ตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคม 2024 และเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของโปรแกรมด้านล่างรวมทั้งส่วนที่ 9 ของนโยบายการชำระเงิน นักพัฒนาแอปสามารถสมัครเข้าร่วมโปรแกรมข้อเสนอภายนอกใหม่ได้หากต้องการนำผู้ใช้ในเขตเศรษฐกิจยุโรป (EEA) ออกไปนอกแอป รวมถึงเพื่อโปรโมตข้อเสนอสำหรับฟีเจอร์และบริการดิจิทัลในแอป ดูรายละเอียดด้านล่างและไปที่คู่มือการผสานรวมสำหรับนักพัฒนาแอปเพื่อเริ่มต้นใช้งาน
โปรแกรมข้อเสนอภายนอกช่วยให้นักพัฒนาแอปที่เผยแพร่ใน Google Play สามารถนำผู้ใช้ในเขตเศรษฐกิจยุโรป (EEA) ออกไปนอกแอปได้ ซึ่งรวมถึงเพื่อโปรโมตข้อเสนอสำหรับฟีเจอร์และบริการในแอป โดยอยู่ภายใต้นโยบายการชำระเงินของ Google Play นักพัฒนาแอปต้องมีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดและการมีสิทธิ์ด้านล่าง รวมทั้งลงทะเบียนเข้าร่วมโปรแกรมนี้ให้เสร็จสมบูรณ์ก่อนโปรโมตข้อเสนอภายนอก นักพัฒนาแอปที่เข้าร่วมอยู่ภายใต้นโยบายการชำระเงิน และเราจะยังเรียกเก็บค่าบริการที่เกี่ยวข้องตามที่อธิบายไว้ด้านล่างซึ่งจะช่วยสนับสนุนการลงทุนของเราใน Play และ Android ต่อไป
การมีสิทธิ์
คุณสมบัติในการเข้าร่วมโปรแกรมมีดังต่อไปนี้
- นักพัฒนาแอปต้องจดทะเบียนเป็นธุรกิจ
ข้อกำหนด
นักพัฒนาแอปที่เข้าร่วมโปรแกรมนี้ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดต่อไปนี้
- จำกัดข้อเสนอภายนอกไว้สำหรับผู้ใช้ใน EEA
- ข้อเสนอภายนอกต้องนำผู้ใช้ไปยังฟีเจอร์หรือบริการดิจิทัลของนักพัฒนาแอปเองเท่านั้น
- ระบุ URL ปลายทางทั้งหมดผ่าน Play Console
- ลงทะเบียนแอปและขอรับการอนุมัติในโปรแกรมข้อเสนอภายนอกตามที่ระบุไว้ด้านล่าง
- ผสานรวมกับ API ของข้อเสนอภายนอกเพื่อนำผู้ใช้ไปนอกแอป รวมถึงเรียกใช้ API ดังกล่าวเพื่อให้ Google สามารถแสดงหน้าจอข้อมูลที่จำเป็นและนักพัฒนาแอปสามารถรายงานธุรกรรมที่เกี่ยวข้องได้
- ให้การสนับสนุนลูกค้าและวิธีการรับเงินคืนแก่ผู้ใช้ที่ทำธุรกรรมภายนอกผ่านข้อเสนอภายนอก รวมถึงจัดทำขั้นตอนสำหรับโต้แย้งธุรกรรมที่ไม่ได้รับอนุญาต
- ข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Play Store ต้องไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับการซื้อนอกแอปเพื่อไม่ให้ผู้ใช้เกิดความสับสน
- เมื่อนําผู้ใช้ออกนอกแอป นักพัฒนาแอปต้องทําดังนี้
- แจ้งให้ผู้ใช้ทราบเกี่ยวกับหน้าปลายทางและวัตถุประสงค์หน้าดังกล่าว รวมถึงวางไอคอนนี้ต่อท้ายลิงก์เพื่อระบุว่าระบบจะนำผู้ใช้ออกนอกแอป เช่น
ดูข้อเสนออัญมณีเพิ่มเติมที่ gems.exampleapp.com
