กฎอัตโนมัติช่วยให้คุณทำการเปลี่ยนแปลงในบัญชีได้อัตโนมัติตามการตั้งค่าและเงื่อนไขที่เลือก คุณเปลี่ยนได้ทั้งสถานะโฆษณา งบประมาณ ราคาเสนอ และอื่นๆ อีกมากมาย ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการเพิ่มราคาเสนอระดับคีย์เวิร์ดเมื่อใดก็ตามที่โฆษณาตกจากผลการค้นหาหน้าแรก คุณตั้งกฎสำหรับเหตุการณ์นั้นได้ นอกจากนี้ยังใช้กฎอัตโนมัติเพื่อให้ส่งอีเมลโดยไม่ดำเนินการอย่างอื่นเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ตรงตามเงื่อนไขที่ระบุได้ด้วย
การใช้กฎอัตโนมัติจะช่วยประหยัดเวลาได้ เพราะคุณไม่ต้องตรวจสอบแคมเปญและทำการเปลี่ยนแปลงด้วยตนเองบ่อยๆ
บทความนี้แสดงตัวอย่างวิธีตั้งค่ากฎอัตโนมัติ
หมายเหตุ: เมื่อกำหนดให้กฎทำงานในช่วงเวลาหนึ่งๆ กฎอาจทำงานได้ทุกเมื่อในชั่วโมงถัดจากเวลาที่เลือกไว้ เช่น กฎที่ตั้งไว้เวลา 9:00 น. อาจทํางานเวลาใดก็ได้ระหว่าง 9:00 น. - 10:00 น.
วิธีการ
หมายเหตุ: วิธีการด้านล่างเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ของผู้ใช้ Google Ads ที่ได้รับการออกแบบใหม่ หากต้องการใช้การออกแบบก่อนหน้า ให้คลิกไอคอน "ลักษณะที่ปรากฏ" แล้วเลือกใช้การออกแบบก่อนหน้า หากคุณใช้ Google Ads เวอร์ชันก่อนหน้าอยู่ ให้ดูแผนที่อ้างอิงฉบับย่อ หรือใช้แถบค้นหาในแผงการนำทางด้านบนของ Google Ads เพื่อค้นหาหน้าเว็บที่ต้องการ
ตัวอย่างวิธีสร้างกฎเพื่อเพิ่มงบประมาณของแคมเปญ
- ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนแคมเปญ
- ไปที่หน้าแคมเปญ กลุ่มโฆษณา หรือคีย์เวิร์ดสำหรับโฆษณา Search
- คลิกไอคอน 3 จุด
ด้านบนตารางสถิติ
- เลือกสร้างกฎอัตโนมัติ
- เลือกเปลี่ยนแปลงงบประมาณจากเมนูแบบเลื่อนลง "ประเภทของกฎ"
- เลือกแคมเปญที่จะเปลี่ยนแปลงงบประมาณ (แคมเปญที่เปิดใช้ทั้งหมด แคมเปญที่เปิดใช้และที่หยุดชั่วคราวทั้งหมด หรือเลือกแคมเปญ)
- ในเมนูแบบเลื่อนลง "การกระทํา" ให้เลือกการกระทําที่ต้องการเรียกให้แคมเปญแสดง คุณจะเลือกเพิ่มงบประมาณเป็นเปอร์เซ็นต์หรือจำนวนเงินที่ต้องการก็ได้ หากต้องการรับประกันว่างบประมาณจะไม่เกินจำนวนเงินที่ต้องการในช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงิน ให้กำหนดขีดจำกัดงบประมาณสูงสุด (ไม่บังคับ)
- เลือกเงื่อนไขจากเมนูแบบเลื่อนลง "เลือกเงื่อนไข"
- คลิกเพิ่ม
หมายเหตุ: ทําขั้นตอนที่ 6-9 ซ้ำหากต้องการเพิ่มการกระทำหลายรายการในกฎอัตโนมัติ
- กำหนดความถี่ของกฎ
- เลือกประเภทการอัปเดตข้อมูลทางอีเมลที่ต้องการได้รับเกี่ยวกับปัญหาที่ส่งผลต่อกฎ
- ตั้งชื่อกฎ
