เป้าหมายการได้ลูกค้าใหม่ใช้แคมเปญ Performance Max หรือ Search เพื่อช่วยให้คุณได้ลูกค้าใหม่ คุณสามารถเลือกเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญให้เสนอราคาสูงขึ้นสําหรับลูกค้าใหม่ หรือเสนอราคาสําหรับลูกค้าใหม่เป็นการเฉพาะก็ได้
บทความนี้อธิบายวิธีตั้งค่าเป้าหมายการได้ลูกค้าใหม่ แม้ว่าขั้นตอนการเปิดใช้งานจะเหมือนกันสำหรับผู้ลงโฆษณาที่ใช้เป้าหมายของร้านค้า แต่ฟีเจอร์อย่างการเสนอราคานั้นมีความแตกต่างกัน ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้เป้าหมายการได้ลูกค้าใหม่ร่วมกับเป้าหมายของร้านค้า
ในหน้านี้
- อัปโหลดรายชื่อลูกค้าเดิมผ่านการจับคู่ข้อมูลลูกค้า
- กําหนดค่าเป้าหมายการได้ลูกค้าใหม่
- เปิดใช้การได้ลูกค้าใหม่ในแคมเปญ
- ตรวจสอบประสิทธิภาพแคมเปญ
วิธีการ
ขั้นตอนที่ 1 จาก 4: อัปโหลดรายชื่อลูกค้าเดิมผ่านการจับคู่ข้อมูลลูกค้า
คุณสามารถอัปโหลดรายชื่อลูกค้าเพื่อให้ Google ระบุลูกค้าใหม่ด้วยข้อมูลที่ถูกต้องได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีสร้างรายชื่อลูกค้า
ขั้นตอนที่ 2 จาก 4: กําหนดค่าเป้าหมายการได้ลูกค้าใหม่
คุณต้องมีการกระทำที่ถือเป็น Conversion "การซื้อ" จึงจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญเพื่อให้ได้ลูกค้าใหม่ เฉพาะการกระทำที่ถือเป็น Conversion ซึ่งตั้งค่าด้วยวิธีการติดตั้งใช้งานด้วยตนเองเท่านั้นที่มีสิทธิ์ใช้เป้าหมายการได้ลูกค้าใหม่ คุณสามารถตั้งค่าการกระทําที่ถือเป็น Conversion "การซื้อ" รายการใหม่ หรือหากตั้งค่าการกระทําที่ถือเป็น Conversion ไว้แล้ว ให้ตรวจสอบว่าได้ตั้งค่าประเภทเป้าหมายเป็น "การซื้อ" โดยมีเว็บไซต์เป็นแหล่งที่มาของ Conversion และตั้งค่าการกระทำที่ถือเป็น Conversion เป็นหลัก
หากยังไม่ได้กําหนดค่าเป้าหมายการได้ลูกค้าใหม่ ให้ทําตามขั้นตอนการตั้งค่าต่อไปนี้ หากคุณใช้เครื่องมือวัด Conversion ข้ามบัญชี ให้กําหนดค่าเป้าหมายการได้ลูกค้าใหม่จากบัญชีหลักที่ใช้ตั้งค่าเครื่องมือวัด Conversion
- คลิกไอคอนเป้าหมาย ในบัญชี Google Ads
- คลิกเมนูแบบเลื่อนลง Conversion ในหมวดหมู่เมนู
- คลิกสรุป
- คลิกตั้งค่าในแผง "การได้ลูกค้าใหม่"
- กำหนดลูกค้าเดิมโดยเลือกรายการกลุ่มเป้าหมายอย่างน้อย 1 รายการ
สําคัญ: ยืนยันรายชื่อลูกค้าเดิมทุกรายการเพื่อให้การตรวจหาลูกค้าใหม่ของ Google ถูกต้องแม่นยําที่สุด หากไม่มีข้อมูลนี้ Google Ads จะระบุไม่ได้ว่าเป็นลูกค้าใหม่หรือลูกค้าที่กลับมาใช้บริการ หากคุณใช้บัญชีดูแลจัดการ (MCC) ให้ตรวจสอบว่าการแชร์อัตโนมัติเปิดอยู่
