สร้างข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเองเพื่อกำหนดเป้าหมายเป็นกลุ่มผู้ใช้ที่เจาะจง

ข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเองช่วยให้คุณปรับแต่งข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ของแอปเพื่อดึงดูดกลุ่มผู้ใช้ที่เจาะจง หรือผู้ใช้ที่เข้าชมข้อมูลผลิตภัณฑ์ของคุณผ่าน URL ข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเองแบบไม่ซ้ำกัน

หากแอปของคุณมีกลุ่มเป้าหมายทั่วโลก คุณจะใช้ข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเองเพื่อแสดงฟีเจอร์ของแอปได้อย่างตรงจุด รวมถึงสื่อสารข้อดีของแอปซึ่งตรงกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมายต่างๆ ได้ คุณสามารถใช้ข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเองเพื่อกำหนดเป้าหมายผู้ใช้ในประเทศต่างๆ ผู้ใช้ที่ลงทะเบียนล่วงหน้า ผู้ใช้ที่ค้นหาคีย์เวิร์ดหนึ่งๆ หรือผู้ใช้ที่ไม่ได้ใช้งาน

การใช้ข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเองอีกวิธีหนึ่งคือการแสดงข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่เจาะจงให้แก่ผู้ใช้ที่เข้าชมผ่าน URL ข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเองแบบไม่ซ้ำกัน หรือจากแคมเปญ Google Ads ที่เจาะจง ซึ่งอาจเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการแสดงฟีเจอร์ที่เกี่ยวข้องกับแอป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าผู้ใช้เข้าชมข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ของคุณจากที่ไหน

หมายเหตุ: ข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเองเป็น 1 ใน 2 วิธีที่ Play Console ช่วยให้คุณมอบประสบการณ์ที่แตกต่างกันให้แก่ผู้ใช้ในแต่ละประเทศได้ หากต้องการนำส่งข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store และเนื้อหาแอปที่อิงตามค่ากำหนดภาษาของผู้ใช้ (หรือคู่ค่ากำหนดภาษา-ตลาด) ให้ลองเพิ่มคำแปลสำหรับแอป

ดูตัวอย่างวิธีการใช้ข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเอง

ต่อไปนี้คือตัวอย่างวิธีการใช้ข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเอง 2 วิธีเพื่อช่วยให้คุณเห็นภาพการใช้งานแบบใหม่ๆ

ตัวอย่างที่ 1: เน้นฟีเจอร์สำหรับผู้ใช้ที่พูดภาษาอังกฤษในประเทศต่างๆ

ลองนึกภาพว่าคุณมีแอปสตรีมมิงวิดีโอที่มีกลุ่มเป้าหมายขนาดใหญ่ในสหรัฐอเมริกาและสิงคโปร์ ซึ่งเป็น 2 ประเทศที่มีผู้ใช้ที่พูดภาษาอังกฤษจำนวนมาก

ในการทำการตลาดด้วยข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store กับผู้ใช้ทั้ง 2 ประเทศนี้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณต้องเน้นเนื้อหาที่แตกต่างกัน (เช่น รายการทีวียอดนิยม) และฟีเจอร์ที่ดึงดูดผู้ใช้ในแต่ละประเทศมากที่สุด ซึ่งทำได้โดยการใช้ข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ดังนี้

• สร้างข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store หลักเป็นภาษาอังกฤษ: เนื่องจากสหรัฐอเมริกาเป็นตลาดหลักของคุณ คุณจึงสร้างข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store หลักสำหรับผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ ที่ใช้ภาษาอังกฤษ (en-US) เป็นภาษาเริ่มต้นได้ คุณสามารถใส่ภาพคนดังที่กำลังเป็นที่นิยมในสหรัฐอเมริกาไว้ในภาพหน้าจอ และพูดถึง "โหมดการดูแบบออฟไลน์" ของแอปในคำอธิบายสั้นๆ เพราะเป็นฟีเจอร์ยอดนิยมในสหรัฐอเมริกา
• สร้างข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเองสำหรับสิงคโปร์: ในการทำการตลาดแอปในสิงคโปร์ คุณสร้างข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเองซึ่งกำหนดเป้าหมายไปยังผู้ใช้ในสิงคโปร์ได้ เนื่องจากผู้ใช้เป้าหมายมีแนวโน้มที่จะเป็นผู้ใช้ที่พูดภาษาอังกฤษ คุณจึงสามารถตั้งค่าภาษาเริ่มต้นของข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเองเป็นภาษาอังกฤษ (en-US) นอกจากนี้ คุณสามารถใส่ภาพคนดังที่กำลังเป็นที่นิยมในสิงคโปร์ไว้ในภาพหน้าจอ และพูดถึงวิดีโอ 4K ในคำอธิบายแบบย่อเพราะเป็นฟีเจอร์ยอดนิยมในสิงคโปร์

