ตัวอย่าง: ข้อมูลผู้ใช้

ตัวอย่างนโยบาย

บทความนี้แสดงตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงที่ประกาศไปเมื่อเร็วๆ นี้

เรากำลังเพิ่มนโยบายแอปสุขภาพใหม่ในบทความเรื่อง "เนื้อหาและบริการเกี่ยวกับสุขภาพ" เพื่อแนะนำข้อกำหนดใหม่ๆ สำหรับแอปในหมวดหมู่แอปสุขภาพ และจะปรับปรุงนโยบายดังกล่าวให้สอดคล้องกับคำแนะนำด้านสาธารณสุขในปัจจุบันด้วย (มีผลตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม 2024)

ดูบทความปัจจุบันเรื่อง "ข้อมูลผู้ใช้" ได้ที่หน้านี้

คุณต้องเปิดเผยวิธีจัดการข้อมูลผู้ใช้ด้วยความโปร่งใส (เช่น ข้อมูลที่เก็บรวบรวมจากผู้ใช้หรือเกี่ยวกับผู้ใช้ รวมถึงข้อมูลอุปกรณ์) ซึ่งหมายถึงการเปิดเผยข้อมูลการเข้าถึง การเก็บรวบรวม การใช้งาน การจัดการ และการแชร์ข้อมูลผู้ใช้จากแอป ตลอดจนการจำกัดการใช้ข้อมูลตามวัตถุประสงค์ที่เป็นไปตามนโยบายซึ่งมีการเปิดเผยข้อมูลไว้ โปรดทราบว่าการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของผู้ใช้จะขึ้นอยู่กับข้อกำหนดเพิ่มเติมในส่วน "ข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของผู้ใช้" ด้านล่างด้วย ข้อกำหนดเหล่านี้ของ Google Play เป็นข้อกำหนดเพิ่มเติมจากข้อกำหนดใดๆ ที่กำหนดไว้โดยกฎหมายคุ้มครองความเป็นส่วนตัวและข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

หากคุณใส่โค้ดของบุคคลที่สาม (เช่น SDK) ในแอป ก็ต้องตรวจสอบว่าโค้ดของบุคคลที่สามที่ใช้ในแอปและแนวทางปฏิบัติของบุคคลที่สามเกี่ยวกับข้อมูลผู้ใช้จากแอปเป็นไปตามนโยบายโปรแกรมสำหรับนักพัฒนาแอป Google Play ซึ่งรวมถึงข้อกำหนดในการใช้งานและการเปิดเผยข้อมูล เช่น คุณต้องตรวจสอบว่าผู้ให้บริการ SDK ไม่ได้ขายข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของผู้ใช้จากแอปของคุณ ข้อกำหนดนี้จะมีผลไม่ว่าจะมีการโอนข้อมูลผู้ใช้หลังจากที่ส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ หรือผ่านการฝังโค้ดของบุคคลที่สามในแอปหรือไม่

ยุบทั้งหมด ขยายทั้งหมด

 

ข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของผู้ใช้

ข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของผู้ใช้รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงข้อมูลส่วนบุคคลที่ระบุตัวบุคคลนั้นได้ ข้อมูลทางการเงินและการชำระเงิน ข้อมูลการตรวจสอบสิทธิ์ สมุดโทรศัพท์ รายชื่อติดต่อ ตำแหน่งของอุปกรณ์ ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ SMS และการโทร ข้อมูลด้านสุขภาพ ข้อมูลของ Health Connect พื้นที่โฆษณาของแอปอื่นๆ ในอุปกรณ์ ไมโครโฟน กล้อง และข้อมูลอุปกรณ์หรือการใช้งานที่ละเอียดอ่อนอื่นๆ หากแอปของคุณมีการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของผู้ใช้ คุณต้องดำเนินการต่อไปนี้

