เผยแพร่ประสบการณ์แบบใช้งานได้ทันที

เมื่อสร้างแอปที่รองรับประสบการณ์แบบใช้งานได้ทันที คุณจะใช้ Play Console เพื่อเผยแพร่แอปแก่ผู้ใช้ได้

สิ่งที่ต้องมีก่อน

หากกำลังสร้างประสบการณ์แบบใช้งานได้ทันทีเป็นครั้งแรก คุณต้องสร้างแอปด้วย Android App Bundle การใช้ App Bundle ที่เปิดใช้ Instant หมายความว่าคุณจะต้องสร้าง รับรอง และอัปโหลดอาร์ติแฟกต์เดี่ยวเพียงครั้งเดียวเพื่อรองรับเวอร์ชันที่ติดตั้งและประสบการณ์แบบใช้งานได้ทันทีของแอป

ขั้นตอนที่ 1: เปิดใช้ Instant App

ก่อนอื่น คุณต้องเพิ่ม Google Play Instant เป็นประเภทรุ่น และตรวจสอบว่ามีการใช้งาน

  1. เปิด Play Console แล้วไปที่หน้าการตั้งค่าขั้นสูง (รุ่น > การตั้งค่า > การตั้งค่าขั้นสูง)
  2. เลือกแท็บรูปแบบของอุปกรณ์
  3. คลิก + เพิ่มรูปแบบของอุปกรณ์ แล้วเลือก Google Play Instant

หลังจากทำตามขั้นตอนเหล่านี้เสร็จแล้ว คุณจะเห็น Google Play Instant แสดงเป็นประเภทรุ่นในรายการ และจะเห็นสถานะแสดงเป็น "ใช้งานอยู่" พร้อมกับเครื่องหมายถูกสีเขียวด้วย

ขั้นตอนที่ 2: สร้างรุ่น

แต่ละรุ่นประกอบด้วยอาร์ติแฟกต์บิลด์อย่างน้อย 1 รายการที่คุณต้องเตรียมเพื่อเปิดตัวแอปหรืออัปเดตแอป คุณสร้างรุ่น Instant เป็นแทร็กต่อไปนี้ได้

  • การทดสอบภายใน: รุ่นสำหรับการทดสอบภายในพร้อมใช้งานสำหรับผู้ทดสอบที่คุณเลือกได้ถึง 100 คน
  • การทดสอบแบบปิด: รุ่นสำหรับการทดสอบแบบปิดพร้อมใช้งานสำหรับผู้ทดสอบจำนวนจำกัดที่คุณเลือก ซึ่งสามารถทดสอบแอปรุ่นทดลองและส่งความคิดเห็นได้
  • เวอร์ชันที่ใช้งานจริง: รุ่นที่ใช้งานจริงพร้อมใช้งานสำหรับผู้ใช้ Google Play ทุกคนในประเทศที่คุณเลือก

สำคัญ: คุณต้องมีสิทธิ์ในการเผยแพร่แอปในแทร็กสำหรับการทดสอบเพื่อสร้างรุ่นใหม่ การกำหนดเป้าหมายตามประเทศของแทร็กแบบปิดจะได้รับมาจากค่าที่ระบุไว้ในเวอร์ชันที่ใช้งานจริง ดังนั้นจึงตั้งค่าต่างกันไม่ได้

วิธีสร้างรุ่นที่มีประสบการณ์แบบใช้งานได้ทันทีมีดังนี้

  1. เปิด Play Console แล้วไปยังแทร็กที่ต้องการเริ่มสร้างรุ่น
    • การทดสอบแบบปิด(รุ่น >การทดสอบ > การทดสอบแบบปิด)
      • หมายเหตุ: หากต้องการสร้างรุ่นในแทร็กสำหรับการทดสอบแบบปิดที่มีอยู่แล้ว ให้เลือก "จัดการแทร็ก" หากต้องการสร้างแทร็กใหม่ ให้คลิกสร้างแทร็ก
    • การทดสอบภายใน(รุ่น > การทดสอบ > การทดสอบภายใน)
    • เวอร์ชันที่ใช้งานจริง (รุ่น > เวอร์ชันที่ใช้งานจริง)
  2. ที่บริเวณด้านขวาบนของหน้า ระบบจะเลือกตัวกรองประเภทรุ่นมาตรฐานไว้โดยค่าเริ่มต้น คลิกลูกศรลงเพื่อดูประเภทรุ่นและเลือก Instant App เท่านั้น
  3. การสร้างรุ่น Instant อาจแตกต่างออกไปเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับว่าคุณกำลังสร้างรุ่นให้กับแทร็กใด
    • สำหรับรุ่นการทดสอบภายในและเวอร์ชันที่ใช้งานจริง: ที่บริเวณด้านขวาบนของหน้า ให้คลิกสร้างรุ่นใหม่
    • สำหรับรุ่นการทดสอบแบบปิด: คลิก "จัดการแทร็ก" ข้างแทร็ก "อัลฟ่า" แล้วเลือกสร้างรุ่นใหม่
      • หมายเหตุ: หากสร้างรุ่นใหม่ปิดใช้อยู่ แสดงว่าคุณอาจมีงานตั้งค่าที่ต้องทำให้เสร็จสมบูรณ์ก่อน งานเหล่านี้อาจอยู่ในหน้าแดชบอร์ด