- มี URL ที่มองเห็นได้ชัดเจนในหน้าปลายทางเพื่อให้ผู้ใช้ทราบว่าระบบนำไปที่ใด
- ไม่ส่งพารามิเตอร์เพิ่มเติมใน URL หรือป้อนข้อมูลจากแอปล่วงหน้าเพื่อเป็นการปกป้องผู้ใช้
- ไม่เปลี่ยนเส้นทางหรือนำทางผู้ใช้ผิดไปยังหน้าปลายทางอื่นซึ่งไม่ใช่ที่แสดงในข้อเสนอภายนอก หรือแสดงข้อมูลอื่นที่เป็นเท็จหรือหลอกลวง
- แจ้งให้ผู้ใช้ทราบเกี่ยวกับหน้าปลายทางและวัตถุประสงค์หน้าดังกล่าว รวมถึงวางไอคอนนี้ต่อท้ายลิงก์เพื่อระบุว่าระบบจะนำผู้ใช้ออกนอกแอป เช่น
- ชำระค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องให้ Google สำหรับธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับแอป Play ซึ่งดำเนินการนอกแอปนับจากที่ใช้ข้อเสนอภายนอก เช่นเดียวกับค่าบริการมาตรฐาน ค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับโปรแกรมข้อเสนอภายนอกสะท้อนให้เห็นคุณค่าที่ได้จาก Android และ Play รวมถึงสนับสนุนการลงทุนอย่างต่อเนื่องของเราใน Android และ Play โดยค่าธรรมเนียมเหล่านี้ประกอบด้วยองค์ประกอบ 2 ส่วนที่เกี่ยวข้องกับมูลค่าที่ Play มอบให้ ได้แก่ (ก) ค่าธรรมเนียมแบบจำกัดเวลา 2 ปีสำหรับการได้ผู้ใช้ใหม่ครั้งแรกและ (ข) ค่าธรรมเนียมสำหรับบริการต่อเนื่อง (รวมถึงบริการด้านความปลอดภัยและการอัปเดตของ Play) ที่ Play ให้บริการแก่นักพัฒนาแอปต่อไป
- จะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมต่อไปนี้ เริ่มตั้งแต่จุดที่ผู้ใช้ทำธุรกรรมเสร็จสมบูรณ์เป็นครั้งแรกภายใน 120 ชั่วโมงนับจากข้อเสนอภายนอก (ธุรกรรมภายนอกครั้งแรก)
- ค่าธรรมเนียมสำหรับการได้ผู้ใช้ใหม่ครั้งแรก: 5% สำหรับการสมัครใช้บริการแบบต่ออายุใหม่อัตโนมัติ และ 10% สำหรับข้อเสนออื่นๆ เกี่ยวกับฟีเจอร์และบริการดิจิทัลในแอป
- ค่าบริการต่อเนื่อง: 7% สำหรับการสมัครใช้บริการแบบต่ออายุใหม่อัตโนมัติ และ 17% สำหรับข้อเสนออื่นๆ เกี่ยวกับฟีเจอร์และบริการดิจิทัลในแอป
- ค่าธรรมเนียมข้างต้นมีผลกับทั้งธุรกรรมภายนอกครั้งแรกและเนื้อหาดิจิทัลทั้งหมดที่ซื้อในเว็บไซต์ภายนอกในภายหลังเพื่อใช้ในแอป ไม่ว่าจะกรอบเวลาใดก็ตาม
- หลังจากระยะเวลาการได้ผู้ใช้ใหม่ครั้งแรกช่วง 2 ปี นักพัฒนาแอปอาจเลือกที่จะหยุดใช้บริการต่อเนื่องของ Play สำหรับแอปหนึ่งๆ เนื่องจากผู้ใช้ดาวน์โหลดแอปผ่าน Play โดยคาดหวังว่าจะได้ใช้บริการ เช่น การควบคุมโดยผู้ปกครอง การสแกนเพื่อความปลอดภัย การป้องกันการประพฤติมิชอบ และการอัปเดตแอปอย่างต่อเนื่อง การปิดให้บริการจึงต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้ด้วย หลังจากนั้น บริการต่อเนื่องและค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องจะไม่มีผลบังคับใช้กับผู้ใช้เหล่านี้อีก นักพัฒนาแอปยังคงมีหน้าที่ในการรายงานธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้ซึ่งเลือกที่จะรับบริการต่อเนื่องจาก Play ต่อไป
- จะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมต่อไปนี้ เริ่มตั้งแต่จุดที่ผู้ใช้ทำธุรกรรมเสร็จสมบูรณ์เป็นครั้งแรกภายใน 120 ชั่วโมงนับจากข้อเสนอภายนอก (ธุรกรรมภายนอกครั้งแรก)
ลงทะเบียนแอปเพื่อเข้าร่วมโปรแกรมข้อเสนอภายนอก
หากต้องการลงทะเบียนเข้าร่วมโปรแกรมข้อเสนอภายนอก คุณต้องทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
- อ่านข้อกำหนดในหน้านี้เพื่อระบุว่าแอปของคุณเป็นไปตามเกณฑ์การมีสิทธิ์ทั้งหมดหรือไม่
- กรอกแบบฟอร์มประกาศของข้อเสนอภายนอก ยอมรับข้อกำหนดในการให้บริการ และทำขั้นตอนการเตรียมความพร้อมผู้ใช้งานใหม่ที่จำเป็นเพื่อลงทะเบียนเข้าร่วมโปรแกรมผ่านทีมสนับสนุนของ Google
- ผสานรวม API ของข้อเสนอภายนอก
- ลงทะเบียนแอปผ่าน Play Console โดยตรง เมื่อระบุแอปและประเทศ/ภูมิภาคที่จะแสดงข้อเสนอภายนอกแล้ว ให้คลิกส่วนด้านล่างเพื่อขยาย แล้วทำตามขั้นตอนเพื่อลงทะเบียนแอปและจัดการการตั้งค่าข้อเสนอภายนอก
- เปิด Play Console แล้วไปที่หน้าข้อเสนอภายนอก (การตั้งค่า > การลิงก์กับข้อเสนอภายนอก)
- ค้นหาแอปที่ต้องการลงทะเบียนแล้วคลิกจัดการในตาราง ซึ่งจะเปิดหน้าการตั้งค่าการสร้างรายได้สำหรับแอปนั้น
- คลิก + เพิ่ม/แก้ไขประเทศ/ภูมิภาคเพื่อเลือกประเทศ/ภูมิภาคใน EEA ที่ต้องการใช้โปรแกรมข้อเสนอภายนอกกับแอปนี้
- รายชื่อประเทศ/ภูมิภาคที่เลือกได้จะขึ้นอยู่กับความพร้อมให้บริการของโปรแกรมในประเทศ/ภูมิภาคนั้นๆ
- เมื่อเลือกประเทศ/ภูมิภาคเสร็จแล้ว ให้คลิกบันทึกการเปลี่ยนแปลง
- คุณต้องทำตามขั้นตอนเหล่านี้สำหรับแต่ละแอปที่ต้องการลงทะเบียนเข้าร่วมโปรแกรม
คุณสามารถจัดการการตั้งค่าโปรแกรมข้อเสนอภายนอก รวมถึงการลงทะเบียนระดับแอปและข้อมูลโปรไฟล์ได้ในหน้าข้อเสนอภายนอก (การตั้งค่า > การลิงก์กับข้อเสนอภายนอก)
- เปิด Play Console แล้วไปที่หน้าใบแจ้งหนี้ (การตั้งค่า > ใบแจ้งหนี้สำหรับการชำระเงินนอก Google Play Billing)
- คุณสามารถเลือกแท็บภูมิภาคของผู้ใช้ที่เหมาะสมเพื่อดูข้อมูลธุรกรรมและค่าบริการที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมของผู้ใช้ในภูมิภาคนั้นๆ เช่น จำนวนเงินที่ต้องชำระ ธุรกรรม ใบแจ้งหนี้และเอกสาร ตลอดจนการตั้งค่าต่างๆ
- เปิด Play Console แล้วไปที่หน้าข้อเสนอภายนอก (การตั้งค่า > การลิงก์กับข้อเสนอภายนอก)
