ตั้งค่าการวัด

Conversion ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประสิทธิภาพของแคมเปญ คุณเลือกสิ่งที่ระบุว่ามีคุณค่า เช่น การซื้อ การลงชื่อสมัครใช้ หรือการโทร จากนั้น Google Ads จะช่วยให้แคมเปญทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

ก่อนอื่น ให้บอกเราเกี่ยวกับธุรกิจและตําแหน่งที่เกิด Conversion หลังจากเลือกแล้ว ให้เพิ่มแหล่งข้อมูลสําหรับตําแหน่งของ Conversion ที่เลือก เราจะบันทึกค่ากําหนดแหล่งข้อมูลไว้สําหรับครั้งถัดไปที่คุณกลับมาที่เวิร์กโฟลว์การตั้งค่า Conversion นี้ เมื่อถึงขั้นตอนถัดไป คุณจะสร้าง Conversion จากแหล่งข้อมูลใดก็ได้ที่เพิ่มไว้

บทความนี้จะอธิบายขั้นตอนที่คุณต้องทําเพื่อตั้งค่าการวัด

  1. เลือก Conversion ที่ต้องการวัด
  2. ตั้งค่า Conversion
  3. ขั้นตอนถัดไป

ขั้นตอนที่ 1: เลือก Conversion ที่ต้องการวัด

การสร้างการกระทำที่ถือเป็น Conversion เริ่มต้นด้วยการบอกให้เราทราบว่าสิ่งใดสําคัญต่อธุรกิจของคุณ การวัด Conversion จะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประสิทธิภาพของแคมเปญ Google Ads สามารถเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญเพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางธุรกิจได้

ก่อนเริ่มต้น โปรดบอกเราว่าคุณมีส่วนร่วมกับลูกค้าในช่องทางใด

ตั้งค่า Conversion ที่เกิดในเว็บ

หากต้องการวัด Conversion ในเว็บไซต์ Google Ads จะต้องเข้าถึงข้อมูลจากเว็บไซต์ เมื่อป้อนโดเมนเว็บไซต์แล้ว คุณจะเพิ่มแหล่งข้อมูลของเว็บไซต์ได้โดยทำดังนี้

  1. ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนเป้าหมาย ไอคอนเป้าหมาย
  2. คลิกเมนูแบบเลื่อนลง Conversion ในหมวดหมู่เมนู
  3. คลิกสรุป
  4. ในสรุป ให้คลิก + การกระทำที่ถือเป็น Conversion ใหม่
  5. เลือก Conversion ในเว็บไซต์
  6. คลิกเพิ่ม URL
  7. ป้อนโดเมนเว็บไซต์ที่ต้องการวัด Conversion
  8. หากต้องการทราบวิธีเชื่อมต่อที่ดีที่สุด ให้คลิกสแกนเพื่อทําสิ่งต่อไปนี้
    • ตรวจดูว่าเว็บไซต์มีแท็ก Google หรือไม่ หากตรวจพบแท็ก Google เราขอแนะนําให้ใช้แท็ก Google ในการวัด Conversion (หากไม่มี คุณจะเห็นโค้ดแท็ก Google ที่ควรใส่ไว้ในเว็บไซต์) หากยังไม่มีแท็ก Google ก็ให้ตั้งค่า
    • ตรวจสอบว่าเว็บไซต์ได้รับการตั้งค่าเป็นพร็อพเพอร์ตี้ใน Google Analytics แล้วหรือไม่ เราขอแนะนําให้เชื่อมต่อโดยใช้ Google Analytics หากเว็บไซต์มีการตั้งค่าพร็อพเพอร์ตี้ Google Analytics อยู่แล้ว
  9. หากตรวจพบแท็ก Google หรือบัญชี Google Analytics ที่ลิงก์ไว้ ระบบจะตั้งค่าเว็บไซต์ให้วัด Conversion คลิกเสร็จสิ้น
  10. หากไม่พบแท็ก Google หรือบัญชี Google Analytics ของเว็บไซต์ ระบบจะแจ้งให้คุณตั้งค่าแท็ก Google คลิกตั้งค่า
  11. ทําตามวิธีการเพื่อตั้งค่าแท็ก Google คุณต้องทําขั้นตอนนี้ให้เรียบร้อยก่อน ระบบจึงจะเริ่มวัด Conversion ที่เกิดในเว็บ
หมายเหตุ: หากต้องการลิงก์บัญชี Google Analytics 4 ใหม่ โปรดดูส่วนถัดไป