  • จำกัดการเข้าถึง การเก็บรวบรวม การใช้งาน และการแชร์ข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของผู้ใช้ซึ่งได้รับมาผ่านทางแอปให้เป็นไปตามฟังก์ชันการทำงานของแอปและบริการ ตลอดจนวัตถุประสงค์ที่เป็นไปตามนโยบายซึ่งผู้ใช้คาดหวังไว้อย่างสมเหตุสมผล
    • แอปที่ขยายการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของผู้ใช้มาใช้กับการแสดงโฆษณาจะต้องเป็นไปตามนโยบายโฆษณาของ Google Play
    • คุณสามารถโอนข้อมูลไปยังผู้ให้บริการได้ด้วยเมื่อจำเป็นหรือเพื่อเหตุผลทางกฎหมาย เช่น การปฏิบัติตามคำขอของรัฐบาลที่มีผล กฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการควบรวมหรือการได้มาโดยมีการแจ้งให้ผู้ใช้ทราบอย่างเพียงพอตามกฎหมาย
  • จัดการข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนทั้งหมดของผู้ใช้อย่างปลอดภัย รวมถึงการส่งข้อมูลโดยใช้วิทยาการเข้ารหัสลับที่ทันสมัย (เช่น ผ่าน HTTPS)
  • ใช้คำขอสิทธิ์รันไทม์ทุกครั้งที่มี ก่อนเข้าถึงข้อมูลที่ปิดกั้นด้วยสิทธิ์สำหรับ Android
  • ไม่ขายข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของผู้ใช้
    • "การขาย" หมายถึงการแลกเปลี่ยนหรือการโอนข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของผู้ใช้ให้กับบุคคลที่สามเพื่อแลกกับสิ่งตอบแทนที่เป็นเงิน
      • การโอนข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของผู้ใช้ซึ่งผู้ใช้เป็นผู้เริ่มดำเนินการ (เช่น เมื่อผู้ใช้กำลังใช้ฟีเจอร์ของแอปเพื่อโอนไฟล์ไปยังบุคคลที่สาม หรือเมื่อผู้ใช้เลือกที่จะใช้แอปที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาวิจัย) จะไม่ถือว่าเป็นการขาย

ข้อกำหนดด้านการเปิดเผยข้อมูลและการขอความยินยอมอย่างชัดเจน

ในกรณีที่การเข้าถึง การเก็บรวบรวม การใช้งาน และการแชร์ข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของผู้ใช้โดยแอปของคุณอาจอยู่นอกเหนือจากความคาดหวังที่สมเหตุสมผลของผู้ใช้ผลิตภัณฑ์หรือฟีเจอร์ที่เป็นประเด็น (เช่น หากการเก็บรวบรวมข้อมูลเกิดขึ้นเบื้องหลังเมื่อผู้ใช้ไม่ได้มีส่วนร่วมกับแอป) คุณต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดต่อไปนี้

การเปิดเผยข้อมูลอย่างชัดเจน: คุณต้องมีการเปิดเผยข้อมูลในแอปเกี่ยวกับการเข้าถึง การเก็บรวบรวม การใช้งาน และการแชร์ข้อมูล การเปิดเผยข้อมูลในแอปจะต้องมีลักษณะดังนี้

  • ต้องอยู่ในตัวแอป ไม่ใช่อยู่เฉพาะในคำอธิบายแอปหรือในเว็บไซต์
  • ต้องแสดงในการใช้งานปกติของแอปและต้องไม่บังคับให้ผู้ใช้ไปยังเมนูหรือการตั้งค่า
  • ต้องอธิบายข้อมูลที่เข้าถึงและเก็บรวบรวม
  • ต้องอธิบายว่าจะนำข้อมูลไปใช้งานและ/หรือแชร์อย่างไร
  • ต้องไม่ใส่ไว้เฉพาะในนโยบายความเป็นส่วนตัวหรือข้อกำหนดในการให้บริการ และ
  • ต้องไม่รวมอยู่กับการเปิดเผยอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของผู้ใช้

