ตำแหน่งที่เก็บข้อมูลโทรศัพท์
ข้อมูลสำรองจะอัปโหลดไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ Google และเข้ารหัสด้วยรหัสผ่านบัญชี Google ของคุณ นอกจากนี้ระบบยังจะใช้ PIN, รูปแบบ หรือรหัสผ่านล็อกหน้าจอของโทรศัพท์เพื่อเข้ารหัสข้อมูลบางอย่างด้วยเพื่อสำรองข้อมูลอย่างปลอดภัย
ข้อมูลสำรอง (ยกเว้นข้อมูลที่คุณสำรองไปที่ Google Photos) จะถูกลบออกในกรณีต่อไปนี้
- คุณไม่ได้ใช้อุปกรณ์เป็นเวลา 57 วัน
- คุณปิดการสำรองข้อมูล Android
สิ่งที่การสำรองข้อมูลโดย Google One บันทึก
การสำรองข้อมูลโดย Google One จะบันทึกข้อมูลจากโทรศัพท์โดยอัตโนมัติ ดังนี้
- ข้อมูลแอป
- ประวัติการโทร
- รายชื่อติดต่อ
- การตั้งค่า
- ข้อความ SMS
- รูปภาพและวิดีโอ
- ข้อความ MMS
คุณสามารถตรวจสอบข้อมูลและแอปที่รวมอยู่ในข้อมูลสำรองได้
- เปิดแอป Google One ในโทรศัพท์ Android
- แตะพื้นที่เก็บข้อมูลที่ด้านล่าง
- เลื่อนไปที่ส่วนการสำรองข้อมูลอุปกรณ์
- หากคุณสำรองข้อมูลโทรศัพท์เป็นครั้งแรก ให้แตะตั้งค่าการสำรองข้อมูล
- หากไม่ใช่ครั้งแรก ให้แตะดูรายละเอียด
- หากต้องการตรวจสอบการตั้งค่าการสำรองข้อมูล ให้แตะจัดการการสำรองข้อมูล
สำรองข้อมูลโทรศัพท์โดยอัตโนมัติ
คุณตั้งค่าโทรศัพท์ให้สำรองข้อมูลไฟล์โดยอัตโนมัติได้
- เปิดแอป Google One ในโทรศัพท์ Android
- แตะพื้นที่เก็บข้อมูลที่ด้านล่าง
-
เลื่อนไปที่ "การสำรองข้อมูล" แล้วแตะดู
-
หากคุณสำรองข้อมูลโทรศัพท์เป็นครั้งแรก ให้แตะตั้งค่าการสำรองข้อมูล
-
หากไม่ใช่ครั้งแรก ให้แตะดูรายละเอียด
-
-
หากต้องการตรวจสอบการตั้งค่าการสำรองข้อมูล ให้แตะจัดการการสำรองข้อมูล
-
เลือกการตั้งค่าการสำรองข้อมูล
-
หากเห็นคำแนะนำให้ติดตั้งแอป อัปเดตแอป หรือเปลี่ยนการตั้งค่า โปรดทำตามขั้นตอนบนหน้าจอ จากนั้นให้กลับไปที่แอป Google One เพื่อดำเนินการให้เสร็จ
-
-
หากระบบถาม ให้แตะอนุญาตสิทธิ์
-
ที่ด้านซ้ายบน ให้แตะกลับ
การสำรองข้อมูลด้วย Google One อาจใช้เวลาถึง 24 ชั่วโมง เมื่อระบบบันทึกข้อมูลแล้ว คุณจะเห็นคำว่า "เปิด" ใต้ประเภทข้อมูลที่เลือกไว้
เคล็ดลับ: ระบบจะนับรวมข้อมูลสำรองของ WhatsApp บน Android ในพื้นที่เก็บข้อมูลในบัญชี Google ของคุณในเร็วๆ นี้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อมูลสำรองของ WhatsApp
เริ่มหรือหยุดการสำรองข้อมูล