ผลลัพธ์

ข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store หลัก	ข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเอง
ผู้ใช้ภาษาอังกฤษในสหรัฐอเมริกาเห็นข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store หลัก ซึ่งมีคนดังที่ตนรู้จักและอ่านเกี่ยวกับ "โหมดการดูแบบออฟไลน์" ผู้ใช้ภาษาสเปนในสหรัฐอเมริกาเห็นข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store หลัก ซึ่งมีเนื้อหาเดียวกันพร้อมคำแปลอัตโนมัติเป็นภาษาสเปน	ผู้ใช้ภาษาอังกฤษในสิงคโปร์เห็นข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเองซึ่งมีคนดังที่ตนรู้จักและอ่านเกี่ยวกับวิดีโอ 4K ผู้ใช้ภาษามลายูในสิงคโปร์เห็นข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเองเป็นภาษาอังกฤษเนื่องจากหน้านี้ไม่มีการแปลอัตโนมัติ หากคุณต้องการให้ผู้ใช้เหล่านี้เห็นข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเองเป็นภาษามลายูก็เพิ่มคำแปลได้

ตัวอย่างที่ 2: ใช้ภาษาเริ่มต้นหลายภาษาเพื่อทำการตลาดแอป

ลองนึกภาพว่าคุณมีแอปตำราอาหารที่ได้รับความนิยมในสหรัฐอเมริกาและประเทศแถบลาตินอเมริกา โดยเฉพาะเม็กซิโก อาร์เจนตินา และบราซิล

คุณต้องปรับแต่งข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ให้เหมาะกับตลาดนั้นๆ เพื่อดึงดูดผู้ใช้ด้วยสูตรอาหารและคำอธิบายที่น่าสนใจ ซึ่งทำได้โดยการใช้ข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ดังนี้

• สร้างข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store หลักเป็นภาษาอังกฤษ: เนื่องจากสหรัฐอเมริกาเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของคุณ คุณจึงสร้างข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store หลักเป็นภาษาอังกฤษ (en-US) ที่ออกแบบมาทั้งสำหรับผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกาและผู้ใช้ทั่วโลกได้
• สร้างข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเองสำหรับประเทศลาตินอเมริกาเป็นภาษาสเปนและภาษาโปรตุเกสแบบบราซิล: ในการทำการตลาดแอปกับผู้ใช้ในเม็กซิโก อาร์เจนตินา และบราซิล คุณสามารถสร้างข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเองที่เรียกว่า "ลาตินอเมริกา" ซึ่งกำหนดเป้าหมายไปยังผู้ใช้ในประเทศดังกล่าว แล้วตั้งค่าภาษาสเปนแบบลาตินอเมริกา (es-419) เป็นภาษาเริ่มต้น และเพิ่มคำแปลเป็นภาษาโปรตุเกสแบบบราซิล (pt-br) นอกจากนี้ คุณยังใส่ภาพหน้าจอและคำอธิบายที่ดึงดูดผู้ใช้ในลาตินอเมริกาได้ด้วย

ผลลัพธ์

ข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store หลัก

ข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเอง

ผู้ใช้ภาษาอังกฤษในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ ที่ไม่ใช่เม็กซิโก อาร์เจนตินา และบราซิลเห็นข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store หลัก ผู้ใช้ภาษาสเปนแบบลาตินอเมริกาซึ่งอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาเห็นข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store หลักพร้อมคำแปลอัตโนมัติเป็นภาษาสเปน เนื่องจากคุณไม่ได้เพิ่มคำแปลสำหรับข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store หลัก