ความยินยอมและสิทธิ์รันไทม์: ต้องมีการเปิดเผยข้อมูลในแอปที่เป็นไปตามข้อกำหนดของนโยบายนี้ก่อนที่จะแสดงคำขอความยินยอมของผู้ใช้ในแอปและคำขอสิทธิ์รันไทม์ โดยการขอความยินยอมของแอปจะต้องมีลักษณะดังต่อไปนี้

  • ต้องแสดงกล่องโต้ตอบความยินยอมอย่างชัดเจนและตรงไปตรงมา
  • ต้องมีการดำเนินการยอมรับที่แสดงการยินยอมจากผู้ใช้ (เช่น แตะเพื่อยอมรับ เลือกช่องทำเครื่องหมาย)
  • ต้องไม่ตีความว่าการออกจากการเปิดเผยข้อมูล (รวมถึงการแตะออก หรือการกดปุ่มกลับหรือปุ่มหน้าแรก) เป็นการยินยอม
  • ต้องไม่ใช้ข้อความที่ปิดเองโดยอัตโนมัติหรือข้อความที่มีการหมดอายุเป็นวิธีการขอความยินยอมจากผู้ใช้ และ
  • ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ใช้ก่อน แอปจึงจะเริ่มเก็บรวบรวมหรือเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของผู้ใช้ได้

แอปที่ใช้ฐานกฎหมายอื่นๆ ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของผู้ใช้โดยไม่ต้องขอความยินยอม เช่น ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายภายใต้ GDPR ของ EU ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมดและเปิดเผยข้อมูลที่เหมาะสมให้ผู้ใช้ทราบ ซึ่งรวมถึงการเปิดเผยข้อมูลในแอปตามที่นโยบายนี้กำหนดไว้

เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของนโยบาย เราขอแนะนำให้คุณอ้างอิงรูปแบบตัวอย่างต่อไปนี้สำหรับการเปิดเผยข้อมูลอย่างชัดเจนเมื่อจำเป็นต้องใช้

  • "[แอปนี้] เก็บรวบรวม/ส่งข้อมูล/ซิงค์/จัดเก็บ [ประเภทข้อมูล] เพื่อเปิดใช้ ["ฟีเจอร์"] [อธิบายสถานการณ์]"
  • ตัวอย่าง: "Fitness Funds เก็บรวบรวมข้อมูลตำแหน่งเพื่อเปิดใช้การติดตามการออกกำลังกายแม้ในขณะที่แอปปิดอยู่หรือไม่ได้ใช้งาน และใช้เพื่อสนับสนุนการโฆษณาด้วย" 
  • ตัวอย่าง: "Call Buddy เก็บรวบรวมข้อมูลการอ่านและเขียนบันทึกการโทรเพื่อเปิดใช้การจัดระเบียบรายชื่อผู้ติดต่อแม้ในขณะที่ไม่ได้ใช้งานแอป"

หากแอปผสานรวมโค้ดของบุคคลที่สาม (เช่น SDK) ที่ออกแบบมาเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของผู้ใช้โดยค่าเริ่มต้น คุณต้องให้หลักฐานที่เพียงพอซึ่งแสดงให้เห็นว่าแอปเป็นไปตามข้อกำหนดด้านการเปิดเผยข้อมูลและการขอความยินยอมอย่างชัดเจนของนโยบายนี้ภายใน 2 สัปดาห์ที่ได้รับคำขอจาก Google Play (หรือภายในระยะเวลาที่นานกว่านี้ตามคำขอของ Google Play) ซึ่งรวมถึงในกรณีของการเข้าถึง การเก็บรวบรวม การใช้งาน หรือการแชร์ข้อมูลผ่านโค้ดของบุคคลที่สาม