ตั้งค่าแหล่งข้อมูลเว็บของ Google Analytics 4

  1. คลิกไอคอนเป้าหมาย ไอคอนเป้าหมาย ในบัญชี Google Ads
  2. คลิกเมนูแบบเลื่อนลง Conversion ในหมวดหมู่เมนู
  3. คลิกสรุป
  4. ในสรุป ให้คลิก + การกระทำที่ถือเป็น Conversion ใหม่
  5. เลือก Conversion ในเว็บไซต์ แล้วคลิกต่อไป
  6. คลิกเพิ่ม URL
  7. คลิกสแกน
  8. หากมีบัญชี Google Analytics คุณจะเห็นบัญชีดังกล่าวแสดงอยู่
  9. เลือกข้อมูลที่ต้องการแชร์โดยเปิดสวิตช์
  10. คลิกลิงก์
  11. คลิกเสร็จสิ้น
    • หมายเหตุ: เมื่อตรวจพบว่าพร็อพเพอร์ตี้ Google Analytics มีสตรีมข้อมูลแอป คุณจะได้รับข้อความแจ้งให้ใช้พร็อพเพอร์ตี้ Google Analytics นั้นในการวัดกิจกรรมในแอป
  12. หากต้องการใช้ GA4 วัดกิจกรรมในแอป ให้คลิกใช้พร็อพเพอร์ตี้
  13. เลือกทั้ง "Conversion ในเว็บไซต์" และ "Conversion ในแอป"
  14. คลิกต่อไป
ตั้งค่าแหล่งข้อมูลแอป
  1. คลิกไอคอนเป้าหมาย ไอคอนเป้าหมาย ในบัญชี Google Ads
  2. คลิกเมนูแบบเลื่อนลง Conversion ในหมวดหมู่เมนู
  3. คลิกสรุป
  4. ในสรุป ให้คลิก + การกระทำที่ถือเป็น Conversion ใหม่
  5. คลิก Conversion ในแอป แล้วคลิกต่อไป
  6. คลิกตั้งค่า
  7. เลือกวิธีที่ต้องการเชื่อมต่อแอป ซึ่งได้แก่
    • Google Analytics
    • Google Play
      • หมายเหตุ: Google Play จะวัดเฉพาะการดาวน์โหลดและการซื้อในแอป
    • การวิเคราะห์แอปจากบุคคลที่สาม
  8. คลิกเสร็จสิ้น "Conversion ในแอป" จะแสดงแหล่งข้อมูลผลิตภัณฑ์และแหล่งที่มาของ Conversion ที่คุณเพิ่งสร้าง
ตั้งค่าแหล่งข้อมูลโทรศัพท์
  1. คลิกไอคอนเป้าหมาย ไอคอนเป้าหมาย ในบัญชี Google Ads
  2. คลิกเมนูแบบเลื่อนลง Conversion ในหมวดหมู่เมนู
  3. คลิกสรุป
  4. ในสรุป ให้คลิก + การกระทำที่ถือเป็น Conversion ใหม่
  5. คลิก Conversion จากการโทร
  6. คลิกต่อไป
ตั้งค่าแหล่งข้อมูลออฟไลน์
  1. คลิกไอคอนเป้าหมาย ไอคอนเป้าหมาย ในบัญชี Google Ads
  2. คลิกเมนูแบบเลื่อนลง Conversion ในหมวดหมู่เมนู
  3. คลิกสรุป
  4. ในสรุป ให้คลิก + การกระทำที่ถือเป็น Conversion ใหม่
  5. คลิก Conversion จากแหล่งที่มาออฟไลน์
  6. คลิกเพิ่มแหล่งข้อมูล
  7. คลิกต่อไป
  8. คลิกเชื่อมต่อกับผลิตภัณฑ์ แล้วเลือกแหล่งข้อมูลใหม่ที่ต้องการตั้งค่า โปรดทราบว่าคุณสามารถเลือก "ข้าม" และตั้งค่าแหล่งข้อมูลในภายหลังได้
    • หมายเหตุ: การตั้งค่าการวัดใหม่จะไม่ทำงานจนกว่าจะมีการเชื่อมต่อแหล่งข้อมูล
  9. เลือกตัวเลือกแหล่งที่มาของการเชื่อมต่อจากรายการต่อไปนี้
    • การเชื่อมต่อโดยตรง
    • การผสานรวมกับบุคคลที่สามโดย Zapier
    • การผสานรวมพาร์ทเนอร์
  10. คลิกเชื่อมต่อ
    • ทำตามวิธีการจากแหล่งข้อมูลผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เลือกไว้ (หากมี)
  11. คลิกเสร็จสิ้น
หมายเหตุ: "Conversion จากแหล่งที่มาออฟไลน์" จะแสดงแหล่งข้อมูลผลิตภัณฑ์และแหล่งที่มาของ Conversion ที่คุณเพิ่งสร้าง หากคุณเลือกข้ามและตั้งค่าแหล่งข้อมูลในภายหลัง ระบบจะแสดงข้อความ "เชื่อมต่อแหล่งข้อมูลในภายหลัง"

