เริ่มต้นการเผยแพร่แอปสำหรับองค์กร

บทนำ

นักพัฒนาแอปสำหรับองค์กรมีกลยุทธ์อยู่หลายแบบในการติดตั้งใช้งานแอปพลิเคชัน การตัดสินใจว่าแบบใดเหมาะกับคุณจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ซึ่งรวมถึงกลุ่มเป้าหมายของแอปพลิเคชันและบทบาทของคุณในฐานะนักพัฒนาแอป บทความนี้จะสรุปกลยุทธ์ในการเผยแพร่แอปพลิเคชันสำหรับองค์กรไปยัง Google Play โดยขึ้นอยู่กับกลุ่มเป้าหมายของแอปพลิเคชัน

การเผยแพร่แอปพลิเคชันไปยังตลาดการค้า

หากคุณเป็นนักพัฒนาที่สร้างแอปพลิเคชันให้แก่ลูกค้าหลากหลายกลุ่ม คุณควรเผยแพร่แอปพลิเคชันไปยัง Google Play Google Play เชื่อมโยงคุณกับผู้ใช้หลายพันล้านคนในทุกๆ วัน และนําเสนอแอปของคุณในแพลตฟอร์มเพื่อการค้นพบและการเผยแพร่ที่ดีที่สุด 

 

ในการเริ่มต้นใช้งาน Google Play คุณจะต้องมีบัญชีนักพัฒนาซอฟต์แวร์ Google Play นักพัฒนาแอปแต่ละรายในทีมของคุณซึ่งรับผิดชอบต่อการเผยแพร่แอปพลิเคชัน ไม่ว่าจะเพื่อการทดสอบเบต้าภายในหรือเพื่อการเผยแพร่ต่อสาธารณะ จะต้องมีบัญชีสำหรับใช้งาน Google Play Console องค์กรของคุณสามารถกําหนดให้นักพัฒนาแอปมีสิทธิ์เข้าถึงระดับต่างๆ ใน Google Play Console และรับผิดชอบต่อแอปพลิเคชันซึ่งเผยแพร่อยู่ในองค์กรตั้งแต่ 1 แอปขึ้นไป เมื่อตั้งค่าเรียบร้อยแล้ว คุณจะใช้ Google Play ในการดำเนินการต่างๆ ซึ่งไม่ใช่แค่เผยแพร่และโปรโมตแอปพลิเคชัน แต่ยังใช้เพื่อตรวจสอบตัวชี้วัดประสิทธิภาพ ตอบกลับรีวิวของผู้ใช้ และอื่นๆ ด้วย เรามีชุดการฝึกอบรมซึ่งมีความหลากหลายและครอบคลุม ซึ่งจะช่วยให้คุณเริ่มต้นใช้งานได้

โปรดทราบว่า นักพัฒนาแอปควรตระหนักถึงสิ่งที่ตนทําได้และทำไม่ได้เมื่อสร้างแอปพลิเคชัน Google ต้องการมอบประสบการณ์การใช้งานที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้สําหรับทุกคน และนโยบายของเราก็ออกแบบมาเพื่อส่งมอบแอปและเกมไปยังผู้คนนับพันล้านรายทั่วโลกอย่างปลอดภัย แอปพลิเคชันที่สร้างขึ้นเพื่อธุรกิจต้องเป็นไปตามกฎเดียวกันกับแอปพลิเคชันอื่นๆ ทั้งหมดใน Google Play และเราขอแนะนําให้คุณรับข่าวสารล่าสุดจากศูนย์นโยบายสำหรับนักพัฒนาแอป

