การแจ้งเตือน

Starting June 4, 2024, the U.S. version of the Google Pay app will no longer be available for use. Learn more about these changes

เก็บข้อมูลการชำระเงินให้ปลอดภัย

How your card info stays safe

ดูวิธีที่ Google Pay ช่วยเก็บข้อมูลการชำระเงินของคุณให้ปลอดภัย เคล็ดลับในการหลีกเลี่ยงคำขอที่น่าสงสัย และสิ่งที่ต้องทำหากโทรศัพท์สูญหายหรือถูกขโมย

ข้อมูลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของคุณ

Google Pay และผู้ขาย

ผู้ขายที่เข้าร่วมยอมรับ Google Pay สำหรับการซื้อสินค้าและบริการบนเว็บไซต์และในแอป โดย Google จะเปิดเผยข้อมูลกับเว็บไซต์และแอปที่เข้าร่วมว่าคุณได้ตั้งค่า Google Pay บนอุปกรณ์หรือไม่ เพื่อให้ผู้ขายทราบว่าควรเสนอ Google Pay เป็นตัวเลือกการชำระเงินไหม คุณเลือกไม่ให้ Google เปิดเผยข้อมูลนี้ได้ในการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของ Google Pay ทั้งนี้ การเลือกไม่ให้เปิดเผยอาจมีผลต่อความสามารถในการใช้ Google Pay เพื่อทำธุรกรรมกับผู้ขายบางราย

ข้อมูลธุรกรรมของคุณใน Google Pay

Google อาจใช้ข้อมูลจากธุรกรรมใน Google Pay ที่คุณทำในร้านค้าหรือแอปและเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม โดยมีวัตถุประสงค์ต่อไปนี้

  • อำนวยความสะดวกให้แก่การทำธุรกรรมใน Google Pay
  • แสดงรายละเอียดธุรกรรมและประวัติการทำธุรกรรม
  • แก้ไขปัญหาที่คุณพบใน Google Pay
  • มอบฟีเจอร์อื่นๆ ของ Google Pay ให้คุณ

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Google

ช่วยปกป้องข้อมูลการชำระเงินของคุณ

การเก็บรักษาข้อมูลการชำระเงินให้ปลอดภัยยิ่งขึ้นมี 4 วิธี ดังนี้

การเข้ารหัสข้อมูล

การเข้ารหัสจะเก็บข้อมูลในรูปแบบที่อ่านได้ขณะโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตปลดล็อกอยู่เท่านั้น โดยการปลดล็อกอุปกรณ์จะเป็นการถอดรหัสข้อมูล ข้อดีของการเข้ารหัสมีดังนี้

  • หากอุปกรณ์ถูกขโมย การเข้ารหัสจะช่วยเพิ่มการป้องกันอีกขั้นได้
  • ในอุปกรณ์ที่เข้ารหัส ข้อมูลส่วนตัวส่วนใหญ่จะได้รับการเข้ารหัส

อุปกรณ์จำนวนมากจะได้รับการเข้ารหัสโดยค่าเริ่มต้น อย่างไรก็ตาม อุปกรณ์บางเครื่องอาจกําหนดให้คุณต้องเปิดการเข้ารหัสในการตั้งค่าของอุปกรณ์

หากต้องการการปกป้องข้อมูลสูงสุดในอุปกรณ์ที่เข้ารหัส ให้ใช้ PIN, รูปแบบ หรือรหัสผ่านเพื่อปลดล็อกอุปกรณ์เมื่อเริ่มใช้งานเสมอ

ส่งเงินให้กับคนที่รู้จักเท่านั้น

สำคัญ: หลังจากที่คุณอนุมัติการชำระเงินให้ผู้อื่นแล้ว Google จะไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อการโต้แย้งระหว่างคุณกับผู้รับเงิน

คุณสามารถส่งหรือขอรับเงินจากเพื่อนและครอบครัวได้ใน Google Pay

วิธีหลีกเลี่ยงการประพฤติมิชอบและกลโกง

  • ยืนยันก่อนเสมอว่าผู้ที่ขอรับเงินจากคุณเป็นคนที่คุณรู้จัก ผู้หลอกลวงอาจสร้างบัญชีปลอมขึ้นมาให้ดูเหมือนเพื่อนหรือครอบครัวของคุณ
  • อย่าส่งเงินให้คนที่คุณไม่รู้จัก
  • อย่ายอมรับคำขอรับเงินจากคนที่คุณไม่รู้จัก
  • อย่าซื้อสินค้าหรือบริการโดยการโอนเงินให้คนแปลกหน้า
  • อย่าพยายามขายสินค้าหรือบริการด้วยการโอนเงิน

