ในเดือนพฤษภาคม 2022 เราได้เปิดตัวการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับวิธีกําหนดและจัดการผลิตภัณฑ์ที่ต้องสมัครใช้บริการใน Play Console การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ช่วยให้คุณได้รับความยืดหยุ่นมากขึ้นเกี่ยวกับวิธีขายการสมัครใช้บริการ และลดความซับซ้อนในการจัดการการสมัครใช้บริการลง เมื่ออัปเกรดแอปและการผสานรวมแบ็กเอนด์เพื่อใช้ API ใหม่ๆ สำหรับการสมัครใช้บริการแล้ว คุณจะขายรายการต่อไปนี้ได้
- แพ็กเกจแบบชำระเงินล่วงหน้า: ผู้ใช้ซื้อระยะเวลาที่เจาะจง และสามารถเติมเงินเพื่อต่อเวลาการเข้าถึง
- ข้อเสนอการอัปเกรด: ผู้ใช้ได้รับส่วนลดสำหรับการอัปเกรดระดับการสมัครใช้บริการ ขยายช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงิน หรือเปลี่ยนจากแพ็กเกจแบบชำระเงินล่วงหน้าไปเป็นแพ็กเกจต่ออายุใหม่อัตโนมัติ
- การมีสิทธิ์ที่กำหนดเอง: คุณสามารถกำหนดตรรกะทางธุรกิจและการมีสิทธิ์ในแอปของคุณได้
เมื่ออัปเกรดแล้ว คุณจะสร้างและจัดการข้อเสนอหลายรายการในการสมัครใช้บริการแต่ละรายการได้ง่ายขึ้นด้วย หากยังไม่ได้อ่าน โปรดอ่านบทความนี้เพื่อทําความเข้าใจวิธีการทํางานของการสมัครใช้บริการในปัจจุบัน
การสมัครใช้บริการ แอป และการผสานรวมแบ็กเอนด์ที่มีอยู่ทั้งหมดจะทํางานเหมือนก่อนการอัปเดตเหล่านี้ ไม่มีการดําเนินการใดๆ ที่จำเป็นต้องกระทำในทันที คุณสามารถใช้ฟีเจอร์การสมัครใช้บริการใหม่ๆ นี้ได้ทุกเวลาที่ต้องการ
การเปลี่ยนแปลงเวิร์กโฟลว์
หากเคยใช้ Play Console มาก่อนหน้านี้ คุณจะสังเกตเห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในหน้าการสมัครใช้บริการ (สร้างรายได้ด้วย Play > ผลิตภัณฑ์ > การสมัครใช้บริการ) การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ส่วนใหญ่ช่วยให้คุณสามารถสร้างและจัดการการสมัครใช้บริการ แพ็กเกจเริ่มต้น และข้อเสนอต่างๆ โดยมีบางอย่างที่เปลี่ยนไปด้วย ดังนี้
- การเปลี่ยนแปลงราคา: การเปลี่ยนแปลงราคาของการสมัครใช้บริการจะมีผลกับการซื้อใหม่เท่านั้น สำหรับการเปลี่ยนแปลงราคาที่สมาชิกเดิมต้องชําระ โปรดใช้กลุ่มราคาเดิม
- ความพร้อมให้บริการระดับภูมิภาค: คุณเลือกภูมิภาคที่จะสามารถซื้อการสมัครใช้บริการของคุณได้ และยังสร้างข้อเสนอระดับภูมิภาคสำหรับกลุ่มย่อยของภูมิภาคเหล่านั้นได้ด้วย
- การกำหนดราคาระดับภูมิภาค: คุณระบุราคาของแต่ละภูมิภาคได้ และยังสามารถเลือกหลายภูมิภาค (หรือทั้งหมด) กำหนดราคาเดียวในสกุลเงินที่ต้องการ แล้ว Play จะแปลงสกุลเงินแบบครั้งเดียวให้กับภูมิภาคที่เลือกไว้ทั้งหมด ทั้งนี้คุณอัปเดตราคาได้เมื่อต้องการ