- ระบุมูลค่าที่กําหนดให้กับการได้ลูกค้าใหม่ ซึ่งจะใช้ในโหมดเพิ่มมูลค่าลูกค้าใหม่เท่านั้น ระบบจะเพิ่มมูลค่านี้ใน Conversion การซื้อครั้งแรกของลูกค้าใหม่ ซึ่งจะแสดงในการรายงานและยังช่วยให้ Smart Bidding เพิ่มประสิทธิภาพเพื่อให้ได้ลูกค้าใหม่ด้วย ยิ่งมูลค่านี้สูง แคมเปญก็จะยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อให้ได้ลูกค้าใหม่มากขึ้น ระบบจะใช้มูลค่านี้โดยค่าเริ่มต้นในทุกแคมเปญที่เพิ่มประสิทธิภาพเพื่อการได้ลูกค้าใหม่
- คุณอาจต้องกําหนดมูลค่าการได้ลูกค้าใหม่ให้เท่ากับรายได้ที่คาดว่าจะได้รับในอนาคตจากลูกค้าใหม่ที่เข้ามาเอง
ตัวอย่าง: หากลูกค้าใช้จ่ายโดยเฉลี่ย 3,600 บาทต่อการซื้อ 1 ครั้ง และลูกค้า 2 ใน 3 คนซื้อทุกปีเป็นเวลา 2 ปี มูลค่าลูกค้าใหม่ที่แนะนำคือ 3,600 * ⅔ * 2 = 4,800 บาท
- หากคุณไม่แน่ใจว่ามูลค่าการได้ลูกค้าใหม่ควรเป็นเท่าใด ก็ใช้มูลค่าที่ระบบแนะนําซึ่งแสดงเมื่อคุณเลือกเป้าหมายลูกค้าใหม่ได้ มูลค่าที่แนะนํานี้อิงตามมูลค่าการสั่งซื้อเฉลี่ยในแคมเปญที่ผ่านๆ มา
- คุณอาจต้องกําหนดมูลค่าการได้ลูกค้าใหม่ให้เท่ากับรายได้ที่คาดว่าจะได้รับในอนาคตจากลูกค้าใหม่ที่เข้ามาเอง
ขั้นตอนที่ 3 จาก 4: เปิดใช้งานการได้ลูกค้าใหม่ในแคมเปญ
- ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนแคมเปญ
- คลิกเมนูแบบเลื่อนลงแคมเปญในหมวดหมู่เมนู
- คลิกแคมเปญ
- ไปที่แคมเปญ Google Ads ที่ต้องการเปิดใช้ Conversion จากลูกค้าใหม่ (ปัจจุบันใช้ได้กับแคมเปญ Performance Max และ Search)
- คลิกไอคอนรูปเฟือง ที่อยู่ข้างชื่อแคมเปญเพื่อเปิดแผง "การตั้งค่า"
- ขยายแถว "การได้ลูกค้าใหม่"
- เลือกเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญเพื่อการได้ลูกค้าใหม่
- เลือกว่าต้องการทําสิ่งต่อไปนี้
- เสนอราคาสำหรับลูกค้าใหม่ให้สูงกว่าลูกค้าเดิม (แนะนํา)
- ตัวเลือกนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญเพื่อให้ได้ลูกค้าใหม่ ในขณะเดียวกันก็ช่วยเพิ่มยอดขายโดยรวมด้วยการกำหนดเป้าหมายไปยังลูกค้าทุกราย
- หมายเหตุ: ใช้ได้เฉพาะกับกลยุทธ์การเสนอราคาแบบมูลค่า Conversion สูงสุด/ROAS เป้าหมาย
- เสนอราคาสำหรับลูกค้าใหม่เท่านั้น
- ตัวเลือกนี้จะจำกัดให้โฆษณาแสดงต่อลูกค้าใหม่เท่านั้น ไม่ว่าจะใช้กลยุทธ์การเสนอราคาใดอยู่
- เสนอราคาสำหรับลูกค้าใหม่ให้สูงกว่าลูกค้าเดิม (แนะนํา)
- เลือกว่าต้องการทําสิ่งต่อไปนี้
- ระบบจะดึงมูลค่าจากเป้าหมายการได้ลูกค้าใหม่ที่ระดับบัญชี หากต้องการเปลี่ยนแปลง ให้คลิกเปลี่ยนมูลค่า แล้วระบบจะนําไปที่การตั้งค่าเป้าหมายการได้ลูกค้าใหม่ของบัญชี
ขั้นตอนที่ 4 จาก 4: ตรวจสอบประสิทธิภาพแคมเปญ