ดูวิธีหลีกเลี่ยงกลโกงการโอนเงิน

รายงานเกี่ยวกับการเรียกเก็บเงินที่ไม่ได้รับอนุญาตทันที

หากคิดว่ามีการประพฤติมิชอบหรือกิจกรรมที่ไม่ได้รับอนุญาตในโปรไฟล์การชำระเงิน โปรดรายงานภายใน 120 วันหลังจากวันที่มีการทำธุรกรรม

เคล็ดลับ: การเรียกเก็บเงินที่ไม่ได้รับอนุญาตคือธุรกรรมที่คุณเชื่อว่าเป็นการฉ้อโกง หากต้องการโต้แย้งการชำระเงินที่ใช้ยอดคงเหลือใน Google Pay หรือโต้แย้งการส่งเงินไปให้เพื่อน โปรดดูวิธีโต้แย้งการชำระเงิน

ระบุและรายงานข้อความ Google Pay ที่เป็นการฉ้อโกง

"ฟิชชิง" และ "การปลอมแปลง" เป็นความพยายามในการฉ้อโกงเพื่อเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล

  • ฟิชชิงคือกรณีที่มีผู้แอบอ้างเป็นบุคคลอื่นและขอข้อมูลส่วนบุคคลจากคุณ
  • การปลอมแปลงคือกรณีที่มีบุคคลปลอมแปลงตัวตนของผู้ส่งอีเมลเพื่อให้ดูน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น

หากคุณได้รับอีเมลที่น่าสงสัย โปรดอย่าให้ข้อมูลที่อีเมลนั้นร้องขอ

วิธีสังเกตอีเมลที่น่าสงสัย

สำคัญ: Google จะไม่ขอให้คุณส่งข้อมูลส่วนบุคคล เช่น รหัสผ่าน หมายเลขบัตรเครดิต หรือข้อมูลภาษี ผ่านทางอีเมล, SMS หรือการโทร หากคุณได้รับข้อความว่า Google ต้องยืนยันข้อมูลของคุณ ให้ไปที่ pay.google.com โดยตรง เพราะหาก Google ต้องยืนยันข้อมูลของคุณ ตรงด้านบนขวาจะมีการแจ้งเตือนที่คุณเลือกได้พร้อมวิธีการ

ขั้นตอนที่ 1 ตรวจสอบว่ามีการร้องขอข้อมูลใดบ้าง

หากมีคนขอรายละเอียดด้านการเงินส่วนบุคคลหรือข้อมูลอื่นๆ ที่ละเอียดอ่อนใน Google Pay แสดงว่านั่นเป็นกลโกง โปรดอย่าแชร์ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนทางอีเมลหรือทางโทรศัพท์ ตัวอย่างข้อมูลที่ละเอียดอ่อน ได้แก่

  • รหัสผ่านหรือลิงก์รีเซ็ตรหัสผ่าน
  • PIN (หมายเลขประจำตัวส่วนบุคคล)
  • ข้อมูลบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิต
  • ข้อมูลธนาคาร เช่น หมายเลขบัญชี
  • ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ที่อยู่หรือหมายเลขประกันสังคม

Google จะไม่ขอให้คุณดาวน์โหลดแอปเพื่อรับการสนับสนุนหรือแก้ปัญหา

หากยังไม่แน่ใจว่าอีเมลหรือข้อความน่าสงสัยหรือไม่ โปรดระมัดระวังและอย่าส่งเงินหรือข้อมูลส่วนบุคคลให้ผู้นั้น

ขั้นตอนที่ 2 ค้นหาผู้ส่งอีเมลที่แท้จริง

  1. ใน Gmail ถัดจาก "ตอบ" ให้คลิกเพิ่มเติม เพิ่มเติม จากนั้น แสดงต้นฉบับ
  2. ดูว่าที่อยู่ "จาก" และที่อยู่สำหรับ "ตอบกลับ" ตรงกันหรือไม่
  3. ตรวจสอบว่าที่อยู่ใน "Message-id" ตรงกับโดเมนของที่อยู่ "จาก"
  4. หากคุณไม่ได้ใช้ Gmail โปรดสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับวิธียืนยันผู้ส่งกับโฮสต์ผู้ให้บริการอีเมล

ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยแบบอัตโนมัติ

วิธีต่างๆ ที่ Google Pay ใช้เพื่อรักษาข้อมูลของคุณให้ปลอดภัยยิ่งขึ้นมีดังนี้

การรักษาความปลอดภัยในตัว

Google Pay ใช้ระบบการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงในตัวซึ่งจะระบุการชำระเงินที่น่าสงสัยได้ดีขึ้น รวมถึงเมื่อคุณส่งหรือรับเงิน เพื่อช่วยปกป้องคุณจากกลโกงและการประพฤติมิชอบ

