1. สร้างการกระทำที่ถือเป็น Conversion

การกระทําที่ถือเป็น Conversion คือการกระทําเฉพาะเจาะจงของลูกค้า ซึ่งเป็นการกระทำที่คุณกําหนดไว้ว่ามีคุณค่าต่อธุรกิจ เช่น การซื้อออนไลน์หรือการโทร การติดตามการกระทำที่ถือเป็น Conversion ช่วยให้คุณเห็นว่าโฆษณานำไปสู่การกระทำที่สำคัญเหล่านั้นได้อย่างไร

อันดับแรก: สร้างการกระทําที่ถือเป็น Conversion ใหม่

1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google Ads
2. คลิกไอคอนเครื่องมือ ที่มุมขวาบน และคลิก Conversion ในส่วน "การวัด"
3. ในสรุป ให้คลิก + การกระทำที่ถือเป็น Conversion ใหม่
4. เลือกเว็บไซต์ แล้วคลิกถัดไป
5. ป้อนโดเมนเว็บไซต์ แล้วคลิกสแกนเพื่อทําสิ่งต่อไปนี้
   • ตรวจดูว่าเว็บไซต์มีแท็ก Google หรือไม่ (หากไม่มี คุณจะเห็นโค้ดแท็ก Google ที่ควรใส่ไว้ในเว็บไซต์) หากยังไม่มีแท็ก Google ก็ให้ตั้งค่า
   • ดูรายการ URL ที่ใช้วัดการกระทําของลูกค้าได้

ถัดไป: เลือกวิธีตั้งค่าการกระทําที่ถือเป็น Conversion

คุณตั้งค่าการกระทำที่ถือเป็น Conversion ได้ 2 วิธีดังนี้

วิธีที่ 1: ตั้งค่า Conversion โดยใช้ URL

ใช้วิธีการนี้หากต้องการติดตามการโหลดหน้าเว็บเป็น Conversion และไม่จําเป็นต้องปรับการตั้งค่าการวัด นี่คือวิธีที่รวดเร็วและง่ายที่สุดในการตั้งค่าการกระทำที่ถือเป็น Conversion

วิธีการ

ใช้วิธีนี้หากนับการดูหน้าเว็บที่เฉพาะเจาะจงเป็น Conversion ได้ และไม่จําเป็นต้องปรับแต่งแท็กด้วยมูลค่า Conversion, รหัสธุรกรรม, พารามิเตอร์ของ Conversion ที่ปรับปรุงแล้ว เช่น อีเมลและหมายเลขโทรศัพท์ หรือพารามิเตอร์ที่กำหนดเองอื่นๆ

