ตำแหน่งของโทรศัพท์และเซ็นเซอร์ของอุปกรณ์ในบ้านที่รองรับช่วยระบุได้ว่าคุณอยู่บ้านหรือไม่ กล่าวคือปัจจัยเหล่านี้จะทำงานร่วมกันเพื่อดูว่ามีคนอยู่ในบ้านไหม ฟีเจอร์นี้มีชื่อเรียกว่า "การตรวจหาบุคคลในบ้าน" การตรวจหาบุคคลในบ้านสามารถช่วยให้อุปกรณ์ในบ้านปรับเปลี่ยนตามความต้องการของคุณเมื่อคุณอยู่บ้านหรือไม่อยู่บ้าน
บทความนี้จะอธิบายความหมายของการตรวจหาบุคคลในบ้าน วิธีการทำงาน วิธีที่แอป Home ใช้ข้อมูลตำแหน่งของโทรศัพท์เพื่อเปิดใช้การตรวจหาบุคคลในบ้าน รวมถึงการควบคุมและตัวเลือกที่คุณใช้งานได้
โทรศัพท์จะใช้เขตพื้นที่เสมือนเพื่อตรวจจับว่าคุณอยู่บ้านหรือไม่ และจะใช้ได้จากแอป Home หรือแอป Nest เท่านั้นในแต่ละครั้ง เมื่อคุณเปิดใช้เขตพื้นที่เสมือนในแอปหนึ่ง ระบบจะปิดใช้เขตดังกล่าวในอีกแอปโดยอัตโนมัติ ทั้งนี้ หากคุณใช้แอป Nest โปรดดูข้อมูลเกี่ยวกับตัวช่วยเปลี่ยนโหมดอยู่บ้าน/ไม่อยู่บ้านแทน
การตรวจหาบุคคลในบ้านและวิธีการนำไปใช้กับกิจวัตร "อยู่บ้าน" และ "ไม่อยู่บ้าน"อุปกรณ์ใช้การตรวจหาบุคคลในบ้านเพื่อเริ่มกิจวัตร "อยู่บ้าน" หรือ "ไม่อยู่บ้าน" คุณดูและจัดการข้อมูลการตรวจหาบุคคลในบ้านได้ในแอป Home
หากคุณปิดการตรวจหาบุคคลในบ้านสำหรับบ้านและโทรศัพท์ของคุณ กิจวัตรและฟีเจอร์อื่นๆ ที่ใช้การตรวจหาบุคคลในบ้านจะไม่ทราบเมื่อคุณออกจากบ้านหรือกลับถึงบ้าน จึงทำให้ไม่ทราบเวลาที่ต้องเริ่มทำงาน คุณยังคงเริ่มกิจวัตรได้ด้วยตนเองในแอป Home
หากคุณปิด "อนุญาตให้บ้านหลังนี้ใช้ตำแหน่งของโทรศัพท์" แต่เปิดตำแหน่งของโทรศัพท์แต่ละเครื่องไว้ กิจวัตร "อยู่บ้าน" และ "ไม่อยู่บ้าน" จะหยุดทำงาน แต่ฟีเจอร์ที่ใช้เฉพาะตำแหน่งของโทรศัพท์ เช่น "ส่งเสียงเมื่ออยู่บ้านเท่านั้น" จะทำงานต่อไป
อุปกรณ์ใช้การตรวจหาบุคคลในบ้านเพื่อระบุว่าคุณอยู่บ้านหรือไม่ เมื่อเปิดใช้ฟีเจอร์ "ส่งเสียงเมื่ออยู่บ้านเท่านั้น" ลำโพงหรือจอแสดงผล Google Nest จะส่งเสียงเมื่อมีสายเรียกเข้าในกรณีที่โทรศัพท์อยู่ที่บ้าน แต่จะไม่ส่งเสียงเมื่อโทรศัพท์ไม่อยู่ที่บ้าน คุณดูและจัดการข้อมูลการตรวจหาบุคคลในบ้านได้ในแอป Home
หากคุณเป็นสมาชิกในบ้านที่เปิดใช้กิจวัตร "อยู่บ้าน" และ "ไม่อยู่บ้าน" การปิดการตรวจหาบุคคลในบ้านสำหรับโทรศัพท์ของคุณในการตั้งค่าของแอป Google Home จะปิดใช้ฟีเจอร์อื่นๆ ที่ใช้ตำแหน่งของโทรศัพท์กับการตรวจหาบุคคลในบ้านด้วย เช่น ฟีเจอร์ "ส่งเสียงเมื่ออยู่บ้านเท่านั้น"
