วิธีการนำ ValueTrack ไปใช้

คุณสามารถใช้ ValueTrack เพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประสิทธิภาพโฆษณาโดยขึ้นอยู่กับเป้าหมายการโฆษณาของคุณ เช่น เพื่อดูว่าโฆษณาได้รับการเข้าชมมากที่สุดที่ใด หรือโฆษณาและคีย์เวิร์ดใดได้รับคลิกมากที่สุด บทความนี้จะแสดงตัวอย่างบางส่วนของวิธีที่คุณสามารถใช้ ValueTrack

ทางเลือกของคุณไม่ได้จำกัดเพียงแค่สถานการณ์ด้านล่างเท่านั้น คุณสามารถใช้พารามิเตอร์ ValueTrack ที่แสดงในบทความนี้ผสมผสานกันอย่างไรก็ได้เพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโฆษณา

ตัวอย่างที่ 1: เครือข่าย

เป้าหมาย

คุณต้องการทราบว่าการเข้าชมจากโฆษณามาจากเครือข่าย Search ของ Google มากเท่าใดเมื่อเทียบกับเครือข่าย Display ของ Google

พารามิเตอร์ ValueTrack ที่ใช้ได้

ValueTrack ทำให้คุณสามารถกำหนด URL ติดตามผลได้ 2 รายการต่อคีย์เวิร์ด ดังนี้ {ifsearch:[value]} สำหรับการค้นหา และ {ifcontent:[value]} สำหรับดิสเพลย์

ตัวอย่างเทมเพลตการติดตาม

เนื่องจากโฆษณาจะเรียกใช้ได้เพียงพารามิเตอร์เดียวเท่านั้น ดังนั้นจะมีเพียงค่าเดียวปรากฏในข้อมูลของคุณ คุณไม่จำเป็นต้องใส่เครื่องหมาย & ระหว่างพารามิเตอร์ URL 2 ตัว พารามิเตอร์ URL จะมีลักษณะดังนี้: {ifsearch:[value]}{ifcontent:[value]}

ในตัวอย่าง เราแทนที่ [value] ด้วย "Search Network" สำหรับเงื่อนไข ifsearch และ "Display Nework" สำหรับเงื่อนไข ifcontent และเราใช้ป้ายกำกับ "source" URL ของ ValueTrack ที่ได้จะมีลักษณะดังนี้
{lpurl}?tracking={ifsearch:1234}{ifcontent:5678}

ตัวอย่างข้อมูล

ValueTrack จะอัปเดต URL ของคุณด้วยข้อมูลเกี่ยวกับเครือข่ายที่โฆษณาของคุณแสดง

สำหรับการคลิกจากเครือข่าย Search คุณจะเห็น
http://www.example.com/?tracking=1234
สำหรับการคลิกจากเครือข่าย Display คุณจะเห็น
http://www.example.com/?tracking=5678

ตัวอย่างที่ 2: คีย์เวิร์ดและประเภทการทำงาน

เป้าหมาย

คุณต้องการดูว่าคีย์เวิร์ดคำใดเรียกโฆษณาที่ลูกค้าคลิก รวมถึงประเภทการทำงานของคีย์เวิร์ดดังกล่าวด้วย

พารามิเตอร์ ValueTrack ที่ใช้ได้

แคมเปญในเครือข่าย Search: พารามิเตอร์ {keyword} จะแสดงคีย์เวิร์ดเฉพาะเจาะจงที่เรียกให้โฆษณาแสดง

แคมเปญในเครือข่าย Display: พารามิเตอร์ {keyword} จะแสดงคีย์เวิร์ดที่ตรงที่สุด เนื่องจากการกำหนดเป้าหมายในเครือข่าย Display จะทำที่ระดับกลุ่มโฆษณา

พารามิเตอร์ {matchtype} จะบันทึกประเภทการทำงานของคีย์เวิร์ดที่ทำให้เกิดการคลิกโฆษณา ("b" สำหรับการทำงานแบบกว้างหรือแบบกว้างที่ปรับแล้ว, "p" สำหรับการทำงานแบบวลี หรือ "e" สำหรับการทำงานแบบตรงทั้งหมด)

ตัวอย่างเทมเพลตการติดตาม

เทมเพลตการติดตามที่ได้จะมีลักษณะดังนี้
{lpurl}?keyword={keyword}&matchtype={matchtype}

ตัวอย่างข้อมูล

ValueTrack จะอัปเดต URL ของหน้า Landing Page ของคุณด้วยคีย์เวิร์ดและประเภทการทำงานจริง
http://www.example.com/?keyword=socks&matchtype=e
http://www.example.com/?keyword=pink%20socks&matchtype=p

ตัวอย่างที่ 3: โฆษณา

เป้าหมาย

คุณต้องการดูโฆษณาเฉพาะเจาะจงที่แสดงและได้รับคลิก

พารามิเตอร์ ValueTrack ที่ใช้ได้

พารามิเตอร์ {creative} จะบันทึกรหัสโฆษณาของโฆษณาที่ได้แสดง

ตัวอย่างเทมเพลตการติดตาม

เทมเพลตการติดตามที่ได้จะมีลักษณะดังนี้
{lpurl}?creative={creative}

ตัวอย่างข้อมูล

ValueTrack จะอัปเดต URL ของหน้า Landing Page ของคุณด้วยรหัสโฆษณาของโฆษณานั้น
http://www.example.com/?creative=599041118