ทํางานกับการสมัครใช้บริการแบบเก่า
การสมัครใช้บริการที่สร้างขึ้นก่อนเดือนพฤษภาคม 2022 มีคำอธิบายของการสมัครใช้บริการ สิทธิประโยชน์ ช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงินแบบครั้งเดียว ราคา และการตั้งค่าช่วงทดลองใช้ฟรี/ราคาช่วงแนะนำ โดยจําเป็นต้องเพิ่มการสมัครใช้บริการ หากต้องการเพิ่มช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงินหรือระดับราคา
ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2022 เป็นต้นไป จะมีการกำหนดสิทธิประโยชน์ของการสมัครใช้บริการ (หรือ "สิ่งที่จะได้รับ" จากการสมัครใช้บริการ) แยกจากแพ็กเกจเริ่มต้นและข้อเสนอ ("วิธีการ" ขายการสมัครใช้บริการ) ซึ่งโครงสร้างใหม่นี้ช่วยให้คุณขายการสมัครใช้บริการในหลายรูปแบบได้ง่ายขึ้น
ในรูปภาพด้านล่าง ทางด้านซ้ายจะแสดงให้เห็นว่ามีการกำหนดการสมัครใช้บริการไว้เป็นออบเจ็กต์อิสระโดยสมบูรณ์ หาก "การสมัครใช้บริการ" หลายรายการให้สิทธิประโยชน์เหมือนกันโดยมีช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงินหรือการกำหนดราคาต่างกัน อาจทำให้เกิดความซับซ้อน ตัวอย่างเช่น คุณต้องตรวจสอบว่าคำอธิบายและสิทธิประโยชน์ที่แสดงต่อผู้ใช้นั้นเหมือนกันในการสมัครใช้บริการต่างๆ และแอปไม่ได้ทำให้ผู้ใช้ต้องซื้อการสมัครใช้บริการที่ซ้ำซ้อน
ส่วนทางด้านขวาจะแสดงโครงสร้างของการสมัครใช้บริการในปัจจุบัน การสมัครใช้บริการแต่ละรายการสามารถมีแพ็กเกจเริ่มต้นได้หลายแบบ โดยแต่ละแบบมีหลายข้อเสนอได้
การสมัครใช้บริการที่แปลงแล้ว
การสมัครใช้บริการที่มีอยู่ทั้งหมดได้รับการแปลงไปเป็นรูปแบบใหม่แล้วเมื่อมีการเปิดตัวการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ในเดือนพฤษภาคม 2022 ผลลัพธ์ที่ได้มีดังนี้
- การสมัครใช้บริการจะเก็บข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องกับวิธีการขายการสมัครใช้บริการ เช่น ชื่อ คำอธิบาย และสิทธิประโยชน์ที่แสดงต่อผู้ใช้
- การสมัครใช้บริการแต่ละรายการมีแพ็กเกจเริ่มต้นแพ็กเกจเดียวที่ใช้ช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงินและราคาในการต่ออายุใหม่อัตโนมัติของการสมัครใช้บริการเดิม
- หากการสมัครใช้บริการมีช่วงทดลองใช้ฟรีหรือราคาช่วงแนะนำ แพ็กเกจเริ่มต้นจะมีข้อเสนอเดียวโดยมีเกณฑ์การมีสิทธิ์สำหรับสมาชิกใหม่ (เช่น สำหรับผู้ใช้ที่ไม่เคยซื้อการสมัครใช้บริการในแอปนี้) และการกำหนดราคา (ระยะเวลาของช่วงทดลองใช้ฟรี หรือระยะเวลาและราคาช่วงแนะนำ)
