สร้างแคมเปญในพื้นที่
แคมเปญในพื้นที่ช่วยให้เชื่อมต่อการโฆษณาออนไลน์กับหน้าร้านของคุณได้ คุณโปรโมตร้านค้าบนผลการค้นหาของ Google แผนที่ YouTube และเว็บไซต์อื่น ๆ ได้
ก่อนตั้งค่าแคมเปญในพื้นที่ คุณต้องสร้างGoogle My Business และมีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดของการได้รับสิทธิ์สำหรับ Conversion การเข้าชมร้านค้า เฉพาะบัญชีที่มีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดเท่านั้นที่จะเห็นตัวเลือกการสร้างแคมเปญในพื้นที่ แคมเปญควรทำงานอย่างน้อย 30 วันและกำหนดเป้าหมายไปยังสถานที่ตั้ง 10 แห่งขึ้นไปต่อบัญชี (อาจกระจายไปยังหลายแคมเปญก็ได้)
เรียนรู้วิธีเพิ่มประสิทธิภาพออฟไลน์ด้วยแคมเปญในพื้นที่
ใช้กลุ่มสถานที่ตั้งเพื่อให้จัดการการกำหนดเป้าหมายได้ง่ายขึ้น
วิธีการ
1. สร้างแคมเปญในพื้นที่
ขั้นตอนการสร้างแคมเปญในพื้นที่
- ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google Ads
- คลิกแคมเปญจากเมนูหน้าเว็บทางด้านซ้าย
- คลิกไอคอนเครื่องหมายบวก
และเลือกแคมเปญใหม่
- ให้เลือกการเข้าชมร้านค้าและโปรโมชันในพื้นที่ในหน้าต่าง "แคมเปญใหม่"
- โปรดทราบว่าคุณต้องสร้าง Google My Business และต้องมีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดของการได้รับสิทธิ์สำหรับ Conversion การเข้าชมร้านค้าก่อนจึงจะเห็นตัวเลือกนี้
- ในแผงควบคุมถัดไป คุณจะเลือกใช้ Google My Business เพื่อเลือกตำแหน่งร้านค้า หรือใช้สถานที่ตั้งของแอฟฟิลิเอตเพื่อเลือกร้านค้าที่ขายผลิตภัณฑ์ของคุณอยู่ก็ได้ คลิกปุ่มตัวเลือกข้างๆ ตัวเลือกที่ต้องการเลือก
- สำหรับ Google My Business คุณจะเลือกสถานที่ตั้งทั้งหมดในบัญชีเพื่อใช้กับแคมเปญในพื้นที่ได้โดยเลือก "ใช้สถานที่ตั้งทุกแห่งในบัญชี Google My Business ที่ลิงก์" หรือจะยกเลิกการเลือกช่องนี้เพื่อเลือกชุดย่อยที่เจาะจงของสถานที่ตั้งก็ได้เช่นกัน คลิกใช้กลุ่มสถานที่ตั้งเพื่อใช้กลุ่มที่มีอยู่ หรือ "สร้างกลุ่มสถานที่ตั้งใหม่" เพื่อรวบรวมและตั้งชื่อชุดสถานที่ตั้งด้วยตนเอง ระบบจะใช้ชุดสถานที่ตั้งดังกล่าวกับแคมเปญ และบันทึกเป็นกลุ่มสถานที่ตั้งที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลุ่มสถานที่ตั้ง
- เลือกกลุ่มสถานที่ตั้งที่มีอยู่แล้วหรือสร้างใหม่สำหรับ "สถานที่ตั้งของแอฟฟิลิเอต" หากต้องการสร้างกลุ่มที่มีสถานที่ตั้งทั้งหมดภายในเชน ให้ใช้เลือกตามเชน (หมายเหตุ อาจใช้เวลา 2-3 นาทีในการซิงค์หลังจากที่บันทึกแล้ว) หากต้องการสร้างกลุ่มที่มีชุดย่อยของสถานที่ตั้งจากเชน ให้ใช้เลือกตามสถานที่แบบเจาะจง
- โปรดทราบว่าการกำหนดเป้าหมายตามขอบเขตพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ขึ้นอยู่กับที่ตั้งจริงของธุรกิจซึ่งระบุไว้สำหรับแคมเปญของคุณ โดยคุณจะยกเว้นตำแหน่งทางภูมิศาสตร์จากแคมเปญได้หากต้องการ
- คลิกต่อไป
2. เลือกการตั้งค่าแคมเปญในพื้นที่
ขั้นตอนการเลือกการตั้งค่าแคมเปญ
- ป้อนชื่อให้กับแคมเปญในช่อง "ชื่อแคมเปญ"