คุณสามารถดูจํานวนลูกค้าใหม่ที่ได้มาเมื่อเปิดใช้งานเป้าหมายการได้ลูกค้าใหม่ และคํานวณเมตริกหลัก เช่น ต้นทุนการได้ลูกค้าใหม่ (จํานวนลูกค้าใหม่/ต้นทุน)
การเข้าไปดูรายงานประสิทธิภาพ
- ใน "ตารางแคมเปญ" ให้เพิ่มคอลัมน์ต่อไปนี้เพื่อดูจํานวนลูกค้าใหม่และการปรับมูลค่าทั้งหมดของการได้ลูกค้าใหม่ตามลําดับ
- ลูกค้าใหม่: จํานวนลูกค้าใหม่ที่ได้จากแคมเปญ
- มูลค่าตลอดช่วงชีวิตของลูกค้าใหม่: การปรับมูลค่า Conversion ที่สอดคล้องกับ Conversion การได้ลูกค้าใหม่ (Conversion การซื้อครั้งแรกที่พิจารณาแล้วว่ามาจากลูกค้าใหม่)
ตัวอย่าง: หากลูกค้าใช้จ่ายโดยเฉลี่ย 3,600 บาทต่อการซื้อ 1 ครั้ง และลูกค้า 2 ใน 3 คนซื้อทุกปีเป็นเวลา 2 ปี มูลค่าลูกค้าใหม่ที่แนะนำคือ 3,600 * ⅔ * 2 = 4,800 บาท
- ใน "ตารางแคมเปญ" คุณสามารถแบ่งกลุ่มตาม "Conversion" หรือ "ลูกค้าใหม่เทียบกับลูกค้าที่กลับมาใช้บริการ" วิธีนี้จะจัด Conversion และมูลค่า Conversion เป็น 3 หมวดหมู่ลูกค้า ได้แก่
- ใหม่: ผู้ที่ซื้อสินค้าออนไลน์จากเว็บไซต์หรือแอปของคุณเป็นครั้งแรก ระบบจะระบุว่าเป็นลูกค้าใหม่เมื่อพบคุณสมบัติตามเกณฑ์ต่อไปนี้อย่างน้อย 1 ข้อ
- ลูกค้าไม่เคยมีการซื้อในช่วง 540 วันที่ผ่านมา (เกณฑ์นี้จะมีผลเมื่อใช้ระบบตรวจหาอัตโนมัติของ Google)
- ลูกค้าไม่ได้อยู่ในรายชื่อลูกค้าเดิมที่คุณระบุไว้ในการตั้งค่าการได้ลูกค้าใหม่ระดับบัญชี
- แท็กการรายงานลูกค้าใหม่ระบุว่าเป็นลูกค้าใหม่
- กลับมาใช้บริการ: ผู้ที่เคยซื้อสินค้าออนไลน์จากเว็บไซต์หรือแอปของคุณแล้ว ระบบจะระบุว่าเป็นลูกค้าที่กลับมาใช้บริการเมื่อพบคุณสมบัติตามเกณฑ์ต่อไปนี้อย่างน้อย 1 ข้อ
- ลูกค้ามีการซื้อในช่วง 540 วันที่ผ่านมา (เกณฑ์นี้จะมีผลเมื่อใช้ระบบตรวจหาอัตโนมัติของ Google)
- ลูกค้าอยู่ในรายชื่อลูกค้าเดิมที่คุณระบุไว้ในการตั้งค่า Conversion ระดับบัญชี
- แท็กการรายงานลูกค้าใหม่ระบุว่าเป็นลูกค้าเดิม
- ไม่ทราบ: ลูกค้าที่เราระบุไม่ได้เนื่องจากมีนโยบายที่เกี่ยวข้องกับหมวดหมู่ที่ละเอียดอ่อนทางกฎหมายหรือวัฒนธรรมกำหนดไว้ หรือ Conversion ที่เราระบุไม่ได้ว่าเป็นลูกค้าใหม่หรือลูกค้าเดิมเนื่องจากการตั้งค่าการปรับเปลี่ยนในแบบของผู้ใช้
หมายเหตุ: หากคุณใช้การได้ลูกค้าใหม่กับแท็ก Google, Google Tag Manager หรือ Firebase เราจะใช้มูลค่าที่ระบุไว้ในแท็กสำหรับลูกค้า "ใหม่" "กลับมาใช้บริการ" หรือ "ไม่ทราบ" แทนการตรวจหาอัตโนมัติของ Google
- ใหม่: ผู้ที่ซื้อสินค้าออนไลน์จากเว็บไซต์หรือแอปของคุณเป็นครั้งแรก ระบบจะระบุว่าเป็นลูกค้าใหม่เมื่อพบคุณสมบัติตามเกณฑ์ต่อไปนี้อย่างน้อย 1 ข้อ