ผู้ใช้ภาษาสเปนแบบลาตินอเมริกาซึ่งอาศัยอยู่ในเม็กซิโก อาร์เจนตินา และบราซิลเห็นข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเองเป็นภาษาสเปน ซึ่งเป็นภาษาเริ่มต้นของข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเอง ผู้ใช้ภาษาโปรตุเกสแบบบราซิลซึ่งอยู่ในเม็กซิโก อาร์เจนตินา และบราซิลเห็นข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเองเป็นภาษาโปรตุเกสแบบบราซิล เนื่องจากคุณเพิ่มคำแปลเป็นภาษาที่พวกเขาใช้ ผู้ใช้ภาษาอังกฤษในเม็กซิโก อาร์เจนตินา และบราซิลเห็นข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเองเป็นภาษาสเปนแบบลาตินอเมริกา ซึ่งเป็นภาษาเริ่มต้น เนื่องจากหน้านี้ไม่มีการแปลอัตโนมัติ หากคุณต้องการให้ผู้ใช้เหล่านี้เห็นข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเองเป็นภาษาอังกฤษก็เพิ่มคำแปลได้

ตัวอย่างที่ 3: ไฮไลต์ฟีเจอร์ของแอปโดยขึ้นอยู่กับวิธีที่ผู้ใช้เข้าชมข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ของคุณ

ลองนึกภาพว่าคุณมีแอปฟิตเนสที่ครอบคลุมกิจกรรมประเภทต่างๆ มากมาย เช่น ว่ายน้ำ วิ่ง ปั่นจักรยาน โยคะ หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่คล้ายกัน กิจกรรมต่างๆ เหล่านี้มีการทำการตลาดกับกลุ่มเป้าหมายที่ต่างกันนอก Google Play

หากต้องการทำให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store มีความเกี่ยวข้องมากขึ้น โดยอิงตามสิ่งที่ผู้ใช้อาจสนใจ คุณต้องแสดงกิจกรรมที่เจาะจงโดยดูว่าผู้ใช้เข้าชมข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ผ่านลิงก์ Google Play ที่ฝังไว้ในหน้าที่พูดถึงกิจกรรมที่เจาะจงหรือไม่

• สร้างข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store หลักเป็นภาษาอังกฤษ: สร้างข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store หลักปกติสำหรับผู้ใช้ที่เข้าชมโดยไม่ได้ผ่าน URL ข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเอง ข้อมูลผลิตภัณฑ์นี้อาจรวมด้านต่างๆ ของกิจกรรมทั้งหมดที่แอปนำเสนอ
• สร้างข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเองสำหรับกิจกรรมแต่ละประเภท: เพิ่มภาพหน้าจอและคำอธิบายซึ่งตรงกันกับกิจกรรมที่เจาะจงสำหรับข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเองแต่ละรายการ เลือกชื่อพารามิเตอร์ของ URL ที่ไม่ซ้ำกันซึ่งตรงกับกิจกรรมของข้อมูลผลิตภัณฑ์
• แชร์ URL ของข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเองแบบไม่ซ้ำกันในหน้าที่เกี่ยวข้อง: URL ที่ไม่ซ้ำกันแต่ละรายการจะนำผู้ใช้ไปยังข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเองของกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง ฝัง URL ของข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเองแบบไม่ซ้ำกันเหล่านี้ในหน้าเว็บที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอธิบายหรือทำการตลาดกิจกรรมแต่ละประเภท

ตัวอย่างที่ 4: สร้างประสบการณ์การใช้งาน Store ที่ตรงกับ App Campaign ที่เฉพาะเจาะจงของ Google Ads

ลองนึกภาพว่าคุณกำลังใช้แคมเปญออนไลน์ที่ไฮไลต์ฟีเจอร์ใหม่ของแอปให้แก่กลุ่มประชากรเฉพาะโดยใช้ App Campaign ของ Google Ads

คุณต้องรวมครีเอทีฟโฆษณาที่คล้ายกันไว้ในเนื้อหาข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Google Play Store เพื่อให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store สอดคล้องกับข้อความของแคมเปญมากขึ้น วิธีนี้จะช่วยให้ผู้ใช้ที่คลิกผ่านจากโฆษณาเห็นข้อมูลที่สอดคล้องกันต่อไปขณะตัดสินใจว่าจะติดตั้งแอปหรือเกมของคุณหรือไม่

