เกี่ยวกับอัตราการเข้าพักสำหรับเด็ก

Google รองรับการระบุรายละเอียดเกี่ยวกับอัตราการเข้าพักสำหรับเด็กเมื่อส่งราคา การระบุรายละเอียดเกี่ยวกับอัตราการเข้าพักสำหรับเด็กช่วยให้คุณมีราคาสำหรับการเพิ่มเด็กลงในแผนการเดินทางซึ่งแตกต่างจากราคาสำหรับการเพิ่มผู้ใหญ่ที่เพิ่มเข้ามา

หัวข้อในบทความนี้ประกอบด้วย

• ประโยชน์ของอัตราการเข้าพักสำหรับเด็ก
• วิธีระบุราคาอัตราการเข้าพักสำหรับเด็ก
• แนวทางปฏิบัติแนะนำ

---

ประโยชน์ของอัตราการเข้าพักสำหรับเด็ก

• ความสามารถในการแยกราคาสำหรับเด็กออกจากราคาหรือส่วนลดสำหรับผู้ใหญ่ที่มีการปรับปรุงใหม่
• ความสามารถในการหลีกเลี่ยงการจัดการราคาสำหรับเด็กในลักษณะเดียวกันกับดีล
• ช่วยให้ลูกค้ามั่นใจว่าจะได้ราคาที่ดีที่สุดตามสมาชิกที่เข้าพักร่วมกัน

---

วิธีระบุราคาอัตราการเข้าพักสำหรับเด็ก

หากต้องการระบุราคาอัตราการเข้าพักสำหรับเด็ก คุณจะต้องอัปเดตสิ่งต่อไปนี้

1. อัปเดตไวยากรณ์ของหน้า Landing Page เพื่อระบุค่าอัตราการเข้าพักสำหรับเด็กผ่านตัวแปรและเงื่อนไข โปรดระบุค่าอัตราการเข้าพักสำหรับเด็กต่อไปนี้ตามสิ่งที่ต้องระบุและไม่บังคับ
   • ต้องระบุ
     • (NUM-ADULTS)
     • (NUM-CHILDREN)
     • (FOR-EACH-CHILD-AGE)
     • (CHILD-AGE)
   • ไม่บังคับ

     • (CHILD-INDEX)

 

ตัวอย่าง

กลุ่ม URL: adults=(NUM-ADULTS)&children=(NUM-CHILDREN)(FOR-EACH-CHILD-AGE)&age=(CHILD-INDEX)_(CHILD-AGE)(END-FOR-EACH)

2. ส่งราคาอัตราการเข้าพักสำหรับเด็กไปยัง Google

ไม่ใช่แบบ ARI (ราคาแบบพุลหรือราคาที่มีการเปลี่ยนแปลง (เดิมคือการดึงข้อมูลตามคำแนะนำ))

1. โปรดตอบกลับคำขอราคาแบบเรียลไทม์จาก Google
   • วิธีการที่แนะนำ: อัปเดตข้อความธุรกรรมและ URL ของหน้า Landing Page เพื่อแสดงราคาถูกที่สุดหรือราคาที่เหมาะกับผู้เดินทางมากที่สุด รวมถึงอัตราการเข้าพักหลายราคา

     ตัวอย่าง

     • คำขอของ Google: ราคาสำหรับผู้ใหญ่ 2 คน + เด็ก 1 คน
     • การตอบกลับของพาร์ทเนอร์: ราคาสำหรับผู้ใหญ่ 2 คน + เด็ก 2 คน

     ในกรณีนี้ ราคาสำหรับผู้ใหญ่ 2 คน + เด็ก 1 คนเป็นราคาเดียวกันกับผู้ใหญ่ 2 คน + เด็ก 2 คน พาร์ทเนอร์จึงตอบกลับด้วยราคาที่เหมาะสมและคุ้มค่ามากกว่า โดยราคาสำหรับผู้ใหญ่ 2 คน + เด็ก 2 คนจะยังคงใช้ได้กับคำขอสำหรับผู้ใหญ่ 2 คน + เด็ก 1 คน

   • วิธีการอื่น: ตรวจสอบว่าได้อัปเดตข้อความธุรกรรมและ URL ของหน้า Landing Page เพื่อแสดงราคาที่แน่นอนสำหรับอัตราการเข้าพักที่มีการระบุเท่านั้น แม้ว่าราคาหรือห้องว่างราคาถูกกว่าอาจเหมาะสำหรับอัตราการเข้าพักที่สูงกว่า อย่างไรก็ตาม ข้อเสียของวิธีการนี้คือราคาอาจแข่งขันได้น้อยลง และ Google อาจส่งการค้นหาเพิ่มเติมสำหรับอัตราการเข้าพักที่ไม่มีการระบุ

     ตัวอย่าง

     • คำขอของ Google: ราคาสำหรับผู้ใหญ่ 2 คน + เด็ก 1 คน
     • การตอบกลับของพาร์ทเนอร์: ราคาสำหรับผู้ใหญ่ 2 คน + เด็ก 1 คน

     ในกรณีนี้ แม้ว่าพาร์ทเนอร์อาจมีอัตราการเข้าพักสูงกว่าในราคาเท่าเดิมหรือราคาถูกกว่า แต่จะตอบกลับในบริบทที่ได้รับคำขอมาเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ ราคาของพาร์ทเนอร์จึงอาจแข่งขันได้น้อยลง