- ค้นหาแอปที่ต้องการลงทะเบียนแล้วคลิกจัดการในตาราง ซึ่งจะเปิดหน้าการตั้งค่าการสร้างรายได้สำหรับแอปนั้น
- คลิก + แก้ไขประเทศ/ภูมิภาคเพื่อเลือกประเทศ/ภูมิภาคที่ต้องการอัปเดตข้อเสนอภายนอก
- รายชื่อประเทศ/ภูมิภาคที่เลือกได้จะขึ้นอยู่กับความพร้อมให้บริการของโปรแกรมในประเทศ/ภูมิภาคนั้นๆ
- เมื่อเลือกประเทศ/ภูมิภาคเสร็จแล้ว ให้คลิกบันทึกการเปลี่ยนแปลง
5. รายงานธุรกรรมที่ได้รับอนุญาตและเกี่ยวข้องทั้งหมดให้ Google Play ทราบภายใน 24 ชั่วโมงนับจากมีการทำธุรกรรมภายนอก
หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม โปรดติดต่อทีมสนับสนุนของเราที่นี่
คำถามที่พบบ่อย
นักพัฒนาแอปใช้ข้อเสนอภายนอกสำหรับผู้ใช้ในประเทศอื่นที่ไม่อยู่ใน EEA ได้ไหมไม่ได้ โปรแกรมนี้จำกัดไว้สำหรับผู้ใช้ใน EEA เท่านั้น แต่นักพัฒนาแอปจากภูมิภาคอื่นสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโปรแกรมเพื่อกำหนดเป้าหมายผู้ใช้ใน EEA นอกแอป Play ได้
ปัจจุบัน EEA ประกอบด้วยประเทศกรีซ โครเอเชีย เดนมาร์ก นอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์ บัลแกเรีย เบลเยียม โปรตุเกส โปแลนด์ ฝรั่งเศส ฟินแลนด์ มอลตา เยอรมนี โรมาเนีย ลักเซมเบิร์ก ลัตเวีย ลิกเตนสไตน์ ลิทัวเนีย สเปน สโลวาเกีย สโลวีเนีย สวีเดน สาธารณรัฐเช็ก สาธารณรัฐไซปรัส ออสเตรีย อิตาลี เอสโตเนีย ไอซ์แลนด์ ไอร์แลนด์ และฮังการี
มีสิทธิ์ ทั้งนักพัฒนาเกมและนักพัฒนาแอปมีสิทธิ์สมัครเข้าร่วมโปรแกรมข้อเสนอภายนอก
โปรแกรมนี้ใช้ได้กับแอปและเกมในอุปกรณ์ทุกรูปแบบ เช่น มือถือ, แท็บเล็ต, ChromeOS, Android TV และ Wear OS
ไม่จำเป็น โปรแกรมนี้เป็นแบบเลือกเข้าร่วมเท่านั้น หากคุณไม่ต้องการนำผู้ใช้ไปนอกแอป ก็ไม่ต้องดำเนินการใดๆ
ได้ หลังจากลงชื่อสมัครเข้าร่วมโปรแกรมข้อเสนอภายนอกเรียบร้อยแล้ว คุณจะเลือกแอปที่ต้องการลงทะเบียนใช้ข้อเสนอภายนอกได้ทุกเมื่อด้วย Play Console
คุณสามารถเปลี่ยนแปลงการลงทะเบียนใช้โปรแกรมการชำระเงินภายนอกในตลาดสำหรับแพ็กเกจแอปหนึ่งๆ ได้ผ่านการตั้งค่า Play Console การอัปเดตทั้งหมดจะมีผลทันที รวมถึงการเปลี่ยนแปลงค่าบริการที่เกี่ยวข้องด้วย
การขยายการผสานรวมที่มีอยู่กับระบบการเรียกเก็บเงินของ Google Play เพื่อใช้ API ของข้อเสนอภายนอกนั้นทำได้ง่ายดาย API นี้สร้างขึ้นโดยใช้รูปแบบและหลักการเดียวกันกับ Play Billing Library และ Play Developer API ซึ่งหมายความว่าจะเข้ากันได้กับรูปแบบที่คุณมีอยู่และเป็นสิ่งที่ทีมคุ้นเคยอยู่แล้วโดยส่วนใหญ่ ในคู่มือการผสานรวมสำหรับนักพัฒนาแอป เรามีหลักเกณฑ์และแหล่งข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับวิธีเริ่มต้นใช้งาน เรายินดีรับฟังความคิดเห็นจากนักพัฒนาแอปเกี่ยวกับ API เหล่านี้และแหล่งข้อมูลเพิ่มเติมใดๆ ที่จะเป็นประโยชน์