หากคุณเลือกใช้ฟีเจอร์นี้ แอป Home จะใช้ตำแหน่งของโทรศัพท์เพื่อดูเวลาที่คุณก้าวข้ามเขตพื้นที่เสมือน ซึ่งเป็นขอบเขตเสมือนรอบบ้านที่คุณกำหนดไว้เมื่อตั้งค่าฟีเจอร์ที่ใช้การตรวจหาบุคคลในบ้านเป็นครั้งแรก
การก้าวข้ามเขตพื้นที่เสมือน รวมกับเซ็นเซอร์ของอุปกรณ์ในบ้าน จะช่วยระบุได้ว่าควรเริ่มกิจวัตร "อยู่บ้าน" และ "ไม่อยู่บ้าน" เมื่อใด ข้อมูลนี้ยังช่วยปรับปรุงและปรับเปลี่ยนประสบการณ์ใช้งานบ้านที่เชื่อมต่อกับ Nest ในแบบของคุณด้วย ดูข้อมูลเพิ่มเติมในคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของ Nest
หากต้องการให้เขตพื้นที่เสมือนช่วยให้การตรวจหาบุคคลในบ้านทำงานอย่างถูกต้อง คุณจะต้องตรวจสอบว่า
- คุณได้ตั้งค่ากิจวัตร "อยู่บ้าน" และ "ไม่อยู่บ้าน" ในแอป Home แล้ว
- คุณได้เปิดใช้โทรศัพท์ในการตั้งค่าการตรวจหาบุคคลในบ้านในแอป Home แล้ว
- คุณได้ตั้งค่าสิทธิ์เข้าถึงตำแหน่งสำหรับแอป Home ในโทรศัพท์ให้เป็นเปิดตลอดเวลาแล้ว
- ทุกคนในครอบครัวได้เปิดใช้โทรศัพท์ของตนในการตั้งค่าการตรวจหาบุคคลในบ้านของแอป Home ในโทรศัพท์ของตนแล้ว
ในประวัติของแอป Home คุณจะเห็นการระบุในทุกครั้งที่คุณเข้าหรือออกจากเขตพื้นที่เสมือน โปรดทราบว่าการตรวจหาบุคคลในบ้านจะแยกออกจากฟีเจอร์ประวัติตำแหน่งของบัญชี Google และฟีเจอร์ทั้งสองจะไม่มีผลต่อกัน
แอป Home จะติดตามเพียงว่าคุณอยู่ภายในเขตพื้นที่เสมือนของบ้านหรือไม่ แต่จะไม่ติดตามตำแหน่งของคุณหรือสถานที่ที่คุณไป ข้อมูลที่ใช้สำหรับการตรวจหาบุคคลในบ้านและเขตพื้นที่เสมือนจะใช้เพื่อระบุเวลาที่คุณกลับถึงบ้านหรือออกจากบ้านเท่านั้น ข้อมูลนี้จะใช้ตามวัตถุประสงค์ที่คุณให้สิทธิ์ และอธิบายไว้โดยละเอียดยิ่งขึ้นในคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของ Nest
การตรวจหาบุคคลในบ้านจะทำงานได้ดีที่สุดหากสมาชิกทุกคนในครอบครัวเปิดใช้โทรศัพท์ของตนในการตั้งค่าการตรวจหาบุคคลในบ้านของแอป Home หากสมาชิกบางคนในครอบครัวไม่ใช้การตั้งค่าเหล่านี้ อุปกรณ์อาจไม่ได้ตรวจจับว่าบุคคลดังกล่าวอยู่บ้านแม้ว่าจะอยู่ก็ตาม และกิจวัตรอาจไม่ทำงานตามที่คาดไว้
ตัวอย่างเช่น หากคุณเป็นสมาชิกเพียงคนเดียวในครอบครัวที่เปิดใช้โทรศัพท์ในการตรวจหาบุคคลในบ้าน และบ้านของคุณไม่ได้ใช้อุปกรณ์อื่นใดสำหรับการตรวจหาบุคคลในบ้านเลย เมื่อออกจากบ้าน กิจวัตร "ไม่อยู่บ้าน" จะเริ่มต้นและปิดไฟในบ้าน สมาชิกคนอื่นในครอบครัวที่ยังอยู่ในบ้านจะต้องเปิดไฟหรือเริ่มกิจวัตร "อยู่บ้าน" ด้วยตนเอง
เปิดหรือปิดการตรวจหาบุคคลในบ้าน
- เปิดแอป Google Home
- แตะการตั้งค่า