ขั้นตอนที่ 2: ตั้งค่า Conversion

เลือกหมวดหมู่ Conversion ที่ต้องการวัดและเหตุการณ์ที่สามารถใช้ในการวัด

Conversion ที่เกิดในเว็บ

  1. เลือกหมวดหมู่ Conversion ที่ต้องการวัด
    • หากมีคําแนะนํา คุณจะสร้างการกระทำที่ถือเป็น Conversion ใหม่จากเหตุการณ์ที่แนะนําได้โดยคลิกยอมรับคําแนะนํา
    • หากไม่มีคําแนะนํา ให้ตั้งค่าการกระทำที่ถือเป็น Conversion ใหม่โดยสร้างเหตุการณ์ใหม่แบบไม่ใช้โค้ดหรือสร้างด้วยตนเอง แท็ก Google สามารถตรวจหาเหตุการณ์แบบไม่ใช้โค้ดได้โดยไม่ต้องเพิ่มโค้ดใหม่ลงในเว็บไซต์
      1. คลิกตั้งค่าใน Conversion ที่มีอยู่ หรือเลือก + เพิ่มเหตุการณ์ในหมวดหมู่นี้เพื่อเลือกจากเหตุการณ์ Google Analytics ที่มีอยู่
      2. คลิกสร้างเหตุการณ์แบบไม่ใช้โค้ดหรือสร้างเหตุการณ์ที่กำหนดเอง
  2. เลือกประเภทเหตุการณ์ การจับคู่ที่ต้องการ และข้อมูล URL ของแบบฟอร์ม แล้วคลิกใช้เหตุการณ์
  3. คลิกบันทึกและต่อไป

วิธีที่ 1: ตั้งค่า Conversion โดยใช้ URL

ใช้วิธีการนี้หากต้องการติดตามการโหลดหน้าเว็บเป็น Conversion และไม่จําเป็นต้องรวบรวมมูลค่าแบบเจาะจงธุรกรรม เช่น รหัสธุรกรรมและ/หรือพารามิเตอร์ที่กําหนดเองอื่นๆ นี่คือวิธีที่รวดเร็วและง่ายที่สุดในการตั้งค่าการกระทำที่ถือเป็น Conversion

