เกี่ยวกับลำดับโฆษณา

ลำดับโฆษณาคือชุดค่าที่ใช้พิจารณาว่าโฆษณาของคุณมีสิทธิ์แสดงหรือไม่ และหากมีสิทธิ์ โฆษณาจะแสดงที่ตำแหน่งใดในหน้า (หรือไม่แสดงเลย) เมื่อเทียบกับโฆษณาของผู้ลงโฆษณารายอื่นๆ ในการประมูลแต่ละครั้ง ระบบจะคำนวณลำดับโฆษณาครั้งที่ 1 เพื่อพิจารณาว่าโฆษณาของคุณมีสิทธิ์แสดงหรือไม่ และครั้งที่ 2 เพื่อพิจารณาว่าโฆษณาอยู่ในอันดับใดเมื่อเทียบกับโฆษณาของผู้ลงโฆษณาที่มีสิทธิ์รายอื่นๆ ระบบจะคำนวณค่าลำดับโฆษณาเหล่านี้ตามปัจจัยหลายประการ ซึ่งรวมถึงการแข่งขัน บริบทการค้นหาของผู้ใช้ และคุณภาพโฆษณาในขณะนั้น คุณสามารถดูตำแหน่งที่โฆษณาแสดงในหน้าผลการค้นหาได้ที่เมตริกตำแหน่งบนสุดและตำแหน่งบนสุดแบบสัมบูรณ์

เคล็ดลับ

หากต้องการศึกษาตำแหน่งโฆษณาในหน้าผลการค้นหา (SERP) ของเครือข่าย Search คุณสามารถใช้เมตริกอัตราการแสดงผลในตำแหน่งบนสุดและตำแหน่งบนสุดแบบสัมบูรณ์ "% การแสดงผล (ตำแหน่งบนสุดแบบสัมบูรณ์)" และ "% การแสดงผล (ตำแหน่งบนสุด)" หากต้องการเสนอราคาสำหรับตำแหน่งหน้าเว็บ คุณสามารถใช้เมตริกส่วนแบ่งการแสดงผลในตำแหน่งบนสุดและตำแหน่งบนสุดแบบสัมบูรณ์ "IS ตำแหน่งบนสุดแบบสัมบูรณ์ในเครือข่าย Search" และ "IS ตำแหน่งบนสุดในเครือข่าย Search" โดยใช้กลยุทธ์การเสนอราคาแบบส่วนแบ่งการแสดงผลเป้าหมายพร้อมตัวเลือกสำหรับกำหนดเป้าหมายเป็นตำแหน่งบนสุดหรือตำแหน่งบนสุดแบบสัมบูรณ์ของหน้า

วิธีกําหนดลําดับโฆษณา

Elements of Ad Rank

การประมูลเพื่อแสดงโฆษณา คือวิธีที่ Google จะใช้ในการพิจารณาเป็นอันดับแรกว่าโฆษณาใดมีสิทธิ์แสดง และพิจารณาเป็นอันดับที่ 2 ว่ามีการจัดอันดับโฆษณาอย่างไรในกลุ่มโฆษณาที่มีสิทธิ์

Google จะคำนวณคะแนนลำดับโฆษณาทั้งในขั้นการมีสิทธิ์และการจัดอันดับ โดยทั่วไป ผู้ลงโฆษณาที่มีลำดับโฆษณาสูงสุดจะได้แสดงในตำแหน่งบนสุด ส่วนผู้ลงโฆษณาที่มีลำดับรองลงมาจะได้แสดงในตำแหน่งที่ 2 ในกรณีที่โฆษณาผ่านเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง และเรียงตามลำดับไปเรื่อยๆ

