บทความนี้กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลง
บทความนี้จะอัปเดตตามการเปลี่ยนแปลงที่ประกาศไว้เมื่อไม่นานมานี้
เรากำลังจะเปิดตัวข้อจำกัดใหม่สำหรับการใช้สิทธิ์ USE_FULL_SCREEN_INTENT เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้น สำหรับแอปที่กำหนดเป้าหมายเป็น Android U (API ระดับ 34) ขึ้นไป เราจะเปลี่ยนสิทธิ์นี้เป็นสิทธิ์เข้าถึงแบบพิเศษสำหรับแอป โดยแอปที่ฟังก์ชันหลักจำเป็นต้องมีการแจ้งเตือนแบบเต็มหน้าจอเท่านั้นจึงจะได้รับสิทธิ์นี้โดยค่าเริ่มต้น ส่วนแอปอื่นๆ ทั้งหมดจะต้องขอสิทธิ์จากผู้ใช้ (มีผลตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม 2024)
เราจะนำนโยบายสิทธิ์การเข้าถึงรูปภาพและวิดีโอมาใช้ เพื่อลดจำนวนแอปที่ได้รับอนุญาตให้ขอสิทธิ์การเข้าถึงรูปภาพ/วิดีโอแบบวงกว้าง (READ_MEDIA_IMAGES และ READ_MEDIA_VIDEO) แอปอาจเข้าถึงรูปภาพและวิดีโอได้เพียงเพื่อจุดประสงค์ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับฟังก์ชันการทำงานของแอปเท่านั้น แอปที่จำเป็นต้องเข้าถึงไฟล์เหล่านี้ครั้งเดียวหรือนานๆ ครั้งควรใช้เครื่องมือเลือกของระบบ เช่น เครื่องมือเลือกรูปภาพของ Android (มีผลตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคม 2024)
เราจะปรับปรุงนโยบายของ Health Connect เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการสมัครของ Health Connect และเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายแอปสุขภาพ โดยภายในปีนี้จะมีประกาศใหม่ของ Play Console เกี่ยวกับการสมัครซึ่งจะนำมาใช้แทนช่องทางการสมัครผ่านแบบฟอร์มที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน (มีผลตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคม 2024)
ดูตัวอย่างของบทความเรื่อง "สิทธิ์และ API ที่เข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อน" ฉบับปรับปรุงได้ที่หน้านี้
คำขอสิทธิ์และ API ที่เข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อนควรฟังดูสมเหตุสมผลสำหรับผู้ใช้ คุณขอได้เฉพาะสิทธิ์และ API ที่เข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อน ซึ่งจำเป็นต่อการใช้งานฟีเจอร์หรือบริการปัจจุบันในแอปที่มีการโปรโมตในข้อมูลผลิตภัณฑ์บน Google Play คุณไม่อาจใช้สิทธิ์หรือ API ที่เข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อน ซึ่งให้การเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้หรืออุปกรณ์สำหรับฟีเจอร์หรือวัตถุประสงค์ที่ไม่ได้เปิดเผย ไม่ได้ใช้งาน หรือไม่ได้รับอนุญาต และห้ามมิให้ขายข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลที่ละเอียดอ่อนซึ่งเข้าถึงผ่านสิทธิ์หรือ API ที่เข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อน หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวเพื่ออำนวยความสะดวกต่อการขาย