ประการสุดท้าย หากคุณใช้กราฟิกหรือข้อความที่เป็นเครื่องหมายการค้า เช่น ชื่อบริษัทหรือโลโก้ หรือคุณใช้ทรัพย์สินทางปัญญาที่ได้รับอนุญาตหรือมีลิขสิทธิ์ คุณควรแจ้งให้ Google ทราบว่าคุณมีสิทธิ์ใช้งานก่อนที่จะเผยแพร่แอป มิเช่นนั้น เราอาจตีความว่ามีการละเมิดนโยบาย Google Play แม้ว่าเนื้อหาดังกล่าวจะมาจากแบรนด์ของบริษัทคุณเอง คุณคงไม่ต้องการให้นักพัฒนาแอปบุคคลที่สามใช้เครื่องหมายการค้า เราจึงต้องตรวจสอบเช่นกันว่าบัญชีนักพัฒนาแอปของคุณมีสิทธิ์ใช้เครื่องหมายการค้านั้นหรือไม่

การเผยแพร่แอปพลิเคชันที่กําหนดเองไปยังลูกค้าองค์กร

บางครั้ง นักพัฒนาแอปต้องเผยแพร่แอปพลิเคชันไปยังองค์กรเฉพาะกลุ่ม ในกรณีนี้ นักพัฒนาแอปจะมี 2 ตัวเลือก ได้แก่ 

  1. เผยแพร่แอปพลิเคชันโดยตรงด้วยการใช้รหัสองค์กรใน Managed Google Play ของบริษัท
  2. จัดให้มีไบนารีของแอปพลิเคชัน (APK) เพื่อให้บริษัทเผยแพร่ไปยังพนักงานของตนได้

ตัวเลือกแรกเป็นตัวเลือกที่แนะนําสําหรับนักพัฒนาแอปจำนวนมาก เมื่อใช้วิธีนี้ นักพัฒนาแอปจะยังคงเป็นผู้ควบคุมรอบการเผยแพร่และดูแลให้แอปพลิเคชันเวอร์ชันล่าสุดพร้อมให้ใช้งานเสมอสำหรับองค์กรที่ได้รับการเผยแพร่แอป 

หากต้องการใช้วิธีนี้ นักพัฒนาแอปควรประสานงานกับลูกค้าให้ทำการเปิดใช้ Managed Google Play สําหรับบริษัทตนโดยใช้ระบบ Enterprise Mobility Management ของบริษัท จากนั้น จึงให้ลูกค้าแจ้งรหัสองค์กรของตนแก่นักพัฒนาแอปซึ่งเป็นบุคคลที่สาม สุดท้าย นักพัฒนาแอปสามารถใช้ Google Play Console เพื่อกําหนดเป้าหมายของแอปพลิเคชันเป็นลูกค้าธุรกิจ 

ในบางกรณี ลูกค้าอาจต้องการควบคุมโดยละเอียดมากขึ้นว่าจะมีแอปเวอร์ชันใดบ้างที่เผยแพร่แก่ผู้ใช้ปลายทาง เพื่อตอบสนองความต้องการนี้ นักพัฒนาแอปสามารถสร้างแทร็กทดสอบแบบปิดที่ตรงกับแอปพลิเคชันแต่ละเวอร์ชัน และกําหนดเป้าหมายของเวอร์ชันเหล่านั้นเป็นรหัสองค์กรใน Managed Google Play อย่างเจาะจงได้ การกำหนดเป้าหมายของแทร็กแบบปิดแต่ละแทร็กเป็นองค์กรแต่ละแห่ง จะทำให้ฝ่ายไอทีสามารถนำแอปของนักพัฒนาแอปเฉพาะเวอร์ชันที่ต้องการนั้นมาใช้ได้เร็วหรือช้าตามกำหนดการเปิดตัวของตนเอง แม้ว่าวิธีนี้จะทำให้การเปิดตัวมีความยืดหยุ่นมากขึ้น แต่ก็ต้องอาศัยการทํางานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างนักพัฒนาแอปกับผู้ดูแลระบบไอที และ EMM บางรายการอาจไม่รองรับวิธีนี้

