แนวทางปฏิบัติแนะนำในการเสนอราคาและเคล็ดลับสําหรับแคมเปญโรงแรม

แคมเปญโรงแรมใน Google Ads มีเครื่องมือการเสนอราคามากมายซึ่งมีตัวเลือกการเรียกเก็บเงินที่ยืดหยุ่น และช่วยให้คุณจับตลาดเป้าหมายอย่างอัตโนมัติโดยไม่จำเป็นต้องปรับราคาเสนอ

บทความนี้จะสรุปแนวทางปฏิบัติแนะนำในการเสนอราคาและเคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณใช้กลยุทธ์ Smart Bidding ต่างๆ สำหรับลงทุนแคมเปญโรงแรมได้ ในช่วงเวลาที่ผู้ใช้มีความต้องการที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

แนวทางปฏิบัติแนะนำในการจัดการแคมเปญโรงแรมอย่างมีประสิทธิภาพโดยลงแรงเพียงเล็กน้อย

  • ตั้งเป้าหมายและเป้าหมายด้านประสิทธิภาพ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกำหนดจุดมุ่งหมายและเป้าหมายสำหรับโรงแรมที่เฉพาะเจาะจงโดยใช้กลุ่มแคมเปญและกลุ่มโฆษณา
  • กําหนดทรัพยากรที่คุณจะใช้ได้และความเสี่ยงที่ยอมรับได้ หากคุณจัดการการปรับยอดได้ ให้ลองพิจารณาโปรแกรมค่าคอมมิชชัน (ต่อการเข้าพัก) ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงจากการยกเลิกจํานวนมาก แต่หากปัจจุบันยังปรับยอดไม่ได้ ก็ใช้กลยุทธ์การเสนอราคาแบบค่าคอมมิชชัน (ต่อ Conversion) ซึ่งไม่จําเป็นต้องใช้การปรับยอด
  • เมื่อเลือกกลยุทธ์การเสนอราคาที่เหมาะสมได้แล้ว ให้เรียนรู้วิธีกําหนดอัตราค่าคอมมิชชันหรือราคาเสนอที่เหมาะสมที่ช่วยให้เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขได้ เช่น เมื่อปริมาณหรืออัตรา Conversion พุ่งขึ้นหรือดิ่งลง 
  • เข้าใจพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไปและปรับราคาเสนอให้สอดคล้องกัน เช่น ข้อมูลอาจแตกต่างกันไปในอุปกรณ์บางประเภทหรือหน้าต่างการจองขั้นสูง หรือการพุ่งขึ้นของตลาดบางแห่ง เนื่องจากแต่ละภูมิภาคฟื้นคืนจากสถานการณ์โควิด-19 ในช่วงเวลาที่ต่างกัน

ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณใช้งานกลยุทธ์การเสนอราคาที่ซับซ้อนได้

1. ระบุกลยุทธ์การเสนอราคาที่เหมาะสมสําหรับแคมเปญโรงแรม

เมื่อแนวโน้มของคลิกและ Conversion เปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อย Smart Bidding จะช่วยให้คุณเข้าถึงตลาดเป้าหมายได้ โดยใช้สัญญาณตามเวลาจริงในการประมูล เช่น สถานที่ของผู้ใช้

หากคุณไม่มีทรัพยากรที่จําเป็นในการอัปเดตราคาเสนอเป็นประจําและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ให้ลองใช้กลยุทธ์ Smart Bidding อย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้

หมายเหตุ: กลยุทธ์ Smart Bidding ทั้งหมดต้องใช้เครื่องมือวัด Conversion ของแคมเปญโรงแรม

เคล็ดลับ: หากคุณใช้ ECPC หรือค่าคอมมิชชัน (ต่อ Conversion) ก็จะใช้ฟีเจอร์การนําเข้า Conversion ของ Google Ads เพื่ออัปโหลด Conversion ออฟไลน์ได้ด้วย ซึ่งจะมีประโยชน์หากการจองเกิดขึ้นบนเว็บไซต์ของพาร์ทเนอร์ หรือหากจำเป็นต้องมีกระบวนการหลังการจองก่อนที่จะยืนยันการจอง อย่างไรก็ตาม เครื่องมือวัด Conversion ออนไลน์มักจะให้ประสิทธิภาพที่ดีกว่าสําหรับ Smart Bidding เพราะเครื่องมือไม่ล่าช้า

2. ตั้งราคาเสนอโดยคํานึงถึงแนวโน้มในปัจจุบัน

อัตราค่าคอมมิชชันหรือการเสนอราคา CPC สูงสุดที่กําหนดไว้ในการตั้งค่าการเสนอราคาแคมเปญคือวิธีที่ดีที่สุดในการควบคุมประสิทธิภาพและงบประมาณ โดยเคล็ดลับมีดังนี้

  • คำนึงถึงอัตราการยกเลิกสูง ค่าคอมมิชชัน (ต่อการเข้าพัก) นั้นปรับให้สอดคล้องกับอัตราการยกเลิกโดยอัตโนมัติ แต่หากคุณไม่ได้ใช้ค่าคอมมิชชัน (ต่อการเข้าพัก) ก็อาจต้องกําหนดราคาเสนอให้สอดคล้องกับอัตราการยกเลิกที่สูงกว่าปกติ

