Google Play อนุญาตให้ใช้ AccessibilityService API ในแอปพลิเคชันต่างๆ ที่มีอยู่หลากหลาย อย่างไรก็ตาม บริการที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้คนพิการเข้าถึงอุปกรณ์ของตนหรือก้าวข้ามความท้าทายที่เกิดจากความพิการเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ประกาศว่าเป็นเครื่องมือสำหรับการช่วยเหลือพิเศษ ซึ่งทำได้โดยใช้แอตทริบิวต์ isAccessibilityTool
ในไฟล์ข้อมูลเมตาของบริการ
แอปที่ประกาศว่า isAccessibilityTool
จะได้รับการยกเว้นจากข้อกำหนดด้านการเปิดเผยข้อมูลและการขอความยินยอมอย่างชัดเจนตามที่อธิบายไว้ด้านล่าง นอกจากนี้ แอปทั้งหมดที่กำหนดเป้าหมายเป็น Android 12 ที่ใช้ AccessibilityService API จะต้องกรอกแบบฟอร์มการประกาศสิทธิ์และขออนุมัติจาก Google Play ตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน 2021 เป็นต้นไป
แอปอะไรบ้างที่จัดว่าเป็นเครื่องมือสำหรับการช่วยเหลือพิเศษ
แอปที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือคนพิการซึ่งได้แก่
- โปรแกรมอ่านหน้าจอ ซึ่งช่วยเหลือผู้ที่มีความบกพร่องทางสายตา
- ระบบป้อนข้อมูลแบบสวิตช์ ซึ่งช่วยเหลือผู้ที่มีความบกพร่องทางการเคลื่อนไหว
- ระบบป้อนข้อมูลแบบเสียง ซึ่งช่วยเหลือผู้ที่มีความบกพร่องทางการเคลื่อนไหว
- ระบบการเข้าถึงด้วยอักษรเบรลล์ ซึ่งช่วยเหลือผู้ที่มีความบกพร่องทั้งทางสายตาและการได้ยิน
เครื่องมือช่วยเหลือผู้พิการด้านอื่นๆ เช่น ความบกพร่องของสมรรถนะทางสมองหรือความพิการซ้ำซ้อน ก็ถือว่าเป็นเครื่องมือสำหรับการช่วยเหลือพิเศษเช่นกัน
เครื่องมือดังกล่าวต้องมีวัตถุประสงค์หลักในการช่วยเหลือคนพิการ ตัวอย่างเช่น เครื่องมือช่วยเหลือทั่วไปที่เปิดใช้งานด้วยเสียงและมีเป้าหมายเป็นกลุ่มผู้ใช้ขนาดใหญ่แต่สามารถช่วยเหลือผู้ใช้ที่มีความบกพร่องทางการเคลื่อนไหวได้ในบางสถานการณ์ จะไม่ถือว่าเป็นเครื่องมือสำหรับการช่วยเหลือพิเศษ นักพัฒนาเครื่องมือสำหรับการช่วยเหลือพิเศษส่วนใหญ่มีการศึกษาวิจัยผู้ใช้อย่างละเอียดเพื่อทำความเข้าใจความท้าทายที่ซับซ้อน ซึ่งผู้ที่มีความพิการบางอย่างต้องพบเจอเวลาใช้อุปกรณ์ของตน และปรับแต่งโซลูชันให้ตอบโจทย์ความท้าทายเหล่านั้น เมื่ออ่านคำอธิบายเครื่องมือสำหรับการช่วยเหลือพิเศษใน Google Play Store แล้วควรทราบได้อย่างชัดเจนว่าเครื่องมือดังกล่าวผลิตมาเพื่อใครและแอปนี้ช่วยให้ผู้ใช้ก้าวข้ามความท้าทายที่ต้องพบเจอได้อย่างไร