ขอสิทธิ์และ API ที่เข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เพื่อเข้าถึงข้อมูลในบริบท (ผ่านคำขอที่เพิ่มขึ้น) เพื่อให้ผู้ใช้ทราบถึงสาเหตุที่แอปต้องขอสิทธิ์ ใช้ข้อมูลให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ผู้ใช้ได้ยินยอมให้ใช้เท่านั้น หากคุณต้องการใช้ข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ ในภายหลัง คุณต้องขออนุญาตผู้ใช้และตรวจสอบว่าผู้ใช้ได้ยอมรับการใช้งานเพิ่มเติมดังกล่าวแล้ว
สิทธิ์ที่จำกัด
นอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น สิทธิ์ที่จำกัดคือสิทธิ์ที่ระบุว่าเป็นอันตราย พิเศษ ลายเซ็น หรือตามที่ระบุไว้ด้านล่าง สิทธิ์เหล่านี้ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดและข้อจำกัดเพิ่มเติมดังต่อไปนี้
- ข้อมูลผู้ใช้หรือข้อมูลอุปกรณ์ที่เข้าถึงผ่านสิทธิ์ที่จำกัดถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของผู้ใช้ โดยเป็นไปตามข้อกำหนดของนโยบายข้อมูลผู้ใช้
- เคารพการตัดสินใจของผู้ใช้หากผู้ใช้ปฏิเสธคำขอสิทธิ์ที่จำกัด และต้องไม่ครอบงำหรือบังคับผู้ใช้ให้ยินยอมมอบสิทธิ์ใดๆ แม้ว่าจะเป็นสิทธิ์ที่ไม่ได้มีความสำคัญนัก คุณต้องใช้ความพยายามอย่างสมเหตุสมผลในการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ที่ไม่ยินยอมมอบสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อน (เช่น อนุญาตให้ผู้ใช้ป้อนหมายเลขโทรศัพท์เองหากผู้ใช้ได้จำกัดสิทธิ์เข้าถึงบันทึกการโทรไว้)
- เราขอห้ามอย่างชัดแจ้งไม่ให้ใช้สิทธิ์ในลักษณะที่เป็นการละเมิดนโยบายมัลแวร์ของ Google Play (รวมถึงการละเมิดสิทธิ์ในระดับสูงขึ้น)
สิทธิ์ที่จำกัดบางอย่างอาจขึ้นอยู่กับข้อกำหนดเพิ่มเติมตามรายละเอียดด้านล่าง ข้อจำกัดเหล่านี้มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ เราอาจมีข้อยกเว้นที่จำกัดสำหรับข้อกำหนดด้านล่างในกรณีที่พบไม่บ่อยซึ่งแอปให้บริการฟีเจอร์ที่น่าสนใจหรือสำคัญมาก และไม่มีทางเลือกอื่นที่จะให้บริการฟีเจอร์นี้ได้ เราจะประเมินข้อยกเว้นที่เสนอกับผลกระทบด้านความเป็นส่วนตัวหรือความปลอดภัยที่อาจมีต่อผู้ใช้
สิทธิ์เกี่ยวกับ SMS และประวัติการโทรสิทธิ์เกี่ยวกับ SMS และประวัติการโทรถือว่าเป็นข้อมูลผู้ใช้ที่เป็นส่วนบุคคลและมีความละเอียดอ่อน โดยต้องเป็นไปตามนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อน ตลอดจนข้อกำหนดดังต่อไปนี้