หลังจากเลือกการตั้งค่าการสำรองข้อมูลแล้ว คุณก็เริ่มสำรองข้อมูลได้ทันที และสามารถปิดใช้การสำรองข้อมูลอัตโนมัติได้ทุกเมื่อ
เริ่มการสำรองข้อมูล
- เปิดแอป Google One ในโทรศัพท์ Android
- แตะพื้นที่เก็บข้อมูลที่ด้านล่าง
- เลื่อนไปที่ส่วนการสำรองข้อมูลอุปกรณ์
- หากคุณสำรองข้อมูลโทรศัพท์เป็นครั้งแรก แตะตั้งค่าการสำรองข้อมูล
- หากไม่ใช่ครั้งแรก แตะดูรายละเอียด
- หากต้องการดูการตั้งค่าการสำรองข้อมูล ให้แตะจัดการการสำรองข้อมูล
- หากต้องการสำรองข้อมูลที่อยู่ในโทรศัพท์ ให้เปิดใช้ข้อมูลอุปกรณ์
- หากต้องการสำรองข้อมูลสื่อด้วยคุณภาพที่ดีที่สุด เปิดใช้รูปภาพและวิดีโอความละเอียดแบบเต็ม
- หากต้องการสำรองข้อมูลที่เป็นข้อความ MMS ให้เปิดใช้ข้อความมัลติมีเดีย
- แตะสำรองข้อมูลทันที
หยุดการสำรองข้อมูลอุปกรณ์ในอนาคต
- เปิดแอป Google One ในโทรศัพท์ Android
- เลื่อนไปที่ส่วนการสำรองข้อมูลอุปกรณ์ แล้วแตะดูรายละเอียด
- ปิดประเภทข้อมูลที่ไม่ต้องการสำรอง
คืนค่าข้อมูลมาไว้ในโทรศัพท์เครื่องใหม่
รูปภาพและวิดีโอของคุณอยู่ใน Google Photos อยู่แล้ว แต่คุณสามารถกู้คืนข้อมูลที่เหลือซึ่งสำรองไว้ในขณะตั้งค่าอุปกรณ์เครื่องใหม่เป็นครั้งแรกหรือหลังจากรีเซ็ตอุปกรณ์เป็นค่าเริ่มต้น หากต้องการกู้คืนข้อมูลขณะตั้งค่า ให้ทำตามขั้นตอนบนหน้าจอ
โดยการดำเนินการนี้อาจใช้เวลาถึง 24 ชั่วโมง
ลบข้อมูลสำรอง
หากคุณปิดใช้การสำรองข้อมูลโดย Google One ในอุปกรณ์ ระบบจะลบข้อมูลสำรองออก แต่รูปภาพและวิดีโอที่สำรองไว้ก่อนหน้านี้จะยังคงบันทึกอยู่ใน Google Photos
แต่หากไม่ใช้อุปกรณ์เป็นเวลา 57 วัน ระบบก็จะลบข้อมูลสำรอง (ยกเว้นรูปภาพหรือวิดีโอ) ออกด้วย
แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการสำรองข้อมูล
ตรวจสอบว่าโทรศัพท์สำรองข้อมูลได้อย่างถูกต้อง
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอยู่ หากใช้อินเทอร์เน็ตมือถือ ให้ลองเชื่อมต่อ Wi-Fi เพื่อสัญญาณที่ดีขึ้น
- ตรวจสอบว่าโทรศัพท์มีแบตเตอรี่อยู่
- ติดตั้งหรืออัปเดตแอป Google One
- หากต้องการเร่งการซิงค์ Photos ให้เปิดแอป Google Photos
- ตรวจสอบพื้นที่เก็บข้อมูลในแอป Google One หากพื้นที่เก็บข้อมูลเต็ม คุณมีตัวเลือกดังต่อไปนี้
- ซื้อพื้นที่เก็บข้อมูลเพิ่ม
- ล้างพื้นที่เก็บข้อมูล
ตรวจสอบว่าคุณหาในตำแหน่งที่ถูกต้อง ไฟล์จะบันทึกอยู่ในแอปอื่นๆ ไม่ใช่ Google One
- สำหรับหมายเลขโทรศัพท์และข้อมูลติดต่ออื่นๆ ให้ดูที่เว็บไซต์หรือแอป Google Contacts