ตัวอย่างการละเมิดที่พบบ่อย
  • แอปรวบรวมข้อมูลตำแหน่งของอุปกรณ์แต่ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลในรายละเอียดอย่างชัดเจนว่าฟีเจอร์ใดใช้ข้อมูลนี้บ้างและ/หรือไม่มีการบ่งบอกว่ามีการใช้งานแอปในเบื้องหลัง
  • แอปมีสิทธิ์รันไทม์ซึ่งขอเข้าถึงข้อมูลก่อนการเปิดเผยข้อมูลอย่างชัดเจนถึงวัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูล
  • แอปที่เข้าถึงคลังแอปที่ติดตั้งไว้ของผู้ใช้และไม่จัดการข้อมูลนี้ในแบบข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลที่ละเอียดอ่อนตามข้อกำหนดในนโยบายความเป็นส่วนตัว การจัดการข้อมูล ตลอดจนการเปิดเผยข้อมูลและการขอความยินยอมอย่างชัดเจนด้านบน
  • แอปที่เข้าถึงข้อมูลในโทรศัพท์หรือสมุดรายชื่อติดต่อของผู้ใช้และไม่จัดการข้อมูลนี้ในแบบข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลที่ละเอียดอ่อนตามข้อกำหนดในนโยบายความเป็นส่วนตัว การจัดการข้อมูล ตลอดจนการเปิดเผยข้อมูลและการขอความยินยอมอย่างชัดเจนด้านบน
  • แอปที่บันทึกหน้าจอของผู้ใช้และไม่จัดการข้อมูลนี้ในแบบข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลที่ละเอียดอ่อนตามนโยบายนี้
  • แอปที่เก็บรวบรวมตำแหน่งอุปกรณ์โดยไม่เปิดเผยข้อมูลการใช้งานและไม่ขอความยินยอมให้ครอบคลุมตามข้อกำหนดข้างต้น
  • แอปที่ใช้สิทธิ์ที่ถูกจำกัดในเบื้องหลังของแอปซึ่งรวมถึงเพื่อการติดตาม การวิจัย หรือวัตถุประสงค์ทางการตลาด แต่ไม่เปิดเผยการใช้งานและไม่ขอความยินยอมให้ครอบคลุมตามข้อกำหนดข้างต้น 
  • แอปที่มี SDK ซึ่งเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของผู้ใช้ แต่ไม่ปฏิบัติต่อข้อมูลนี้ตามนโยบายข้อมูลผู้ใช้ ข้อกำหนดด้านการเข้าถึง การจัดการข้อมูล (รวมถึงการขายที่ไม่อนุญาต) และข้อกำหนดด้านการเปิดเผยข้อมูลและการขอความยินยอมอย่างชัดเจน

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อกำหนดด้านการเปิดเผยข้อมูลและการขอความยินยอมอย่างชัดเจนได้ที่บทความนี้

ข้อจำกัดสำหรับการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อน

นอกเหนือจากข้อกำหนดข้างต้นแล้ว ตารางด้านล่างจะอธิบายถึงข้อกำหนดสำหรับกิจกรรมเฉพาะ

กิจกรรม  ข้อกำหนด
แอปของคุณจัดการข้อมูลทางการเงิน ข้อมูลการชำระเงิน หรือหมายเลขประจำตัวประชาชนที่ออกโดยภาครัฐ แอปต้องไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของผู้ใช้อันเกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางการเงินหรือการชำระเงิน หรือหมายเลขประจำตัวประชาชนที่ออกโดยภาครัฐต่อสาธารณะ
แอปของคุณจัดการข้อมูลในสมุดโทรศัพท์หรือข้อมูลติดต่อที่ไม่เผยแพร่ต่อสาธารณะ เราไม่อนุญาตให้เผยแพร่หรือเปิดเผยข้อมูลติดต่อที่ไม่เผยแพร่ต่อสาธารณะของบุคคลต่างๆ โดยไม่ได้รับอนุญาต
แอปของคุณมีฟังก์ชันการทำงานสำหรับป้องกันไวรัสหรือรักษาความปลอดภัย เช่น ฟีเจอร์ป้องกันไวรัส ป้องกันมัลแวร์ หรือฟีเจอร์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความปลอดภัย แอปต้องโพสต์นโยบายความเป็นส่วนตัวที่อธิบายว่าแอปรวบรวมและส่งข้อมูลผู้ใช้ประเภทใด นำข้อมูลไปใช้อย่างไร และแชร์กับบุคคลประเภทใดบ้าง ทั้งนี้จะใช้ร่วมกับการเปิดเผยข้อมูลใดๆ ก็ตามในแอป
แอปของคุณมีเด็กเป็นกลุ่มเป้าหมาย แอปต้องไม่มี SDK ที่ไม่ได้รับอนุมัติให้ใช้งานในบริการที่มีเด็กเป็นกลุ่มเป้าหมาย ดูภาษาและข้อกำหนดทั้งหมดของนโยบายได้ในการออกแบบแอปสำหรับเด็กและครอบครัว 
แอปของคุณรวบรวมหรือลิงก์ตัวระบุอุปกรณ์ถาวร (เช่น IMEI, IMSI, หมายเลขซีเรียลของซิม ฯลฯ)

