หากคุณจัดจำหน่ายแอปที่ต้องซื้อ หรือหากแอปเสนอการสมัครใช้บริการ ตลอดจนไอเทมที่ซื้อในแอป ก็อาจต้องให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่คุณจัดจำหน่ายตามวัตถุประสงค์ของกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคหรือด้านภาษี
คุณให้ข้อมูลนี้ได้ในส่วน "ภาษีและการปฏิบัติตามข้อกำหนด" เมื่อกำหนดราคาสำหรับแอปใน Play Console และจัดการราคาค่าสมัครใช้บริการหรือไอเทมที่ซื้อในแอป
ให้ข้อมูลภาษีและการปฏิบัติตามข้อกำหนดใน Play Console
คุณกำหนดและจัดการราคาใน Play Console ได้จากหน้าต่อไปนี้
- การกำหนดราคาแอป (สร้างรายได้ด้วย Play > ผลิตภัณฑ์ > การกำหนดราคาแอป)
- ไอเทมที่ซื้อในแอป (สร้างรายได้ด้วย Play > ผลิตภัณฑ์ > ไอเทมที่ซื้อในแอป > สร้างผลิตภัณฑ์หรือดูไอเทมที่ซื้อในแอป)
- การสมัครใช้บริการ (สร้างรายได้ด้วย Play > ผลิตภัณฑ์ > การสมัครใช้บริการ > สร้างการสมัครใช้บริการหรือดูการสมัครใช้บริการ > แก้ไขรายละเอียดการสมัครใช้บริการ)
เมื่อกำหนดราคาแอปและจัดการราคาค่าสมัครใช้บริการหรือไอเทมที่ซื้อในแอป ตัวเลือกที่แสดงในรายการด้านล่างนี้จะมีอยู่ในส่วน "ภาษีและการปฏิบัติตามข้อกำหนด" การปรับเปลี่ยนการจัดประเภทภาษีและภาระภาษีที่เกี่ยวข้องของผลิตภัณฑ์จะมีผลกับธุรกรรมในอนาคตเท่านั้น
การแยกประเภทเนื้อหาดิจิทัลหรือบริการ
หากมีการจัดจําหน่ายแอปของคุณให้แก่ผู้ใช้ในเขตเศรษฐกิจยุโรป (EEA) คุณต้องแจ้งให้เราทราบว่าผลิตภัณฑ์ของคุณเป็นเนื้อหาดิจิทัลหรือบริการ
คุณต้องศึกษาระเบียบ 2011/83/EU ของรัฐสภาแห่งยุโรปและคณะมนตรีสหภาพยุโรป รวมถึงระเบียบ (EU) 2019/770 ของรัฐสภาแห่งยุโรปและคณะมนตรีสหภาพยุโรปเพื่อดูว่าผลิตภัณฑ์ของคุณควรแยกประเภทเป็น "บริการ" หรือ "เนื้อหาดิจิทัล" หากไม่แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์เป็นเนื้อหาดิจิทัลหรือบริการ ให้แยกประเภทว่าเป็น "บริการ"
หมายเหตุ: กฎเกณฑ์ในการถอนตัวภายใต้กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคของ EEA จะขั้นอยู่กับการแยกประเภทนี้ สำหรับผลิตภัณฑ์ที่แยกประเภทเป็น "เนื้อหาดิจิทัล" จะไม่ได้รับสิทธิในการถอนตัว ส่วนผลิตภัณฑ์ที่แยกประเภทเป็น "บริการ" จะมีสิทธิ์ขอเงินคืนภายใน 14 วันนับจากวันที่ซื้อ
อัตรา VAT ที่ลดลง
นักพัฒนาแอปที่ขายข่าว นิตยสาร หนังสือพิมพ์ หนังสือ วิดีโอ เพลง เสียง หรือหนังสือเสียงรูปแบบดิจิทัลในประเทศ/ภูมิภาคต่างๆ อาจมีสิทธิ์ได้รับอัตรา VAT ที่ลดลง คุณมีหน้าที่ประเมินระเบียบข้อบังคับในท้องถิ่นเองเพื่อดูว่ามีสิทธิ์หรือไม่
เมื่อพิจารณาแล้วว่ามีสิทธิ์รับอัตราที่ลดลง ก็สามารถเลือกอัตราที่เหมาะสมสำหรับแต่ละประเทศ/ภูมิภาคที่คุณมีสิทธิ์
สําคัญ: แอปต้องอยู่ในหมวดหมู่ที่เหมาะสม (เช่น "เพลงและเสียง" หรือ "โปรแกรมเล่นวิดีโอ") คุณจึงจะสามารถดูและเลือกรับอัตราที่ลดลงตามที่มีสิทธิ์
ภาษีการสื่อสารและภาษีการบันเทิงในสหรัฐอเมริกา
หากต้องการเรียกเก็บภาษีการสื่อสารและภาษีการบันเทิงของรัฐที่เกี่ยวข้องในสหรัฐอเมริกาโดยใช้ Play Console คุณต้องระบุว่าแอปหรือผลิตภัณฑ์ของคุณเป็นผลิตภัณฑ์สตรีมมิงและเลือกหมวดหมู่สตรีมมิงที่เหมาะสม ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรัฐที่คุณสามารถเรียกเก็บภาษีการสื่อสารและภาษีการบันเทิงได้ในตรวจสอบหรือเปลี่ยนแปลงอัตราภาษีการขาย