ในระดับสูง คะแนนลำดับโฆษณาขึ้นอยู่กับปัจจัย 6 ประการดังนี้

  • ราคาเสนอ - การกำหนดราคาเสนอเป็นการบอกให้ Google Ads รู้ว่าคุณยินดีจ่ายเงินสูงสุดเท่าใดสำหรับการคลิกโฆษณา 1 ครั้ง ส่วนใหญ่แล้ว เงินที่คุณจ่ายจริงจะน้อยกว่าราคาเสนอ และคุณเปลี่ยนแปลงราคาเสนอได้ตลอดเวลา
  • คุณภาพของโฆษณาและหน้า Landing Page - Google Ads ยังตรวจสอบด้วยว่าโฆษณาและเว็บไซต์ที่ลิงก์ไปมีความเกี่ยวข้องและเป็นประโยชน์ต่อลูกค้ามากน้อยเพียงใด การประเมินคุณภาพของโฆษณาจะสรุปออกมาเป็นคะแนนคุณภาพซึ่งดูได้ในบัญชี Google Ads
  • เกณฑ์ลำดับโฆษณา - เรากำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำที่โฆษณาจะต้องบรรลุจึงจะมีสิทธิ์แสดง ทั้งนี้เพื่อช่วยรับประกันคุณภาพของโฆษณา
  • ความสามารถในการแข่งขันของการประมูล - หากโฆษณา 2 รายการที่แข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งเดียวกันมีลำดับโฆษณาใกล้เคียงกัน โฆษณาแต่ละรายการจะมีโอกาสชนะตำแหน่งดังกล่าวพอๆ กัน เมื่อโฆษณาของผู้ลงโฆษณา 2 รายอยู่ในลำดับที่ห่างกันมากขึ้น โฆษณาที่อยู่ในลำดับสูงกว่าจึงมีแนวโน้มที่จะชนะมากกว่า แต่ก็อาจต้องจ่ายต้นทุนต่อคลิกสูงขึ้นด้วยเพื่อเพิ่มความแน่นอนที่จะชนะ
  • บริบทในการค้นหาของผู้ใช้ - บริบทมีความสำคัญต่อการประมูลเพื่อแสดงโฆษณา เราคำนวณลำดับโฆษณาโดยตรวจสอบข้อความค้นหาที่ผู้ใช้ป้อน ตำแหน่งของผู้ใช้ขณะที่ค้นหา ประเภทของอุปกรณ์ที่ใช้ (เช่น อุปกรณ์เคลื่อนที่หรือเดสก์ท็อป) เวลาที่ทำการค้นหา ลักษณะของข้อความค้นหา โฆษณาและผลการค้นหาอื่นที่แสดงในหน้าเว็บนั้น ตลอดจนสัญญาณและแอตทริบิวต์อื่นๆ ของผู้ใช้
  • ผลที่คาดว่าจะได้รับจากชิ้นงานโฆษณาและโฆษณารูปแบบอื่นๆ - เมื่อสร้างโฆษณา คุณสามารถใส่ข้อมูลเพิ่มเติมลงในโฆษณา เช่น หมายเลขโทรศัพท์ หรือลิงก์อื่นๆ ที่จะพาไปยังหน้าเว็บไซต์ที่ต้องการได้ ข้อมูลเหล่านี้เรียกว่าชิ้นงานโฆษณา Google Ads จะประมาณการว่าชิ้นงานและรูปแบบโฆษณาอื่นๆ ที่คุณใช้จะส่งผลต่อประสิทธิภาพของโฆษณาอย่างไร

ตัวอย่าง

ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างที่อธิบายวิธีการทำงานของลำดับโฆษณาอย่างง่ายๆ ซึ่งไม่ได้พิจารณาจากปัจจัยทั้งหมดที่กล่าวข้างต้น เพียงแต่ต้องการให้เห็นภาพรวมในระดับสูงของอัลกอริทึม

สมมติว่าลําดับโฆษณาของผู้ลงโฆษณาแต่ละรายคือ 80, 50, 30, 10, -10, -30 และ -35

สมมติว่าลำดับโฆษณาขั้นต่ำในการแสดงโฆษณาที่ใดก็ได้ในหน้าผลการค้นหาคือ 0 ดังนั้น ผู้ลงโฆษณา 3 รายสุดท้ายที่มีคะแนนโฆษณาเท่ากับ -10, -30 และ -35 จะไม่มีสิทธิ์แสดงในตำแหน่งใดๆ ในหน้า

ลำดับต่อไป หากลำดับโฆษณาขั้นต่ำที่จำเป็นต่อการแสดงในตำแหน่งโฆษณาบนสุด (โดยปกติจะอยู่เหนือผลการค้นหา) คือ 40 จะมีเฉพาะผู้ลงโฆษณา 2 รายแรกเท่านั้น (ที่มีลำดับโฆษณาเท่ากับ 80 และ 50) ที่อยู่สูงกว่าลำดับขั้นต่ำและแสดงเหนือผลการค้นหาได้

อย่างไรก็ตาม ผู้ลงโฆษณาที่มีลำดับโฆษณาอยู่ที่ 30 และ 10 จะมีสิทธิ์แสดงในตำแหน่งโฆษณาที่ด้านล่างของหน้า