1. หากเห็นรายการ URL ที่แนะนํา ให้คลิกยอมรับคําแนะนําเพื่อติดตาม URL ที่แนะนํารายการใดรายการหนึ่งเป็น Conversion
2. หากต้องการเพิ่ม URL ของคุณเอง ให้คลิกเพิ่ม URL
   1. เลือกเป้าหมาย Conversion ซึ่งตรงกับ URL ที่ต้องการติดตามเป็น Conversion มากที่สุด
   2. เลือกตัวเลือกที่ตรงกับ URL มากที่สุด (เช่น www.mydomain.com/home)
      1. URL คือ (เช่น ค่าเริ่มต้น การทำงานแบบตรงทั้งหมด)
      2. URL ขึ้นต้นด้วย (เช่น www.mydomain.com…)
      3. URL มี (เช่น mydomain.com/home…)
   3. ป้อน URL ของหน้า Conversion ในเว็บไซต์ เช่น หน้า "ขอบคุณ" หลังการซื้อ หรือการคลิกที่สมัครรับจดหมายข่าวหรือสมัครใช้บริการ
   4. คลิกเพิ่ม
3. คลิกการตั้งค่าหากต้องการแก้ไขการตั้งค่าสําหรับ URL ที่เพิ่มไว้ ดังนี้
   1. ข้าง "การเพิ่มประสิทธิภาพเป้าหมายและการกระทำ" ให้เลือกเป้าหมายที่จะนับ Conversion จากเมนูแบบเลื่อนลง
   2. คลิกตัวเลือกการเพิ่มประสิทธิภาพการกระทำที่ถือเป็น Conversion เพื่อพิจารณาว่านี่เป็นการดําเนินการหลักสําหรับการเพิ่มประสิทธิภาพการเสนอราคาและการรายงาน หรือการดําเนินการรองที่ใช้สําหรับการสังเกตการณ์
   3. ข้าง "ชื่อ Conversion" ให้ป้อนชื่อของ Conversion ที่ต้องการติดตาม เช่น "สมัครรับจดหมายข่าว" หรือ "ซื้อช่อดอกไม้งานแต่ง" วิธีนี้จะช่วยให้คุณจำการกระทำที่ถือเป็น Conversion นี้ได้ในรายงาน Conversion ในภายหลัง
   4. ข้าง "มูลค่า" ให้เลือกวิธีติดตามมูลค่าของ Conversion แต่ละรายการ
      1. ใช้มูลค่าเดียวกันกับทุก Conversion ป้อนมูลค่าที่ Conversion แต่ละรายการมีต่อธุรกิจของคุณ ค่าเริ่มต้นคือมูลค่าสัมบูรณ์ 1 แต่หากคุณขายสินค้าเพียงประเภทเดียวในราคาเดียวกัน ให้ป้อนค่าเงินบาท
      2. เมื่อตั้งค่าการกระทําที่ถือเป็น Conversion ด้วยเครื่องมือวัด Conversion ในเว็บไซต์แบบไม่ต้องเขียนโค้ด คุณจะไม่สามารถตั้งค่าการติดตามมูลค่าโดยใช้มูลค่าที่ต่างกันได้ ทำได้เพียงเพิ่มการรายงานมูลค่าซึ่งใช้มูลค่าต่างกันลงในการกระทําที่ถือเป็น Conversion ในเว็บไซต์ ซึ่งคุณตั้งค่าไว้โดยใช้ข้อมูลโค้ดเหตุการณ์ Conversion
      3. อย่าใช้มูลค่ากับการกระทำที่ถือเป็น Conversion นี้ (ไม่แนะนำ)
   5. ข้าง "การนับ" ให้เลือกวิธีนับ Conversion เหล่านี้
      1. ทุกครั้ง: การตั้งค่านี้เหมาะสำหรับยอดขาย เมื่อทุก Conversion มีส่วนช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจ
      2. ครั้งเดียว: การตั้งค่านี้เหมาะกับโอกาสในการขาย เช่น แบบฟอร์มลงชื่อสมัครใช้ในเว็บไซต์ ซึ่งในการคลิกโฆษณามีเพียง Conversion เดียวเท่านั้นที่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจ
   6. คลิกกรอบเวลา Conversion การคลิกผ่านจากเมนูแบบเลื่อนลงเพื่อเลือกระยะเวลาที่ต้องการติดตาม Conversion หลังการโต้ตอบกับโฆษณา สําหรับแคมเปญ Search, Shopping และ Display กรอบเวลานี้มีระยะเวลาได้ตั้งแต่ 1 วันไปจนถึง 90 วัน ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรอบเวลา Conversion
   7. คลิกกรอบเวลา Conversion การดูผ่านอย่างมีส่วนร่วมจากเมนูแบบเลื่อนลงเพื่อเลือกระยะเวลาที่ต้องการติดตาม Conversion การดูผ่าน สําหรับแคมเปญ Search, แคมเปญ Shopping และแคมเปญในเครือข่ายดิสเพลย์ กรอบเวลานี้มีระยะเวลาได้ตั้งแต่ 1 วันไปจนถึง 30 วัน
   8. คลิกรูปแบบการระบุแหล่งที่มา รูปแบบการระบุแหล่งที่มาจะช่วยให้คุณเข้าใจประสิทธิภาพการทำงานของโฆษณาได้ดีขึ้น และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพตลอดเส้นทาง Conversion ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรูปแบบการระบุแหล่งที่มา
   9. คลิกบันทึกและต่อไป
4. คลิกบันทึกและต่อไป

หมายเหตุ: หากใช้วิธีนี้ในการตั้งค่า Conversion ด้วย URL คุณจะไม่สามารถใช้ Google Tag Manager เพื่อตั้งค่าแท็ก Conversion ได้ หากใช้ Conversion กับ URL คุณไม่จําเป็นต้องเพิ่มโค้ดเหตุการณ์ Conversion ลงในหน้าเว็บ และจะไม่สามารถตั้งค่า Conversion ที่ปรับปรุงแล้วโดยการแก้ไขโค้ดเหตุการณ์ได้

วิธีที่ 2: ตั้งค่า Conversion ด้วยตนเอง

ใช้วิธีนี้หากต้องการติดตามการคลิกปุ่มหรือลิงก์ หรือหากต้องการปรับแต่งแท็กเหตุการณ์ด้วยการติดตามมูลค่า รหัสธุรกรรม หรือพารามิเตอร์ที่กําหนดเองอื่นๆ

วิธีการ

ใช้วิธีการนี้หากต้องการนับการคลิกปุ่มหรือลิงก์แทนการโหลดหน้าเว็บ หรือหากต้องการปรับแต่งข้อมูล Conversion ที่แท็กรวบรวม เช่น มูลค่า Conversion, รหัสธุรกรรม และพารามิเตอร์ที่กําหนดเองอื่นๆ