ตัวระบุอุปกรณ์ถาวรต้องไม่ลิงก์กับข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของผู้ใช้ หรือตัวระบุอุปกรณ์ที่รีเซ็ตได้ ยกเว้นถ้ามีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ 

  • ระบบโทรศัพท์ที่ลิงก์กับข้อมูลประจำตัวของซิม (เช่น การโทรผ่าน Wi-Fi ที่ลิงก์กับบัญชีผู้ให้บริการ) และ
  • แอปการจัดการอุปกรณ์สำหรับองค์กรที่ใช้โหมดเจ้าของอุปกรณ์

การใช้งานเหล่านี้จะต้องเปิดเผยอย่างชัดเจนต่อผู้ใช้ดังที่ระบุไว้ในนโยบายข้อมูลผู้ใช้

โปรดดูตัวระบุที่ไม่ซ้ำซึ่งเป็นทางเลือกจากแหล่งข้อมูลนี้

โปรดอ่านหลักเกณฑ์เพิ่มเติมสำหรับรหัสโฆษณา Android ในนโยบายโฆษณา

 

ส่วนความปลอดภัยของข้อมูล

นักพัฒนาแอปทุกรายต้องกรอกรายละเอียดในส่วนความปลอดภัยของข้อมูลให้ถูกต้องและชัดเจนสำหรับทุกแอป โดยต้องให้รายละเอียดเกี่ยวกับการรวบรวม การใช้งาน และการแชร์ข้อมูลผู้ใช้ นักพัฒนาแอปมีหน้าที่รับผิดชอบต่อความถูกต้องของป้ายกำกับและการอัปเดตข้อมูลนี้ให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ ข้อมูลในส่วนดังกล่าวต้องสอดคล้องกับการเปิดเผยที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวของแอป (หากเกี่ยวข้อง) 

โปรดอ่านบทความนี้เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกรอกข้อมูลในส่วนความปลอดภัยของข้อมูล

นโยบายความเป็นส่วนตัว

แอปทั้งหมดต้องโพสต์ลิงก์นโยบายความเป็นส่วนตัวในช่องที่กำหนดภายใน Play Console และโพสต์ลิงก์หรือข้อความของนโยบายความเป็นส่วนตัวภายในตัวแอปเอง นโยบายความเป็นส่วนตัวรวมถึงการเปิดเผยภายในแอปใดๆ จะต้องเปิดเผยข้อมูลโดยละเอียดว่าแอปของคุณเข้าถึง เก็บรวบรวม ใช้งาน และแชร์ข้อมูลผู้ใช้อย่างไร โดยไม่จำกัดเพียงข้อมูลที่เปิดเผยในส่วนความปลอดภัยของข้อมูลเท่านั้น ข้อมูลที่เปิดเผยดังกล่าวรวมถึงสิ่งต่อไปนี้ 