• สร้างข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store หลัก: สร้างข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store หลักปกติสำหรับผู้ใช้ที่เข้าชมโดยไม่ได้ผ่านโฆษณา ข้อมูลผลิตภัณฑ์นี้อาจรวมด้านต่างๆ ของกิจกรรมทั้งหมดที่แอปนำเสนอ
• สร้างข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเองสำหรับแคมเปญ Google Ads แต่ละแคมเปญ: เพิ่มภาพหน้าจอและคำอธิบายที่ตรงกับครีเอทีฟโฆษณา Google Ads สำหรับข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเองแต่ละรายการ ระบบจะขอให้คุณวางข้อมูลในรหัสกลุ่มโฆษณา Google Ads ซึ่งดูได้ในหน้าแดชบอร์ดของ Google AdWords
• บันทึกและเผยแพร่ข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store: เมื่อบันทึกและเผยแพร่แล้ว ผู้ใช้ที่คลิกโฆษณาซึ่งมีรหัสกลุ่มโฆษณาที่กำหนดจะเห็นเนื้อหาข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเองในแพลตฟอร์มต่างๆ ของ Google Play

ผลลัพธ์

ข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store หลัก	ข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเอง
ผู้ใช้ที่เข้าชมข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store โดยไม่ได้ผ่านโฆษณาจะเห็นภาพหน้าจอและคำอธิบายเริ่มต้น	ผู้ใช้ที่คลิกผ่านไปยังข้อมูลผลิตภัณฑ์ของคุณจากโฆษณาที่เกี่ยวข้องจะเห็นภาพหน้าจอและคำอธิบายที่คุณระบุซึ่งตรงกับแคมเปญที่ผู้ใช้คนดังกล่าวเห็น

หมายเหตุ: ข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่กำหนดเป้าหมายโฆษณายังไม่รองรับรูปแบบทั้งหมดของ Google Ads สำหรับ App Campaign คุณจะเห็นเนื้อหาที่กำหนดเองเมื่อไปที่ข้อมูลผลิตภัณฑ์จากเครือข่าย AdMob ของ Google บน Android และเราจะรองรับรูปแบบอื่นๆ มากขึ้นในอนาคต

หลักเกณฑ์

คุณสร้างหน้าข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเองได้สูงสุด 50 หน้า หากคุณสร้างแอปที่มีข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ไว้แล้ว ข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่มีอยู่จะกลายเป็นข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store หลักของแอปนั้น ซึ่งจะแสดงให้กับผู้ใช้ในประเทศที่คุณไม่ได้กำหนดเป็นเป้าหมายโดยใช้ข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเอง

ก่อนสร้างข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเองเป็นครั้งแรก สิ่งสำคัญที่ควรทราบมีดังนี้

สิ่งที่คุณปรับแต่งได้

• สำหรับข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเองแต่ละรายการ คุณกำหนดชื่อ ไอคอน คำอธิบาย และเนื้อหากราฟิกของแอปได้
• ระบบจะแชร์ข้อมูลติดต่อ นโยบายความเป็นส่วนตัว และหมวดหมู่แอปในข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ทุกเวอร์ชันของแอป

การกำหนดเป้าหมายผ่าน URL ข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเองแบบไม่ซ้ำกัน

• หากต้องการกำหนดเป้าหมายโดยใช้ URL ข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเองแบบไม่ซ้ำกัน คุณต้องระบุพารามิเตอร์สตริงที่ไม่ซ้ำกันในข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเองทั้งหมด
• อินพุตที่ถูกต้องสำหรับพารามิเตอร์ ได้แก่ อักขระที่เป็นตัวอักษรตัวพิมพ์เล็กและตัวเลขคละกัน รวมถึงสัญลักษณ์ต่อไปนี้ [".", "-", "_", "~"]
• เมื่อสร้างแล้ว ผู้ใช้จะเข้าถึงข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเองผ่าน URL ต่อไปนี้ https://play.google.com/store/apps/details?id=[packageName]&listing=[parameter]

การกำหนดเป้าหมายตามประเทศ

• คุณใช้ข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเองเพื่อกำหนดเป้าหมายประเทศได้มากกว่า 1 ประเทศ แต่ประเทศหนึ่งๆ จะกำหนดเป้าหมายด้วยข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเองได้ครั้งละ 1 รายการเท่านั้น
• ตัวอย่างเช่น หากมีข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเองซึ่งกำหนดเป้าหมายเป็นสหรัฐอเมริกาและแคนาดา คุณจะกำหนดเป้าหมายเป็นสหรัฐอเมริกาและแคนาดาด้วยข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเองรายการอื่นไม่ได้

