เป็นแถวสุดท้าย) ส่วนแถวอื่นๆ ทั้งหมดใช้คอมมาเพื่อระบุค่าว่างสำหรับคอลัมน์เหล่านั้น หากไม่มีแถวค่าบริการ ตัวอย่างก็ยกเว้นคอมมาต่อท้ายได้
ตรวจสอบรายงานการปรับยอดด้วย API
ตรวจสอบรายงานการปรับยอดด้วย API
หากต้องการตรวจสอบ อัปโหลด และรับรายงานการปรับยอด โปรดไปที่ Travel Partner API
ตัวอย่างคำขออัปโหลด/ตรวจสอบ
{
"fileName": "booking_report.csv",
"contents":"รหัสโรงแรม, ชื่อโรงแรม, ที่อยู่โรงแรม, เมืองของโรงแรม, รัฐ/ภูมิภาคของโรงแรม, รหัสไปรษณีย์ของโรงแรม, รหัสประเทศของโรงแรม, หมายเลขโทรศัพท์ของโรงแรม, ข้อมูลอ้างอิงการจอง, วันที่และเวลาที่จอง, วันที่เช็คอิน, วันที่เช็คเอาต์, จำนวนห้อง, จำนวนแขก, รายได้จากการจอง, สกุลเงินของรายได้จากการจอง, อัตราการแปลงสกุลเงินของรายได้จากการจองเป็นสกุลเงินสำหรับการเรียกเก็บเงิน, สถานะการจอง, ค่าคอมมิชชัน, สกุลเงินค่าคอมมิชชัน, อัตราการแปลงสกุลเงินค่าคอมมิชชันเป็นสกุลเงินสำหรับการเรียกเก็บเงิน, วันที่ชำระเงิน, สถานะการชำระเงิน
111,\"Capybara Hotel and Spa\",123 Foo Driveway,Boston,MA,02472,US,+11234567890,2thHRTY,2016-01-04,2016-02-01,2016-02-03,1,4,213.88,USD,1,เข้าพักแล้ว,21.39,USD,1.0,2016-06-07,ต้องระบุใบแจ้งหนี้\n\n211,\"Mabels Gabels\",45678 Bar Street,London,,KT13 0PU,GB,+440203456123,z452121A,2016-02-04,2016-02-01,2016-02-03,1,3,414.21,GBP,1.249,เข้าพักแล้ว,64.43,USD,1.0,2016-06-07,ต้องระบุใบแจ้งหนี้\n\n311,\"No-Tell Motels\",66 Acacia Avenue,Geneva,,1211,CH,+412241820000,42,2016-03-04,2016-02-01,2016-02-03,1,2,451.15,CHF,1.05,เข้าพักแล้ว,37.41,EUR,0.99889,2016-06-07,ต้องระบุใบแจ้งหนี้"
}
เคล็ดลับ
gtag.js
ไม่ได้บันทึกไว้ (เช่น เกิดในแอป) แต่คุณระบุแหล่งที่มาของการเข้าพักว่ามาจาก Google Ads ได้ คุณจะสามารถรวมการเข้าพักของแขกเหล่านั้นไว้ในรายงานการปรับยอด การทำเช่นนี้ช่วยให้ผู้เสนอราคากำหนดอัตราการยกเลิกที่ต่ำกว่าขั้นตอนอื่นๆ ได้ ซึ่งจะช่วยให้มั่นใจว่าคุณเสนอราคาที่แข่งขันได้โดยนับรวม Conversion ที่ gtag ไม่ได้บันทึกไว้ด้วย โปรดทราบว่าระบบจะเรียกเก็บเงินสำหรับการเข้าพักของแขกที่รายงานทั้งหมดในรายงานการปรับยอดนโยบายการรายงาน
หาก Google เห็นว่าการรายงานของคุณไม่ถูกต้อง เราอาจขอให้คุณส่งเอกสารหรือบันทึกที่จำเป็นต่อการพิจารณาว่ารายงานหรือการชำระเงินของคุณ ณ ขณะนั้นถูกต้องหรือไม่ โดยจะแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วันและเป็นไปตามเหตุผลที่สมควร หากคุณไม่ส่งเอกสารหรือบันทึกที่ขอ หรือ Google เห็นว่าเอกสารดังกล่าวไม่ได้แสดงให้เห็นว่าการรายงานนั้นถูกต้อง Google อาจหยุดแสดงโฆษณาโรงแรมของคุณ
หากคุณส่งรายงานการปรับยอดเกินกำหนด 15 วัน Google จะหยุดแสดงโฆษณาสำหรับค่าคอมมิชชันต่อการเข้าพักโดยอัตโนมัติจนกว่าคุณจะอัปโหลดไฟล์ เมื่ออัปโหลดไฟล์ล่าสุดแล้ว โฆษณาจะเริ่มแสดงภายใน 3 วัน
คำถามที่พบบ่อย
ส่วนนี้ประกอบด้วยคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับรายงานการปรับยอด
ระบบจะเรียกเก็บเงินจากแคมเปญค่าคอมมิชชัน (ต่อการเข้าพัก) อย่างไร
ระบบจะเรียกเก็บเงินจากแคมเปญค่าคอมมิชชัน (ต่อการเข้าพัก) ในวันที่ 18 ของทุกเดือน โดยอิงตามการเข้าพักของแขกในรายงานการปรับยอดที่ผู้ลงโฆษณาอัปโหลด
ฉันต้องทำอย่างไรหากลืมระบุการเข้าพักของแขกบางคนในรายงานการปรับยอดรายเดือน
คุณรวมการเข้าพักของแขกเหล่านั้นในรายงานการปรับยอดรายเดือนครั้งถัดไปได้
เช่น สมมติว่าคุณได้อัปโหลดรายงานการปรับยอดสำหรับเดือนมีนาคมในวันที่ 15 เมษายน และลืมระบุการเข้าพักของแขกที่เสร็จสมบูรณ์ในวันที่ 31 มีนาคม ในกรณีนี้ คุณสามารถรวมการเข้าพักของแขกในวันที่ 31 มีนาคมไว้ในรายงานของเดือนเมษายน (เพื่ออัปโหลดระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม - 17 พฤษภาคม)
หากมีการอัปโหลดข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง คุณติดต่อเราเพื่อแก้ไขปัญหาได้