- กรอกเนื้อหาข้อความของโฆษณา ซึ่งได้แก่
- บรรทัดแรก: จำเป็น มีได้สูงสุด 5 รายการ จำกัดอักขระที่ 30 ตัว
- ป้อนข้อความสูงสุด 5 บรรทัดเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้มีโอกาสเป็นผู้ซื้อ ทำให้บรรทัดแรกแต่ละบรรทัดสมบูรณ์ในตัวเองและเป็นอิสระจากกันเพื่อให้ได้ผลดีที่สุด
- คำอธิบาย: จำเป็น มีได้สูงสุด 5 รายการ จำกัดอักขระที่ 60 ตัว
- ป้อนข้อความสูงสุด 5 บรรทัดที่สรุปข้อเสนอของคุณ
- คำกระตุ้นการตัดสินใจ: จำเป็น มีได้สูงสุด 5 รายการ จำกัดอักขระที่ 11 ตัว
- ป้อนข้อความสูงสุด 5 บรรทัดเพื่อบอกให้ผู้ใช้ทราบวิธีโต้ตอบกับธุรกิจของคุณ
- URL สุดท้าย: จำเป็น ต้องป้อน URL ที่ถูกต้อง
- ป้อน URL ที่คุณต้องการให้โฆษณานำผู้ใช้ไป
- เส้นทางที่แสดง: ไม่บังคับ ระบุได้ 2 เส้นทาง
- ป้อนข้อความสูงสุด 2 บรรทัดเพื่อแสดง URL ที่สมบูรณ์ที่ผู้ใช้จะเห็นในโฆษณา โดเมนต้องเหมือนกับ URL สุดท้าย หากปล่อยว่างไว้ Google Ads จะใช้ URL สุดท้ายเป็น URL ที่แสดง
- URL สุดท้ายในอุปกรณ์เคลื่อนที่: ไม่บังคับ ต้องสร้าง URL ที่ถูกต้อง
- ป้อน URL ที่ต้องการนำผู้ใช้ไป พิจารณาดูว่าเว็บไซต์เป้าหมายเหมาะกับอุปกรณ์เคลื่อนที่ไหม
- คลิกช่องรูปภาพและโลโก้เพื่อค้นหาและอัปโหลดรูปภาพไว้ใช้ในโฆษณา
- แคมเปญต้องมีรูปภาพอย่างน้อย 1 ภาพที่มีอัตราส่วน 1.91:1 และโลโก้อย่างน้อย 1 ภาพที่มีอัตราส่วน 1:1 จึงจะแสดงได้
- เรายอมรับรูปภาพและโลโก้ขนาดต่อไปนี้ (สูงสุดรายการละ 20 ภาพต่อแคมเปญ)
- รูปภาพอัตราส่วน 1.91:1
- ขนาดต่ำสุด 600x314
- ขนาดไฟล์สูงสุด 5 MB
- รูปภาพอัตราส่วน 1:1
- ขนาดต่ำสุด 314x314
- ขนาดไฟล์สูงสุด 5 MB
- โลโก้อัตราส่วน 1:1
- ขนาดต่ำสุด 116x116
- ขนาดไฟล์สูงสุด 5 MB
- รูปภาพอัตราส่วน 1.91:1
- คุณครอบตัดรูปภาพให้พอดีกับความละเอียด 1:1 หรือ 1.91:1 ได้ รูปแบบที่ยอมรับคือ jpg, png
- วิดีโอ: จำเป็น ต้องยาวอย่างน้อย 10 วินาที
- ป้อน URL ของ YouTube ที่ถูกต้อง
- บรรทัดแรก: จำเป็น มีได้สูงสุด 5 รายการ จำกัดอักขระที่ 30 ตัว
- ป้อนข้อมูลสำหรับการตั้งค่าต่อไปนี้
- ภาษา: ภาษาที่มีสิทธิ์ซึ่งคุณต้องการให้โฆษณากำหนดเป้าหมาย
- การเสนอราคา: กลยุทธ์การเสนอราคาเริ่มต้นคือการเพิ่มมูลค่า Conversion สูงสุด ซึ่งจะช่วยเพิ่มจำนวนการเข้าชมร้านค้าให้ได้มากที่สุดภายในงบประมาณรายวันของคุณโดยอัตโนมัติ
- งบประมาณรายวัน: จำนวนเงินที่คุณยินดีจ่ายต่อวันในแคมเปญโฆษณา ติดต่อผู้จัดการฝ่ายดูแลลูกค้าเพื่อขอคำแนะนำเรื่องงบประมาณ
- การตั้งค่าเพิ่มเติม: ส่วนที่ขยายได้ซึ่งคุณจะใส่การติดตามหรือ URL ในอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่เฉพาะเจาะจงได้
- คลิกบันทึกและต่อไปที่ด้านล่าง
- ขณะนี้แคมเปญของคุณพร้อมทำงานแล้ว ในหน้าถัดไป คุณจะตรวจสอบการตั้งค่าของแคมเปญได้ คลิกเนื้อหาโฆษณาเพื่อตรวจสอบข้อความและรูปภาพที่กำหนดไว้ให้โฆษณา
ขั้นตอนการเชื่อมต่อฟีดผลิตภัณฑ์ในพื้นที่