คำแปล

• ระบบจะไม่แปลข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเองโดยอัตโนมัติ ดังนั้นจึงต้องเลือกภาษาเริ่มต้นเมื่อสร้างข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเอง
• หากไม่เพิ่มคำแปลให้กับข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเอง ข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store เหล่านี้จะแสดงแก่ผู้ใช้ในประเทศที่คุณเลือกเป็นภาษาเริ่มต้นของข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเอง
• เราขอแนะนำให้คุณเพิ่มคำแปลทุกภาษาที่ใช้ในประเทศที่คุณกำหนดเป็นเป้าหมายด้วยข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเอง

สร้างข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเอง

วิธีสร้างข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเอง

1. เปิด Play Console
2. เลือกแอป
3. ที่เมนูด้านซ้าย ให้เลือกขยายการมองเห็น > การแสดงข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store > ข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเอง
   • หากแอปยังไม่มีข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store หลัก คุณจะต้องสร้างข้อมูลดังกล่าวและเผยแพร่แอปก่อนจึงจะสร้างข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเองได้
4. เลือกสร้างข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเอง
5. เลือกตัวเลือกต่อไปนี้
   • สร้างข้อมูลใหม่: คุณจะต้องจัดเตรียมชิ้นงานทั้งหมด
   • ทำซ้ำข้อมูลที่มีอยู่: ระบบจะเริ่มทำสำเนาชิ้นงานจากหนึ่งในข้อมูลที่มีอยู่ของคุณ (ซึ่งรวมถึงข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store หลัก)
   • สร้างข้อมูลใหม่ภายในกลุ่ม: ข้อมูลจะใช้ชิ้นงานที่มีอยู่ของกลุ่มโดยค่าเริ่มต้น ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สร้างกลุ่มข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store
6. ในส่วน "รายละเอียดข้อมูล" ให้พิมพ์ชื่อข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเอง
   • เคล็ดลับ: ชื่อข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเองมีไว้เพื่อให้คุณอ้างอิงเท่านั้นและจะไม่แสดงต่อผู้ใช้ ดังนั้นโปรดเลือกชื่อที่ตรงกับความต้องการของคุณ เช่น "อเมริกาเหนือ" หรือ "ประเทศในเอเชีย" ทั้งนี้เมื่อตั้งชื่อแล้วจะแก้ไขไม่ได้
7. ข้าง "การกำหนดเป้าหมาย" ให้เลือกกลุ่มผู้ใช้ที่คุณต้องการให้เห็นข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเองโดยเลือกประเทศ, URL, คีย์เวิร์ดสำหรับโฆษณา Search และ/หรือสถานะผู้ใช้
   • หมายเหตุ: การตั้งค่าการจัดจำหน่ายและการทดสอบของแอปอาจส่งผลต่อความสามารถของคุณในการเลือกตัวเลือกบางตัว หรือค่าผสมของตัวเลือกบางอย่าง ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างว่าทำไมคุณจึงเลือกบางกลุ่มไม่ได้
     • ใช้ในข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเองอีกรายการหนึ่งแล้ว: คุณเลือกประเทศ/ภูมิภาคนี้ไม่ได้เนื่องจากคุณกำหนดเป้าหมายประเทศนี้ในข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเองรายการอื่นแล้ว
     • การลงทะเบียนล่วงหน้า: การกำหนดเป้าหมายสถานะผู้ใช้ช่วยให้คุณสามารถแสดงข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store เวอร์ชันที่ต่างออกไปให้แก่ผู้ใช้ในประเทศหรือภูมิภาคที่แอปของคุณเปิดตัวในการลงทะเบียนล่วงหน้า ผู้ใช้ในประเทศหรือภูมิภาคที่มีการเผยแพร่แอปเป็นเวอร์ชันที่ใช้งานจริง หรือเผยแพร่ในการทดสอบแบบเปิดหรือแบบปิดจะไม่เห็นข้อมูลเวอร์ชันนี้
     • แอปยังไม่ได้เผยแพร่เป็นเวอร์ชันที่ใช้งานจริง: คุณเลือกประเทศหรือภูมิภาคไม่ได้เนื่องจากคุณยังไม่ได้เผยแพร่แอปเป็นเวอร์ชันที่ใช้งานจริงในประเทศหรือภูมิภาคนั้นๆ
     • ไม่พร้อมใช้งานใน Google Play: คุณเลือกประเทศดังกล่าวไม่ได้เนื่องจากไม่ได้จัดจำหน่ายแอปที่ประเทศนั้น
     • ผู้ใช้ที่ไม่ได้ใช้งาน: คือผู้ใช้ที่ได้ดำเนินการดังต่อไปนี้
       • ดาวน์โหลดแอปของคุณมานานกว่า 28 วันที่ผ่านมา
       • ไม่ได้ใช้แอปเลยในช่วง 28 วันที่ผ่านมาหรือถอนการติดตั้งแอปจากอุปกรณ์ทุกเครื่องแล้ว
8. ในส่วน "รายละเอียดแอป" ให้เลือกภาษาเริ่มต้นโดยเลือกจัดการคำแปล > เปลี่ยนภาษาเริ่มต้น
   • หมายเหตุ: ผู้ใช้ในประเทศที่คุณเลือกจะเห็นข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store เป็นภาษาเริ่มต้น เว้นแต่คุณจะเพิ่มคำแปล หากต้องการเพิ่มคำแปลสำหรับแอป ให้เลือกจัดการคำแปลของคุณเอง
9. ข้าง "รายละเอียดแอป" ให้พิมพ์ชื่อและคำอธิบายแบบย่อและแบบเต็ม
10. ในส่วน "กราฟิก" ให้อัปโหลดเนื้อหากราฟิก
    • เคล็ดลับ: ไปที่เนื้อหากราฟิก ภาพหน้าจอ และวิดีโอเพื่ออ่านหลักเกณฑ์ด้านเนื้อหาของเราสำหรับเนื้อหาแต่ละประเภท
11. เลือกสร้าง