แอปที่เป็นเครื่องจัดการ SMS, โทรศัพท์ หรือ Assistant เริ่มต้นไม่ได้ต้องไม่ประกาศการใช้สิทธิ์ด้านบนในไฟล์ Manifest รวมถึงข้อความของตัวยึดตำแหน่งในไฟล์ Manifest นอกจากนี้ แอปต้องลงทะเบียนเป็นเครื่องจัดการ SMS, โทรศัพท์ หรือ Assistant เริ่มต้นอยู่ในขณะนั้นก่อนที่จะแจ้งผู้ใช้ให้ยอมรับสิทธิ์ใดๆ ในข้างต้นและต้องหยุดใช้สิทธิ์ทันทีเมื่อแอปไม่ได้เป็นเครื่องจัดการเริ่มต้นแล้ว ดูการใช้งานที่อนุญาตและข้อยกเว้นได้ที่หน้านี้ในศูนย์ช่วยเหลือ แอปจะใช้สิทธิ์ (และข้อมูลใดก็ตามที่ได้มาจากสิทธิ์ดังกล่าว) เพื่อมอบฟังก์ชันการทำงานหลักที่ได้รับอนุมัติของแอป ฟังก์ชันการทำงานหลักเป็นเป้าหมายหลักของการเข้าถึงสิทธิ์ดังกล่าว ฟังก์ชันการทำงานหลักอาจรวมถึงชุดฟีเจอร์หลักซึ่งต้องระบุและโปรโมตให้ครบถ้วนในคำอธิบายของแอปอย่างเด่นชัดที่สุด หากไม่มีฟีเจอร์หลัก แอปจะ "เสีย" หรือแสดงผลเป็นใช้งานไม่ได้ การโอน แชร์ หรือใช้งานข้อมูลที่ได้รับอนุญาตนี้ต้องเป็นไปเพื่อการจัดเตรียมฟีเจอร์หรือบริการหลักภายในแอปเท่านั้น และต้องไม่มีการขยายการใช้งานเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใด (เช่น การปรับปรุงแอปหรือบริการอื่นๆ การโฆษณา หรือวัตถุประสงค์ทางการตลาด) คุณไม่มีสิทธิ์ใช้วิธีการอื่นๆ (รวมถึงสิทธิ์อื่นๆ, API หรือแหล่งที่มาของบุคคลที่สาม) เพื่อรับข้อมูลซึ่งมาจากสิทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับประวัติการโทรหรือ SMS |
สิทธิ์เข้าถึงตำแหน่งตำแหน่งอุปกรณ์ถือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลผู้ใช้ที่ละเอียดอ่อนภายใต้นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนและนโยบายเกี่ยวกับตำแหน่งในเบื้องหลัง ตลอดจนข้อกำหนดต่อไปนี้
แอปได้รับอนุญาตให้เข้าถึงตำแหน่งโดยใช้สิทธิ์ของบริการที่ทำงานอยู่เบื้องหน้า (เมื่อแอปมีเพียงการเข้าถึงเมื่ออยู่เบื้องหน้า เช่น "ขณะใช้งาน") หากการใช้งานนั้นมีลักษณะดังนี้
แอปที่ออกแบบมาเพื่อเด็กโดยเฉพาะต้องเป็นไปตามนโยบายออกแบบเพื่อครอบครัว ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อกำหนดของนโยบายดังกล่าวได้จากบทความช่วยเหลือนี้ |
สิทธิ์การเข้าถึงไฟล์ทั้งหมดไฟล์และแอตทริบิวต์ไดเรกทอรีในอุปกรณ์ของผู้ใช้ถือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลผู้ใช้ที่ละเอียดอ่อนภายใต้นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อน และข้อกำหนดต่อไปนี้
|
สิทธิ์ระดับการเข้าถึงแพ็กเกจ (แอป)รายการแอปที่ติดตั้งอยู่ซึ่งค้นหาได้จากอุปกรณ์ถือว่าเป็นข้อมูลผู้ใช้ที่เป็นส่วนบุคคลและมีความละเอียดอ่อนตามนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อน ตลอดจนข้อกำหนดดังต่อไปนี้ แอปที่มีวัตถุประสงค์หลักเป็นการเปิด ค้นหา หรือทำงานร่วมกับแอปอื่นๆ ในอุปกรณ์ต้องมีระดับการเข้าถึงแอปอื่นๆ ที่ติดตั้งอยู่ในอุปกรณ์ตามขอบเขตที่เหมาะสมซึ่งอธิบายไว้ด้านล่างดังนี้