  • ข้อมูลนักพัฒนาแอปและผู้ติดต่อด้านความเป็นส่วนตัวหรือกลไกในการส่งคำถาม
  • การเปิดเผยประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของผู้ใช้ที่แอปของคุณเข้าถึง รวบรวม ใช้งาน และแชร์ รวมถึงปลายทางที่แชร์ข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของผู้ใช้ดังกล่าว
  • ขั้นตอนการจัดการข้อมูลอย่างปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของผู้ใช้
  • นโยบายการเก็บรักษาและการลบข้อมูลของนักพัฒนาแอป
  • การติดป้ายกำกับที่ชัดเจนว่าเป็นนโยบายความเป็นส่วนตัว (เช่น ระบุเป็น "นโยบายความเป็นส่วนตัว" ในชื่อ)

บุคคล (เช่น นักพัฒนาแอป บริษัท) ที่ระบุชื่อไว้ในข้อมูลผลิตภัณฑ์ของแอปใน Google Play Store ต้องปรากฏในนโยบายความเป็นส่วนตัว หรือต้องมีการระบุชื่อแอปไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัว แอปที่ไม่เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของผู้ใช้ยังคงต้องส่งนโยบายความเป็นส่วนตัว 

โปรดตรวจสอบว่านโยบายความเป็นส่วนตัวของคุณแสดงอยู่ใน URL ที่ใช้งานได้ เข้าถึงได้แบบสาธารณะและไม่มีการกำหนดเขตพื้นที่เสมือน (ไม่ใช่ PDF) ตลอดจนไม่สามารถแก้ไขได้

ข้อกำหนดในการลบบัญชี

หากแอปของคุณอนุญาตให้ผู้ใช้สร้างบัญชีจากภายในแอป แอปนั้นจะต้องอนุญาตให้ผู้ใช้ส่งคำขอลบบัญชีของตนเองด้วย ผู้ใช้ต้องมีตัวเลือกที่ค้นพบได้ทันทีสำหรับการเริ่มลบบัญชีของแอปจากภายในแอปและนอกแอปด้วย (เช่น การไปดำเนินการที่เว็บไซต์) คุณต้องระบุลิงก์ไปยังแหล่งข้อมูลบนเว็บนี้ไว้ในช่อง URL ที่กำหนดไว้ของแบบฟอร์มใน Play Console

เมื่อลบบัญชีของแอปตามคำขอของผู้ใช้แล้ว คุณต้องลบข้อมูลผู้ใช้ที่เชื่อมโยงกับบัญชีของแอปดังกล่าวด้วย การหยุดใช้งาน ปิดใช้ หรือ "พักการใช้งาน" บัญชีของแอปชั่วคราวไม่จัดว่าเป็นการลบบัญชี หากต้องการเก็บรักษาข้อมูลบางอย่างไว้เพื่อเหตุผลทางกฎหมาย เช่น การรักษาความปลอดภัย การป้องกันการฉ้อโกง หรือการปฏิบัติตามกฎหมาย คุณต้องแจ้งให้ผู้ใช้ทราบอย่างชัดเจนเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติในการเก็บรักษาข้อมูลด้วย (เช่น ภายในนโยบายความเป็นส่วนตัว)

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อกำหนดของนโยบายด้านการลบบัญชีได้ที่บทความนี้ในศูนย์ช่วยเหลือ อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการอัปเดตแบบฟอร์มความปลอดภัยของข้อมูลได้ที่บทความนี้

 

การใช้รหัสชุดแอป

Android จะเสนอรหัสใหม่เพื่อรองรับ Use Case ที่สำคัญ เช่น ข้อมูลวิเคราะห์และการป้องกันการประพฤติมิชอบ ข้อกำหนดในการใช้รหัสดังกล่าวอยู่ที่ด้านล่างนี้