ตัวอย่างที่ 4: ตำแหน่ง

เป้าหมาย

คุณต้องการดูว่าโฆษณาแสดงในหมวดหมู่ใดสำหรับแคมเปญที่กำหนดเป้าหมายจากตำแหน่ง

พารามิเตอร์ ValueTrack ที่ใช้ได้

สำหรับแคมเปญที่กำหนดเป้าหมายจากตำแหน่ง พารามิเตอร์ {placement} จะบันทึกเกณฑ์การกำหนดเป้าหมายจากตำแหน่งที่ตรงสำหรับเว็บไซต์ที่แสดงโฆษณาของคุณ (เช่น example.com/homepage.html) กล่าวคือ เราจะบันทึกตำแหน่งใดก็ตามที่คุณเลือกกำหนดเป้าหมาย แทนที่จะเป็น URL เต็มของเว็บไซต์ที่แสดงโฆษณา

พารามิเตอร์ {target} จะบันทึกหมวดหมู่ตำแหน่งที่ทำให้เกิดการคลิก

ตัวอย่างเทมเพลตการติดตาม

เทมเพลตการติดตามที่ได้จะมีลักษณะดังนี้
{lpurl}?target={target}&placement={placement}

ตัวอย่างข้อมูล

ValueTrack จะอัปเดต URL ของหน้า Landing Page ของคุณด้วยตำแหน่งและหมวดหมู่ตำแหน่ง
http://www.example.com/?target=%2Fentertainment%2Fcelebrities&placement=gmail.com

ตัวอย่างที่ 5: อุปกรณ์

เป้าหมาย

คุณต้องการดูอุปกรณ์ที่แสดงโฆษณาของคุณ

พารามิเตอร์ ValueTrack ที่ใช้ได้

ระบบจะแทนที่พารามิเตอร์ {device} ด้วย "m" ถ้าโฆษณาของคุณปรากฏบนมือถือ "t" ถ้าปรากฏบนแท็บเล็ต หรือ "c" ถ้าปรากฏบนคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปหรือแล็ปท็อป

ตัวอย่างเทมเพลตการติดตาม

เทมเพลตการติดตามที่ได้จะมีลักษณะดังนี้
{lpurl}?device={device}

ตัวอย่างข้อมูล

ValueTrack จะอัปเดต URL ของหน้า Landing Page ของคุณด้วยข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่โฆษณาปรากฏ

สำหรับการคลิกจากมือถือ คุณจะเห็น
http://www.example.com/?device=m

สำหรับการคลิกจากแท็บเล็ต คุณจะเห็น
http://www.example.com/?device=t

สำหรับการคลิกจากคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปหรือแล็ปท็อป คุณจะเห็น
http://www.example.com/?device=c

ตัวอย่างที่ 6: Ifmobile และ Ifnotmobile

เป้าหมาย

คุณต้องการต่อท้าย URL ด้วยค่าที่แตกต่างกันโดยขึ้นอยู่กับว่าโฆษณาของคุณปรากฏในอุปกรณ์ใด

พารามิเตอร์ ValueTrack ที่ใช้ได้

ระบบจะแทนที่พารามิเตอร์ {ifmobile:[value]} ด้วย [value] ถ้าโฆษณาแสดงบนมือถือ

ระบบจะแทนที่พารามิเตอร์ {ifnotmobile:[value]} ด้วย [value] ถ้าโฆษณาแสดงบนแท็บเล็ตหรือบนคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปและแล็ปท็อป

ตัวอย่างเทมเพลตการติดตาม

สมมติว่าคุณติดตามประสิทธิภาพตามอุปกรณ์โดยใช้รหัสภายในของคุณเอง สำหรับคีย์เวิร์ด "วิดเจ็ต" คุณมีรหัสภายใน "1212" สำหรับมือถือ และ "3434" สำหรับแท็บเล็ตและคอมพิวเตอร์ เทมเพลตการติดตามที่ได้จะมีลักษณะดังนี้
{lpurl}?myid={ifmobile:1212}{ifnotmobile:3434}

ตัวอย่างข้อมูล

ValueTrack จะอัปเดต URL ของหน้า Landing Page ของคุณด้วยข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่โฆษณาปรากฏ

สำหรับการคลิกจากมือถือ คุณจะเห็น
http://www.example.com/?myid=1212

สำหรับการคลิกจากแท็บเล็ตหรือคอมพิวเตอร์ คุณจะเห็น
http://www.example.com/?myid=3434

ตัวอย่างที่ 7: {lpurl}

เป้าหมาย

คุณต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการติดตามด้วยการกำหนดเทมเพลตการติดตามที่ระดับสูง ตัวอย่างเช่น หากคุณตั้งค่าเทมเพลตการติดตามที่ระดับแคมเปญ เทมเพลตการติดตามจะใช้ร่วมกันในทั้งแคมเปญของคุณ

ตัวอย่างเทมเพลตการติดตาม

สมมติว่าคุณต้องการติดตามการคลิกทั้งหมดที่มาจากแคมเปญ "ppc" เทมเพลตการติดตามที่ได้ (ตั้งค่าที่ระดับแคมเปญ) จะมีลักษณะดังนี้
{lpurl}?source=ppc

ตัวอย่างข้อมูล

ValueTrack จะอัปเดต URL ของหน้า Landing Page ทั้งหมดของโฆษณาของคุณด้วยพารามิเตอร์ URL source=ppc โดยถือว่าคุณไม่ได้กำหนดเทมเพลตการติดตามที่ระดับต่ำกว่าของแคมเปญ (เช่น ระดับโฆษณา)

สำหรับการคลิกใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับแคมเปญนี้ คุณจะเห็น
http://www.example.com/?source=ppc

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
true
Drive Revenue with Optiscore

Want to improve account health and drive business goals? Learn from industry & Google experts on how to drive revenue with the help of Optimization Score & Auto Apply Recommendations.

Register Now

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
5968186809598409891
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
73067
false
false
false