เลือกหัวข้อที่เกี่ยวข้องด้านล่างเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตั้งค่าแทร็กแต่ละประเภท หากต้องการดูข้อมูลเพิ่มเติมทั่วไปเกี่ยวกับการทดสอบ ให้ไปที่ตั้งค่าการทดสอบแบบเปิด ปิด หรือภายใน

รายละเอียดแทร็ก

การทดสอบภายในและแบบปิด

เพิ่มผู้ทดสอบ

ทำตามวิธีการในบทความเรื่องการทดสอบเพื่อสร้างรายชื่อผู้ทดสอบและเชิญผู้ทดสอบให้ใช้แอปของคุณ ตลอดจนเผยแพร่ประสบการณ์แบบใช้งานได้ทันทีเป็นแทร็กสำหรับการทดสอบภายในหรือการทดสอบแบบปิด

ก่อนแชร์ลิงก์ของแอปกับผู้ทดสอบ โปรดทราบข้อมูลต่อไปนี้

  • การกำหนดค่าผู้ทดสอบจะมีผลกับแทร็ก Installed App และ Instant App ที่สอดคล้องกับการกำหนดค่าดังกล่าว ตัวอย่างเช่น เมื่อเพิ่มรายชื่อผู้ทดสอบลงในแทร็กสำหรับการทดสอบแบบปิดของ Installed App ระบบจะใช้รายชื่อเดียวกันนี้กับแทร็กสำหรับการทดสอบแบบปิดของประสบการณ์แบบใช้งานได้ทันที
  • ผู้ทดสอบสามารถทดสอบแทร็กที่เผยแพร่สำหรับประสบการณ์แบบใช้งานได้ทันทีครั้งละ 1 แทร็กเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าหากผู้ทดสอบกำลังทดลองใช้รุ่นการทดสอบภายในของแอปอยู่ แล้วเลือกใช้การทดสอบรุ่นสำหรับการทดสอบแบบปิด ผู้ทดสอบจะถูกถอดออกจากรุ่นการทดสอบภายในโดยอัตโนมัติ
เวอร์ชันที่ใช้งานจริง

เมื่อสร้างรุ่นที่ใช้งานจริง คุณเปลี่ยนประเทศที่ให้บริการประสบการณ์การใช้งาน Instant ได้ โดยค่าเริ่มต้น ประเทศที่เลือกจะเหมือนกับประเทศที่คุณให้บริการ Installed App

คุณกำหนดเป้าหมายเป็นประเทศและภูมิภาคที่เลือกไว้สำหรับแอปมาตรฐานในเวอร์ชันที่ใช้งานจริงหรือในการลงทะเบียนล่วงหน้าได้ หากต้องการเปลี่ยนประเทศที่เผยแพร่แอป ให้เลือกแท็บประเทศ/ภูมิภาคในหน้าเวอร์ชันที่ใช้งานจริง ของรุ่น Instant App (รุ่น > เวอร์ชันที่ใช้งานจริง)

ขั้นตอนที่ 3: เตรียมรุ่นของประสบการณ์แบบใช้งานได้ทันที

  1. ทำตามวิธีการบนหน้าจอเพื่อเพิ่ม App Bundle ที่เปิดใช้ Instant และตั้งชื่อรุ่น
    • ชื่อรุ่นจะใช้ภายใน Play Console เท่านั้น ผู้ใช้จะมองไม่เห็นชื่อนี้
    • เราจะเติมข้อมูลในช่องนี้ด้วยชื่อเวอร์ชันในไฟล์ Manifest ของคุณโดยอัตโนมัติ
    • เพื่อให้คุณระบุรุ่นใน Play Console ได้ง่ายขึ้น โปรดเพิ่มชื่อรุ่นที่สื่อความหมายสำหรับคุณ เช่น เวอร์ชันบิลด์ ("3.2.5-RC2") หรือชื่อเวอร์ชันภายใน ("Banana")
  2. หากต้องการบันทึกการเปลี่ยนแปลงรุ่น ให้เลือกบันทึก
  3. เมื่อเตรียมรุ่นเรียบร้อยแล้ว ให้เลือกตรวจสอบรุ่น

ขั้นตอนที่ 4: ตรวจสอบและเปิดตัวรุ่น

สิ่งที่ต้องทำก่อน: ก่อนที่จะเปิดตัวรุ่น ให้ตรวจสอบว่าคุณได้ทำส่วนข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store และการจัดประเภทเนื้อหา ตลอดจนกำหนดราคาของแอปเรียบร้อยแล้ว