การสมัครใช้บริการ แพ็กเกจเริ่มต้น และข้อเสนอที่ได้จึงมีฟังก์ชันการทำงานเหมือนกับแต่ก่อน ตัวอย่างเช่น คุณสามารถเปลี่ยนระยะเวลาของช่วงทดลองใช้ฟรี อัปเดตคำอธิบายของการสมัครใช้บริการ หรือเปลี่ยนช่วงระยะเวลาผ่อนผัน
ตัวอย่างที่ 1: การแปลง SKU เดิมที่มีราคาช่วงแนะนำนี่คือวิธีการแปลงการสมัครใช้บริการรายเดือนแบบเดิมที่มีชื่อว่า "แพ็กเกจพื้นฐาน" รหัสผลิตภัณฑ์ basic1 และราคาช่วงแนะนำ 1 เดือนเป็นรูปแบบใหม่
เมื่อแปลงการสมัครใช้บริการเดิมเป็นรูปแบบใหม่ รายการเหล่านั้นจะยังคงเป็นการสมัครใช้บริการแยกต่างหากอยู่ การแปลงไม่ได้ผสาน SKU เข้ากับผลิตภัณฑ์ที่ต้องสมัครใช้บริการ
ตัวอย่างเช่น Use Case ที่พบบ่อยในระบบเดิมคือนักพัฒนาแอปสามารถมีการสมัครใช้บริการหลายรายการสำหรับการให้สิทธิ์การสมัครใช้บริการครั้งเดียว ในกรณีนี้ SKU "แพ็กเกจพื้นฐาน" รหัสผลิตภัณฑ์ basic1 ซึ่งไม่มีการกำหนดราคาพิเศษและ SKU "แพ็กเกจพื้นฐาน" รหัสผลิตภัณฑ์ basic2 ซึ่งมีช่วงทดลองใช้ฟรีสำหรับผู้ใช้ที่ไม่เคยซื้อการสมัครใช้บริการในแอปมาก่อน การแปลงจะทำให้เกิดการสมัครใช้บริการ 2 รายการที่มีชื่อเดียวกัน นั่นก็คือ "แพ็กเกจพื้นฐาน" และรหัสผลิตภัณฑ์ของการสมัครใช้บริการแต่ละรายการ
การสมัครใช้บริการทั้งคู่จะมีแพ็กเกจพื้นฐานเดียว (แบบรายเดือน ต่ออายุใหม่อัตโนมัติ) และ SKU เดิมที่มีช่วงทดลองใช้ฟรี ซึ่งทำให้เกิดเป็นการสมัครใช้บริการที่มีข้อเสนอเดียว
ข้อเสนอที่เข้ากันได้แบบย้อนหลัง
ก่อนหน้านี้ Play Console และ API สําหรับนักพัฒนาแอปได้กําหนดให้การสมัครใช้บริการมีแพ็กเกจราคาเดียว ตอนนี้ Play Console และ API สําหรับนักพัฒนาแอปอนุญาตให้การสมัครใช้บริการมีแพ็กเกจเริ่มต้นและข้อเสนอได้หลายรายการ
เนื่องจากแอปและการผสานรวมแบ็กเอนด์โดยใช้ API สําหรับนักพัฒนาแอปที่เก่ากว่าคาดหวังให้การสมัครใช้บริการมีแพ็กเกจราคาแผนเดียว การสมัครใช้บริการแต่ละรายการใน Play Console จึงมีข้อเสนอหรือแพ็กเกจเริ่มต้นที่ "เข้ากันได้แบบย้อนหลัง"
เมื่อแอปหรือแบ็กเอนด์ใช้เมธอด API ที่เก่ากว่า ระบบจะใช้แพ็กเกจเริ่มต้นหรือข้อเสนอนี้สําหรับช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงิน ราคา และช่วงทดลองใช้ฟรีหรือราคาช่วงแนะนํา หากการสมัครใช้บริการมีแพ็กเกจเริ่มต้นหรือข้อเสนออื่นๆ ก็จะใช้ได้กับแอปที่ใช้เมธอด API ที่ใหม่กว่าเท่านั้น
ทําเครื่องหมายแพ็กเกจเริ่มต้นหรือข้อเสนอว่าเข้ากันได้แบบย้อนหลัง
เมื่อระบบแปลงการสมัครใช้บริการแบบเก่าไปเป็นรูปแบบใหม่ หากการสมัครใช้บริการนั้นมีช่วงทดลองใช้ฟรีหรือราคาช่วงแนะนํา ข้อเสนอและแพ็กเกจเริ่มต้นที่ได้รับจะทําเครื่องหมายว่าเข้ากันได้แบบย้อนหลัง มิฉะนั้น ระบบจะทําเครื่องหมายเฉพาะแพ็กเกจเริ่มต้นนั้นว่าเข้ากันได้แบบย้อนหลัง
