ข้อมูลในบทความนี้ใช้กับบัญชีนักพัฒนาแอปที่สร้างขึ้นก่อนวันที่ 31 สิงหาคม 2023 เท่านั้น หากคุณสร้างบัญชีนักพัฒนาแอปหลังวันที่ 31 สิงหาคม 2023 ให้ไปที่บทความนี้
เมื่อเดือนกรกฎาคม 2023 เราได้ประกาศข้อกำหนดใหม่เกี่ยวกับการยืนยันสำหรับผู้ที่สร้างบัญชีนักพัฒนาแอป Play Console ใหม่ เรากำลังเตรียมเปิดตัวข้อกำหนดเกี่ยวกับการยืนยันเหล่านี้กับนักพัฒนาแอป Google Play ที่มีอยู่ทั้งหมด บทความนี้มีคำแนะนำเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องทำและกำหนดเวลา
หากต้องการอัปเดตข้อมูลบัญชีนักพัฒนาแอป Google Play คุณแก้ไขข้อมูลได้โดยใช้ Play Console
ตั้งค่าหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลบัญชี
ข้อมูลของนักพัฒนาแอปที่แสดงให้ผู้ใช้เห็นใน Google Playโปรดอัปเดตข้อมูลใน Play Console หากมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดการติดต่อ ชื่อนักพัฒนาแอป หรือที่อยู่ทางไปรษณีย์ เฉพาะเจ้าของบัญชีเท่านั้นที่เปลี่ยนการตั้งค่าโปรไฟล์นักพัฒนาแอปได้ และข้อมูลที่คุณให้ต้องเป็นไปตามนโยบายโปรแกรมสำหรับนักพัฒนาแอปของ Google Play
รายละเอียดการติดต่อ
- เปิด Play Console
- ไปที่แอปทั้งหมดแล้วเลือกแอป
- ที่เมนูด้านซ้าย ให้ไปที่ขยาย > การแสดงข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store > การตั้งค่า Store
- ในส่วน "รายละเอียดสำหรับติดต่อในข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store" ให้พิมพ์อีเมลสำหรับติดต่อหรือเว็บไซต์ ทั้งนี้ต้องระบุอีเมลสำหรับติดต่อเพื่อเผยแพร่หรืออัปเดตแอปบน Google Play อีเมลสำหรับติดต่อของคุณไม่จำเป็นต้องเป็นบัญชีเดียวกับที่ใช้ลงชื่อเข้าใช้บัญชีนักพัฒนาแอป
- บันทึกการเปลี่ยนแปลง
ชื่อนักพัฒนาแอป
- เปิด Play Console
- ไปที่หน้าสำหรับนักพัฒนาแอป
- ข้าง "ชื่อนักพัฒนาแอป" ให้พิมพ์ชื่อที่คุณต้องการให้แสดงใน Google Play
- บันทึกการเปลี่ยนแปลง
ที่อยู่จริง
บัญชีนักพัฒนาแอปซึ่งมีแอปที่ต้องซื้อหรือการซื้อในแอปจะต้องเพิ่มที่อยู่ทางไปรษณีย์ในบัญชี หากบัญชีนักพัฒนาแอปซึ่งมีแอปที่ต้องซื้อหรือการซื้อในแอปไม่มีที่อยู่ทางไปรษณีย์อาจส่งผลให้ Google Play ระงับบัญชีดังกล่าว
- เปิด Play Console
- ไปที่หน้าสำหรับนักพัฒนาแอป
- ข้างที่อยู่ทางไปรษณีย์ ให้พิมพ์ที่อยู่ที่ถูกต้องซึ่งใช้ติดต่อคุณได้ โปรดทราบว่าข้อมูลนี้จะแสดงใน Google Play
- บันทึกการเปลี่ยนแปลง
ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2021 เจ้าของบัญชีนักพัฒนาแอปที่ต้องการอัปเดตข้อมูลติดต่อ (เช่น อีเมลและหมายเลขโทรศัพท์สำหรับติดต่อ) ต้องประกาศประเภทบัญชีของตน (ส่วนบุคคลหรือองค์กร) และให้ข้อมูลที่จำเป็นบางอย่างก่อน
ในการเลือกประเภทบัญชี คุณจะต้องยืนยันอีเมลและหมายเลขโทรศัพท์สำหรับติดต่อที่ได้ระบุไว้