  • การใช้งาน: ต้องไม่ใช้รหัสชุดแอปในการปรับโฆษณาตามโปรไฟล์ของผู้ใช้และการวัดโฆษณา 
  • การเชื่อมโยงกับข้อมูลส่วนบุคคลที่ระบุตัวบุคคลนั้นได้หรือกับตัวระบุอื่นๆ: รหัสชุดแอปต้องไม่เชื่อมโยงกับตัวระบุใดๆ ของ Android (เช่น AAID) หรือข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนใดๆ เพื่อวัตถุประสงค์ในการโฆษณา
  • ความโปร่งใสและความยินยอม: ต้องมีการเปิดเผยการรวบรวมและการใช้รหัสชุดแอปและการปฏิบัติตามข้อกำหนดเหล่านี้ให้ผู้ใช้ทราบผ่านประกาศเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวที่เพียงพอตามกฎหมาย ซึ่งรวมถึงนโยบายความเป็นส่วนตัว คุณต้องขอความยินยอมที่ถูกต้องตามกฎหมายจากผู้ใช้หากจำเป็น ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรฐานด้านความเป็นส่วนตัวของเราได้ในนโยบายข้อมูลผู้ใช้

 

กรอบการคุ้มครอง EU-U.S. Privacy Shield (กรอบการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวระหว่างสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกา) และ Swiss Privacy Shield (กรอบการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของสวิตเซอร์แลนด์)

หากคุณเข้าถึง ใช้ หรือดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลที่ Google จัดเตรียมให้ โดยข้อมูลดังกล่าวใช้ระบุตัวตนของบุคคลหนึ่งๆ ได้ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อมและสร้างขึ้นในสหภาพยุโรปหรือสวิตเซอร์แลนด์ ("ข้อมูลส่วนบุคคลในสหภาพยุโรป") คุณจะต้องดำเนินการดังนี้

  • ปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อกำหนด กฎระเบียบ และกฎว่าด้วยความเป็นส่วนตัว การรักษาความปลอดภัยของข้อมูล และการปกป้องข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง
  • เข้าถึง ใช้งาน หรือดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลในสหภาพยุโรปเฉพาะตามวัตถุประสงค์ที่สอดคล้องกับคำยินยอมที่ได้รับจากบุคคลที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลในสหภาพยุโรปดังกล่าวเท่านั้น
  • ใช้มาตรการในการจัดระเบียบและมาตรการทางเทคนิคที่เหมาะสมเพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลในสหภาพยุโรปจากการสูญหาย การใช้ในทางที่ผิด ตลอดจนการเข้าถึง การเปิดเผย การดัดแปลง และการทำลายที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือผิดกฎหมาย และ
  • ปกป้องข้อมูลในระดับเดียวกับที่ Privacy Shield (กรอบการคุ้มครองความเป็นส่วนตัว) กำหนดไว้

คุณต้องตรวจสอบการปฏิบัติตามเงื่อนไขเหล่านี้เป็นประจำ หากเมื่อใดก็ตามที่คุณปฏิบัติตามเงื่อนไขเหล่านี้ไม่ได้ (หรือหากมีความเสี่ยงอย่างมากที่จะปฏิบัติตามไม่ได้) คุณต้องแจ้งให้เราทราบทันทีโดยส่งอีเมลไปที่ data-protection-office@google.com และหยุดการดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลในสหภาพยุโรปหรือทำตามขั้นตอนที่เหมาะสมและสมเหตุสมผลเพื่อให้มีการปกป้องข้อมูลในระดับที่เพียงพอดังเดิมโดยทันที

ตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม 2020 Google ไม่ได้ใช้ EU-U.S. Privacy Shield (กรอบการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวระหว่างสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกา) เพื่อโอนข้อมูลส่วนตัวที่มีต้นทางจากเขตเศรษฐกิจยุโรปหรือสหราชอาณาจักรไปยังสหรัฐอเมริกาแล้ว (ดูข้อมูลเพิ่มเติม)  ข้อมูลเพิ่มเติมอยู่ในส่วนที่ 9 ของ DDA

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร

หากต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม

ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
4361943035376637676
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
92637
false
false