หากคุณมีคำถามหรือข้อเสนอแนะเกี่ยวกับ API ของข้อเสนอภายนอก โปรดติดต่อเราที่นี่
ได้ นักพัฒนาแอปสามารถใช้ประโยชน์จากทั้ง 2 โปรแกรมได้หากต้องการ และหากมีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดและเกณฑ์การมีสิทธิ์ของทั้ง 2 โปรแกรม หากคุณใช้ทั้ง 2 โปรแกรมในแอป ค่าบริการที่เกี่ยวข้องสำหรับธุรกรรมจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ผู้ใช้เลือกจะทำธุรกรรมจนเสร็จ (ภายในแอปหรือภายนอกแอป) หากต้องการเข้าร่วมโปรแกรมข้อเสนอภายนอกและเริ่มโปรโมตข้อเสนอภายนอก คุณต้องทำตามขั้นตอนการลงชื่อสมัครใช้ให้เสร็จสมบูรณ์และปฏิบัติตามข้อกำหนดทั้งหมดของโปรแกรม
ได้ นักพัฒนาแอปสามารถใช้ระบบการเรียกเก็บเงินของ Google Play ไปพร้อมกับเข้าร่วมโปรแกรมข้อเสนอภายนอก หากคุณมี Google Play Billing และโปรโมตข้อเสนอภายนอก ค่าบริการที่เกี่ยวข้องสำหรับธุรกรรมจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ผู้ใช้เลือกจะทำธุรกรรมจนเสร็จ (ภายในแอปหรือภายนอกแอป) หากต้องการเข้าร่วมโปรแกรมข้อเสนอภายนอกและเริ่มโปรโมตข้อเสนอภายนอก คุณต้องทำตามขั้นตอนการลงชื่อสมัครใช้ให้เสร็จสมบูรณ์และปฏิบัติตามข้อกำหนดทั้งหมดของโปรแกรม
ค่าธรรมเนียมของ Play สนับสนุนการลงทุนของเราใน Android และ Google Play และสะท้อนให้เห็นคุณค่าที่ได้จาก Android และ Play ซึ่งรวมถึงการช่วยให้เราสามารถเผยแพร่ Android ได้แบบไม่มีค่าใช้จ่าย ตลอดจนมอบชุดเครื่องมือและบริการที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาแอปสร้างธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ และรักษาแพลตฟอร์มของเราให้ปลอดภัยสำหรับผู้ใช้หลายพันล้านคนทั่วโลกไปพร้อมๆ กันด้วย
นักพัฒนาแอปสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโปรแกรมข้อเสนอภายนอกเพื่อปฏิบัติตามกฎระเบียบของกฎหมายตลาดดิจิทัล (DMA) ทั้งนี้ เพื่อช่วยให้เราลงทุนกับระบบนิเวศได้ต่อไป นักพัฒนาแอปที่เข้าร่วมโปรแกรมข้อเสนอภายนอกจะต้องเสียค่าบริการรูปแบบใหม่สำหรับการซื้อของผู้ใช้ที่เกี่ยวข้องกับแอป Play ซึ่งทำเสร็จนอกแอป ค่าบริการดังกล่าว ได้แก่ ค่าธรรมเนียมสำหรับการได้ผู้ใช้ใหม่ครั้งแรกและค่าธรรมเนียมสำหรับบริการต่อเนื่อง
ค่าบริการรูปแบบใหม่สำหรับโปรแกรมข้อเสนอภายนอกมีองค์ประกอบ 2 ส่วน ได้แก่