เฉพาะเจ้าของบัญชีเท่านั้นที่เปลี่ยนการตั้งค่าโปรไฟล์นักพัฒนาแอปได้ อีเมลสำหรับติดต่อของคุณไม่จำเป็นต้องเป็นบัญชีเดียวกับที่ใช้ลงชื่อเข้าใช้บัญชีนักพัฒนาแอป
- เปิด Play Console
- ไปที่หน้ารายละเอียดบัญชี
- เลือกประเภทบัญชีนักพัฒนาแอป
- กรอกข้อมูลในช่องสำหรับประเภทบัญชีที่เลือกทั้งหมด
- สำหรับบัญชีส่วนบุคคล คุณต้องระบุข้อมูลต่อไปนี้
- ชื่อผู้ติดต่อ
- อีเมลสำหรับติดต่อ ซึ่งต้องได้รับการยืนยัน
- ที่อยู่สำหรับติดต่อ
- หมายเลขโทรศัพท์สำหรับติดต่อในรูปแบบระหว่างประเทศ ซึ่งต้องได้รับการยืนยัน
หมายเลขโทรศัพท์ในรูปแบบระหว่างประเทศจะเริ่มต้นด้วยเครื่องหมายบวก (+) ตามด้วยรหัสประเทศ รหัสพื้นที่ และหมายเลขโทรศัพท์ ดังนี้
+(รหัสประเทศ)(รหัสพื้นที่)(หมายเลขโทรศัพท์)
ตัวอย่างเช่น +14155552671, +441234567890
- สำหรับบัญชีองค์กร คุณต้องระบุข้อมูลต่อไปนี้
- ชื่อองค์กร
- ที่อยู่ขององค์กร
- หมายเลขโทรศัพท์ขององค์กร ซึ่งต้องได้รับการยืนยัน
- ชื่อผู้ติดต่อ
- อีเมลสำหรับติดต่อ ซึ่งต้องได้รับการยืนยัน
-
เคล็ดลับ: เราจะใช้อีเมลนี้ในการติดต่อคุณเกี่ยวกับบัญชี ขอแนะนำให้ใช้อีเมลที่เชื่อมโยงกับองค์กร ไม่ใช่อีเมลส่วนตัว
-
- หมายเลขโทรศัพท์สำหรับติดต่อในรูปแบบระหว่างประเทศ
- สำหรับบัญชีส่วนบุคคล คุณต้องระบุข้อมูลต่อไปนี้
- บันทึกการเปลี่ยนแปลง
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ยืนยันข้อมูลติดต่อของบัญชีนักพัฒนาแอป
อีเมลและประเทศของเจ้าของบัญชีจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่คุณใช้อีเมล (ชื่อผู้ใช้) อื่นเพื่อระบุบัญชี Google ของคุณได้ นอกจากนี้ คุณสามารถสร้างบัญชีใหม่โดยใช้อีเมลหรือประเทศอื่นและโอนแอปไปยังบัญชีใหม่ได้ด้วย
บัญชีมีแอปที่เผยแพร่หรือไม่ได้เผยแพร่
หากต้องการโอนแอปไปยังบัญชีใหม่ โปรดไปที่รายการตรวจสอบการโอนแอป
บัญชีไม่มีแอป
หากยังไม่ได้เผยแพร่แอปใดๆ โดยใช้บัญชี Play Console ที่มีอยู่ คุณสามารถสร้างบัญชีใหม่แล้วยกเลิกบัญชีเดิมได้
เมื่อคุณสร้างและลิงก์โปรไฟล์การชำระเงินกับบัญชี Play Console แล้ว บัญชีที่ลิงก์และการตั้งค่าประเทศของการชำระเงินจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
หากต้องการเปลี่ยนโปรไฟล์การชำระเงินที่ลิงก์กับบัญชีนักพัฒนาแอป คุณสามารถสร้างบัญชีนักพัฒนาแอปและโปรไฟล์การชำระเงินใหม่ และลิงก์บัญชีใหม่
เคล็ดลับ: เงินคงเหลือในโปรไฟล์การชำระเงินจะโอนระหว่างบัญชีไม่ได้ หากคุณมีโปรไฟล์การชำระเงินที่มียอดคงค้าง หรือเงินคงเหลือที่รอดำเนินการ คุณควรเปิดบัญชีนั้นไว้ต่อไปจนกว่าจะมีการชำระคืนยอดที่เหลือทั้งหมดแล้ว
บัญชีมีแอปที่เผยแพร่หรือไม่ได้เผยแพร่
หากต้องการโอนแอปไปยังบัญชีใหม่ โปรดไปที่รายการตรวจสอบการโอนแอป
บัญชีไม่มีแอป
หากยังไม่ได้เผยแพร่แอปใดๆ โดยใช้บัญชี Play Console ที่มีอยู่ คุณสามารถสร้างบัญชีใหม่แล้วยกเลิกบัญชีเดิมได้
ตั้งค่ากำหนดการแจ้งเตือนทางอีเมล