การแจ้งเตือนการชำระเงินที่น่าสงสัย

หากคุณจะชำระเงินไปยังผู้ที่ไม่ได้อยู่ในข้อมูลรายชื่อติดต่อหรือได้รับคำขอรับเงินจากบุคคลกลุ่มนี้ Google Pay จะส่งการแจ้งเตือนถึงคุณ เพื่อให้คุณสามารถหลีกเลี่ยงธุรกรรมในกรณีที่น่าสงสัย

การคุ้มครองข้อมูล

ข้อมูลและกิจกรรมการชำระเงินจะจัดเก็บไว้อย่างปลอดภัยด้วยการเข้ารหัสระดับชั้นนำของอุตสาหกรรม Google Pay จะเข้ารหัสการชำระเงินทั้งหมดเพื่อช่วยปกป้องคุณในระหว่างการทำธุรกรรม

หมายเลขบัญชีเสมือน (VAN)

หมายเลขบัญชีเสมือน (VAN) เป็นหมายเลขแทนชั่วคราวประเภทหนึ่งสำหรับหมายเลขบัญชีจริงของคุณ ซึ่งจะสร้างขึ้นเมื่อคุณเพิ่มบัตรโดยใช้แอป Google Pay, แอป Google Wallet หรือแอปธนาคาร ตัวอย่างเช่น เมื่อคุณชำระเงินในร้านค้าจะเกิดกรณีต่อไปนี้ขึ้น

  • ระบบจะแชร์หมายเลขบัญชีเสมือน (VAN) ของคุณกับผู้ขาย
  • ระบบจะไม่แชร์หมายเลขบัญชีจริงของคุณ ซึ่งจะช่วยให้ข้อมูลบัญชีปลอดภัย

วิธีค้นหาหมายเลขบัญชีเสมือน (VAN)

  1. เปิดแอป Google Wallet
  2. ที่ด้านบน ให้แตะบัตรสำหรับชำระเงินที่ใช้ซื้อสินค้า
    • คุณอาจต้องปัดจากขวาไปซ้ายเพื่อค้นหาบัตร แล้วให้แตะบัตร
  3. ที่ด้านล่าง ให้แตะรายละเอียด จากนั้น หมายเลขบัญชีเสมือน (VAN)

เคล็ดลับ: หากไม่พบ "หมายเลขบัญชีเสมือน (VAN)" คุณต้องตั้งค่าบัตรสำหรับชำระเงินเพื่อชำระเงินในร้านค้า

ล็อกหน้าจอ

คุณต้องตั้งค่าการล็อกหน้าจอในอุปกรณ์ก่อนเพิ่มบัตรลงในแอป Google Pay หรือสำหรับใช้ชำระเงินในร้านค้า หากปิดการล็อกหน้าจอ Google Pay จะนำหมายเลขบัญชีเสมือน (VAN) ออกจากอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย

ส่วนใหญ่แล้ว คุณต้องปลดล็อกโทรศัพท์ก่อนทำการซื้อ แต่อาจไม่ต้องปลดล็อกสำหรับการชำระเงินจำนวนเล็กน้อยบางรายการ

การค้นหาและรักษาความปลอดภัยให้กับอุปกรณ์ที่สูญหาย

เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมในกรณีที่สูญหายหรือถูกขโมย

เตรียมพร้อมในกรณีที่อุปกรณ์ Android ของคุณสูญหายด้วยการเตรียมพร้อมในการหาอุปกรณ์ Android ที่สูญหาย

จะเกิดอะไรขึ้นกับข้อมูลการชำระเงินของฉันในอุปกรณ์ที่ถูกขโมย

ฉันควรทำอย่างไรหากอุปกรณ์สูญหายหรือถูกขโมย

  1. ทำตามขั้นตอนเพื่อค้นหา ล็อก หรือลบข้อมูลในอุปกรณ์ Android ที่สูญหาย

    เคล็ดลับ: การลบข้อมูลอุปกรณ์จะเป็นการนำข้อมูลการชำระเงิน รวมถึงบัตรเครดิตและบัตรเดบิตออกจากอุปกรณ์

  2. หากสงสัยว่าบัญชี Google ถูกแฮ็ก ให้ทำตามขั้นตอนในการรักษาความปลอดภัยให้กับบัญชี Google ที่ถูกแฮ็กหรือถูกบุกรุก

 

 

 

หากต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม

ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
3849408703451204999
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
5150109
false
false