คำขอสิทธิ์และ API ที่เข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อนควรฟังดูสมเหตุสมผลสำหรับผู้ใช้ คุณขอได้เฉพาะสิทธิ์และ API ที่เข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อน ซึ่งจำเป็นต่อการใช้งานฟีเจอร์หรือบริการปัจจุบันในแอปที่มีการโปรโมตในข้อมูลผลิตภัณฑ์บน Google Play คุณไม่อาจใช้สิทธิ์หรือ API ที่เข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อน ซึ่งให้การเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้หรืออุปกรณ์สำหรับฟีเจอร์หรือวัตถุประสงค์ที่ไม่ได้เปิดเผย ไม่ได้ใช้งาน หรือไม่ได้รับอนุญาต และห้ามมิให้ขายข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลที่ละเอียดอ่อนซึ่งเข้าถึงผ่านสิทธิ์หรือ API ที่เข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อน หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวเพื่ออำนวยความสะดวกต่อการขาย
ขอสิทธิ์และ API ที่เข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เพื่อเข้าถึงข้อมูลในบริบท (ผ่านคำขอที่เพิ่มขึ้น) เพื่อให้ผู้ใช้ทราบถึงสาเหตุที่แอปต้องขอสิทธิ์ ใช้ข้อมูลให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ผู้ใช้ได้ยินยอมให้ใช้เท่านั้น หากคุณต้องการใช้ข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ ในภายหลัง คุณต้องขออนุญาตผู้ใช้และตรวจสอบว่าผู้ใช้ได้ยอมรับการใช้งานเพิ่มเติมดังกล่าวแล้ว
สิทธิ์ที่จำกัด
นอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น สิทธิ์ที่จำกัดคือสิทธิ์ที่ระบุว่าเป็นอันตราย พิเศษ ลายเซ็น หรือตามที่ระบุไว้ด้านล่าง สิทธิ์เหล่านี้ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดและข้อจำกัดเพิ่มเติมดังต่อไปนี้
- ข้อมูลผู้ใช้หรือข้อมูลอุปกรณ์ที่เข้าถึงผ่านสิทธิ์ที่จำกัดถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของผู้ใช้ โดยเป็นไปตามข้อกำหนดของนโยบายข้อมูลผู้ใช้
- เคารพการตัดสินใจของผู้ใช้หากผู้ใช้ปฏิเสธคำขอสิทธิ์ที่จำกัด และต้องไม่ครอบงำหรือบังคับผู้ใช้ให้ยินยอมมอบสิทธิ์ใดๆ แม้ว่าจะเป็นสิทธิ์ที่ไม่ได้มีความสำคัญนัก คุณต้องใช้ความพยายามอย่างสมเหตุสมผลในการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ที่ไม่ยินยอมมอบสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อน (เช่น อนุญาตให้ผู้ใช้ป้อนหมายเลขโทรศัพท์เองหากผู้ใช้ได้จำกัดสิทธิ์เข้าถึงบันทึกการโทรไว้)
- เราขอห้ามอย่างชัดแจ้งไม่ให้ใช้สิทธิ์ในลักษณะที่เป็นการละเมิดนโยบายมัลแวร์ของ Google Play (รวมถึงการละเมิดสิทธิ์ในระดับสูงขึ้น)