- คลิกแสดงตัวอย่างเพื่อดูว่าคุณได้ตั้งค่ากฎให้ทำงานตามที่ต้องการแล้ว การดูตัวอย่างเป็นเพียงการตรวจสอบความถูกต้องเท่านั้นและจะไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงถาวรในบัญชี
- คลิกบันทึกกฎเมื่อทำเสร็จ
ด้านบนตารางสถิติเคล็ดลับทั่วไป
ใช้ขีดจำกัด
- ตั้งขีดจำกัดต่ำสุดและสูงสุดให้กับราคาเสนอและงบประมาณของคุณ เพื่อให้จำนวนทั้งสองไม่มีค่าสูงหรือต่ำเกินไป การเพิ่มราคาเสนออย่างต่อเนื่องอาจทำให้คุณมี CPC ที่สูงเกินความจำเป็น แต่การลดราคาเสนออยู่เรื่อยๆ อาจลดการเข้าชมของคุณอย่างเห็นได้ชัดด้วยเช่นกัน
ใช้ข้อมูลที่มากพอเพื่อทำการตัดสินใจอย่างมีข้อมูล
- เราขอแนะนำให้ใช้กรอบเวลาที่ยาวนานพอหรือเพิ่มข้อกำหนดเพิ่มเติม เช่น "การแสดงผล > X" ลงในกฎของคุณเพื่อให้ระบบเปลี่ยนแปลงโดยมีข้อมูลเพียงพอ
แสดงตัวอย่าง
- ดูตัวอย่างกฎของคุณก่อนทำการบันทึก เพื่อที่คุณจะได้เข้าใจว่ากฎเหล่านั้นมีผลกระทบต่อแคมเปญของคุณอย่างไร คุณอาจกำลังทำการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญและครอบคลุมขอบเขตกว้างขวางในบัญชี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดและการตั้งค่าของคุณ ดังนั้น การตรวจสอบซ้ำจึงถือเป็นเรื่องสำคัญ
ระมัดระวัง
- ลองใช้กฎที่มีความถี่ "1 ครั้ง" เพื่อติดตามดูผลกระทบที่เกิดขึ้นจริง เมื่อพอใจกับการทำงานของกฎแล้ว ให้ตั้งค่าให้กฎทำงานตามกำหนดเวลาที่เกิดซ้ำ (เช่น ทุกวันหรือทุกสัปดาห์)
กำหนดค่ากฎให้เหมาะสมกับธุรกิจ
- ทราบแนวโน้มระหว่างวันและระหว่างสัปดาห์ (เช่น การเข้าชมในช่วงเวลาที่มีการใช้งานสูงสุดหรือวันธรรมดาอาจแตกต่างจากการเข้าชมในช่วงเวลาทั่วไปและสุดสัปดาห์) นอกจากนี้ ให้คำนึงว่าคุณอยู่ห่างจากเป้าหมายมากเพียงใดเมื่อตั้งค่าสัดส่วนการเปลี่ยนแปลง (เช่น เปลี่ยนแปลงทีละน้อยๆ ที่ 5% เมื่อเข้าใกล้เป้าหมาย และเปลี่ยนแปลงทีละ 20% เมื่ออยู่ไกลเป้าหมาย) ปัญหาทั้งหมดเหล่านี้จัดการโดยใช้กฎหลายข้อร่วมกัน
ต้องรอบคอบเมื่อตั้งเวลากฎ 2 ข้อที่มีผลต่อรายการเดียวกัน
- จะเกิดอะไรขึ้นหากคุณตั้งเวลากฎ 2 ข้อซึ่งมีผลต่อรายการเดียวกันให้ทำงานพร้อมกัน กฎจัดลำดับความสำคัญให้ตัวเองไม่ได้ ดังนั้น ถึงแม้ว่าคุณจะมีกฎ 2 ข้อที่ตั้งค่าให้ทำการเปลี่ยนแปลงต่อรายการเดียวกันพร้อมๆ กัน กฎทั้งสองจะยังคงทำงานและทำการเปลี่ยนแปลงที่ระบุกับทุกรายการ เราขอแนะนำว่าอย่าตั้งเวลาให้กฎหลายข้อทำงานพร้อมกันหากกฎดังกล่าวมีผลต่อชุดข้อมูลเดียวกัน หากคุณต้องการมีกฎ 2 ข้อขึ้นไปที่ทำการเปลี่ยนแปลงส่วนเดียวกันของแคมเปญ เราขอแนะนำให้เลือกให้กฎเหล่านั้นทำงานในช่วงเวลาที่ต่างกันของวัน
