แคมเปญ Performance Max สําหรับเป้าหมายของร้านค้าได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ธุรกิจแสดงข้อมูลที่ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าต้องใช้ในการตัดสินใจว่าจะเข้าชมร้านค้าเมื่อใดและเดินทางไปอย่างไร แคมเปญประเภทนี้จะช่วยปรับปรุงกระบวนการโปรโมตร้านค้าในผลิตภัณฑ์และบริการที่ครอบคลุมที่สุดของ Google ไม่ว่าจะเป็นเครือข่าย Search ของ Google, Maps, YouTube, Gmail และเครือข่าย Display ของ Google ให้ง่ายขึ้น เพิ่มข้อความไม่กี่บรรทัด ชิ้นงานครีเอทีฟโฆษณา และงบประมาณ แล้วระบบจะเพิ่มประสิทธิภาพส่วนที่เหลือเพื่อช่วยให้ลูกค้าค้นพบคุณให้เอง
สําหรับคําบรรยายในภาษาของคุณ ให้เปิดคำบรรยายวิดีโอใน YouTube เลือกไอคอนการตั้งค่า ท้ายวิดีโอเพลเยอร์ จากนั้นเลือก "คําบรรยาย" แล้วเลือกภาษา
ลักษณะการทำงาน
เมื่อสร้างแคมเปญ Performance Max สําหรับเป้าหมายของร้านค้า คุณจะต้องระบุสถานที่ตั้งของร้านที่ต้องการโปรโมต ซึ่งตั้งค่าได้โดยลิงก์ Business Profile หรือเลือกสถานที่ตั้งของแอฟฟิลิเอต
แคมเปญ Performance Max สําหรับเป้าหมายของร้านค้ามุ่งเน้นที่ความเรียบง่ายและการขยายเป้าหมายทางธุรกิจออฟไลน์ เพียงแค่ระบุตำแหน่งร้าน งบประมาณแคมเปญ และเนื้อหาโฆษณาให้เรา AI ของ Google จะใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพราคาเสนอ ตําแหน่งโฆษณา และกลุ่มชิ้นงานแบบผสม แคมเปญนี้มีมุ่งเน้นการเพิ่มมูลค่าและ Conversion ในร้านให้สูงสุด (โดยใช้การเข้าชมร้านค้า ยอดขายในร้าน การคลิกเพื่อโทร หรือการคลิกขอเส้นทาง) รวมถึงโปรโมตสถานที่ตั้งของคุณในผลิตภัณฑ์ บริการ และเครือข่ายต่างๆ ของ Google
นอกจากนี้แคมเปญ Performance Max สําหรับเป้าหมายของร้านค้ายังใช้การกำหนดเป้าหมายตามขอบเขตพื้นที่สําหรับตำแหน่งใน Business Profile และชิ้นงานในพื้นที่ของแอฟฟิลิเอต (ALA) ด้วย รัศมีอาจแตกต่างกันไปตามสถานที่เป้าหมายและค่ากําหนดของระยะทางในการเดินทางของผู้ใช้ ปัจจัยอื่นๆ ที่กําหนดรัศมีเป้าหมาย ได้แก่ ประเภทธุรกิจ ความหนาแน่นของประชากร และคู่แข่งที่มีอยู่
ตำแหน่งที่โฆษณาปรากฏได้
โฆษณาของคุณจะมีสิทธิ์แสดงในผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ของ Google ไม่ว่าจะเป็นเครือข่าย Search ของ Google, เครือข่าย Display ของ Google, Google Maps, Gmail และ YouTube ตัวอย่างตำแหน่งที่โฆษณาแสดงได้มีดังนี้
Google Maps
แคมเปญ Performance Max สําหรับเป้าหมายของร้านค้าช่วยให้คุณดึงดูดลูกค้าในขณะที่ลูกค้ากําลังวางแผนการเข้าชมปลายทางต่างๆ ในตัวอย่างข้างต้น รูปภาพที่ 3 ช่วยให้เห็นวิธีที่โฆษณาแบบนําทางแสดงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณสําหรับสิ่งที่ลูกค้าอาจจำเป็นต้องมี ต้องการ หรือสนใจ
เมื่อลูกค้าค้นหาธุรกิจหรือสำรวจพื้นที่ใกล้เคียงภายใน Google Maps นั้น Google ก็จะจับคู่การกระทำเหล่านี้กับที่ตั้งธุรกิจของคุณ ใครก็ตามที่ใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่ซึ่งอาศัยอยู่ใกล้หรือสนใจในที่ตั้งธุรกิจของคุณก็อาจจะได้เห็นโฆษณา
Google สามารถแสดงโฆษณาในผลการค้นหาของ Maps เมื่อผู้ใช้ค้นหาธุรกิจ เช่น "เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง" หรือ "ร้านขายยา" ในอุปกรณ์เคลื่อนที่ โฆษณาแนะนําอัตโนมัติช่วยให้คุณแสดงข้อเสนอได้ก่อนที่การค้นหาจะสมบูรณ์ด้วยการแสดงสถานที่ที่แสดงโฆษณาที่แนะนําในการค้นหาที่มีการเติมข้อความอัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น หากผู้ใช้จะพิมพ์ "ภาพยนตร์" และป้อนอักขระ 3 ตัวแรก ("ภ-า-พ") โฆษณาของโรงภาพยนตร์สาขาที่ใกล้ผู้ใช้จากผู้ลงโฆษณาอาจแสดงในการแนะนำ
เครือข่าย Search ของ Google
|
Google จับคู่โฆษณากับข้อความค้นหาที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจและตำแหน่งที่ตั้งของธุรกิจในรูปแบบซึ่งเน้นร้านค้าเป็นหลัก 2 รูปแบบบน Google.com
YouTube
Google Ads แสดงโฆษณาใน YouTube ได้ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่โฆษณามีโอกาสดึงดูดลูกค้าในร้านค้าเป้าหมายมากที่สุด
เครือข่ายดิสเพลย์ของ Google
โฆษณาจะมีสิทธิ์แสดงในตำแหน่งที่เกี่ยวข้องมากที่สุดบนเครือข่าย Display ของ Google โดย Google Ads จะเพิ่มประสิทธิภาพตําแหน่งที่โฆษณาของคุณแสดงเพื่อช่วยให้ร้านค้าและผลิตภัณฑ์ของคุณได้รับความสนใจมากที่สุด
Business Profile
แคมเปญ Performance Max สําหรับเป้าหมายของร้านค้าจะช่วยให้คุณใช้ประโยชน์จากหน้า Business Profile ได้เพื่อไฮไลต์ผลิตภัณฑ์และข้อเสนอพิเศษในร้านค้าให้แก่ลูกค้า รวมถึงข้อมูลสถานที่ตั้งเพื่อดึงดูดผู้ใช้ให้มาเข้าชม
Gmail
แคมเปญ Performance Max สําหรับเป้าหมายของร้านค้าสามารถเข้าถึงผู้ใช้ใน Gmail ในแพลตฟอร์มต่างๆ บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้
เริ่มต้นใช้งานโดยดูวิธีสร้างแคมเปญ Performance Max สําหรับเป้าหมายของร้านค้า