สิทธิ์ที่จำกัดบางอย่างอาจขึ้นอยู่กับข้อกำหนดเพิ่มเติมตามรายละเอียดด้านล่าง ข้อจำกัดเหล่านี้มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ เราอาจมีข้อยกเว้นที่จำกัดสำหรับข้อกำหนดด้านล่างในกรณีที่พบไม่บ่อยซึ่งแอปให้บริการฟีเจอร์ที่น่าสนใจหรือสำคัญมาก และไม่มีทางเลือกอื่นที่จะให้บริการฟีเจอร์นี้ได้ เราจะประเมินข้อยกเว้นที่เสนอกับผลกระทบด้านความเป็นส่วนตัวหรือความปลอดภัยที่อาจมีต่อผู้ใช้
สิทธิ์เกี่ยวกับ SMS และประวัติการโทรสิทธิ์เกี่ยวกับ SMS และประวัติการโทรถือว่าเป็นข้อมูลผู้ใช้ที่เป็นส่วนบุคคลและมีความละเอียดอ่อน โดยต้องเป็นไปตามนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อน ตลอดจนข้อกำหนดดังต่อไปนี้
แอปที่เป็นเครื่องจัดการ SMS, โทรศัพท์ หรือ Assistant เริ่มต้นไม่ได้ต้องไม่ประกาศการใช้สิทธิ์ด้านบนในไฟล์ Manifest รวมถึงข้อความของตัวยึดตำแหน่งในไฟล์ Manifest นอกจากนี้ แอปต้องลงทะเบียนเป็นเครื่องจัดการ SMS, โทรศัพท์ หรือ Assistant เริ่มต้นอยู่ในขณะนั้นก่อนที่จะแจ้งผู้ใช้ให้ยอมรับสิทธิ์ใดๆ ในข้างต้นและต้องหยุดใช้สิทธิ์ทันทีเมื่อแอปไม่ได้เป็นเครื่องจัดการเริ่มต้นแล้ว ดูการใช้งานที่อนุญาตและข้อยกเว้นได้ที่หน้านี้ในศูนย์ช่วยเหลือ แอปจะใช้สิทธิ์ (และข้อมูลใดก็ตามที่ได้มาจากสิทธิ์ดังกล่าว) เพื่อมอบฟังก์ชันการทำงานหลักที่ได้รับอนุมัติของแอป ฟังก์ชันการทำงานหลักเป็นเป้าหมายหลักของการเข้าถึงสิทธิ์ดังกล่าว ฟังก์ชันการทำงานหลักอาจรวมถึงชุดฟีเจอร์หลักซึ่งต้องระบุและโปรโมตให้ครบถ้วนในคำอธิบายของแอปอย่างเด่นชัดที่สุด หากไม่มีฟีเจอร์หลัก แอปจะ "เสีย" หรือแสดงผลเป็นใช้งานไม่ได้ การโอน แชร์ หรือใช้งานข้อมูลที่ได้รับอนุญาตนี้ต้องเป็นไปเพื่อการจัดเตรียมฟีเจอร์หรือบริการหลักภายในแอปเท่านั้น และต้องไม่มีการขยายการใช้งานเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใด (เช่น การปรับปรุงแอปหรือบริการอื่นๆ การโฆษณา หรือวัตถุประสงค์ทางการตลาด) คุณไม่มีสิทธิ์ใช้วิธีการอื่นๆ (รวมถึงสิทธิ์อื่นๆ, API หรือแหล่งที่มาของบุคคลที่สาม) เพื่อรับข้อมูลซึ่งมาจากสิทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับประวัติการโทรหรือ SMS |
สิทธิ์เข้าถึงตำแหน่งตำแหน่งอุปกรณ์ถือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลผู้ใช้ที่ละเอียดอ่อนภายใต้นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนและนโยบายเกี่ยวกับตำแหน่งในเบื้องหลัง ตลอดจนข้อกำหนดต่อไปนี้
แอปได้รับอนุญาตให้เข้าถึงตำแหน่งโดยใช้สิทธิ์ของบริการที่ทำงานอยู่เบื้องหน้า (เมื่อแอปมีเพียงการเข้าถึงเมื่ออยู่เบื้องหน้า เช่น "ขณะใช้งาน") หากการใช้งานนั้นมีลักษณะดังนี้
แอปที่ออกแบบมาเพื่อเด็กโดยเฉพาะต้องเป็นไปตามนโยบายออกแบบเพื่อครอบครัว ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อกำหนดของนโยบายดังกล่าวได้จากบทความช่วยเหลือนี้ |