ห้ามมิให้ขายหรือแชร์ข้อมูลรายการแอปที่ค้นหาได้จากแอปที่เผยแพร่ใน Play เพื่อการวิเคราะห์หรือการสร้างรายได้จากโฆษณา |
API การช่วยเหลือพิเศษไม่สามารถใช้ Accessibility API เพื่อทำสิ่งต่อไปนี้
Accessibility API ไม่ได้ออกแบบมาให้ขอการอัดเสียงการโทรจากระยะไกลและไม่สามารถดำเนินการดังกล่าวได้ การใช้ Accessibility API ต้องระบุไว้ในข้อมูลผลิตภัณฑ์บน Google Play หลักเกณฑ์สำหรับ IsAccessibilityToolแอปที่ฟังก์ชันการทำงานหลักมุ่งช่วยเหลือคนพิการโดยตรงมีสิทธิ์ใช้ IsAccessibilityTool เพื่อระบุต่อสาธารณะอย่างเหมาะสมว่าเป็นแอปการช่วยเหลือพิเศษ ส่วนแอปที่ไม่มีสิทธิ์ใช้ IsAccessibilityTool จะไม่สามารถใช้การแจ้งดังกล่าวและต้องเป็นไปตามข้อกำหนดด้านการเปิดเผยข้อมูลและการขอความยินยอมที่ชัดเจนดังที่ระบุไว้ในนโยบายข้อมูลผู้ใช้ เนื่องจากฟังก์ชันการทำงานที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือพิเศษนั้นไม่ใช่ฟังก์ชันที่เข้าใจได้ง่ายสำหรับผู้ใช้ โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมจากบทความของศูนย์ช่วยเหลือเกี่ยวกับ AccessibilityService API แอปต้องใช้ API และสิทธิ์ที่มีขอบเขตแคบลงแทน Accessibility API เมื่อเป็นไปได้ เพื่อมอบฟังก์ชันการทำงานที่ต้องการ |
สิทธิ์ขอติดตั้งแพ็กเกจสิทธิ์ REQUEST_INSTALL_PACKAGES ให้แอปพลิเคชันส่งคำขอติดตั้งแพ็กเกจแอปได้ หากต้องการใช้สิทธิ์นี้ แอปต้องมีฟังก์ชันหลักต่อไปนี้
ฟังก์ชันที่อนุญาตมีดังนี้
ฟังก์ชันหลักถือเป็นจุดประสงค์หลักของแอป คำอธิบายของแอปต้องระบุและโปรโมตทั้งฟังก์ชันหลักรวมถึงฟีเจอร์หลักที่ประกอบเป็นฟังก์ชันหลักนี้ให้ครบถ้วนและเด่นชัด ต้องไม่ใช้สิทธิ์ REQUEST_INSTALL_PACKAGES เพื่อทำการอัปเดต แก้ไข หรือรวม APK อื่นๆ ในไฟล์เนื้อหาเอง เว้นแต่เพื่อจุดประสงค์ในการจัดการอุปกรณ์ การอัปเดตหรือการติดตั้งแพ็กเกจทุกครั้งต้องเป็นไปตามนโยบายการใช้อุปกรณ์และเครือข่ายในทางที่ผิดของ Google Play รวมถึงต้องเริ่มต้นและดำเนินการโดยผู้ใช้ |
สิทธิ์ของ Health Connect โดย Androidข้อมูลที่แอปเข้าถึงผ่านสิทธิ์ของ Health Connect ถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของผู้ใช้ซึ่งขึ้นอยู่กับนโยบายข้อมูลผู้ใช้และข้อกำหนดเพิ่มเติมต่อไปนี้ การเข้าถึงที่เหมาะสมและการใช้ Health Connectคำขอเข้าถึงข้อมูลผ่าน Health Connect ต้องชัดเจนและเข้าใจได้ โดยต้องใช้ Health Connect ให้สอดคล้องกับนโยบายที่เกี่ยวข้อง ข้อกำหนดและเงื่อนไข ตลอดจนกรณีการใช้งานที่อนุมัติซึ่งระบุไว้ในนโยบายนี้ นั่นหมายความว่าคุณจะขอเข้าถึงสิทธิ์ได้เมื่อแอปพลิเคชันหรือบริการของคุณเป็นไปตามกรณีการใช้งานแบบใดแบบหนึ่งที่อนุมัติเท่านั้น กรณีการใช้งานที่อนุมัติสำหรับการเข้าถึงสิทธิ์ของ Health Connect ได้แก่