- สำหรับการประชุมและช่วยเตือน ให้ดูที่เว็บไซต์หรือแอป Google ปฏิทิน
- สำหรับรูปภาพและวิดีโอ ให้ดูที่เว็บไซต์หรือแอป Google Photos
หากระบบยังคงไม่สำรองข้อมูลสื่อ
คุณก็อัปโหลดไฟล์ด้วยตัวเองได้
ดูวิธีการต่อไปนี้
หากระบบไม่สำรองข้อมูลอย่างน้อย 1 ประเภท ลองทำตามขั้นตอนเหล่านี้ และตรวจสอบว่าการสำรองข้อมูลใช้ได้หรือไม่หลังจากลองทำแต่ละขั้นตอน
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอยู่
- หากใช้อินเทอร์เน็ตมือถือ ให้ลองเชื่อมต่อ Wi-Fi เพื่อสัญญาณที่ดีขึ้น
- ติดตั้งหรืออัปเดตแอป Google One
- เปิดแอป Google One และหากพื้นที่เก็บข้อมูลเต็ม คุณมีตัวเลือกดังต่อไปนี้
- แตะการตั้งค่า จัดการการตั้งค่าการสำรองข้อมูลในแอป Google One หากเห็นคำแนะนำให้อัปเดตหรือติดตั้งแอป โปรดทำตามขั้นตอนบนหน้าจอ
- เคล็ดลับ: หากอุปกรณ์ต้องทำการอัปเดตหลายรายการ การสํารองข้อมูลโทรศัพท์อาจใช้เวลาหลายชั่วโมง
- แตะหน้าแรกในแอป Google One
หากยังคงสำรองข้อมูลไม่ได้
ให้ลองสำรองข้อมูลด้วยตนเอง ดังนี้
แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการคืนค่า
เริ่มต้นกระบวนการคืนค่าไม่ได้หากตัวเลือกการคืนค่าเป็นสีเทาหรือได้รับข้อความแสดงข้อผิดพลาด คุณอาจต้องทำตามขั้นตอนบางอย่างเพิ่มเติม การแก้ปัญหาโดยทั่วไปวิธีหนึ่งก็คือ ให้ตรวจสอบว่าระบบปฏิบัติการ Android อัปเดตแล้ว โดยคุณต้องใช้ Android 8 ขึ้นไปจึงจะสำรองและคืนค่าข้อมูลในโทรศัพท์ได้
หากมีไฟล์อย่างน้อย 1 ประเภทหายไปหลังจากคืนค่าข้อมูลสำรองจาก Google One ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอยู่
- หากใช้อินเทอร์เน็ตมือถือ ให้ลองเชื่อมต่อ Wi-Fi เพื่อสัญญาณที่ดีขึ้น
- ติดตั้งหรืออัปเดตแอป Google One
- เปิดการตั้งค่า Android และยืนยันว่า
- พื้นที่เก็บข้อมูลในเครื่องเพียงพอสำหรับการสำรองข้อมูล
- เวอร์ชัน Android ของอุปกรณ์เท่ากับหรือใหม่กว่าอุปกรณ์เครื่องเก่า ดูวิธีตรวจสอบเวอร์ชัน Android
- ข้อมูลสำรองจะยังคงอยู่ตราบใดที่คุณยังใช้อุปกรณ์ แต่หากไม่ได้ใช้งานมานานกว่า 57 วัน ข้อมูลสำรองจะหายไป
ไฟล์ที่จะได้รับการคืนค่าขณะตั้งค่า
คุณจะคืนค่าข้อมูลบางอย่างได้เฉพาะตอนตั้งค่าอุปกรณ์ เช่น ข้อมูลแอป ข้อมูลการตั้งค่า และข้อความ หากต้องการคืนค่าข้อมูลเหล่านี้ ให้รีเซ็ตอุปกรณ์เป็นการตั้งค่าเริ่มต้นแล้วทำตามขั้นตอนการตั้งค่า Android