สิทธิ์การเข้าถึงไฟล์ทั้งหมดไฟล์และแอตทริบิวต์ไดเรกทอรีในอุปกรณ์ของผู้ใช้ถือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลผู้ใช้ที่ละเอียดอ่อนภายใต้นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อน และข้อกำหนดต่อไปนี้
|
สิทธิ์การเข้าถึงรูปภาพและวิดีโอรูปภาพและวิดีโอในอุปกรณ์ของผู้ใช้ถือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลผู้ใช้ที่ละเอียดอ่อนภายใต้นโยบายข้อมูลผู้ใช้ของ Google Play แอปอาจเข้าถึงรูปภาพและวิดีโอได้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับฟังก์ชันการทำงานของแอปเท่านั้น และต้องไม่ขอสิทธิ์เข้าถึงในนามของบุคคลที่สามเพื่อวัตถุประสงค์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับฟังก์ชันการทำงานของแอปที่แสดงต่อผู้ใช้ เพื่อให้การใช้งานมีการรักษาความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เราขอแนะนำให้ใช้เครื่องมือเลือกของระบบ เช่น เครื่องมือเลือกรูปภาพ แอปที่ต้องใช้สิทธิ์เข้าถึงแบบกว้างสำหรับรูปภาพและไฟล์วิดีโอในพื้นที่เก็บข้อมูลที่ใช้ร่วมกันบนอุปกรณ์ต้องผ่านการตรวจสอบการเข้าถึงที่เหมาะสมแล้ว และแสดงให้เห็นกรณีการใช้งานหลักที่ต้องมีการเข้าถึงรูปภาพ/วิดีโอตลอดเวลาหรือบ่อยครั้งจากไฟล์ในพื้นที่เก็บข้อมูลที่ใช้ร่วมกัน แอปที่จำเป็นต้องเข้าถึงไฟล์เหล่านี้ครั้งเดียวหรือไม่บ่อยควรใช้เครื่องมือเลือกของระบบ เช่น เครื่องมือเลือกรูปภาพของ Android นอกจากนี้ สิทธิ์เข้าถึงแบบกว้างสำหรับรูปภาพและวิดีโอยังเป็นไปตามข้อกำหนดต่อไปนี้ด้วย
หากแอปของคุณไม่ต้องขอหรือต้องมีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดเพื่อเข้าถึงสิทธิ์ READ_MEDIA_VIDEO หรือ READ_MEDIA_IMAGES แบบกว้าง คุณต้องนำสิทธิ์ดังกล่าวออกจากไฟล์ Manifest ของแอปเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดในการตรวจสอบนโยบาย นโยบายสิทธิ์ที่จำกัดกำหนดให้คุณต้องใช้ความพยายามอย่างสมเหตุสมผลในการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ที่ไม่ยินยอมมอบสิทธิ์เข้าถึงแบบกว้างสำหรับไฟล์สื่อในอุปกรณ์ของตน รวมถึงการมอบประสบการณ์การใช้งานแอปที่เหมาะสมซึ่งผู้ใช้ยังคงสามารถใช้งานฟีเจอร์หรือฟังก์ชันหลักของแอปได้ แอปซึ่งมีกรณีการใช้งานที่เหมาะสมสำหรับการเข้าถึงรูปภาพหรือวิดีโอ แต่คุณสมบัติไม่ตรงตามข้อกำหนดในการใช้สิทธิ์ READ_MEDIA_IMAGES หรือ READ_MEDIA_VIDEO อาจใช้เครื่องมือเลือกของระบบ เช่น เครื่องมือเลือกรูปภาพ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้จากบทความนี้ในศูนย์ช่วยเหลือ |