ค่าธรรมเนียมสำหรับการได้ผู้ใช้ใหม่ครั้งแรก ซึ่งมีการจำกัดเวลาเพื่อแสดงให้เห็นว่า Play จะเรียกเก็บเงินตามมูลค่าที่สร้างให้จากการเอื้อให้เกิดการได้ผู้ใช้ใหม่ครั้งแรกผ่าน Play เท่านั้น ระยะเวลา "การได้ผู้ใช้ใหม่ครั้งแรก" จึงจะคำนึงถึงวิธีที่นักพัฒนาแอปสร้างรายได้จากแอปตามปกติ ซึ่งสำหรับนักพัฒนาแอปจำนวนมากนั้นมาจากธุรกรรมที่เพิ่มขึ้นทีละเล็กน้อยเป็นระยะเวลานาน ส่วนธุรกรรมของผู้ใช้ที่ไม่ได้เกิดขึ้นในระยะเวลาการได้ผู้ใช้ใหม่ครั้งแรกช่วง 2 ปี นักพัฒนาแอปจะไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการได้ผู้ใช้ใหม่ครั้งแรก
ค่าธรรมเนียมสำหรับบริการต่อเนื่อง ซึ่งจะเรียกเก็บตราบเท่าที่นักพัฒนาแอปยังคงใช้บริการต่อเนื่องของ Play (ซึ่งรวมถึงบริการด้านความปลอดภัยและการอัปเดตของ Play) นักพัฒนาแอปสามารถเลือกไม่ใช้บริการต่อเนื่องของ Play สำหรับแอปหนึ่งๆ ได้เมื่อระยะเวลาการได้ผู้ใช้ใหม่ครั้งแรกในช่วง 2 ปีสิ้นสุดลง เนื่องจากผู้ใช้ดาวน์โหลดแอปผ่าน Play โดยคาดหวังว่าจะได้ใช้บริการ เช่น การควบคุมโดยผู้ปกครอง การสแกนเพื่อความปลอดภัย การป้องกันการประพฤติมิชอบ และการอัปเดตแอปอย่างต่อเนื่อง การปิดให้บริการจึงต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้ ดังนั้น เมื่อนักพัฒนาแอปเลือกที่จะไม่ใช้บริการต่อเนื่อง ผู้ใช้แอปที่มีสิทธิ์จะต้องดำเนินการเพื่อยอมรับการเลือกไม่ใช้ดังกล่าว ค่าธรรมเนียมสำหรับบริการต่อเนื่องและค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องก็จะไม่มีผลกับผู้ใช้เหล่านั้น ทั้งนี้ คุณจะยังคงต้องรายงานธุรกรรมของผู้ใช้ที่เลือกรับบริการต่อเนื่องจาก Play ต่อไป
ตำแหน่งที่ผู้ใช้ทำธุรกรรมจนเสร็จขณะใช้แอป Fantastiq | ประเภทรูปแบบค่าธรรมเนียม | เวลาที่ซื้อ | ประเภทสินค้าที่ซื้อ | ค่าธรรมเนียม |
---|---|---|---|---|
ภายในแอป | ระบบการเรียกเก็บเงินของ Google Play | ไม่เกี่ยวข้อง | การสมัครใช้บริการ Fabulous Playing แบบรายเดือน | 15% |
ภายนอกแอป | ข้อเสนอภายนอก | ภายใน 2 ปีหลังจากการทำธุรกรรมภายนอกครั้งแรก | การสมัครใช้บริการ Stream More แบบรายปี |
ค่าธรรมเนียมสำหรับการได้ผู้ใช้ใหม่เริ่มต้น: 5%
|
ภายนอกแอป | ข้อเสนอภายนอก | หลังผ่านไป 2 ปีนับจากการทำธุรกรรมภายนอกครั้งแรก | หัวใจเพิ่ม 100 ดวง |
ค่าธรรมเนียมสำหรับบริการต่อเนื่อง: 17% (หากผู้ใช้ยังคงใช้บริการ Google Play ต่อไป) |
ภายนอกแอป | ข้อเสนอภายนอก | หลังผ่านไป 2 ปีนับจากการทำธุรกรรมภายนอกครั้งแรก | การสมัครใช้บริการรายเดือนแบบพรีเมียม |
ค่าธรรมเนียมสำหรับบริการต่อเนื่อง: 7% (หากผู้ใช้ยังคงใช้บริการ Google Play ต่อไป) |