Health Connect เป็นพื้นที่เก็บข้อมูลอเนกประสงค์และแพลตฟอร์มการแชร์ที่อนุญาตให้ผู้ใช้รวบรวมข้อมูลสุขภาพและการออกกำลังกายจากแหล่งที่มาต่างๆ ในอุปกรณ์ Android และแชร์กับบุคคลที่สามที่ตนเลือก ข้อมูลอาจมีต้นทางมาจากแหล่งที่มาตามที่ผู้ใช้กำหนด นักพัฒนาแอปต้องประเมินว่า Health Connect เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการหรือไม่ ตลอดจนตรวจสอบและคัดเลือกแหล่งที่มาและคุณภาพของข้อมูลจาก Health Connect ที่เกี่ยวข้องกับจุดประสงค์ต่างๆ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานด้านการวิจัย สุขภาพ และทางการแพทย์
การใช้งานแบบจำกัดเมื่อใช้ Health Connect สำหรับการใช้งานที่เหมาะสม การใช้ข้อมูลที่เข้าถึงผ่านทาง Health Connect ต้องเป็นไปตามข้อกำหนดด้านล่างนี้ด้วย ข้อกำหนดเหล่านี้มีผลกับข้อมูลดิบที่ได้รับมาจาก Health Connect และข้อมูลที่รวบรวม ลบการระบุตัวตน หรือได้มาจากข้อมูลดิบ
ห้ามมิให้การโอน การใช้งาน หรือการขายข้อมูลอื่นๆ ทั้งหมดของ Health Connect ซึ่งรวมถึง
ห้ามใช้สิทธิ์เข้าถึง Health Connect ในลักษณะที่ละเมิดนโยบายนี้หรือข้อกำหนดและเงื่อนไขตลอดจนนโยบาย Health Connect อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึงเพื่อวัตถุประสงค์ต่อไปนี้
ต้องมีการเปิดเผยข้อมูลคำแถลงยืนยันว่าการใช้ข้อมูล Health Connect ของคุณเป็นไปตามข้อกำหนดของการใช้งานแบบจำกัดในแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ที่เป็นของบริการในเว็บหรือแอปพลิเคชันของคุณ เช่น ลิงก์ในหน้าแรกไปยังหน้าเว็บเฉพาะหรือนโยบายความเป็นส่วนตัวที่มีหมายเหตุว่า "การใช้ข้อมูลที่ได้รับมาจาก Health Connect จะเป็นไปตามนโยบายสิทธิ์ของ Health Connect ซึ่งรวมถึงข้อกำหนดของการใช้งานแบบจำกัด" ขอบเขตขั้นต่ำคุณจะขอเข้าถึงได้เฉพาะสิทธิ์ที่จำเป็นต่อการใช้ฟังก์ชันการทำงานของแอปพลิเคชันหรือบริการ ซึ่งแปลว่า
ประกาศและการควบคุมที่โปร่งใสและถูกต้องHealth Connect จัดการข้อมูลสุขภาพและการออกกำลังกาย ซึ่งมีข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อน แอปพลิเคชันและบริการทั้งหมดต้องมีนโยบายความเป็นส่วนตัว ซึ่งต้องเปิดเผยให้ครอบคลุมว่าแอปพลิเคชันหรือบริการของคุณรวบรวม ใช้ และแชร์ข้อมูลผู้ใช้อย่างไร ซึ่งรวมถึงประเภทของผู้ที่จะได้รับการแชร์ข้อมูลผู้ใช้ วิธีที่คุณใช้ข้อมูล วิธีที่คุณจัดเก็บและรักษาข้อมูลให้ปลอดภัย ตลอดจนสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับข้อมูลเมื่อบัญชีถูกปิดใช้งานหรือถูกลบ นอกเหนือจากข้อกำหนดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้องแล้ว คุณยังต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดต่อไปนี้ด้วย