สิทธิ์ระดับการเข้าถึงแพ็กเกจ (แอป)พื้นที่โฆษณาของแอปที่ติดตั้งอยู่ที่ค้นหาจากอุปกรณ์ถือว่าเป็นข้อมูลผู้ใช้ที่เป็นส่วนบุคคลและมีความละเอียดอ่อนตามนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อน ตลอดจนข้อกำหนดดังต่อไปนี้ แอปที่มีวัตถุประสงค์หลักเป็นการเปิด ค้นหา หรือทำงานร่วมกับแอปอื่นๆ ในอุปกรณ์ต้องมีระดับการเข้าถึงแอปอื่นๆ ที่ติดตั้งอยู่ในอุปกรณ์ตามขอบเขตที่เหมาะสมซึ่งอธิบายไว้ด้านล่างดังนี้
ห้ามมิให้ขายหรือแชร์ข้อมูลรายการแอปที่ค้นหาได้จากแอปที่เผยแพร่ใน Play เพื่อการวิเคราะห์หรือการสร้างรายได้จากโฆษณา |
API การช่วยเหลือพิเศษไม่สามารถใช้ Accessibility API เพื่อทำสิ่งต่อไปนี้
Accessibility API ไม่ได้ออกแบบมาให้ขอการอัดเสียงการโทรจากระยะไกลและไม่สามารถดำเนินการดังกล่าวได้ การใช้ Accessibility API ต้องระบุไว้ในข้อมูลผลิตภัณฑ์บน Google Play หลักเกณฑ์สำหรับ IsAccessibilityToolแอปที่ฟังก์ชันการทำงานหลักมุ่งช่วยเหลือคนพิการโดยตรงมีสิทธิ์ใช้ IsAccessibilityTool เพื่อระบุต่อสาธารณะอย่างเหมาะสมว่าเป็นแอปการช่วยเหลือพิเศษ ส่วนแอปที่ไม่มีสิทธิ์ใช้ IsAccessibilityTool จะไม่สามารถใช้การแจ้งดังกล่าวและต้องเป็นไปตามข้อกำหนดด้านการเปิดเผยข้อมูลและการขอความยินยอมที่ชัดเจนดังที่ระบุไว้ในนโยบายข้อมูลผู้ใช้ เนื่องจากฟังก์ชันการทำงานที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือพิเศษนั้นไม่ใช่ฟังก์ชันที่เข้าใจได้ง่ายสำหรับผู้ใช้ โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมจากบทความของศูนย์ช่วยเหลือเกี่ยวกับ AccessibilityService API แอปต้องใช้ API และสิทธิ์ที่มีขอบเขตแคบลงแทน Accessibility API เมื่อเป็นไปได้ เพื่อมอบฟังก์ชันการทำงานที่ต้องการ |
สิทธิ์ขอติดตั้งแพ็กเกจสิทธิ์ REQUEST_INSTALL_PACKAGES ให้แอปพลิเคชันส่งคำขอติดตั้งแพ็กเกจแอปได้ หากต้องการใช้สิทธิ์นี้ แอปต้องมีฟังก์ชันหลักต่อไปนี้
ฟังก์ชันที่อนุญาตมีดังนี้
ฟังก์ชันหลักถือเป็นจุดประสงค์หลักของแอป คำอธิบายของแอปต้องระบุและโปรโมตทั้งฟังก์ชันหลักรวมถึงฟีเจอร์หลักที่ประกอบเป็นฟังก์ชันหลักนี้ให้ครบถ้วนและเด่นชัด ต้องไม่ใช้สิทธิ์ REQUEST_INSTALL_PACKAGES เพื่อทำการอัปเดต แก้ไข หรือรวม APK อื่นๆ ในไฟล์เนื้อหาเอง เว้นแต่เพื่อจุดประสงค์ในการจัดการอุปกรณ์ การอัปเดตหรือการติดตั้งแพ็กเกจทุกครั้งต้องเป็นไปตามนโยบายการใช้อุปกรณ์และเครือข่ายในทางที่ผิดของ Google Play รวมถึงต้องเริ่มต้นและดำเนินการโดยผู้ใช้ |