สำหรับเมตริกในตำแหน่งบนสุดและตำแหน่งบนสุดแบบสัมบูรณ์ ผู้ลงโฆษณาที่มีลำดับโฆษณาเท่ากับ 80 (ในอันดับแรกภายในตำแหน่งโฆษณาบนสุด) จะมีจำนวนการแสดงผล 1 ครั้งทั้งในตำแหน่งบนสุดและตำแหน่งบนสุดแบบสัมบูรณ์ ส่วนผู้ลงโฆษณาที่มีลำดับโฆษณาอยู่ที่ 50 (ในอันดับที่ 2 ภายในตำแหน่งโฆษณาบนสุด) จะมีจำนวนการแสดงผล 1 ครั้งในตำแหน่งบนสุด และผู้ลงโฆษณาที่มีลำดับโฆษณาอยู่ที่ 30 (ในอันดับแรกด้านล่างผลการค้นหา) จะมีจำนวนการแสดงผล 0 ครั้งในตำแหน่งบนสุดหรือตำแหน่งบนสุดแบบสัมบูรณ์ เช่นเดียวกับผู้ลงโฆษณาที่มีลำดับโฆษณา 10 (ในอันดับที่ 2 ด้านล่างผลการค้นหา)

  ลำดับโฆษณา การแสดงผลตำแหน่งบนสุดแบบสัมบูรณ์ การแสดงผลตำแหน่งบนสุด % การแสดงผล (ตำแหน่งบนสุดแบบสัมบูรณ์) % การแสดงผล (ตำแหน่งบนสุด)
ผู้ลงโฆษณา A 80 1 1 100% 100%
ผู้ลงโฆษณา B 50 0 1 0% 100%
ผู้ลงโฆษณา C 30 0 0 0% 0%
ผู้ลงโฆษณา D 10 0 0 0% 0%

คุณทำดังนี้ได้เพื่อปรับปรุงส่วนแบ่งของตำแหน่งบนสุดและบนสุดแบบสัมบูรณ์ในหน้าผลการค้นหา

  • ปรับปรุงคุณภาพโฆษณาและประสบการณ์หน้า Landing Page
  • เพิ่มราคาเสนอ

โฆษณาที่ดีกว่าช่วยให้ได้ลำดับโฆษณาที่ดีกว่า

การคำนวณลำดับโฆษณาจะรวมราคาเสนอและคุณภาพตามเวลาจริงในการประมูล ซึ่งอาจรวมถึงการวัดผลตามเวลาจริงในการประมูล เช่น CTR ที่คาดหวัง ความเกี่ยวข้องของโฆษณา ประสบการณ์หน้า Landing Page และปัจจัยอื่นๆ ระบบจะคำนวณลำดับโฆษณาทุกครั้งที่ผู้ใช้ทำการค้นหา และทำการคำนวณใหม่สำหรับอันดับต่างๆ ในหน้าผลการค้นหา

การประเมินคุณภาพของโฆษณาจะสรุปออกมาเป็นคะแนนคุณภาพซึ่งดูได้ในบัญชี Google Ads

ความสำคัญของคุณภาพโฆษณา

ระบบนำองค์ประกอบด้านคุณภาพของลำดับโฆษณาไปใช้ในรูปแบบต่างๆ และส่งผลต่อสิ่งต่อไปนี้
  • สิทธิ์ในการประมูลเพื่อแสดงโฆษณา: มาตรการเกี่ยวกับคุณภาพโฆษณาของเราช่วยกำหนดเกณฑ์ลำดับโฆษณา ดังนั้นจึงกำหนดด้วยว่าโฆษณามีคุณสมบัติที่จะแสดงหรือไม่
  • ต้นทุนต่อคลิก (CPC) ที่จ่ายจริง: โฆษณาคุณภาพสูงกว่ามักจะทำให้ CPC ลดลง ซึ่งหมายความว่าเมื่อโฆษณามีคุณภาพสูงขึ้น คุณจะจ่ายต่อคลิกน้อยลง
  • สิทธิ์ในการแสดงชิ้นงานโฆษณาและรูปแบบโฆษณาอื่นๆ: ลำดับโฆษณาเป็นตัวกำหนดว่าโฆษณาจะมีสิทธิ์แสดงพร้อมกับชิ้นงานโฆษณาและรูปแบบโฆษณาอื่นๆ เช่น ไซต์ลิงก์ หรือไม่
โดยทั่วไป โฆษณาที่มีคุณภาพสูงกว่ามักทำให้ค่าใช้จ่ายลดลงและเพิ่มความสําเร็จในการโฆษณา ระบบ Google Ads จะทำงานได้ดีที่สุดกับทุกคนเมื่อโฆษณาที่เราแสดงมีความเกี่ยวข้องและใกล้เคียงกับสิ่งที่ลูกค้าค้นหา

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
13936387338013081214
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
73067
false
false
false