คุณเชื่อมต่อแคมเปญในพื้นที่กับพื้นที่โฆษณาของผลิตภัณฑ์และบริการที่มีอยู่ในแต่ละสถานที่ได้อย่างราบรื่น ขั้นตอนด้านล่างนี้แสดงวิธีเพิ่มฟีดผลิตภัณฑ์ในพื้นที่ลงในแคมเปญ แต่ก่อนอื่น คุณจะต้องสร้างฟีดผลิตภัณฑ์ในพื้นที่ในส่วน "ข้อมูลธุรกิจ" ของบัญชี
- สร้างแคมเปญในพื้นที่ตามวิธีการข้างต้น
- เลื่อนไปที่ด้านล่างของการตั้งค่าแล้วขยายแสดงการตั้งค่าเพิ่มเติม
- ขยาย "ฟีดผลิตภัณฑ์" เลือกช่องใช้ฟีดผลิตภัณฑ์สำหรับแคมเปญนี้
- เลือกแหล่งที่มาของฟีด
- Google Ads (ฟีดผลิตภัณฑ์ในพื้นที่): เลือกฟีดผลิตภัณฑ์ในพื้นที่ที่สร้างใน "ข้อมูลธุรกิจ"
3. สร้างกลุ่มโฆษณาเพิ่มเติม
หากมีไฟล์เนื้อหาโฆษณามากกว่า 1 ชุด คุณจะสร้างกลุ่มโฆษณาหลายกลุ่มได้ วิธีนี้ทำงานได้ดีกับไฟล์เนื้อหาที่แสดงถึงธีมครีเอทีฟโฆษณาที่แตกต่างกัน หรือที่ควรทำงานในกำหนดการที่เฉพาะเจาะจง เมื่อสร้างแคมเปญในพื้นที่แล้ว คุณจะเพิ่มกลุ่มโฆษณาได้อีก
ขั้นตอนการสร้างกลุ่มโฆษณา
- คลิกแคมเปญในเมนูหน้าเว็บเพื่อดูรายการแคมเปญ Google Ads ทั้งหมดของคุณ
- ในรายการนี้ ให้คลิกชื่อแคมเปญในพื้นที่เพื่อดูภาพรวม
- คลิกกลุ่มโฆษณา
- คลิกไอคอนเครื่องหมายบวก
เพื่อสร้างกลุ่มโฆษณาใหม่
- กรอกข้อมูลเนื้อหาทั้งหมด (ดูรายละเอียดด้านบน)
- คลิกบันทึกและต่อไปที่ด้านล่าง
คุณเลือกตั้งเวลากลุ่มโฆษณาให้หยุดชั่วคราวหรือเปิดใช้ตามเวลาที่ต้องการได้ ดูรายละเอียดได้ที่ตั้งค่ากฎอัตโนมัติ
4. การเพิ่มประสิทธิภาพการเสนอราคา
แคมเปญในพื้นที่ใช้กลยุทธ์การเสนอราคาแบบเพิ่มมูลค่า Conversion สูงสุด ซึ่งจะช่วยเพิ่มจำนวนการเข้าชมร้านค้าที่แคมเปญนำมาให้ให้ได้มากที่สุดภายในงบประมาณรายวันโดยอัตโนมัติ
แคมเปญในพื้นที่จะรายงาน Conversion เป็นจำนวนรวมรายการเดียวทั่วทั้งแชแนลเหล่านี้ ดูรายงานต่อร้านค้า เพื่อดู Conversion การเข้าชมร้านค้าและ Conversion การกระทำในพื้นที่รายการอื่นๆ ที่จัดหมวดหมู่ตามสถานที่ตั้ง
หากต้องการดูมูลค่า Conversion ทั้งหมดที่แคมเปญนำมาให้ ให้กำหนดค่าสำหรับการกระทำที่ถือเป็น Conversion การเข้าชมร้านค้า ทั้งนี้ค่าเริ่มต้นจะอยู่ที่ $1 แต่คุณเปลี่ยนแปลงได้ภายใน "Conversion" ในเมนู "เครื่องมือ"
5. แก้ไขการตั้งค่าการกระทำที่ถือเป็น Conversion การเข้าชมร้านค้า
ขั้นตอนการแก้ไขการกระทำที่ถือเป็น Conversion
- ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google Ads
- คลิกไอคอนเครื่องมือ
ที่มุมขวาบนของบัญชี
- คลิก Conversion ใต้ "การวัด"
- ค้นหาการกระทำที่ถือเป็น Conversion การเข้าชมร้านค้าที่คุณต้องการแก้ไขจากรายการ แล้วคลิกชื่อการกระทำดังกล่าว คุณจะเห็นการตั้งค่าสำหรับการกระทำที่ถือเป็น Conversion นั้น
- คลิกแก้ไขการตั้งค่า
- คลิกการตั้งค่า ทำการเปลี่ยนแปลง แล้วคลิกบันทึก ทำขั้นตอนนี้ซ้ำกับการตั้งค่าที่เหลือทั้งหมดที่คุณต้องแก้ไข
คลิก Conversion เพื่อใช้การตั้งค่า "กรอบเวลา Conversion" คลิก Conversion การดูผ่านเพื่อใช้การตั้งค่า "กรอบเวลา Conversion การดูผ่าน" - คลิกเสร็จ