หากประสบปัญหาในการดาวน์โหลดแอปจาก Play Store ของรถ ก็ลองทำตามขั้นตอนเพื่อแก้ปัญหาได้
ล้างแคชและข้อมูลของแอป
สำคัญ: ก่อนที่จะพยายามทำตามขั้นตอนเหล่านี้ โปรดตรวจดูว่ารถจอดสนิทแล้ว
ล้างแคชและข้อมูลใน Play Store- บนหน้าจอของรถ ให้แตะเมนู
การตั้งค่า
- แตะพื้นที่เก็บข้อมูล
- แตะล้างแคช
การตั้งค่า 
- บนหน้าจอของรถ ให้แตะเมนู
- แตะระบบ
- แตะแสดงระบบ
- แตะล้างแคช
- บนหน้าจอของรถ ให้แตะเมนู
- แตะระบบ
- ที่ด้านขวาบน ให้แตะแสดงระบบ
- แตะล้างแคช
นำบัญชี Google ออกและเพิ่มเข้าไปอีกครั้ง
สำคัญ: เมื่อคุณออกจากระบบบัญชี แอปทั้งหมดที่คุณดาวน์โหลดไว้จะถูกนำออก ให้ติดตั้งแอปอีกครั้งหลังจากลงชื่อเข้าใช้ใหม่
- แตะเมนู
บนหน้าจอของรถ
- แตะ Play Store
เพื่อเปิด
- แตะรูปโปรไฟล์ที่ด้านขวาบน
- แตะออกจากระบบบัญชีนี้
- ปิด Play Store และเปิดอีกครั้ง
- แตะลงชื่อเข้าใช้ ทำตามวิธีการบนหน้าจอ
ปิดการอัปเดต Play Store และเปิดอีกครั้ง
- บนหน้าจอของรถ ให้แตะเมนู
- แตะแสดงแอปทั้งหมด
- ที่ด้านบนของหน้าจอ ให้แตะปิดใช้
เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
หากต้องการดาวน์โหลดแอป คุณต้องเชื่อมต่อรถกับ Wi-Fi หรือเครือข่ายมือถือ
- บนหน้าจอของรถ ให้ตรวจสอบว่ารถเชื่อมต่อกับ Wi-Fi
อยู่ไหม
- หากออฟไลน์อยู่ ให้ตรวจสอบว่าอินเทอร์เน็ตมือถือและ Wi-Fi เปิดอยู่หรือไม่
- ที่ด้านบน ให้แตะเมนู
- เปิดอินเทอร์เน็ตมือถือและ Wi-Fi
- ที่ด้านบน ให้แตะเมนู
อยู่ไหมเคล็ดลับ: หากอินเทอร์เน็ตมือถือและ Wi-Fi เปิดอยู่ แต่คุณยังออฟไลน์อยู่ แสดงว่าอาจอยู่ในพื้นที่ที่บริการไม่ครอบคลุม ลองอีกครั้งในภายหลังเมื่อคุณย้ายไปอยู่ในตำแหน่งอื่นแล้ว หรือปิดเครือข่ายแล้วเปิดใหม่ และลองเชื่อมต่ออีกครั้ง
ตรวจสอบว่าการอัปเดตระบบพร้อมใช้งานสําหรับรถยนต์ของคุณไหม
- ที่ด้านบนของหน้าจอรถ ให้แตะเมนู
- ตรวจสอบความพร้อมในการอัปเดตโดยทำดังนี้
- หากหน้าจอระบุว่า "ระบบของคุณเป็นเวอร์ชันล่าสุดแล้ว" คุณก็ไม่จำเป็นต้องอัปเดต
- หากหน้าจอไม่ได้ระบุว่า "ระบบของคุณเป็นเวอร์ชันล่าสุดแล้ว" ให้แตะตรวจหาการอัปเดตที่ด้านขวาบน ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอ
สตาร์ทเครื่องอีกครั้ง
หากขั้นตอนเหล่านี้ไม่ได้ผล ให้ลองดับเครื่องรถแล้วสตาร์ทใหม่ จากนั้น พยายามดาวน์โหลดแอปอีกครั้ง