คุณสามารถวัดว่า Ad Grants มีส่วนช่วยในการระดมทุนมากน้อยเพียงใดด้วยการติดตามมูลค่าที่ไม่ซ้ำกันของ Conversion แต่ละรายการ เช่น การบริจาคแบบครั้งเดียวหรือการซื้อตั๋วกิจกรรม หากคุณใช้ Kindful ในการประมวลผลเงินบริจาคในเว็บไซต์ คู่มือนี้จะช่วยในการติดตั้งเครื่องมือวัดมูลค่า Conversion เฉพาะธุรกรรมของการบริจาคแต่ละครั้งที่ได้รับ การติดตามนี้ทำให้ทราบจำนวนเงินบริจาคจากการช่วยระดมทุนของบัญชี Ad Grants ได้อย่างแม่นยำมากขึ้น
ในส่วนด้านล่าง เราจะแสดงวิธีติดตามมูลค่าเฉพาะธุรกรรมในเว็บไซต์ของคุณและหน้าแบบฟอร์ม Kindful
ก่อนเริ่มต้น
คุณจะต้องมีสิ่งเหล่านี้ก่อนจึงจะตั้งค่าเครื่องมือวัด Conversion สำหรับมูลค่าเฉพาะธุรกรรมในเว็บไซต์และหน้าการรับบริจาคของ Kindful ได้
- บัญชี Ad Grants: หากยังไม่มีบัญชี ทำตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อสร้างบัญชี
- บัญชี Google Analytics: บัญชีนี้ไม่มีค่าใช้จ่าย และหากคุณยังไม่มี ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อสร้างบัญชี โปรดทำขั้นตอนสุดท้ายให้เสร็จสมบูรณ์ นั่นคือคัดลอกและวางโค้ด Analytics ให้เป็นรายการแรกใน <HEAD> ของทุกๆ หน้าในเว็บไซต์ที่ต้องการติดตาม โปรดดูขั้นตอนที่ 3 หากต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับ Google Analytics และหน้าการรับบริจาคของ Kindful
- บัญชี Kindful คลิกที่นี่เพื่อตั้งเวลาเดโม หากมีบัญชี Kindful อยู่แล้ว ก็เริ่มต้นใช้งานได้เลย คุณติดต่อสมาชิกในทีมได้ทุกเมื่อที่ต้องการความช่วยเหลือ
บทความนี้จะพาคุณไปดูวิธีการตั้งค่า อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำงานของเครื่องมือวัด Conversion และเหตุผลที่ควรใช้ได้จากบทความเกี่ยวกับเครื่องมือวัด Conversion
ขั้นตอนที่ 1: ลิงก์บัญชี Google Analytics กับบัญชี Google Ads
บัญชี Ad Grants จะใช้ข้อมูลจากบัญชี Google Analytics เพื่อช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของโฆษณา หากต้องการลิงก์บัญชี ให้ทำตามวิธีการเหล่านี้ หากคุณใช้ AdWords Express การเปลี่ยนแปลงที่ทําในบัญชี Google Ads จะมีผลกับบัญชี AdWords Express ด้วย โปรดทำตามวิธีการที่นี่
ขั้นตอนที่ 2: เพิ่มบัญชี Google Analytics ในบัญชี Kindful
คุณสามารถใช้บัญชี Google Analytics บัญชีเดียวเพื่อติดตามพฤติกรรมในเว็บไซต์ และระหว่างเว็บไซต์กับหน้าการรับบริจาคของ Kindful
ใน Kindful ให้ใส่รหัสติดตาม Google Analytics ในหน้าการตั้งค่า > การตั้งค่าทั่วไป
ขั้นตอนที่ 3: เปิดใช้การติดตามอีคอมเมิร์ซใน Google Analytics