ตัวอย่างอื่นๆ ของแอปที่ไม่ใช่เครื่องมือสำหรับการช่วยเหลือพิเศษ ได้แก่ ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส เครื่องมือระบบอัตโนมัติ เครื่องมือช่วยเหลือทั่วไป แอปติดตามตรวจสอบ เครื่องมือทำความสะอาด เครื่องมือจัดการรหัสผ่าน และ Launcher
ข้อกำหนดด้านการเปิดเผยข้อมูลและการขอความยินยอมอย่างชัดเจน
แอปที่ไม่มีสิทธิ์ใช้แอตทริบิวต์ IsAccessibilityTool
ต้องเป็นไปตามข้อกำหนดด้านการเปิดเผยข้อมูลและการขอความยินยอมอย่างชัดเจนตามที่อธิบายไว้ในนโยบายข้อมูลผู้ใช้ของ Google Play แอปดังกล่าวต้องมีการเปิดเผยข้อมูลอย่างชัดเจนที่
- ต้องอยู่ในตัวแอป โดยต้องไม่อยู่เฉพาะในคำอธิบายแอปหรือในเว็บไซต์
- ต้องแสดงในการใช้งานปกติของแอปโดยผู้ใช้ไม่ต้องเลื่อนหาตามเมนูหรือการตั้งค่าต่างๆ
- ต้องอธิบายข้อมูลที่เข้าถึงหรือเก็บรวบรวมผ่าน AccessibilityService API
- ต้องอธิบายว่าจะนำข้อมูลไปใช้งานและ/หรือแชร์อย่างไร
- ต้องมีการดำเนินการยอมรับที่แสดงการให้ความยินยอมจากผู้ใช้ (เช่น แตะเพื่อยอมรับหรือเลือกช่องทำเครื่องหมาย)
- ต้องไม่ใส่ไว้เฉพาะในนโยบายความเป็นส่วนตัวหรือข้อกำหนดในการให้บริการ และ
- ต้องไม่รวมอยู่กับการเปิดเผยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลที่ละเอียดอ่อน โดยต้องแยกออกจากการเปิดเผยข้อมูลอื่นๆ และระบุว่าเหตุใดแอปจึงต้องใช้ AccessibilityService API รวมถึง Use Case ที่เป็นไปได้
สำคัญ: หากมีการเปลี่ยนแปลงวิธีที่แอปใช้ API นี้ คุณต้องส่งแบบฟอร์มซึ่งมีข้อมูลที่อัปเดตและถูกต้องอีกครั้ง การใช้ API เหล่านี้โดยก่อให้เกิดความเข้าใจผิดหรือใช้โดยไม่ได้ประกาศให้ทราบอาจส่งผลให้แอปของคุณถูกระงับและ/หรือบัญชีนักพัฒนาแอปของคุณถูกปิดใช้งาน
การประกาศเกี่ยวกับบริการช่วยเหลือพิเศษ
ตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน 2021 เป็นต้นไป แอปที่กำหนดเป้าหมายเป็นระดับ API 31 และมี AccessibilityService จะต้องประกาศนโยบายใหม่ใน Play Console ให้เสร็จสิ้น เราไม่ได้ปิดกั้นการใช้ API นี้ แต่จะกำหนดให้มีการเปิดเผยการใช้ API ดังกล่าวอย่างชัดเจนสำหรับแอปใดๆ ที่ไม่ใช่เครื่องมือช่วยเหลือพิเศษ เครื่องมือช่วยเหลือพิเศษคือแอปที่มีจุดประสงค์หลักเพื่อสนับสนุนผู้ใช้ที่พิการ
การประกาศสําหรับแอปที่เป็นเครื่องมือช่วยเหลือพิเศษ