สิทธิ์ของ Health Connect โดย AndroidHealth Connect เป็นแพลตฟอร์ม Android ที่อนุญาตให้แอปสุขภาพและการออกกำลังกายจัดเก็บและแชร์ข้อมูลในอุปกรณ์เดียวกันภายในระบบนิเวศแบบรวม และยังให้ผู้ใช้ควบคุมแอปที่สามารถอ่านและเขียนข้อมูลสุขภาพและการออกกำลังกายได้จากที่เดียวด้วย ซึ่งรวมถึงบันทึกข้อมูลสุขภาพ โดยบันทึกข้อมูลสุขภาพอาจรวมถึงประวัติทางการแพทย์ การวินิจฉัย การรักษา ยา ผลตรวจ และข้อมูลทางคลินิกอื่นๆ ที่ได้จากผู้ให้บริการหรือสถาบันด้านการดูแลสุขภาพ พยาบาล หรือผ่านทางแพลตฟอร์มด้านสุขภาพของบุคคลที่สามที่รองรับ Health Connect รองรับการอ่านและการเขียนข้อมูลหลากหลายประเภทลงในบันทึกข้อมูลสุขภาพ ตั้งแต่จำนวนก้าวไปจนถึงอุณหภูมิร่างกาย ข้อมูลที่แอปเข้าถึงผ่านสิทธิ์ของ Health Connect ถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของผู้ใช้ซึ่งขึ้นอยู่กับนโยบายข้อมูลผู้ใช้ หากแอปของคุณมีคุณสมบัติเป็นแอปสุขภาพหรือมีฟีเจอร์ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและเข้าถึงข้อมูลสุขภาพ รวมถึงข้อมูล Health Connect แอปต้องเป็นไปตามนโยบายแอปสุขภาพด้วย โปรดดูคู่มือนักพัฒนาแอป Android นี้เกี่ยวกับวิธีเริ่มต้นใช้งาน Health Connect หากต้องการขอสิทธิ์เข้าถึงประเภทข้อมูล Health Connect และคำถามที่พบบ่อยอื่นๆ โปรดดูคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับข้อกำหนดด้านนโยบายของ Health Connect แอปที่เผยแพร่ผ่าน Google Play ต้องเป็นไปตามข้อกำหนดด้านนโยบายต่อไปนี้จึงจะอ่านและ/หรือเขียนข้อมูลลงใน Health Connect ได้ การเข้าถึงที่เหมาะสมและการใช้ Health Connectการใช้งาน Health Connect ต้องสอดคล้องกับนโยบายที่เกี่ยวข้อง ข้อกำหนดและเงื่อนไข ตลอดจนการใช้งานที่อนุมัติซึ่งระบุไว้ในนโยบายนี้เท่านั้น นั่นหมายความว่าคุณจะขอเข้าถึงสิทธิ์ได้เมื่อแอปพลิเคชันหรือบริการของคุณเป็นไปตามการใช้งานแบบใดแบบหนึ่งที่อนุมัติเท่านั้น กรณีการใช้งานที่อนุมัติ ได้แก่ การออกกำลังกายและสุขภาวะ รางวัล การฝึกสอนออกกำลังกาย โปรแกรมสุขภาพสำหรับองค์กร การดูแลรักษาทางการแพทย์ การวิจัยด้านสุขภาพ และเกม ห้ามไม่ให้แอปพลิเคชันที่ได้รับสิทธิ์เข้าถึงนำกรณีการใช้งานเหล่านี้ไปใช้สำหรับวัตถุประสงค์ที่ไม่ได้เปิดเผยหรือไม่ได้รับอนุญาต เฉพาะแอปพลิเคชันหรือบริการที่มีฟีเจอร์อย่างน้อย 1 อย่างที่ออกแบบมาให้เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพและการออกกำลังกายของผู้ใช้จึงจะได้รับอนุญาตให้ขอเข้าถึงสิทธิ์ของ Health Connect ซึ่งได้แก่
ห้ามใช้สิทธิ์เข้าถึง Health Connect ในลักษณะที่ละเมิดนโยบายนี้หรือข้อกำหนดและเงื่อนไขตลอดจนนโยบาย Health Connect อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึงเพื่อวัตถุประสงค์ต่อไปนี้