หากจําเป็น คุณสามารถเปลี่ยนว่าจะให้แพ็กเกจเริ่มต้นหรือข้อเสนอไหนเข้ากันได้แบบย้อนหลัง ก่อนที่จะเปลี่ยนแพ็กเกจเริ่มต้นหรือข้อเสนอที่เข้ากันได้แบบย้อนหลัง ให้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับเวอร์ชันต่างๆ ของแอปที่ใช้เมธอด API ที่เก่ากว่า และในฟีเจอร์อื่นๆ ที่ใช้เมธอดนั้น
คุณสามารถทําเครื่องหมายได้เฉพาะข้อเสนอหรือแพ็กเกจเริ่มต้นที่มีฟังก์ชันพร้อมใช้งานก่อนหน้านี้เท่านั้น ตัวอย่างเช่น ระบบจะไม่รองรับแพ็กเกจแบบชำระเงินล่วงหน้า ข้อเสนอการอัปเกรด ข้อเสนอที่นักพัฒนาแอปกำหนด และแท็กต่างๆ
ความพร้อมให้บริการและการกำหนดราคาระดับภูมิภาค
ตอนนี้คุณสามารถควบคุมความพร้อมให้บริการและการกําหนดราคาในแต่ละประเทศหรือภูมิภาคได้ รวมถึงกําหนดค่าว่าแพ็กเกจเริ่มต้นหรือข้อเสนอควรให้บริการในสถานที่ตั้งใหม่ใดๆ ที่ Google Play อาจรองรับในอนาคตหรือไม่
เราได้เพิ่มการสมัครใช้บริการที่มีอยู่ทั้งหมดแล้ว ดังนั้นหากก่อนหน้านี้คุณกําหนดเป้าหมายเป็น "ประเทศ/ภูมิภาคอื่นๆ" ไว้คุณจะยังคงกําหนดเป้าหมายไปยังทุกประเทศภายในกลุ่มนี้ต่อไป หากก่อนหน้านี้คุณไม่ได้ทำให้แพ็กเกจเริ่มต้นหรือข้อเสนอพร้อมให้บริการใน "ประเทศ/ภูมิภาคอื่นๆ" จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
เมื่อสร้างหรือแก้ไขแพ็กเกจเริ่มต้นหรือข้อเสนอ คุณสามารถเลือกจัดการความพร้อมให้บริการของประเทศ/ภูมิภาค และทําให้แพ็กเกจเริ่มต้นหรือข้อเสนอพร้อมให้บริการในสถานที่ตั้งทั้งหมด หรือกําหนดค่าทีละรายการก็ได้ คุณจะเห็นตัวเลือก "ประเทศ/ภูมิภาคใหม่" ด้วย หากคุณระบุ "ประเทศ/ภูมิภาคใหม่" เมื่อ Google Play รองรับประเทศ/ภูมิภาคเพิ่มเติม เราจะใช้การตั้งค่าความพร้อมให้บริการและราคาเหล่านี้ หากการรองรับสำหรับประเทศ/ภูมิภาคใหม่เหล่านี้รวมสกุลเงินท้องถิ่นของผู้ซื้อ เราจะทำการแปลงสกุลเงินแบบครั้งเดียว หากไม่ระบุ "ประเทศ/ภูมิภาคใหม่" การสมัครใช้บริการของคุณจะไม่ให้บริการในประเทศ/ภูมิภาคเหล่านี้โดยค่าเริ่มต้น หลังจากระบบรองรับประเทศ/ภูมิภาคใหม่แล้ว คุณสามารถแก้ไขการสมัครใช้บริการใน Play Console เพื่อให้พร้อมให้บริการได้หากต้องการ
เมื่อแก้ไขราคา คุณสามารถเลือกสถานที่ตั้งทั้งหมด ระบุราคาแต่ละรายการ และกําหนดราคาสําหรับประเทศ/ภูมิภาคที่ Google Play รองรับในอนาคตได้
ทํางานกับรหัสโปรโมชันและฟีเจอร์พิเศษ
ปัจจุบันฟีเจอร์การสมัครใช้บริการหลายรายการรองรับเฉพาะข้อเสนอที่เข้ากันได้แบบย้อนหลังเท่านั้น ฟีเจอร์เหล่านี้ได้แก่