เมื่อวัด Conversion ในเว็บไซต์ด้วยเหตุการณ์แบบไม่ใช้โค้ด คุณสามารถสร้างเหตุการณ์ที่แท็ก Google จะตรวจพบได้โดยไม่ต้องเพิ่มโค้ดลงในเว็บไซต์

วิธีสร้าง Conversion ใหม่แบบไม่ใช้โค้ดด้วย Google Analytics

  1. คลิกตั้งค่าในตัวยึดตำแหน่ง Conversion หรือ + เพิ่มเหตุการณ์ในหมวดหมู่นี้
  2. เลือก + สร้างเหตุการณ์ใหม่
  3. ตั้งชื่อเหตุการณ์
  4. เลือกสร้างเหตุการณ์แบบไม่ใช้โค้ด
  5. เลือกเหตุการณ์ที่มีอยู่เพื่อใช้เป็นทริกเกอร์สําหรับเหตุการณ์ใหม่
  6. ป้อน URL ที่ต้องการวัดเป็น Conversion
  7. คลิกบันทึก

วิธีสร้าง Conversion ใหม่แบบไม่ใช้โค้ดด้วย Google Ads

  1. คลิกตั้งค่าในตัวยึดตำแหน่ง Conversion หรือ + เพิ่มเหตุการณ์ในหมวดหมู่นี้
  2. คลิกสร้างเหตุการณ์แบบไม่ใช้โค้ด
  3. เลือกประเภทเหตุการณ์
  4. ป้อน URL ที่ต้องการวัดเป็น Conversion
  5. คลิกใช้เหตุการณ์
    • หมายเหตุ: หากใช้ Conversion กับ URL คุณจะไม่สามารถปรับแต่งแท็กด้วยมูลค่า Conversion, รหัสธุรกรรม, พารามิเตอร์ของ Conversion ที่ปรับปรุงแล้ว เช่น อีเมลและหมายเลขโทรศัพท์ หรือพารามิเตอร์ที่กำหนดเองอื่นๆ
  6. คลิกบันทึกและต่อไป

วิธีที่ 2: เพิ่มการกระทําที่ถือเป็น Conversion ด้วยตนเอง

ใช้วิธีนี้หากต้องการวัดการคลิกปุ่มหรือลิงก์ หรือหากต้องการปรับแต่งแท็กเหตุการณ์ด้วยการติดตามมูลค่า รหัสธุรกรรม หรือพารามิเตอร์ที่กําหนดเองอื่นๆ

  1. เมื่อเพิ่มการกระทํา ให้คลิก + เพิ่มเหตุการณ์ในหมวดหมู่นี้ หรือคลิกตั้งค่าใน Conversion
  2. คลิกสร้างเหตุการณ์ที่กำหนดเอง
  3. คลิกใช้เหตุการณ์ คุณจะเห็นวิธีการในขั้นตอนถัดไปสำหรับวิธีเพิ่มข้อมูลโค้ดเหตุการณ์ที่กำหนดเองโดยใช้แท็ก Google หรือ Google Tag Manager

Conversion ของแอป

Conversion ของแอปต้องใช้แหล่งข้อมูลเพื่อสร้าง Conversion ในขั้นตอนถัดไป

  1. เลือกหมวดหมู่สําหรับ Conversion ของแอป
    • หมายเหตุ: หากต้องการสร้าง Conversion ของ Google Play ให้เลือกการดาวน์โหลดแอป
  2. หากมีคําแนะนํา Conversion สําหรับ Google Analytics หรือการวิเคราะห์แอปจากบุคคลที่สาม คุณสามารถยอมรับคําแนะนําได้โดยตรงโดยคลิกยอมรับคําแนะนํา
    • หากได้รับ Conversion ตัวยึดตำแหน่งสําหรับแอป ให้คลิกตั้งค่า
    • หากไม่ได้คําแนะนํา Conversion ของแอปหรือตัวยึดตำแหน่ง ให้คลิก + เพิ่มเหตุการณ์ในหมวดหมู่นี้
  3. เลือกแหล่งข้อมูลของ Google Analytics หรือผู้ให้บริการวิเคราะห์แอปบุคคลที่สาม
  4. เลือกเหตุการณ์ที่ต้องการวัดเป็น Conversion แล้วคลิกเสร็จสิ้น