ตัวอย่าง

หากแคมเปญใช้ค่าคอมมิชชัน (ต่อ Conversion) เพื่อให้ได้รับการจองมูลค่าสูงสุดสําหรับคุณโดยอัตโนมัติในอัตราค่าคอมมิชชัน 17% แต่คุณกลับเห็นว่ามีการยกเลิกการจอง 40% จากทั้งหมด คุณจะเปลี่ยนอัตราค่าคอมมิชชันเป็น 10%-11% ได้ เพื่อปรับปรุง ROAS สุทธิของการยกเลิก
  • คาดการณ์การเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น กลยุทธ์ Smart Bidding จะเพิ่มประสิทธิภาพ Conversion ให้คุณตามอัตรา Conversion ก่อนหน้า หากคุณคาดว่าสถานการณ์จะมีการเปลี่ยนแปลงกะทันหันซึ่งไม่เกี่ยวกับแนวโน้มต่างๆ ในเดือนที่ผ่านมา ให้ปรับราคาเสนอและกําหนดเป้าหมายให้เหมาะสม

ตัวอย่าง

ประเทศ ก ได้ประกาศยกเลิกการแบนการเดินทางในประเทศซึ่งจะมีผลในเดือนหน้า คุณรู้ว่าอุปสงค์การเดินทางจะสูงขึ้นอย่างมากในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของเดือนที่ผ่านมา เพื่อคว้าโอกาสนี้ไว้ คุณควรพิจารณาเพิ่มอัตราค่าคอมมิชชัน (หากใช้ Smart Bidding อยู่) หรือ CPC สําหรับแคมเปญที่มีการเข้าชมในประเทศ ก

3. เกาะติดแนวโน้มที่เปลี่ยนแปลง

เครื่องมือเพิ่มเติมเหล่านี้จะช่วยให้คุณทราบว่าพฤติกรรมของนักเดินทางเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร

  • การรายงานใน Google Ads เรามีมิติข้อมูลจํานวนมากสําหรับแผนการเดินทางที่เฉพาะเจาะจงต่างๆ ซึ่งคุณสามารถแบ่งการทำงานของแคมเปญโรงแรมได้ เช่น ประเภทอัตราและการจองล่วงหน้า แนวโน้มเหล่านี้จะช่วยให้คุณทราบว่าจะตั้งค่าแคมเปญหรือการเสนอราคาอย่างไร
  • Think with Google เว็บไซต์ Think With Google เผยแพร่ข้อมูลเชิงลึกและแนวโน้มโดยภาพรวมเป็นประจํา ซึ่งน่าจะช่วยให้เข้าใจวิธีเข้าถึงนักเดินทางอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น คุณตรวจสอบ Google เทรนด์เพื่อดูความสนใจในการค้นหา "โรงแรมที่เปิด" ในภูมิภาคต่างๆ ได้
  • เครื่องจําลองการเสนอราคา หากใช้ค่าคอมมิชชันหรือ CPC คุณสามารถใช้เครื่องจําลองการเสนอราคากับแคมเปญโรงแรมเพื่อประมาณว่าการเปลี่ยนแปลงราคาเสนอจะส่งผลอย่างไรต่อเมตริกประสิทธิภาพ เช่น การแสดงผล จํานวนคลิก และ Conversion
หมายเหตุ: เครื่องจําลองการเสนอราคาใช้ข้อมูลย้อนหลังจาก 7 วันล่าสุด และไม่ได้คาดการณ์ประสิทธิภาพในอนาคต

4. ปรับเปลี่ยนเป้าหมายตามกลุ่มที่เสนอราคาได้

แคมเปญโรงแรมมีมิติข้อมูลการปรับราคาเสนอที่หลากหลาย คุณจึงสามารถเพิ่มประสิทธิภาพเป้าหมายที่สําคัญได้ ไม่ว่าจะใช้ Smart Bidding หรือไม่ก็ตาม กลยุทธ์การเสนอราคาที่รองรับการปรับราคาเสนอสำหรับแคมเปญโรงแรม ได้แก่ ค่าคอมมิชชัน (ต่อ Conversion), ECPC และ CPC

ตัวอย่าง

คุณใช้การปรับราคาเสนอต่อไปนี้ได้โดยขึ้นอยู่กับกรณีการใช้งาน

  • คุณใช้ค่าคอมมิชชัน (ต่อ Conversion) อยู่ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพสําหรับผลตอบแทนจากค่าโฆษณาก่อนการยกเลิกโดยอัตโนมัติ และต้องการหันเหการเข้าชมออกจากการจองที่มีแนวโน้มที่จะยกเลิก คุณสังเกตเห็นว่าการจองของคําว่า "คืนนี้" มีแนวโน้มที่จะยกเลิกน้อยที่สุด ดังนั้นอาจลองตั้งค่าการปรับราคาเสนอเป็นค่าบวกโดยใช้หน้าต่างการจองล่วงหน้าเพื่อคว้าโอกาสนี้ไว้ หรือใช้การปรับราคาเสนอเป็นค่าลบกับกรอบเวลาการจองที่นานขึ้น
  • คุณใช้การเสนอราคา CPC อยู่และสังเกตเห็นว่าขณะที่ผู้ใช้อยู่ที่บ้าน การเข้าชมเปลี่ยนเป็นเข้าชมจากอุปกรณ์เคลื่อนที่อย่างเห็นได้ชัด คุณอาจลองตั้งค่าการปรับราคาเสนอสําหรับประเภทอุปกรณ์ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมนี้
    • ระบบจะพิจารณาการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับการเข้าชมนี้โดยอัตโนมัติเมื่อใช้ Smart Bidding

คุณสามารถประเมินประสิทธิภาพของการปรับราคาเสนอด้วยการแบ่งเมตริกประสิทธิภาพตามมิติข้อมูลการปรับราคาเสนอที่ใช้

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
true
Achieve your advertising goals today!

Attend our Performance Max Masterclass, a livestream workshop session bringing together industry and Google ads PMax experts.

Register now

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
3451139674864926594
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
73067
false
false
false