หากตั้งเวลาให้กฎหลายข้อทำงานในรายการเดียวกันและในเวลาเดียวกัน ระบบของเราจะพยายามเรียกใช้ทั้งหมด แต่อาจมีข้อผิดพลาดจากการพยายามทำการเปลี่ยนแปลงที่ขัดแย้งกันในเวลาเดียวกัน การตั้งค่าเวลาที่แตกต่างให้กับกฎของคุณไม่เพียงแต่ช่วยหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดเหล่านี้ แต่ยังเป็นอีกทางหนึ่งสำหรับคุณในการจัดลำดับความสำคัญให้กับกฎของคุณ เพื่อให้กฎที่ถูกตั้งเวลาก่อนทำงานเป็นลำดับแรก
เคล็ดลับสำหรับกฎที่ส่งผลต่อการเสนอราคาระดับคีย์เวิร์ด
การสร้างกฎการเสนอราคาที่ทำงานเป็นประจำซึ่งมีผลกับบัญชีหรือแคมเปญทั้งหมดอาจเป็นเรื่องซับซ้อน หากสิ่งเหล่านี้ตรงกับความต้องการ เราขอแนะนำให้ลองใช้การเสนอราคาอัตโนมัติและเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพ Conversion เพื่อช่วยจัดการราคาเสนอและงบประมาณ ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับที่จะช่วยในการกำหนดค่ากฎอัตโนมัติที่เปลี่ยนแปลงราคาเสนอระดับคีย์เวิร์ดและทำงานเป็นประจำ
การเปลี่ยนแปลงราคาเสนอโดยพิจารณาจากข้อมูล Conversion
- การวัด Conversion เป็นกระบวนการที่ใช้เวลานานกว่าเมื่อเทียบกับการวัดคลิกหรือการแสดงผล เนื่องจาก Conversion อาจเกิดขึ้นหลังจากการคลิกเป็นเวลาหลายวัน และจะได้รับการบันทึกต่อเมื่อ Conversion นั้นเกิดขึ้นภายในกรอบเวลา Conversion ที่คุณเลือกเท่านั้น และ Conversion ก็เกิดขึ้นน้อยกว่าการคลิกและการแสดงผลเป็นอย่างมาก หากสร้างกฎที่พิจารณาจาก Conversion เราแนะนำให้คุณเลือกช่วงเวลาสำหรับ "โดยใช้ข้อมูลจาก" ที่ยาวขึ้นเพื่อจะได้เก็บรวบรวมข้อมูล Conversion ได้มากพอ
การเปลี่ยนแปลงราคาเสนอโดยพิจารณาจากอัตราการคลิกผ่าน (CTR)
- CTR ของโฆษณาขึ้นอยู่กับอันดับโฆษณาในหน้านั้นๆ การสร้างกฎที่ลดราคาเสนอเมื่อ CTR มีค่าต่ำอาจส่งผลเสียอย่างต่อเนื่อง เมื่อโฆษณามีอันดับต่ำลงเรื่อยๆ ในหน้าและ CTR ลดตามไปด้วย
เพิ่มกฎอัตโนมัติสําหรับแคมเปญ Performance Max
หมายเหตุ: วิธีการด้านล่างเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ของผู้ใช้ Google Ads ที่ได้รับการออกแบบใหม่ หากต้องการใช้การออกแบบก่อนหน้า ให้คลิกไอคอน "ลักษณะที่ปรากฏ" แล้วเลือกใช้การออกแบบก่อนหน้า หากคุณใช้ Google Ads เวอร์ชันก่อนหน้าอยู่ ให้ดูแผนที่อ้างอิงฉบับย่อ หรือใช้แถบค้นหาในแผงการนำทางด้านบนของ Google Ads เพื่อค้นหาหน้าเว็บที่ต้องการ
ผ่านแท็บกลุ่มชิ้นงาน
- ในบัญชี Google Ads ให้เลือกแคมเปญ Performance Max
- คลิกไอคอนแคมเปญ
- คลิกเมนูแบบเลื่อนลงแคมเปญในเมนู "ส่วน"
- คลิกกลุ่มชิ้นงาน
- คลิกไอคอนตาราง
ในหน้า "กลุ่มชิ้นงาน"