คุณสามารถใช้ฟีเจอร์ที่เรียกว่าการติดตามอีคอมเมิร์ซเพื่อติดตามเงินบริจาคที่ได้รับในหน้าการรับบริจาคของ Kindful ขั้นแรก เราจะต้องเปิดใช้ฟีเจอร์ดังกล่าวในบัญชี Analytics โดยสิ่งที่คุณต้องทำมีดังนี้
- ลงชื่อเข้าใช้ Google Analytics
- คลิกผู้ดูแลระบบ และที่ด้านขวาสุด ให้ยืนยันว่าคอลัมน์ข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้สอดคล้องกับเว็บไซต์การระดมทุน
- คลิก "การตั้งค่าอีคอมเมิร์ซ" ในคอลัมน์ข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้
- ตั้งค่า "เปิดใช้อีคอมเมิร์ซ" เป็นเปิด [ไม่จําเป็นต้องเปิดใช้ "อีคอมเมิร์ซที่เพิ่มประสิทธิภาพ"]
- คลิก "ขั้นตอนถัดไป"
- คลิก "ส่ง"
อาจใช้เวลาถึง 24 ชั่วโมงกว่าที่ธุรกรรมจะปรากฏในส่วน "อีคอมเมิร์ซ" ใน Google Analytics
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟีเจอร์นี้ได้ที่นี่
ขั้นตอนที่ 4: ใส่ URL ของ Kindful ลงในรายการการยกเว้นการอ้างอิง
เมื่อผู้บริจาคข้ามจากโดเมนหลัก (yournonprofit.org) ไปยังหน้า Kindful (https://SUBDOMAIN.kindful.com/...) Analytics จะตีความว่าผู้บริจาคได้รับการอ้างอิงจากโดเมนหลักไปยังโดเมนรอง แล้วนับเป็นการเข้าชมคนละครั้ง ซึ่งไม่ได้สะท้อนถึงประสบการณ์การใช้งานของผู้บริจาคอย่างถูกต้อง เราจึงขอแนะนําให้สร้างรายการการยกเว้น
โปรดทำตามวิธีใช้รายการการยกเว้นการอ้างอิง ซึ่งเป็นการเพิ่มโดเมนย่อยที่คุณอาจมีสําหรับการบริจาค กิจกรรมพิเศษ หรือสินค้า
ขั้นตอนที่ 5: เปิดใช้การติดตามผลแบบข้ามโดเมนใน Google Analytics
หากคุณฝังปลั๊กอินการบริจาคของ Kindful ไว้ในหน้าเว็บไซต์ เพื่อให้ผู้บริจาคยังคงอยู่ในเว็บไซต์ (yournonprofit.org) ตลอดการทำธุรกรรม ให้ข้ามไปยังขั้นตอนที่ 7
คุณต้องช่วยเชื่อมต่อการเข้าชมที่เริ่มจากโดเมนหลัก (yournonprofit.org) และสิ้นสุดที่หน้าการรับบริจาคของ Kindful (https://SUBDOMAIN.ki ndful.com/...) เพื่อให้ Google Analytics จดจำการเข้าชมทั้งสองได้
การช่วยเตือนหากก่อนหน้านี้คุณยังไม่ได้ดำเนินการ ใน Kindful ให้ใส่รหัสติดตาม Google Analytics ในหน้าการตั้งค่า > การตั้งค่าทั่วไป
เราขอแนะนําให้ใช้ Google Tag Manager ในการดำเนินการ ดูวิธีการตั้งค่าการติดตามผลแบบข้ามโดเมนใน Google Tag Manager ได้ที่นี่
หากคุณกําลังใช้ Analytics.js โปรดทำตามวิธีการที่นี่ โปรดทราบว่าคุณไม่ต้องตั้งค่าข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้สำหรับการรายงานและตัวกรอง
คุณสามารถตรวจสอบว่าได้ตั้งค่าไว้อย่างถูกต้องหรือไม่โดยคลิกลิงก์ในเว็บไซต์ซึ่งลิงก์ไปยังหน้าการรับบริจาคของ Kindful เมื่อคลิกลิงก์ดังกล่าว คุณควรจะเห็นพารามิเตอร์เพิ่มเติมของ URL ที่มีลักษณะดังนี้