2. โปรดอัปเดตสคีมาข้อความธุรกรรมโดยทำดังนี้
   • โปรดอัปเดตสคีมาข้อความธุรกรรมโดยทำดังนี้
   • Google จะส่งเฉพาะการค้นหาเกี่ยวกับอัตราการเข้าพักสำหรับเด็กผ่านการค้นหาแบบเรียลไทม์พร้อมบริบท: โปรดตรวจสอบว่าบัญชีสามารถรองรับคำขอประเภทนี้และการตอบกลับข้อความธุรกรรมของคุณถูกต้อง
   • คำแนะนำ:
     • แคชราคาอัตราการเข้าพักสำหรับผู้ใหญ่ 5-6 คนผ่านฟีดหลัก: คุณสามารถส่งอัตราการเข้าพักสำหรับผู้ใหญ่เท่านั้นให้ Google ได้ผ่านทางวิธีการส่งข้อมูลราคาหลัก (แบบพุล คำแนะนำ หรือพุช) โดยไม่ต้องมีคำขอการค้นหาแบบเรียลไทม์ ระบบจะจัดลำดับความสำคัญของอัตราแคชไว้ในบางแพลตฟอร์มหรือเมื่อมีข้อกำหนดด้านเวลาในการตอบสนองที่เข้มงวด
     • ตอบกลับคำขอการค้นหาแบบเรียลไทม์สำหรับผู้เข้าพัก 5-6 คนแบบมีหรือไม่มีเด็ก: ระบุ <Capacity> ในองค์ประกอบ <RoomData> ใดก็ได้ การดำเนินการนี้จะช่วยให้การค้นหาแบบเรียลไทม์จัดลำดับความสำคัญของที่พักที่มีประเภทห้องที่มีสิทธิ์ซึ่งสามารถเข้าพักได้มากกว่า 4 คน
     • (สำหรับพาร์ทเนอร์ที่ใช้แพ็กเกจห้องพัก) ให้ระบุ <OccupancyDetails> ในบรรทัด: เราขอแนะนำให้ระบุอัตราการเข้าพักในบรรทัดแทนที่จะระบุในข้อมูลแพ็กเกจหรือห้องพัก หากเปิดใช้งานทั้งแพ็กเกจห้องพักและราคาสำหรับลูกค้าที่เข้าเกณฑ์หรืออัตราส่วนลดเฉพาะบุคคล ระบบจะรับค่าอัตราการเข้าพักตาม <Rates> หากแพ็กเกจดังกล่าวซ้อนกันอยู่ใน <RoomBundle> ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับราคาฐานและราคาสำหรับลูกค้าที่เข้าเกณฑ์หลายราคาใน RoomBundle
   • (สำหรับพาร์ทเนอร์ที่ใช้ราคาสำหรับลูกค้าที่เข้าเกณฑ์หรืออัตราส่วนลดเฉพาะบุคคลโดยไม่ใช้แพ็กเกจห้องพัก) ให้ระบุ <OccupancyDetails> ในบรรทัดใต้องค์ประกอบ <Rate> แต่ละรายการ: การใช้องค์ประกอบ <Rates> โดยไม่ใช้ <RoomBundle> ควรระบุอัตราการเข้าพักในองค์ประกอบ <Rate> แต่ละรายการ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนการเดินทาง 1 รายการและราคาของแผนดังกล่าวสำหรับผู้ใหญ่ 1 คนและเด็ก 1 คน

ราคาแบบ ARI

• ปัจจุบันเรารองรับอัตราการเข้าพักสำหรับเด็กเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมใน ARI เท่านั้น
  • หากการเรียกเก็บเงินค่าอัตราการเข้าพักสำหรับเด็กแตกต่างกันไปในแต่ละวันโดยไม่มีกฎ คุณสามารถใช้ <AdditionalGuestAmount/> ใน <OTA_HotelRateAmountNotifRQ/> ได้
  • หากการเรียกเก็บเงินค่าอัตราการเข้าพักสำหรับเด็กดำเนินการตามกฎในระดับที่พัก คุณสามารถใช้ <ExtraGuestCharges/> ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้
• Google ถือว่าเด็กเข้าพักในห้องพักสำหรับผู้ใหญ่ได้ เช่น เมื่อผู้ใช้ค้นหาราคาสำหรับผู้ใหญ่ 2 คนและเด็ก 1 คน หากราคาสำหรับผู้ใหญ่ 3 คนถูกกว่าราคาสำหรับผู้ใหญ่ 2 คน + เด็ก 1 คน Google จะถือว่าราคาสำหรับผู้ใหญ่ 3 คนเป็นราคาที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้รายนั้น

---

แนวทางปฏิบัติแนะนำ

• หากหน้า Landing Page รองรับอัตราการเข้าพักสำหรับเด็ก คุณควรเปลี่ยนแปลง URL ของหน้า Landing Page ที่ Google และตรวจสอบว่าบริบทการค้นหาในหน้า Landing Page ตรงกับการค้นหาของผู้ใช้ ไม่ใช่ราคา
• หากหน้า Landing Page แสดงอัตราการเข้าพักสำหรับเด็ก คุณควรส่งราคาเหล่านั้นให้ Google อยู่เสมอ
• ในหน้า Landing Page คุณควรแสดงราคาทั้งหมดสำหรับสิ่งที่ผู้ใช้ค้นหาหรืออัตราการเข้าพักที่สูงกว่าสิ่งที่ผู้ใช้ค้นหา หากผู้ใช้ค้นหาราคาสำหรับผู้ใหญ่ 2 คน + เด็ก 1 คน คุณควรแสดงราคาทั้้งหมดสำหรับ
  • ผู้ใหญ่ 3 คนขึ้นไป และ
  • ผู้ใหญ่ 2 คน + เด็ก 1 คนขึ้นไป