สร้างข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ให้กับคีย์เวิร์ดสำหรับโฆษณา Search

การกำหนดเป้าหมายจากคีย์เวิร์ดสำหรับโฆษณา Search ช่วยให้คุณสามารถกำหนดชุดคีย์เวิร์ดสำหรับโฆษณา Search ใน Play ที่จะนำไปสู่ข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเองของคุณได้

1. เมื่อเลือกกลุ่มเป้าหมาย ให้เลือกคีย์เวิร์ดสำหรับโฆษณา Search
2. คลิกเลือกคีย์เวิร์ดสำหรับโฆษณา Search
3. เลือกจากคีย์เวิร์ดที่มีให้ (ซึ่งเราทราบว่าจะนำการเข้าชมมาให้คุณ) โดยคลิกคีย์เวิร์ดเหล่านั้น ข้อควรทราบ

• คุณยังป้อนและเรียกใช้การค้นหาสำหรับคีย์เวิร์ดใหม่ได้อีกด้วย
• คุณคลิกดูรูปแบบได้ทุกคีย์เวิร์ด เพื่อดูการแก้ไขการสะกดและคำแปลที่รวมอยู่ในแพ็กเกจคีย์เวิร์ดนี้ด้วย คุณสามารถเลือกและยกเลิกการเลือกรายการต่างๆ ได้ตามต้องการสำหรับข้อมูลของคุณ
• คลิกบันทึกเพื่อเก็บรูปแบบที่คุณเลือกไว้ และกลับไปยังหน้าจอก่อนหน้า

4. คลิกบันทึก
5. ในหน้าการตั้งค่าใหม่สำหรับข้อมูลคีย์เวิร์ดสำหรับโฆษณา Search ใหม่ ให้ป้อนรายละเอียดที่เกี่ยวข้องและระบุชิ้นงานที่จำเป็นโดยทำตามขั้นตอนในส่วนก่อนหน้า

• หมายเหตุ: คุณอาจเห็นกล่องที่ไฮไลต์สีน้ำเงินซึ่งเสนอจะ "สร้างคำอธิบายโดยใช้ Gemini" เราใช้โมเดลของ Gemini เพื่อสร้างคำอธิบายชุดใหม่โดยใช้ข้อความของข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store หลักที่เผยแพร่แล้วของคุณ และข้อความค้นหาที่คุณเลือก คุณสามารถแทรกรายการแนะนำเหล่านี้และแก้ไข หรือจะทิ้งไปก็ได้