&_ga=2.201369361.1847218802.1573680817-977570014.1573241361 (แต่ตัวเลขจะไม่ตรงตามนี้)
ขั้นตอนที่ 6: เปิดใช้เครื่องมือวัด Conversion ในบัญชี Ad Grants
โปรดทราบว่าหลังจากที่เปิดใช้การติดตามอีคอมเมิร์ซใน Analytics คุณอาจต้องรอ 24-48 ชั่วโมงเพื่อให้ธุรกรรมพร้อมสำหรับการนำเข้าไปยังบัญชี Ad Grants
เปิดใช้เครื่องมือวัด Conversion ใน Google Ads โดยทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
- คลิกปุ่มเครื่องมือ ที่มุมขวาบน แล้วเลือก Conversion (ในส่วนการวัด)
- คลิกปุ่ม ที่มุมซ้ายบนเพื่อเพิ่ม Conversion ใหม่
- เลือก "นำเข้า"
- เลือกปุ่มตัวเลือก "Google Analytics" และดำเนินการต่อ
- หากเปิดการติดตามอีคอมเมิร์ซใน Analytics อย่างถูกต้อง คุณจะเห็น Conversion ชื่อ "ธุรกรรม" ให้เลือก Conversion นี้และ Conversion อื่นๆ ที่ได้ตั้งค่าไว้ในบัญชี Analytics ขององค์กรการกุศล
- เลือก "นําเข้าและต่อไป"
- คลิก "เสร็จสิ้น"
ตอนนี้คุณจะเห็นได้ว่าโฆษณา คีย์เวิร์ด และแคมเปญใดนำไปสู่การบริจาค รวมถึงมูลค่าเงินบริจาคของแต่ละรายการดังกล่าว หากต้องการตั้งชื่อเพิ่มเติมและปรับแต่งการตั้งค่า Conversion ของธุรกรรม โปรดทำตามวิธีการที่นี่
ขั้นตอนที่ 7 (ไม่บังคับ): เสนอราคาให้สูงกว่าขีดจำกัดการเสนอราคาด้วยตนเองซึ่งอยู่ที่ $2 โดยเปิดใช้ "เพิ่มจำนวน Conversion สูงสุด"
ยินดีด้วย คุณได้ผ่านขั้นตอนส่วนที่ยากไปแล้ว ตอนนี้ก็สามารถรับประโยชน์จากการให้ Google Ads ช่วยค้นหาคนอื่นๆ ที่อาจสนใจร่วมบริจาค โดยเปิดใช้กลยุทธ์การเสนอราคาแบบเพิ่มจำนวน Conversion สูงสุด สําหรับแคมเปญส่วนใหญ่ ขีดจำกัดราคาเสนอสูงสุดคือ $2.00 USD สำหรับการเสนอราคาด้วยตนเองและการเสนอราคาอัตโนมัติประเภทต่างๆ โดยส่วนใหญ่ ยกเว้นกลยุทธ์การเสนอราคาตาม Conversion ซึ่งก็คือ เพิ่มจํานวน Conversion สูงสุด, CPA เป้าหมาย หรือ ROAS เป้าหมาย เมื่อเปิดใช้เครื่องมือวัด Conversion แล้ว คุณสามารถใช้กลยุทธ์การเสนอราคาตาม Conversion ซึ่งจะเพิ่มขีดจำกัดราคาเสนอสูงสุด ด้วยการเปิดใช้กลยุทธ์การเสนอราคาแบบเพิ่มจำนวน Conversion สูงสุด
วิธีการมีดังนี้
- ไปที่ส่วน "แคมเปญ" ของ Google Ads ในเมนูด้านซ้ายมือ ซึ่งอยู่ใต้ "คำแนะนำ" และเหนือ "กลุ่มโฆษณา"
- เลือกอย่างน้อย 1 แคมเปญที่มีเป้าหมายเป็นการเพิ่มยอดบริจาคในมุมมองข้อมูล
- ในแผงแก้ไข ให้คลิกลิงก์ "แก้ไข" ในส่วน "เปลี่ยนกลยุทธ์การเสนอราคา"
- เลือก "เพิ่มจำนวน Conversion สูงสุด"
- คลิก "ใช้"
หากยังมีคำถามอื่นๆ เพิ่มเติม
โปรดติดต่อผ่านแบบฟอร์มขอความช่วยเหลือนี้ หรือโทรมาที่หมายเลขโทรศัพท์ที่มุมซ้ายล่างของบัญชีผู้ดูแลระบบ Kindful เพื่อพูดคุยกับสมาชิกในทีมโดยตรง