คุณยังมีหน้าที่ดูแลการปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายหรือข้อบังคับที่อาจมีผลตามการใช้งานที่ต้องการสำหรับ Health Connect และข้อมูลจาก Health Connect ตัวอย่างเช่น หากคุณเป็นหน่วยงานที่อยู่ภายใต้หรือผู้ร่วมธุรกิจที่ขึ้นอยู่กับกฎหมายว่าด้วยการควบคุมและการส่งผ่านข้อมูลทางด้านการประกันสุขภาพ (Health Insurance Portability and Accountability Act หรือ HIPAA) ก็ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องสำหรับการเข้าถึงและใช้งานข้อมูลจาก Health Connect หากคุณเป็นนักพัฒนาแอปที่ขึ้นอยู่กับกฎระเบียบให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้บริโภค (General Data Protection Regulation หรือ GDPR) สำหรับผู้ใช้ EU ก็ต้องปฏิบัติตามภาระหน้าที่ภายใต้ GDPR ในทำนองเดียวกัน กฎหมายและกฎระเบียบเหล่านี้อาจกำหนดให้คุณทำข้อตกลงเพิ่มเติมก่อนแชร์ข้อมูล (เช่น ข้อตกลงสำหรับผู้ร่วมธุรกิจหรือข้อตกลงด้านการประมวลผลข้อมูล) กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกิจกรรมการประมวลผลของคุณ นักพัฒนาแอปยังมีหน้าที่รับผิดชอบในการกำหนดว่ากิจกรรมของตนจำเป็นต้องมีข้อตกลงดังกล่าวหรือไม่ด้วย นักพัฒนาแอปต้องแสดงหลักฐานของข้อตกลงหรือการปฏิบัติตามข้อกำหนดดังกล่าวต่อ Google เมื่อมีการร้องขอ Google ไม่รับรองการใช้หรือรับประกันความถูกต้องของข้อมูลที่มีอยู่ใน Health Connect สำหรับการใช้งานหรือวัตถุประสงค์ใดก็ตาม และโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานด้านการวิจัย สุขภาพ หรือทางการแพทย์ เว้นแต่จะมีหมายเหตุระบุไว้อย่างชัดเจนในป้ายกำกับหรือข้อมูลที่ Google ให้ไว้สำหรับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เจาะจงของ Google Google จำกัดความรับผิดทุกประการที่เกี่ยวข้องกับการใช้ข้อมูลที่ได้รับผ่านทาง Health Connect การใช้งานแบบจำกัดเมื่อใช้ Health Connect การเข้าถึงและการใช้ข้อมูลต้องเป็นไปตามข้อจำกัดเฉพาะต่อไปนี้
ขอบเขตขั้นต่ำคุณต้องขอเข้าถึงสิทธิ์ที่จำเป็นต่อการติดตั้งใช้งานฟีเจอร์หรือบริการของผลิตภัณฑ์ของคุณเท่านั้น โดยคำขอเข้าถึงดังกล่าวต้องเจาะจงและจำกัดเฉพาะข้อมูลที่จำเป็น ประกาศและการควบคุมที่โปร่งใสและถูกต้องHealth Connect จัดการข้อมูลสุขภาพและการออกกำลังกายที่มีข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อน นักพัฒนาแอปต้องแสดงการเปิดเผยที่ชัดเจนและเข้าถึงได้เกี่ยวกับวิธีจัดการข้อมูลผ่านนโยบายความเป็นส่วนตัวที่ครอบคลุม โดยการเปิดเผยต้องมีข้อมูลต่อไปนี้
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อกำหนดสำหรับแอปที่เชื่อมต่อกับ Health Connect ได้ที่บทความนี้ในศูนย์ช่วยเหลือ |