สร้างกลุ่มข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store

คุณสามารถสร้างกลุ่มที่อิงจากอะไรก็ได้ที่คุณเห็นว่ามีประโยชน์ ตัวอย่างเช่น กลุ่มธีมวันหยุดที่มีภาพหน้าจอที่กำหนดเองสำหรับแต่ละประเทศ

แอปทั้งหมดเริ่มต้นด้วยกลุ่มเริ่มต้นชื่อ "กลุ่มข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store หลัก" ซึ่งอิงตามชิ้นงานจากข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store หลัก ใช้กลุ่มนี้เพื่อสร้างเวอร์ชันต่างๆ ของข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store หลักได้อย่างรวดเร็ว

เมื่อคุณสร้างข้อมูลภายในกลุ่ม ข้อมูลจะรับค่าไอคอน ภาพหน้าจอ คำอธิบาย และชิ้นงานอื่นๆ จากกลุ่มนั้นโดยค่าเริ่มต้น จากนั้น คุณจะเพิ่มชิ้นงานที่กำหนดเองได้เพื่อปรับเปลี่ยนข้อมูลแต่ละรายการ การอัปเดตเนื้อหากลุ่มจะอัปเดตเนื้อหานั้นในข้อมูลทั้งหมดในกลุ่มนั้นๆ เช่น คุณอัปเดตไอคอนสำหรับข้อมูลทั้งหมดในกลุ่มได้โดยการเปลี่ยนไอคอนของกลุ่มเท่านั้น

วิธีสร้างกลุ่มข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเอง

1. เปิด Play Console
2. เลือกแอป
3. ที่เมนูด้านซ้าย ให้เลือกขยายการมองเห็น > การแสดงข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store > ข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเอง
   • หากแอปยังไม่มีข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store หลัก คุณจะต้องสร้างข้อมูลดังกล่าวและเผยแพร่แอปก่อนจึงจะสร้างข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเองได้
4. เลือกสร้างกลุ่ม
5. เลือกตัวเลือกต่อไปนี้
   • สร้างกลุ่มใหม่: คุณจะต้องจัดเตรียมชิ้นงานทั้งหมด
   • ทำซ้ำกลุ่มที่มีอยู่: ระบบจะเริ่มทำสำเนาชิ้นงานจากหนึ่งในกลุ่มที่คุณมีอยู่
6. ในส่วน "ชิ้นงานกลุ่ม" ให้พิมพ์ชื่อกลุ่มข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ที่กำหนดเอง
   • เคล็ดลับ: ชื่อกลุ่มของคุณมีไว้เพื่อให้คุณอ้างอิงเท่านั้นและจะไม่แสดงต่อผู้ใช้ ดังนั้นโปรดเลือกชื่อที่ตรงกับความต้องการของคุณ เช่น "กลุ่มอเมริกาเหนือ" หรือ "กลุ่มวันหยุด" ทั้งนี้เมื่อตั้งชื่อแล้วจะแก้ไขไม่ได้
7. ในส่วน "รายละเอียดกลุ่ม" ให้เลือกภาษาเริ่มต้นโดยเลือกจัดการคำแปล > เปลี่ยนภาษาเริ่มต้น
   • หมายเหตุ: ผู้ใช้ในประเทศที่คุณเลือกจะเห็นข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store เป็นภาษาเริ่มต้น เว้นแต่คุณจะเพิ่มคำแปล หากต้องการเพิ่มคำแปลให้กับข้อมูลของกลุ่ม ให้เลือกจัดการคำแปลของคุณเอง
8. ข้าง "เนื้อหาของกลุ่ม" ให้พิมพ์ชื่อและคำอธิบายแบบย่อและแบบเต็ม
9. ในส่วน "กราฟิก" ให้อัปโหลดเนื้อหากราฟิก
   • เคล็ดลับ: ไปที่เนื้อหากราฟิก ภาพหน้าจอ และวิดีโอเพื่ออ่านหลักเกณฑ์ด้านเนื้อหาของเราสำหรับเนื้อหาแต่ละประเภท
10. เลือกสร้างกลุ่ม