- เปิด Play Console
- ไปที่รายละเอียดบัญชี คุณจะเห็นอีเมลสำหรับส่งการแจ้งเตือนเกี่ยวกับแอปและอีเมลการตลาด
- หลังจากตรวจสอบหรืออัปเดตอีเมลแล้ว ในส่วนการตั้งค่า ให้คลิกการแจ้งเตือน
- ในส่วน "การแจ้งเตือนจาก Play Console" และ "อีเมลจาก Google Play" ให้ใช้ช่องทำเครื่องหมายเพื่อแก้ไขการตั้งค่า
- หากคุณเลือกที่จะไม่รับการแจ้งเตือนทางอีเมล คุณจะไม่ได้รับอีเมลการตลาดที่ไม่บังคับ เช่น ประกาศเกี่ยวกับฟีเจอร์ใหม่และเคล็ดลับต่างๆ เราจะยังคงส่งอีเมลที่จำเป็น เช่น ประกาศเกี่ยวกับการให้บริการที่จำเป็นไปยังอีเมลที่เชื่อมโยงกับโปรไฟล์นักพัฒนาแอป
- หากคุณใช้แอป Play Console คุณจะตั้งค่ากำหนดการแจ้งเตือนของอุปกรณ์เคลื่อนที่ภายในแอปได้
บอกเราเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทบาทของคุณ
หากคุณบอกเราเกี่ยวกับวิธีที่คุณใช้ Play Console เราจะส่งการแจ้งเตือนทางอีเมลที่เกี่ยวข้องกับงานของคุณมากที่สุดได้ ตัวอย่างเช่น หากคุณเลือกบทบาท "การตลาด" ด้วย เราสามารถส่งคำแนะนำที่เกี่ยวข้องกับการได้ผู้ใช้ใหม่ให้แก่คุณ
- เปิด Play Console
- ไปที่การตั้งค่า > การแจ้งเตือน
- ในส่วน "อีเมลจาก Google Play" ให้ไปที่ "บทบาทของคุณ" แล้วเลือกช่องซึ่งอธิบายวิธีที่คุณใช้ Play Console ได้ดีที่สุด
- บันทึกการเปลี่ยนแปลง
เปลี่ยนรหัสผ่านของบัญชี
- ในบัญชี Google ให้ไปที่ความปลอดภัย
- ในส่วน "วิธีลงชื่อเข้าใช้ Google" ให้คลิกรหัสผ่าน
- ทำตามขั้นตอนบนหน้าจอและบันทึกการเปลี่ยนแปลง
เคล็ดลับ: หากพบปัญหาในการลงชื่อเข้าใช้บัญชี โปรดไปที่การกู้คืนบัญชี Google
โอนแอปไปยังบัญชีอื่น
โปรดไปที่รายการตรวจสอบการโอนแอปเพื่อโอนแอปไปยังบัญชีอื่น
ลบบัญชีนักพัฒนาแอป
หากยังไม่ได้เผยแพร่แอปคุณติดต่อทีมสนับสนุนของเราได้หากยังไม่ได้เผยแพร่แอปและต้องการลบบัญชีนักพัฒนาแอปหรือโอนแอปทั้งหมดไปยังบัญชีอื่น การลบบัญชี Google จะไม่ลบบัญชีนักพัฒนาแอปออกโดยอัตโนมัติ
เมื่อคุณใช้บัญชีนักพัฒนาแอปเผยแพร่แอปแล้วและต้องการลบบัญชี ให้ดำเนินการดังนี้
- ลงชื่อเข้าใช้บัญชีเดิมเพื่อสำรองข้อมูลหรือดาวน์โหลดข้อมูลก่อนขอลบบัญชี หากลบบัญชี Play Console คุณจะใช้บัญชีดังกล่าวไม่ได้แล้ว
- ติดต่อทีมสนับสนุนของเราเพื่อโอนแอปไปยังบัญชีอื่น
- ตอบกลับการยืนยันการโอนแอปเพื่อปิดบัญชีที่มีอยู่
หมายเหตุ:
- หากต้องการใช้ชื่อนักพัฒนาแอปเดิมในบัญชีใหม่ คุณจะต้องเปลี่ยนชื่อนักพัฒนาแอปในบัญชีที่มีอยู่เป็นชื่ออื่น ชื่อนักพัฒนาแอปจะเหมือนกันไม่ได้
-
การลบบัญชี Google จะไม่ลบบัญชีนักพัฒนาแอปออกโดยอัตโนมัติ
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
- หากไม่มีบัญชีนักพัฒนาแอป Google Play และต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับการใช้แอป Play Store หรือต้องการเพิ่มวิธีการชำระเงิน โปรดไปที่ศูนย์ช่วยเหลือของ Google Play