Conversion ออฟไลน์

คุณสามารถสร้าง Conversion ออฟไลน์ได้แม้ว่าจะเลือกข้ามการตั้งค่าแหล่งข้อมูลออฟไลน์ในขั้นตอนก่อนหน้าแล้วก็ตาม

  1. เลือกข้ามขั้นตอนนี้และตั้งค่าแหล่งข้อมูลในภายหลังในขั้นตอนก่อนหน้า
  2. เลือกหมวดหมู่ Conversion ที่ต้องการวัด
    • หากได้รับ Conversion ตัวยึดตำแหน่ง ให้คลิกตั้งค่า
    • หากไม่ได้ตัวยึดตำแหน่ง ให้คลิก + เพิ่มเหตุการณ์ในหมวดหมู่นี้ แล้วเลือกแหล่งข้อมูลออฟไลน์
  3. เลือกหมวดหมู่ แล้วเลือกตั้งค่าหรือ + เพิ่มเหตุการณ์ในหมวดหมู่นี้
  4. เลือกฟิลด์ที่ใช้ในแหล่งข้อมูล แล้วเพิ่มฟิลด์อื่นที่ต้องการนําเข้า ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแมปฟิลด์ใน Google Ads
    • หมายเหตุ: ระบบจะแมปบางฟิลด์โดยอัตโนมัติตามแหล่งข้อมูล
  5. หากสร้างเหตุการณ์ไว้แล้ว ให้เลือกเหตุการณ์นั้นแล้วคลิกเสร็จสิ้น
  6. คลิกบันทึกและต่อไป

Conversion การโทร

  1. เลือกหมวดหมู่ Conversion ที่ต้องการวัด
  2. คลิกตั้งค่าใน Conversion ตัวยึดตำแหน่ง หรือ + เพิ่มเหตุการณ์ในหมวดหมู่นี้
  3. เลือกการโทรจากโฆษณาหรือการโทรจากการเข้าชมเว็บไซต์
    • สําหรับการโทรจากการเข้าชมเว็บไซต์ ให้กําหนดเหตุการณ์โดยเลือกมีคนโทรหาหมายเลขโทรศัพท์ที่แสดงในเว็บไซต์ของฉัน แล้วเพิ่มหมายเลขโทรศัพท์
    • หรือจะเลือกมีคนโทรหาโดยคลิกหมายเลขโทรศัพท์ในเว็บไซต์ของฉันก็ได้ เราจะแจ้งวิธีการให้ทราบเมื่อสิ้นสุดเวิร์กโฟลว์เพื่อเปิดใช้ตัวเลือกนี้
    • สําหรับ "การโทรจากการอัปโหลด" ให้คลิกตั้งค่าหรือ + เพิ่มเหตุการณ์ในหมวดหมู่นี้ แล้วเลือกการโทรจากการอัปโหลด ทำตามวิธีการเพื่อโทรจากการอัปโหลดในขั้นตอนถัดไป
  4. คลิกบันทึกและต่อไป