หากคุณกรอกข้อมูลครบเรียบร้อยสำหรับแอปเวอร์ชันติดตั้ง ระบบจะใช้ข้อมูลเดียวกันกับประสบการณ์แบบใช้งานได้ทันที โปรดทราบว่าความพร้อมให้บริการของประสบการณ์แบบใช้งานได้ทันทีนั้นกำหนดโดยไฟล์ Manifest ของประสบการณ์แบบใช้งานได้ทันที ไม่ใช่การยกเว้นอุปกรณ์ของแอป

เมื่อพร้อมที่จะเปิดตัวประสบการณ์การใช้งาน Instant คุณสามารถทำตามวิธีการตรวจสอบและเปิดตัวรุ่น

ขั้นตอนที่ 5: ตรวจสอบรายละเอียดของรุ่น

เมื่อสร้างรุ่นแล้ว คุณจะเห็นข้อมูลสำหรับแอปรุ่นล่าสุดในหน้าการทดสอบแบบปิด, การทดสอบภายใน หรือเวอร์ชันที่ใช้งานจริง ใช้ตัวกรองประเภทรุ่น (ระบบจะเลือกมาตรฐานไว้โดยค่าเริ่มต้น) เพื่อเลือก Instant App เท่านั้น ค้นหารุ่น และดูข้อมูลต่อไปนี้

  • ข้อมูลสรุปของรุ่น: ข้อมูลเกี่ยวกับรุ่น รวมถึงเวลาและวันที่ที่เผยแพร่และความพร้อมให้บริการในอุปกรณ์
  • App Bundle: รายการ App Bundle ที่เปิดใช้ Instant ซึ่งเกี่ยวข้องกับรุ่นนี้ ทั้งที่มีการใช้งาน เก็บรักษาไว้ และถูกปิดใช้งาน
  • ประวัติการเปิดตัว: ลำดับเวลาที่แสดงการประทับเวลาเมื่อแอปรุ่นนั้นๆ ถูกระงับชั่วคราวหรือกลับมาทำงานอีกครั้ง

คุณยังค้นหารุ่น Instant ได้ด้วยการค้นหาในหน้าภาพรวมของรุ่น (รุ่น > ภาพรวมของรุ่น)

ส่งผู้ใช้ไปยังเว็บบนอุปกรณ์เคลื่อนที่

เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้

หากสนใจที่จะทดสอบประสิทธิภาพระหว่างเว็บบนอุปกรณ์เคลื่อนที่กับประสบการณ์แบบใช้งานได้ทันที คุณก็กำหนดเปอร์เซ็นต์ที่จะให้มีการเข้าชมเว็บบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้ วิธีนี้เรียกกันว่า "การยกเว้นบนอุปกรณ์เคลื่อนที่"

วิธีตั้งค่าการยกเว้นบนอุปกรณ์เคลื่อนที่มีดังนี้

  1. เปิด Play Console และเลือกแอป
  2. ไปที่หน้าแทร็กสำหรับรุ่น Instant ที่คุณต้องการปรับเปลี่ยน (การทดสอบแบบปิด การทดสอบภายใน หรือเวอร์ชันที่ใช้งานจริง) หรือค้นหาในหน้าภาพรวมของรุ่น (รุ่น > ภาพรวมของรุ่น)
  3. ที่บริเวณด้านขวาบนของหน้า ให้คลิกตัวกรองประเภทรุ่น (ระบบจะเลือกมาตรฐานไว้โดยค่าเริ่มต้น) แล้วเลือกInstant App เท่านั้น
  4. เลือกแท็บเว็บบนอุปกรณ์เคลื่อนที่
  5. ข้าง "ผู้ใช้ที่จะส่งไปยังเว็บบนอุปกรณ์เคลื่อนที่" ให้ป้อนเปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้ที่คุณต้องการส่งไปยังเว็บบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ ตัวอย่างเช่น หากคุณป้อน 0.95 ระบบจะส่งการเข้าชมที่มีสิทธิ์รับประสบการณ์แบบใช้งานได้ทันทีจำนวน 95% จากทั้งหมดไปยังเว็บบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ ส่วนอีก 5% ที่เหลือจะส่งไปยังประสบการณ์แบบใช้งานได้ทันที
  6. บันทึกการเปลี่ยนแปลง
ผู้ใช้ทั้งหมด

หากพบปัญหาเกี่ยวกับ Instant App และต้องการเปลี่ยนเส้นทางผู้ใช้ทั้งหมด (ในทุกแทร็ก) ไปที่เว็บบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ ให้ทำดังนี้

  1. เปิด Play Console แล้วไปที่หน้าการตั้งค่าขั้นสูง (รุ่น > การตั้งค่า > การตั้งค่าขั้นสูง)
  2. เลื่อนลงไปที่ส่วน Google Play Instant แล้วคลิกจัดการ
  3. ยกเลิกการเลือกช่องทำเครื่องหมายมีการใช้งาน Instant App
  4. คลิกบันทึก

แก้ไขข้อผิดพลาด

หากคุณได้รับข้อผิดพลาดเกี่ยวกับ APK แยก ให้ไปที่เว็บไซต์นักพัฒนาซอฟต์แวร์ Android เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร

หากต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม

ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

true
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
แอป Google
เมนูหลัก