หรือหากไม่ใช้วิธีนี้ ก็ให้องค์กรต่างๆ สามารถนำไบนารีของคุณมาเผยแพร่ภายในองค์กรของตนได้ ซึ่งวิธีดำเนินการที่แนะนำคือการใช้ Managed Google Play วิธีอื่นๆ อาจใช้ได้เช่นกัน แต่ Google ไม่ได้ให้การรับรอง หากคุณอนุญาตให้องค์กรต่างๆ เผยแพร่สําเนา APK ของตัวเอง โปรดทราบว่าชื่อแพ็กเกจของแอปต้องไม่ซ้ำกันทั่วโลกในทุกส่วนของ Google Play ไม่ใช่แค่เฉพาะในองค์กร Managed Google Play หากชื่อแพ็กเกจใดมีการนำไปใช้แล้ว คุณควรคอมไพล์แอปอีกครั้งด้วยชื่อแพ็กเกจอื่น

ทั้ง 2 กรณีนี้ นักพัฒนาแอปสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของเวิร์กโฟลว์การเผยแพร่ได้ด้วยการผสานรวมกับ Google Play Custom Publishing API API นี้จะช่วยให้ใช้การจัดการแบบเป็นโปรแกรมสำหรับข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Play Store, APK และอื่นๆ อีกมากมายได้ เราได้ผสานรวม Google Play Custom Publishing API ไว้แล้วในเครื่องมือการติดตั้งใช้งานและการเผยแพร่ยอดนิยมอย่างเช่น Fastlane และจะผสานรวมกับเครื่องมือที่กำหนดเองได้โดยง่าย 

การเผยแพร่แอปพลิเคชันภายในไปยังพนักงาน

องค์กรต่างๆ สามารถพัฒนาแอปส่วนตัวของตนเองและเผยแพร่ไปยังพนักงานได้ โดยมีหลายตัวเลือกในการเผยแพร่แอปส่วนตัวไปยังพนักงาน ดังนี้ 

  1. องค์กรเลือกที่จะเผยแพร่แอปส่วนตัวได้โดยใช้ Google Play Console
  2. องค์กรเผยแพร่แอปส่วนตัวได้โดยตรงจาก Enterprise Mobility Management หากผู้ให้บริการรองรับการผสานรวมกับ Google Play
  3. องค์กรเผยแพร่แอปส่วนตัวได้โดยใช้ Custom Publishing API

แอปส่วนตัวจะผ่านขั้นตอนการยืนยันที่เพิ่มประสิทธิภาพแล้วเมื่อเทียบกับแอปสาธารณะและแอปที่กําหนดเอง แอปส่วนตัวคือแอปที่มุ่งหมายให้มีการสร้างและใช้งานโดยองค์กรแต่ละแห่ง Google ให้ความยืดหยุ่นมากขึ้นในการใช้ฟีเจอร์ที่มีข้อจำกัดแก่นักพัฒนาแอปขององค์กร เช่น ฟีเจอร์ตำแหน่งหรือฟีเจอร์โทรศัพท์ เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อให้สามารถรองรับเวิร์กโฟลว์เฉพาะทางในขอบเขตที่กว้างขึ้น 

การรองรับการทดสอบเบต้าภายในและภายนอก

ไม่ว่าคุณจะเป็นนักพัฒนาที่สร้างแอปเพื่อการค้าสําหรับลูกค้าหลายพันคน หรือสร้างแอปส่วนตัวสําหรับองค์กรหนึ่งๆ โดยเฉพาะ ก็จะมีช่วงเวลาที่คุณต้องทดสอบแอปนั้น Google Play รองรับการทดสอบโดยนำเสนอแทร็ก ซึ่งช่วยให้สามารถจัดเตรียมแอปเวอร์ชันทดลองแก่ผู้ใช้เพื่อทำการทดสอบ ในฐานะนักพัฒนาแอป คุณจะจัดเตรียมแทร็กทดสอบมาตรฐาน (เช่น รุ่น Canary, อัลฟ่า, เบต้า) และเผยแพร่แก่ลูกค้าได้ หรือจะจัดเตรียมบางเวอร์ชันให้พร้อมสำหรับการทดสอบก็ได้ ตามที่อธิบายข้างต้น นักพัฒนาแอปทุกประเภทจะใช้แอปทดสอบได้

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
true
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
18294344976353190385
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
108584
false
false