- รหัสโปรโมชันสําหรับการสมัครใช้บริการ
- การสมัครใช้บริการที่แนะนำ
- สมัครผ่าน Google
ใน Play Console ฟีเจอร์เหล่านี้ให้คุณเลือกได้เฉพาะการสมัครใช้บริการ และไม่สามารถเลือกแพ็กเกจเริ่มต้นหรือข้อเสนอ เมื่อเลือกการสมัครใช้บริการ ระบบจะใช้ข้อเสนอที่เข้ากันได้แบบย้อนหลังของการสมัครใช้บริการนั้น
สำคัญ: สําหรับการสมัครใช้บริการใดๆ ที่ใช้ฟีเจอร์เหล่านี้ ขอแนะนําว่าอย่าเปลี่ยนข้อเสนอที่เข้ากันได้แบบย้อนหลังโดยไม่พิจารณาอย่างรอบคอบว่าจะส่งผลต่อการใช้งานฟีเจอร์เหล่านี้อย่างไร
เปลี่ยนแปลงผลิตภัณฑ์ที่ต้องสมัครใช้บริการ
คุณเพิ่มแพ็กเกจเริ่มต้นและข้อเสนอในการสมัครใช้บริการเดิมที่แปลงแล้วได้ แม้ว่าคุณจะสามารถเปลี่ยนข้อเสนอที่ "เข้ากันได้แบบย้อนหลัง" แต่ขอให้พิจารณาถึงผลกระทบต่อแอปเวอร์ชันเก่าๆ ด้วย หรือคุณสามารถแยกการกำหนดค่าแบบเก่าและแบบใหม่โดยการปล่อยการสมัครใช้บริการเก่าที่แปลงแล้วไว้อย่างเดิมและสร้างการสมัครใช้บริการใหม่ที่มีแพ็กเกจเริ่มต้นและข้อเสนอของตัวเอง ซึ่งจะเป็นการแยกการสมัครใช้บริการเก่าที่แปลงแล้วในแอปและการผสานรวมเวอร์ชันเก่าๆ ไม่ว่าคุณเลือกที่จะปรับเปลี่ยนการสมัครใช้บริการเดิมที่แปลงแล้วหรือไม่ โปรดทำให้การสมัครใช้บริการดังกล่าวและข้อเสนอที่เข้ากันได้แบบย้อนหลังใช้งานได้ต่อไป เพื่อให้ผู้ใช้แอปเวอร์ชันเก่าๆ ซื้อการสมัครใช้บริการเหล่านั้นได้
คุณกำหนดค่าให้การสมัครใช้บริการใหม่มีแพ็กเกจเริ่มต้นและข้อเสนอหลายรายการ แพ็กเกจแบบชำระเงินล่วงหน้า ข้อเสนอการอัปเกรด และฟีเจอร์ใหม่อื่นๆ ได้ อ่านรายละเอียดของวิธีดำเนินการได้ที่บทความนี้
ตัวอย่างที่ 3: การสร้างการสมัครใช้บริการใหม่ที่มีแพ็กเกจเริ่มต้นและข้อเสนอหลายรายการในตัวอย่างนี้มีผลิตภัณฑ์ที่ต้องสมัครใช้บริการใหม่สำหรับ "แพ็กเกจพื้นฐาน" โดยมีรหัสผลิตภัณฑ์ basic_new การสมัครใช้บริการนี้มีแพ็กเกจเริ่มต้น 2 รายการ ได้แก่ แพ็กเกจตามรอบแบบรายเดือนและแพ็กเกจตามรอบแบบรายปี แต่ละแพ็กเกจมีราคาพื้นฐาน ซึ่งเป็นราคาที่ผู้ใช้จะจ่ายในรอบการต่ออายุปกติ และในการซื้อครั้งแรกหากผู้ใช้ไม่มีสิทธิ์รับข้อเสนอพิเศษใดๆ ข้อเสนอของแต่ละแพ็กเกจมีเกณฑ์การมีสิทธิ์และส่วนลดที่แตกต่างกัน วิธีนี้ช่วยให้นักพัฒนาแอปนำเสนอทุกวิธีที่ผู้ใช้สามารถรับ "แพ็กเกจพื้นฐาน" ในการสมัครใช้บริการเดียวได้
เมื่อกำหนดค่าการสมัครใช้บริการที่มีแพ็กเกจเริ่มต้นและข้อเสนอหลายรายการ คุณจะต้องอัปเดตการผสานรวม Google Play Billing เพื่อให้บริการดังกล่าวใช้เวอร์ชัน API ที่ถูกต้องในการจัดการฟังก์ชันการทำงานใหม่เหล่านี้ ดูรายละเอียดเกี่ยวกับการดำเนินการดังกล่าวได้ที่คำแนะนำในการย้ายข้อมูล