หากคุณประกาศว่าแอปของคุณเป็นเครื่องมือช่วยเหลือพิเศษโดยตั้งค่า isAccessibilityTool=true
ในไฟล์ข้อมูลเมตาของบริการ คุณจะต้องแจ้งให้เราทราบว่าแอปให้การช่วยเหลือพิเศษอย่างไรบ้าง
ต่อไปนี้คือตัวอย่างคําถามเกี่ยวกับการประกาศดังกล่าว
- อธิบาย 1 ฟีเจอร์หลักในแอปของคุณที่จำเป็นต้องมีการใช้งาน AccessibilityServices API โดยที่ได้รับอนุญาต
- แอปของคุณให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับความพิการประเภทใด เลือกได้มากกว่า 1 ข้อ
- การเคลื่อนไหว
- การมองเห็น
- การได้ยิน
- การรับรู้หรือการเรียนรู้
- อื่นๆ
- ใครคือกลุ่มผู้ใช้เป้าหมายของแอป
- เพื่อช่วยให้เราตรวจสอบแอปได้ โปรดระบุลิงก์ไปยังวิดีโอสั้นๆ ซึ่งแสดงให้เห็นการเปิดแอป การเปิดใช้บริการช่วยเหลือพิเศษ และการใช้งานบริการช่วยเหลือพิเศษดังกล่าว ถ้าเห็นได้ไม่ชัดเจนจากอินเทอร์เฟซผู้ใช้ว่ามีการใช้งานบริการช่วยเหลือพิเศษในแอปของคุณอย่างไร โปรดใส่เสียงหรือคำบรรยายวิดีโอเพื่อช่วยอธิบาย
การประกาศสําหรับแอปที่ไม่ใช่เครื่องมือช่วยเหลือพิเศษ
หากคุณไม่ได้ประกาศว่าแอปเป็นเครื่องมือช่วยเหลือพิเศษ แต่ใช้ AccessibilityService API กล่าวคือ คุณไม่ได้ตั้งค่าแฟล็ก isAccessibilityTool
ในไฟล์ข้อมูลเมตาของบริการช่วยเหลือพิเศษ คุณจะต้องประกาศการช่วยเหลือพิเศษใน Play Console ให้เสร็จสมบูรณ์
ต่อไปนี้คือตัวอย่างคําถามเกี่ยวกับการประกาศดังกล่าว
- เหตุใดแอปของคุณจึงต้องใช้ Accessibility Services API เลือกได้มากกว่า 1 ข้อ
- ฟังก์ชันการทำงานของแอป
- การวิเคราะห์
- การสื่อสารจากนักพัฒนาแอป
- การป้องกันการประพฤติมิชอบ การรักษาความปลอดภัย และการปฏิบัติตามข้อกำหนด
- การโฆษณาหรือการตลาด
- การปรับเปลี่ยนในแบบของคุณ
- การจัดการบัญชี
- คุณมีการเก็บรวบรวมและ/หรือแชร์ข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลที่ละเอียดอ่อนโดยใช้ความสามารถของฟังก์ชันการช่วยเหลือพิเศษหรือไม่
- ใช่
- ไม่
หมายเหตุ: ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรวบรวมข้อมูลและการแชร์ข้อมูล
[หากตอบว่าใช่ ให้ไปที่ 2]
- ข้อมูลใดของผู้ใช้ที่คุณรวบรวมและ/หรือแชร์ด้วย AccessibilityServices API เลือกได้มากกว่า 1 ข้อ
- ตำแหน่ง
- ตำแหน่งโดยประมาณ
- ตำแหน่งที่แน่นอน
- ข้อมูลส่วนบุคคล
- ชื่อ
- อีเมล
- รหัสระบุตัวบุคคล
- ที่อยู่
- หมายเลขโทรศัพท์