1. ไปที่ส่วน "สร้างและติดตั้ง Conversion ด้วยตนเอง (ขั้นสูง)" แล้วคลิก + สร้าง Conversion
2. ข้าง "การเพิ่มประสิทธิภาพเป้าหมายและการกระทำ" ให้เลือกเป้าหมายที่จะนับ Conversion จากเมนูแบบเลื่อนลง
3. คลิกตัวเลือกการเพิ่มประสิทธิภาพการกระทำที่ถือเป็น Conversion เพื่อพิจารณาว่านี่เป็นการดําเนินการหลักสําหรับการเพิ่มประสิทธิภาพการเสนอราคาและการรายงาน หรือการดําเนินการรองที่ใช้สําหรับการสังเกตการณ์
4. ข้าง "ชื่อ Conversion" ให้ป้อนชื่อของ Conversion ที่ต้องการติดตาม เช่น "สมัครรับจดหมายข่าว" หรือ "ซื้อช่อดอกไม้งานแต่ง" วิธีนี้จะช่วยให้คุณจำการกระทำที่ถือเป็น Conversion นี้ได้ในรายงาน Conversion ในภายหลัง
5. ข้าง "เป้าหมาย" ให้เลือกการกระทําที่ต้องการติดตาม เป้าหมายคือ Conversion ที่ต้องการเพิ่มจํานวนสูงสุดด้วยการเปิดตัวแคมเปญ คุณจะใช้หมวดหมู่เหล่านี้เพื่อจัดระเบียบและแบ่งกลุ่มรายงานแคมเปญได้
6. ข้าง "มูลค่า" ให้เลือกวิธีติดตามมูลค่าของ Conversion แต่ละรายการ
   1. ใช้มูลค่าเดียวกันกับทุก Conversion: ป้อนมูลค่าที่ Conversion แต่ละรายการมีต่อธุรกิจ
   2. ใช้มูลค่าต่างกันสำหรับ Conversion แต่ละรายการ: ใช้ตัวเลือกนี้ในกรณี เช่น คุณติดตามการซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีหลายราคา เมื่อเพิ่มแท็กเครื่องมือวัด Conversion ในภายหลัง คุณจะต้องปรับแต่งแท็กเพื่อติดตามมูลค่าเฉพาะธุรกรรม
   3. อย่าใช้มูลค่ากับการกระทำที่ถือเป็น Conversion นี้ (ไม่แนะนำ)
7. ข้าง "การนับ" ให้เลือกวิธีนับ Conversion เหล่านี้
   1. ครั้งเดียว: การตั้งค่านี้เหมาะกับโอกาสในการขาย เช่น แบบฟอร์มลงชื่อสมัครใช้ในเว็บไซต์ ซึ่งในการคลิกโฆษณามีเพียง Conversion เดียวเท่านั้นที่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจ
   2. ทุกครั้ง: การตั้งค่านี้เหมาะสำหรับยอดขาย เมื่อทุก Conversion มีส่วนช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจ
8. คลิกกรอบเวลา Conversion การคลิกผ่าน เลือกจากเมนูแบบเลื่อนลงว่าคุณต้องการติดตาม Conversion เป็นระยะเวลาเท่าใดหลังจากมีการโต้ตอบกับโฆษณา สําหรับแคมเปญ Search, Shopping และ Display กรอบเวลานี้มีระยะเวลาได้ตั้งแต่ 1 วันไปจนถึง 90 วัน ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรอบเวลา Conversion
9. คลิกกรอบเวลา Conversion การดูผ่านอย่างมีส่วนร่วม เลือกระยะเวลาที่ต้องการติดตาม Conversion การดูผ่านจากเมนูแบบเลื่อนลง สําหรับแคมเปญ Search, แคมเปญ Shopping และแคมเปญในเครือข่ายดิสเพลย์ กรอบเวลานี้มีระยะเวลาได้ตั้งแต่ 1 วันไปจนถึง 30 วัน
10. คลิกรูปแบบการระบุแหล่งที่มา รูปแบบการระบุแหล่งที่มาจะช่วยให้คุณเข้าใจประสิทธิภาพการทำงานของโฆษณาได้ดีขึ้น และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพตลอดเส้นทาง Conversion ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรูปแบบการระบุแหล่งที่มา
11. คลิกบันทึกและต่อไป

หมายเหตุ: การกระทำที่ถือเป็น Conversion นี้จะใช้กับแคมเปญในบัญชีโดยค่าเริ่มต้น ตราบใดที่มีการกําหนดเป้าหมาย Conversion เป็นเป้าหมายเริ่มต้นของบัญชีและตั้งค่าการกระทําที่ถือเป็น Conversion เป็น "หลัก"