- เลือกกลุ่มชิ้นงานอย่างน้อย 1 กลุ่ม แล้วคลิกแก้ไขในเมนูที่ด้านบนของหน้าจอ
- คลิกสร้างกฎอัตโนมัติ
- กรอกข้อมูลที่เกี่ยวข้องในลิ้นชัก ได้แก่ ชื่อ เจ้าของ การดําเนินการ นําไปใช้กับ (กลุ่มชิ้นงานที่เลือก) เงื่อนไข ความถี่ และรับผลลัพธ์ทางอีเมล
- คลิกบันทึกกฎ
ผ่านการดำเนินการแบบกลุ่ม
- ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนเครื่องมือ
- คลิกเมนูแบบเลื่อนลงการดำเนินการแบบกลุ่มในเมนู "ส่วน"
- คลิกกฎ
- คลิกปุ่มบวก
แล้วเลือก + กฎของกลุ่มชิ้นงาน
- ป้อนรายละเอียดที่จําเป็นทั้งหมด แล้วคลิกบันทึกกฎ
เพิ่มกฎอัตโนมัติสําหรับ App Campaign
หมายเหตุ: วิธีการด้านล่างเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ของผู้ใช้ Google Ads ที่ได้รับการออกแบบใหม่ หากต้องการใช้การออกแบบก่อนหน้า ให้คลิกไอคอน "ลักษณะที่ปรากฏ" แล้วเลือกใช้การออกแบบก่อนหน้า หากคุณใช้ Google Ads เวอร์ชันก่อนหน้าอยู่ ให้ดูแผนที่อ้างอิงฉบับย่อ หรือใช้แถบค้นหาในแผงการนำทางด้านบนของ Google Ads เพื่อค้นหาหน้าเว็บที่ต้องการ
ผ่านแท็บกลุ่มโฆษณา
- ในบัญชี Google Ads ให้เลือก App Campaign
- คลิกไอคอนแคมเปญ
- คลิกเมนูแบบเลื่อนลงแคมเปญในเมนู "ส่วน"
- คลิกกลุ่มโฆษณา
- เลือกกลุ่มโฆษณาอย่างน้อย 1 กลุ่ม แล้วคลิกแก้ไขด้านบนตาราง
- เลือกสร้างกฎอัตโนมัติจากเมนูแบบเลื่อนลง
- กรอกข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ "ชื่อ" "การดําเนินการ (นําไปใช้กับ เงื่อนไข การดําเนินการ)" "ความถี่" และ "รับผลลัพธ์ทางอีเมล"
- คลิกบันทึกกฎ
หมายเหตุ: เมื่อสร้างกฎอัตโนมัติของกลุ่มโฆษณา App Campaign เพื่อการมีส่วนร่วม (ACe) จะเป็น App Campaign ประเภทย่อยเพียงประเภทเดียวที่รองรับ "เปลี่ยนราคาเสนอระดับกลุ่มโฆษณา" ในเมนูแบบเลื่อนลงของส่วน "การดําเนินการ"
หากแคมเปญประเภทย่อยเป็น App Campaign เพื่อการติดตั้ง (ACi) หรือ App Campaign for Pre-registration (ACPre) และคุณพยายามกําหนดราคาเสนอที่ต้องการหรือเปลี่ยนแปลงราคาเสนอเป็นเปอร์เซ็นต์ที่เจาะจง กฎอัตโนมัติจะทํางานแต่อาจให้ผลลัพธ์ต่อไปนี้
- ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
- เสร็จโดยมีข้อผิดพลาด
ผ่านการดำเนินการแบบกลุ่ม
- ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนเครื่องมือ
- คลิกเมนูแบบเลื่อนลงการดำเนินการแบบกลุ่มในเมนู "ส่วน"
- คลิกกฎ
- คลิกปุ่มบวก
- กรอกข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ "ชื่อ" "การดําเนินการ (นําไปใช้กับ เงื่อนไข การดําเนินการ)" "ความถี่" และ "รับผลลัพธ์ทางอีเมล"
- คลิกบันทึกกฎ