แก้ไขการตั้งค่า Conversion

  1. คลิกการตั้งค่า
  2. ข้าง "การเพิ่มประสิทธิภาพเป้าหมายและการกระทำ" ให้เลือกเป้าหมายที่จะนับ Conversion จากเมนูแบบเลื่อนลง
  3. คลิกตัวเลือกการเพิ่มประสิทธิภาพเป้าหมายของการกระทำที่ถือเป็น Conversion เพื่อระบุว่าจะเป็นการกระทำหลักสําหรับการเพิ่มประสิทธิภาพการเสนอราคาและการรายงาน หรือการกระทำรองที่ใช้สําหรับการรายงานเท่านั้น
  4. ข้าง "ชื่อ Conversion" ให้ป้อนชื่อของ Conversion ที่ต้องการติดตาม เช่น "สมัครรับจดหมายข่าว" หรือ "ซื้อช่อดอกไม้งานแต่ง" (ไม่บังคับ) วิธีนี้จะช่วยให้คุณจำเป้าหมายของการกระทำที่ถือเป็น Conversion นี้ได้ในรายงาน Conversion ในภายหลัง
  5. ข้าง "มูลค่า" ให้เลือกวิธีวัดมูลค่าของ Conversion แต่ละรายการ
    • ใช้มูลค่าเดียวกันกับทุก Conversion ป้อนมูลค่าที่ Conversion แต่ละรายการมีต่อธุรกิจของคุณ ค่าเริ่มต้นคือมูลค่าสัมบูรณ์ 1 แต่หากคุณขายสินค้าเพียงประเภทเดียวในราคาเดียวกัน ให้ป้อนค่าเงินบาท
    • ระบบรองรับการใช้มูลค่าที่แตกต่างกันสําหรับ Conversion แต่ละรายการต่อเมื่อเป็น Conversion ที่สร้างจากเหตุการณ์ที่กําหนดเองผ่านข้อมูลโค้ดเหตุการณ์เท่านั้น ตัวเลือกนี้ใช้ไม่ได้กับ Conversion ที่เกิดในเว็บซึ่งวัดด้วยเหตุการณ์แบบไม่ใช้โค้ด ทำได้เพียงเพิ่มการรายงานมูลค่าซึ่งใช้มูลค่าต่างกันลงในเป้าหมายของการกระทําที่ถือเป็น Conversion ในเว็บไซต์ ซึ่งคุณตั้งค่าไว้โดยใช้ข้อมูลโค้ดเหตุการณ์ Conversion
    • อย่าใช้มูลค่ากับเป้าหมายของการกระทำที่ถือเป็น Conversion นี้ (ไม่แนะนำ)
  6. ข้าง "การนับ" ให้เลือกวิธีนับ Conversion เหล่านี้
    • ทุกครั้ง: การตั้งค่านี้เหมาะสำหรับยอดขาย เมื่อทุก Conversion มีส่วนช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจ
    • ครั้งเดียว: การตั้งค่านี้เหมาะกับโอกาสในการขาย เช่น แบบฟอร์มลงชื่อสมัครใช้ในเว็บไซต์ ซึ่งในการคลิกโฆษณามีเพียง Conversion เดียวเท่านั้นที่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจ
  7. คลิกกรอบเวลา Conversion การคลิกผ่านจากเมนูแบบเลื่อนลงเพื่อเลือกระยะเวลาที่ต้องการวัด Conversion หลังการโต้ตอบกับโฆษณา สําหรับแคมเปญ Search, Shopping และ Display กรอบเวลานี้มีระยะเวลาได้ตั้งแต่ 1 วันไปจนถึง 90 วัน ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรอบเวลา Conversion
  8. คลิกกรอบเวลา Conversion การดูผ่านอย่างมีส่วนร่วมจากเมนูแบบเลื่อนลงเพื่อเลือกระยะเวลาที่ต้องการวัด Conversion การดูผ่าน สําหรับแคมเปญ Search, แคมเปญ Shopping และแคมเปญในเครือข่ายดิสเพลย์ กรอบเวลานี้มีระยะเวลาได้ตั้งแต่ 1 วันไปจนถึง 30 วัน
  9. คลิกรูปแบบการระบุแหล่งที่มา รูปแบบการระบุแหล่งที่มาจะช่วยให้คุณเข้าใจประสิทธิภาพการทำงานของโฆษณาได้ดีขึ้น และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพตลอดเส้นทาง Conversion ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรูปแบบการระบุแหล่งที่มา
  10. คลิกบันทึกและต่อไป