- เชื้อชาติและชาติกำเนิด
- ความเชื่อทางการเมืองหรือศาสนา
- รสนิยมทางเพศหรืออัตลักษณ์ทางเพศ
- ข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ
- ข้อมูลทางการเงิน
- บัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือหมายเลขบัญชีธนาคาร
- ประวัติการซื้อ
- ข้อมูลเครดิต
- ข้อมูลอื่นๆ ทางการเงิน
- สุขภาพและการออกกำลังกาย
- ข้อมูลด้านสุขภาพ
- ข้อมูลการออกกำลังกาย
- ข้อความ
- อีเมล
- ข้อความ SMS หรือ MMS
- ข้อความอื่นๆ ที่มีการรับส่งในแอป
- รูปภาพหรือวิดีโอ
- รูปภาพ
- วิดีโอ
- ไฟล์เสียง
- การบันทึกเสียง
- ไฟล์เพลง
- ไฟล์เสียงอื่นๆ
- ไฟล์และเอกสาร
- ไฟล์และเอกสาร
- ปฏิทิน
- กิจกรรมในปฏิทิน
- รายชื่อติดต่อ
- รายชื่อติดต่อ
- กิจกรรมบนแอป
- การดูหน้าเว็บและการแตะในแอป
- ประวัติการค้นหาในแอป
- แอปที่ติดตั้ง
- เนื้อหาอื่นๆ ที่ผู้ใช้สร้างขึ้น
- การดำเนินการอื่นๆ
- การท่องเว็บ
- ประวัติการท่องเว็บ
- ข้อมูลและประสิทธิภาพของแอป
- บันทึกข้อขัดข้อง
- การวินิจฉัย
- ข้อมูลประสิทธิภาพอื่นๆ ของแอป
- อุปกรณ์หรือตัวระบุอื่นๆ
- อุปกรณ์หรือตัวระบุอื่นๆ
- ตำแหน่ง
- เพื่อช่วยให้เราตรวจสอบแอปของคุณได้ คุณต้องระบุลิงก์ไปยังวิดีโอสั้นๆ ซึ่งแสดงการเปิดเผยข้อมูลอย่างชัดเจนต่อผู้ใช้ในแอป
คำแนะนำสำหรับวิดีโอที่แสดงการเปิดเผยข้อมูลของแอปอย่างชัดเจน
วิดีโอที่คุณจัดเตรียมไว้เพื่อใช้ในการประกาศต้องมีข้อมูลต่อไปนี้
- การเปิดแอปของคุณในอุปกรณ์
- โฟลว์ผู้ใช้เพื่อไปยังหน้าจอการเปิดเผยข้อมูลและการขอความยินยอมสำหรับการช่วยเหลือพิเศษอย่างชัดเจน
- ตรวจสอบว่าวิดีโอมีการเปิดเผยข้อมูลทั้งหมด หากต้องเลื่อน ให้ตรวจสอบว่าภาพเลื่อนอย่างช้าๆ เพื่อให้มองเห็นข้อความทั้งหมดในวิดีโอ
- ไม่สามารถใช้ AccessibilityService_description หรือ AccessibilityService_htmlDescription แทนการเปิดเผยข้อมูลอย่างชัดเจนในแอป
- โฟลว์ผู้ใช้เมื่อผู้ใช้ให้ความยินยอม ซึ่งรวมถึงการให้สิทธิ์การช่วยเหลือพิเศษแก่แอป
- โฟลว์ผู้ใช้เมื่อผู้ใช้ไม่ให้ความยินยอม ซึ่งรวมถึงขั้นตอนเมื่อผู้ใช้ทำให้หน้าจอการเปิดเผยข้อมูลและการขอความยินยอมอย่างชัดเจนแสดงขึ้นมาอีกครั้ง
- ฟีเจอร์หลักในแอปที่ใช้ความสามารถในการช่วยเหลือพิเศษ ถ้าเห็นได้ไม่ชัดเจนจากอินเทอร์เฟซผู้ใช้ว่ามีการใช้งานบริการช่วยเหลือพิเศษในแอปของคุณอย่างไร โปรดใส่เสียงหรือคำบรรยายภาพเพื่อช่วยอธิบาย