การจัดการข้อมูลที่ปลอดภัยคุณต้องจัดการกับข้อมูลผู้ใช้ทั้งหมดอย่างปลอดภัย ทำขั้นตอนที่สมเหตุสมผลและเหมาะสมเพื่อปกป้องแอปพลิเคชันหรือระบบทั้งหมดที่ใช้ประโยชน์จาก Health Connect ไม่ให้เกิดการเข้าถึง การใช้งาน การทำลาย การสูญเสีย การดัดแปลง หรือการเปิดเผยข้อมูลที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือผิดกฎหมาย แนวทางปฏิบัติด้านความปลอดภัยที่แนะนำรวมถึงการใช้และการดูแลรักษาระบบจัดการความปลอดภัยของข้อมูลตามที่ระบุไว้ใน ISO/IEC 27001 และดูแลให้แอปพลิเคชันหรือบริการในเว็บมีประสิทธิภาพและปราศจากปัญหาด้านความปลอดภัยที่พบได้ทั่วไปตามที่มีอยู่ใน OWASP Top 10 เราจะกำหนดให้แอปพลิเคชันหรือบริการของคุณต้องเข้ารับการประเมินความปลอดภัยเป็นระยะๆ และขอเอกสารการประเมินจากบุคคลที่สามที่ได้รับมอบหมายหากผลิตภัณฑ์โอนข้อมูลออกจากอุปกรณ์ของผู้ใช้เอง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ API ที่มีการเข้าถึงและจำนวนผู้ใช้หรือการให้ความยินยอมของผู้ใช้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อกำหนดสำหรับแอปที่เชื่อมต่อกับ Health Connect ได้ที่บทความนี้ในศูนย์ช่วยเหลือ |
บริการ VPNVpnService เป็นคลาสพื้นฐานเพื่อให้แอปพลิเคชันนำไปต่อยอดและสร้างโซลูชัน VPN ของตนเอง แอปต้องใช้ VpnService และมี VPN เป็นฟังก์ชันหลักเท่านั้นจึงจะสามารถสร้างอุโมงค์เสมือนที่ปลอดภัยระดับอุปกรณ์ไปยังเซิร์ฟเวอร์ระยะไกลได้ ข้อยกเว้นแอปรวมถึงแอปที่จำเป็นต้องใช้เซิร์ฟเวอร์ระยะไกลสำหรับฟังก์ชันหลัก เช่น
ไม่สามารถใช้ VpnService เพื่อวัตถุประสงค์ต่อไปนี้
แอปที่ใช้ VpnService ต้องปฏิบัติดังนี้
|
สิทธิ์การปลุกในเวลาที่แน่นอนเราจะแนะนำสิทธิ์ใหม่ USE_EXACT_ALARM ซึ่งจะให้สิทธิ์เข้าถึงฟังก์ชันการปลุกในเวลาที่แน่นอนในแอปตั้งแต่ Android 13 ขึ้นไป (API เป้าหมายระดับ 33) USE_EXACT_ALARM เป็นสิทธิ์แบบจำกัดและแอปต้องประกาศสิทธิ์นี้ในกรณีที่ฟังก์ชันหลักของแอปรองรับความต้องการการปลุกในเวลาที่แน่นอนเท่านั้น แอปที่ขอสิทธิ์ที่จำกัดนี้จะต้องได้รับการตรวจสอบ และระบบจะไม่อนุญาตให้เผยแพร่แอปซึ่งไม่เป็นไปตามเกณฑ์สำหรับกรณีการใช้งานที่ยอมรับได้ใน Google Play กรณีการใช้งานที่ยอมรับได้สำหรับการใช้สิทธิ์การปลุกในเวลาที่แน่นอน แอปต้องใช้ฟังก์ชันการทำงาน USE_EXACT_ALARM ในกรณีที่ฟังก์ชันหลักซึ่งแสดงให้ผู้ใช้เห็นต้องใช้การดำเนินการที่มีเวลาแน่นอน เช่น
หากมีกรณีการใช้งานสำหรับฟังก์ชันการปลุกในเวลาที่แน่นอนที่ไม่ได้กล่าวถึง ณ ที่นี้ คุณควรประเมินว่าสามารถใช้ SCHEDULE_EXACT_ALARM แทนได้หรือไม่ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟังก์ชันการปลุกในเวลาที่แน่นอนได้ที่คำแนะนำสำหรับนักพัฒนาแอป |