ขั้นตอนที่ 3: ขั้นตอนถัดไป

เมื่อสร้าง Conversion แล้ว ให้ดูขั้นตอนถัดไปของการตั้งค่า Conversion ให้เสร็จเพื่อให้วัด Conversion ได้อย่างถูกต้อง

Conversion ที่เกิดในเว็บ

  1. ดูหมวดหมู่ Conversion ที่คุณสร้าง
  2. เปิดใช้งานการวัดผลด้วยแท็ก Google หากยังไม่มีแท็ก
  3. คลิกตั้งค่าในแท็ก Google
  4. วัด Conversion แต่ละรายการโดยใช้ข้อมูลโค้ดเหตุการณ์ คลิกดูข้อมูลโค้ดเหตุการณ์เพื่อดูวิธีการ
  5. ตั้งค่าแท็ก Google และแท็กเหตุการณ์
  6. ในส่วน Conversion ที่ปรับปรุงแล้ว ให้คลิกสวิตช์เพื่อเปิด Conversion ที่ปรับปรุงแล้วในบัญชี
  7. คลิกยอมรับและเสร็จสิ้น

Conversion ของแอป

  1. ดูหมวดหมู่ Conversion ที่คุณสร้าง
  2. หากเปิด Conversion ที่ปรับปรุงแล้วในบัญชีแล้ว ให้คลิกยอมรับและเสร็จสิ้น

Conversion ออฟไลน์

  1. ดูหมวดหมู่ Conversion ที่คุณสร้าง
  2. อย่าลืมเพิ่มแหล่งข้อมูลออฟไลน์สําหรับหมวดหมู่ Conversion ที่ไม่มีแหล่งข้อมูลที่แนบอยู่
  3. คลิกยอมรับและเสร็จสิ้น
Conversion การโทร

ตั้งค่าการโทรจากโฆษณา

  1. คลิกตั้งค่าการโทรจากโฆษณา คุณได้สร้างหมวดหมู่ Conversion ใหม่แล้ว
  2. คลิกเสร็จสิ้น
  3. คลิกตั้งค่าการโทรจากเว็บไซต์ (การโทรหาหมายเลขที่แสดงในเว็บไซต์)
  4. ตั้งค่าแท็ก Google และแท็กเหตุการณ์
  5. ตรวจสอบ Google Click ID
  6. คลิกยอมรับและเสร็จสิ้น

ตั้งค่าการโทรจากเว็บไซต์

  1. คลิกตั้งค่าการโทรจากเว็บไซต์ (การคลิกลิงก์สำหรับโทร เช่น ในอุปกรณ์เคลื่อนที่)
  2. ตั้งค่าแท็ก Google และแท็กเหตุการณ์
  3. คลิกเสร็จสิ้น
  4. คลิกตั้งค่าการโทรผ่านการอัปโหลด
  5. ตั้งค่าแท็ก Google และแท็กเหตุการณ์
  6. เปิดการติดตามเว็บไซต์และผู้มีโอกาสเป็นลูกค้า ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Google Click ID
  7. ดาวน์โหลดเทมเพลตการนำเข้าและตรวจสอบว่าชื่อคอลัมน์และข้อมูลธุรกรรมอยู่ในรูปแบบที่ถูกต้องแล้ว ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีนําเข้า Conversion การโทร
  8. คลิกเสร็จสิ้น

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
true
Achieve your advertising goals today!

Attend our Performance Max Masterclass, a livestream workshop session bringing together industry and Google ads PMax experts.

Register now

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
14101814660901966669
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
73067
false
false
false
false