- ในส่วน "ฟีเจอร์สำหรับบ้าน" ให้แตะการตรวจหาบุคคลในบ้าน
- แตะสวิตช์อนุญาตให้บ้านหลังนี้ใช้ตำแหน่งของโทรศัพท์ เพื่อเปิดหรือปิด
คุณยังปิดโทรศัพท์แต่ละเครื่องไม่ให้ระบบนำไปใช้กับการตรวจหาบุคคลในบ้านได้ด้วย
หากคุณปิดการแชร์ตำแหน่งของโทรศัพท์สำหรับบ้านหรือปิดแค่โทรศัพท์ของคุณในการตั้งค่าการตรวจหาบุคคลในบ้าน ฟีเจอร์ที่ใช้การตรวจหาบุคคลในบ้าน เช่น "ส่งเสียงเมื่ออยู่บ้านเท่านั้น" หรือกิจวัตร "อยู่บ้าน" และ "ไม่อยู่บ้าน" อาจไม่ทำงานอีกต่อไป
ประวัติในแอป Home จะแสดงให้คุณและสมาชิกคนอื่นในบ้านดูว่ากิจวัตร "อยู่บ้าน" และ "ไม่อยู่บ้าน" เริ่มต้นขึ้นโดยอัตโนมัติเมื่อใดและเพราะเหตุใด
- คุณดูข้อมูลการมาถึงและการออกจากบ้านของตนเองได้ โดยจัดการข้อมูลนี้ได้ในการตั้งค่าแอป Home
- สมาชิกคนอื่นๆ ในบ้านจะเห็นเมื่อคุณเปลี่ยนบ้านเป็นโหมด "อยู่บ้าน" หรือ "ไม่อยู่บ้าน" ด้วยตนเองโดยใช้แอป, เสียง, Nest Secure หรือ Nest × Yale Lock
หมายเหตุ: ข้อมูลทั้งหมดที่แอป Home รวบรวมไว้จะขึ้นอยู่กับนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Google และได้รับการจัดการตามที่อธิบายไว้โดยละเอียดยิ่งขึ้นในคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของ Nest และโปรดอ่านความมุ่งมั่นของ Google ที่จะปกป้องความเป็นส่วนตัวภายในบ้านเพิ่มเติมด้วย
ลบประวัติการตรวจหาบุคคลในบ้าน
ประวัติการตรวจหาบุคคลในบ้านจะมีข้อมูลของสมาชิกทุกคนในบ้านและอุปกรณ์ทุกเครื่อง แม้กระทั่งข้อมูลที่คุณไม่เห็นในประวัติของบ้านในแอป Home โดยระบบจะเก็บข้อมูลดังกล่าวไว้ 60 วัน หลังจากนั้นก็จะลบออกโดยอัตโนมัติ คุณและสมาชิกคนอื่นทั้งหมดในบ้านยังลบข้อมูลนี้จากแอป Home ด้วยตนเองได้ทุกเมื่อด้วย
หมายเหตุ: คุณจะดูได้เฉพาะประวัติการออกจากบ้านหรือกลับถึงบ้านของตนเอง มีเพียงคนที่ตั้งค่ากิจวัตร "อยู่บ้าน" และ "ไม่อยู่บ้าน" เท่านั้นที่จะลบประวัติการตรวจหาบุคคลในบ้านในแอป Home ได้
- เปิดแอป Home
- แตะการตั้งค่า
- ในส่วน "ฟีเจอร์สำหรับบ้าน" ให้แตะการตรวจหาบุคคลในบ้าน
- แตะลบประวัติการตรวจหาบุคคลในบ้านทั้งหมด
- เลือกลบ
หลังจากที่ลบประวัติการตรวจหาบุคคลในบ้านแล้ว คุณและสมาชิกทุกคนในบ้านจะดูข้อมูลการลบที่เกิดขึ้นได้ในประวัติของบ้าน
ดาวน์โหลดข้อมูลของคุณ
คุณสามารถดูประวัติข้อมูลที่อุปกรณ์เก็บรวบรวมไว้ในแอป Home และยังดาวน์โหลดข้อมูลของคุณได้ทุกเมื่อด้วย
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีดาวน์โหลดข้อมูลใน Google