ปิดใช้งานการสมัครใช้บริการที่แปลงแล้ว
หลังจากสร้างแคตตาล็อกผลิตภัณฑ์ที่ใช้ประโยชน์จากโครงสร้างการสมัครใช้บริการ แพ็กเกจเริ่มต้น และข้อเสนอแบบใหม่ ตลอดจนอัปเกรดการผสานรวมให้จัดการกับผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เหล่านี้ได้อย่างถูกต้องแล้ว คุณอาจต้องปิดใช้งานการสมัครใช้บริการเดิมที่แปลงแล้ว
หากต้องการห้ามไม่ให้สมาชิกใหม่ซื้อผลิตภัณฑ์บางอย่าง คุณจะต้องปิดใช้งานแพ็กเกจเริ่มต้นและข้อเสนอทั้งหมดของการสมัครใช้บริการเหล่านั้น การสมัครใช้บริการที่มีอยู่จะยังคงต่ออายุใหม่อัตโนมัติจนกว่าจะมีการยกเลิกหรือหมดอายุ
เราขอแนะนำให้รอจนกว่าจำนวนการซื้อที่เกิดขึ้นในแอปเวอร์ชันเก่าๆ ลดลงก่อน แล้วจึงปิดใช้งานการสมัครใช้บริการที่แปลงแล้ว จำนวนการซื้อดังกล่าวจะลดลงไปเองเมื่อเวลาผ่านไปและผู้ใช้อัปเกรดจากแอปเวอร์ชันเก่าๆ โดยแอปเวอร์ชันเก่าๆ เหล่านี้ซึ่งใช้ API ที่เลิกใช้งานแล้วจะค่อยๆ หยุดทำการซื้อในการสมัครใช้บริการเดิมที่แปลงแล้ว เมื่อถึงจุดหนึ่ง คุณจะสามารถหยุดขายการสมัครใช้บริการเดิมด้วยการปิดใช้งานแพ็กเกจเริ่มต้นและข้อเสนอของการสมัครใช้บริการดังกล่าว
ผู้ใช้ที่มีการสมัครใช้บริการที่ใช้งานอยู่ในแพ็กเกจเก่าจะยังคงต่ออายุและใช้บริการที่ตนสมัครไว้ต่อไปได้ แต่จะซื้อการสมัครใช้บริการใหม่จากแอปเวอร์ชันต่างๆ ไม่ได้
จัดการแคตตาล็อกการสมัครใช้บริการด้วย API
หากจัดการแคตตาล็อกการสมัครใช้บริการด้วย InAppProducts API คุณจะสามารถใช้งานต่อไปได้ในตอนนี้ แต่จะมีผลกับการสมัครใช้บริการที่มีแพ็กเกจเริ่มต้นและข้อเสนอที่เข้ากันได้แบบย้อนหลังรายการเดียวเท่านั้น และคุณจะใช้ฟีเจอร์การสมัครใช้บริการใหม่ใดๆ ไม่ได้เลย การสมัครใช้บริการที่แปลงแล้วจะยังคงอยู่ใน Play Console ในโหมดอ่านอย่างเดียว
เราขอแนะนำให้คุณเปลี่ยนไปใช้ Monetization Subscriptions API ใหม่นี้และจัดการการสมัครใช้บริการด้วยปลายทาง monetization.subscriptions, monetization.subscriptions.baseplans และ monetization.subscriptions.offers ใหม่ API ใหม่เหล่านี้จะช่วยให้คุณจัดการแพ็กเกจเริ่มต้นและข้อเสนอทั้งหมดที่มีได้ (แทนที่จะจัดการได้เฉพาะรายการที่เข้ากันได้แบบย้อนหลังเท่านั้น) หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปลี่ยนไปใช้ API ใหม่นี้ โปรดอ่านคำแนะนำในการย้ายข้อมูล
หากต้องการแก้ไขการสมัครใช้บริการใน Play Console ให้คลิกทำให้การสมัครใช้บริการแก้ไขได้ใต้ข้อความที่แสดงที่ด้านบนของการสมัครใช้บริการแต่ละรายการ