บริการ VPNVpnService เป็นคลาสพื้นฐานเพื่อให้แอปพลิเคชันนำไปต่อยอดและสร้างโซลูชัน VPN ของตนเอง แอปต้องใช้ VpnService และมี VPN เป็นฟังก์ชันหลักเท่านั้นจึงจะสามารถสร้างอุโมงค์เสมือนที่ปลอดภัยระดับอุปกรณ์ไปยังเซิร์ฟเวอร์ระยะไกลได้ ข้อยกเว้นแอปรวมถึงแอปที่จำเป็นต้องใช้เซิร์ฟเวอร์ระยะไกลสำหรับฟังก์ชันหลัก เช่น
ไม่สามารถใช้ VpnService เพื่อวัตถุประสงค์ต่อไปนี้
แอปที่ใช้ VpnService ต้องปฏิบัติดังนี้
|
สิทธิ์การปลุกในเวลาที่แน่นอนเราจะแนะนำสิทธิ์ใหม่ USE_EXACT_ALARM ซึ่งจะให้สิทธิ์เข้าถึงฟังก์ชันการปลุกในเวลาที่แน่นอนในแอปตั้งแต่ Android 13 ขึ้นไป (API เป้าหมายระดับ 33) USE_EXACT_ALARM เป็นสิทธิ์แบบจำกัดและแอปต้องประกาศสิทธิ์นี้ในกรณีที่ฟังก์ชันหลักของแอปรองรับความต้องการการปลุกในเวลาที่แน่นอนเท่านั้น แอปที่ขอสิทธิ์ที่จำกัดนี้จะต้องได้รับการตรวจสอบ และระบบจะไม่อนุญาตให้เผยแพร่แอปซึ่งไม่เป็นไปตามเกณฑ์สำหรับกรณีการใช้งานที่ยอมรับได้ใน Google Play กรณีการใช้งานที่ยอมรับได้สำหรับการใช้สิทธิ์การปลุกในเวลาที่แน่นอน แอปต้องใช้ฟังก์ชันการทำงาน USE_EXACT_ALARM ในกรณีที่ฟังก์ชันหลักซึ่งแสดงให้ผู้ใช้เห็นต้องใช้การดำเนินการที่มีเวลาแน่นอน เช่น
หากมีกรณีการใช้งานสำหรับฟังก์ชันการปลุกในเวลาที่แน่นอนที่ไม่ได้กล่าวถึง ณ ที่นี้ คุณควรประเมินว่าสามารถใช้ SCHEDULE_EXACT_ALARM แทนได้หรือไม่ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟังก์ชันการปลุกในเวลาที่แน่นอนได้ที่คำแนะนำสำหรับนักพัฒนาแอป |
สิทธิ์ Intent แบบเต็มหน้าจอสำหรับแอปที่กำหนดเป้าหมายเป็น Android 14 (API เป้าหมายระดับ 34) ขึ้นไป USE_FULL_SCREEN_INTENT คือสิทธิ์เข้าถึงแบบพิเศษสำหรับแอป แอปจะสามารถใช้สิทธิ์ USE_FULL_SCREEN_INTENT ได้โดยอัตโนมัติต่อเมื่อฟังก์ชันหลักจัดอยู่ในหมวดหมู่ที่ต้องมีการแจ้งเตือนที่สำคัญมากเท่านั้น ตามที่ระบุไว้ด้านล่างนี้
แอปที่ขอสิทธิ์นี้จะต้องได้รับการตรวจสอบ ระบบจะไม่ให้สิทธิ์นี้โดยอัตโนมัติแก่แอปที่ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ข้างต้น ในกรณีนี้ แอปต้องขอสิทธิ์จากผู้ใช้เพื่อใช้ USE_FULL_SCREEN_INTENT โปรดทราบว่าการใช้สิทธิ์ USE_FULL_SCREEN_INTENT ไม่ว่าในลักษณะใดต้องเป็นไปตามนโยบายสำหรับนักพัฒนาแอป Google Play ซึ่งรวมถึงนโยบายด้านซอฟต์แวร์ไม่พึงประสงค์บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ การใช้อุปกรณ์และเครือข่ายในทางที่ผิด และโฆษณา การแจ้งเตือน Intent แบบเต็มหน้าจอต้องไม่แทรกแซง ก่อกวน สร้างความเสียหาย หรือเข้าถึงอุปกรณ์ของผู้ใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้ แอปยังไม่ควรแทรกแซงแอปอื่นๆ หรือความสามารถในการใช้งานอุปกรณ์ด้วย ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิทธิ์ USE_FULL_SCREEN_INTENT ได้ในศูนย์ช่วยเหลือ |